สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 356

ตอนที่ 356

ตอนที่ 356 อุบัติเหตุทางรถยนต์โดยเจตนา

“ผมจะพยายามอย่างเต็มที่!” โชเฟอร์คนขับรถเอ่ยปากออกมาประโยคนึง จากนั้นก็เอ่ยเตือนขึ้นมาว่า “จับให้แน่นนะครับ”

คำพูดออกมาจากปาก คนขับรถก็เหยียบคันเร่งจนมิด อยู่ๆรถยนต์ก็ราวกับลูกธนูออกจากคัน พุ่งออกไปในทันที

ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบหาที่เกาะเอาไว้แน่น หัวใจเต้นเร็วขึ้นมาอย่างควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ได้

หลังจากเปลี่ยนเลนแซงรถคันอื่นไปหลายคัน คนขับรถได้นำระยะห่างระหว่างรถทั้งสองแยกออกจากกันเป็นที่เรียบร้อย จนกระทั่งมองไม่เห็นเงาของรถคันนั้น โชเฟอร์คนขับรถก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “แม่หนู คุณว่าเป็นยังไงบ้าง ฝีมือขับรถนี่ของผม”

“สุดยอดเลยค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก มองดูรอยยิ้มที่จริงใจบนใบหน้าของโชเฟอร์ ในใจก็รู้สึกถึงความอบอุ่นออกมาอย่างมากมาย

คิดไม่ถึงว่ามาเมืองปินเฉิงในเวลาสั้นๆเพียงแค่สองวัน เธอก็ได้พบเจอกับคนที่มีจิตใจดีมากมายขนาดนี้

ขณะเดียวกัน ภายในโรงแรม เผยลี่เชินเดินมาถึงหน้าประตูห้อง มองดูบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่หน้าประตูแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “เธอเป็นยังไงบ้าง? ก่อกวนอะไรอีกหรือเปล่า”

บอดี้การ์ดส่ายศีรษะ “หลังจากเรียกบริการอาหารแล้ว คุณเลขาไป๋ก็อยู่ในห้องตลอดเวลาเลยครับ”

ได้ยินดังนั้น เผยลี่เชินก็พยักหน้าเล็กน้อย ส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดนำคีย์การ์ดออกมา แล้วเปิดประตูห้อง

ภายในห้องเงียบสงบ แสงไฟค่อนข้างมืดสลัว เผยลี่เชินก้าวขาเดินเข้าไป มองเห็นภายในห้องว่างเปล่าไร้คนอยู่

คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่น สมองรัดตึงขึ้นมาในทันที เอ่ยปากเรียกออกมา “ไป๋เสว่เอ๋อร์?”

ไร้เสียงตอบรับ หันไปมองจนทั่วทุกด้าน หาครบทั้งด้านในและด้านนอกของห้อง ต่างก็ไม่พบเงาของคน ทันใดนั้น เผยลี่เชินก็กำหมัดแน่น เดินอย่างรวดเร็วไปที่ด้านหน้าประตู จ้องบอดี้การ์ดด้วยความโกรธ “คนหายไปแล้ว!คุณดูยังไงกัน!”

“จะเป็นไปได้ยังไง…ผมไม่ได้ออกจากตรงนี้ไปเลยนะครับ…” บอดี้การ์ดสีหน้าตื่นตระหนก กลับทั้งยังดูขาดความมั่นใจ

ความโมโหภายในดวงตาของเผยลี่เชินลุกลามขึ้น เขาเอ่ยปากอย่างเยือกเย็น น้ำเสียงราวกับเค้นออกมาจากในลำคอ “รีบไปตามมาให้ผมเดี๋ยวนี้!”

“แม่หนู ผมเห็นว่าคุณดูรีบร้อนมากเลย คงจะมีเรื่องด่วนอะไรใช่ไหมครับ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์นั่งอยู่บนรถมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง อยู่ๆได้ยินเสียงสนทนาที่มาอย่างกะทันหันของคนขับรถ เธอก็ค่อยๆได้สติกลับคืนมา “ค่ะ”

โชเฟอร์เริ่มเอ่ยปากขึ้นมาก่อน พูดคุยกับเธออย่างไม่มีคำพูดก็หาเรื่องมาพูด ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่แต่เดิมอารมณ์ตึงเครียดก็ผ่อนคลายลงมาเป็นอย่างมากในชั่วขณะ

มองเห็นริมถนนบริเวณด้านหน้าไม่ไกลนักมีร้านค้าเล็กๆอยู่ร้านหนึ่ง ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกกระหายน้ำ จึงได้เอ่ยปากถามขึ้นเบาๆว่า “โชเฟอร์คะ ถึงข้างหน้าจอดรถสักพักนึงได้ไหมคะ ฉันลงไปซื้อน้ำสักขวด”

“ได้อยู่แล้วครับ”

คนขับรถยิ้มขึ้นอย่างเป็นมิตรพร้อมกับลดความเร็วลง นำรถลงจอดที่ข้างทาง

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลงจากรถ เดินเข้าไปในร้านค้าเล็กๆ ซื้อน้ำขวดนึง ยังตั้งใจเลือกเครื่องดื่มอีกขวดนึงให้กับคนขับรถโดยเฉพาะ เพิ่งจ่ายเงินเสร็จ กำลังเตรียมที่จะดันประตูเดินออกไป อยู่ๆก็เห็นบริเวณไม่ไกลนักมีรถคันหนึ่งเร่งความเร็วมุ่งหน้าเข้ามาทางนี้

เป็นคันเดียวกันกับที่ตามอยู่ด้านหลังพวกเขามาตลอดเมื่อสักครู่นี้พอดี!

หัวใจของไป๋เสว่เอ๋อร์บีบตัวเข้าหากันแน่น ทันใดนั้นก็เห็นรถคันนั้นชนเข้ากับรถแท็กซี่อย่างรุนแรงในทันที

“ปึ้ง!” เสียงดังกึกก้อง สมองของไป๋เสว่เอ๋อร์ว่างเปล่าไปชั่วขณะ

รถแท็กซี่ถูกรถที่ตามมาข้างหลังคันนั้นดันออกไปไกลมาก ป้ายทะเบียนรถทั้งอันที่อยู่บนกระโปรงหลังรถถูกชนจนไม่เป็นรูปร่างเดิมอีกต่อไป เสียงที่ดังลั่นสะท้อนเข้ามา แทบจะทะลุผ่านไปยังแก้วหูของไป๋เสว่เอ๋อร์ จะยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่า เธอจะต้องมาเห็นฉากนี้ด้วยตาของเธอเอง!

รถคันนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นการจงใจ! จากเลนรถวิ่งแยกมายังข้างทาง กลับไม่มีความคิดที่จะเบรกลงเลยแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าเป็นการจงใจชนเข้าหา…

หรือว่า…เป็นเพราะเธองั้นหรอ?

ตั้งแต่ที่เธอขึ้นรถมาจากหน้าประตูโรงแรม รถคันนั้นก็ตามอยู่ด้านหลังของรถแท็กซี่ หลังจากนั้นก็ยังตามพวกเขามาโดยตลอด…

ไม่ง่ายเลยที่จะสลัดรถคันนั้นทิ้ง คิดไม่ถึงว่านี่พวกเขาเพิ่งจะจอดลงแค่ไม่เท่าไร รถคันนั้นก็ตามมาจากด้านหลัง ชนเข้ามาตรงๆ

รถคันนี้เห็นได้ชัดว่า…เป็นการพุ่งเป้ามาที่เธอ!

ไป๋เสว่เอ๋อร์ขาอ่อนกำลังลงไปในทันที แทบจะล้มลงไปทั้งตัว เถ้าแก่กับเถ้าแก่เนี้ยในร้านค้าที่ยืนอยู่ข้างๆกำลังมองไปยังด้านนอกวิพากษ์วิจารณ์กันด้วยเสียงกระซิบกระซาบ พอเห็นเธอเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมาว่า “แม่หนูเป็นอะไรไป? ตกใจแย่ล่ะสิ?”

เสียงคำถามต่างๆราวกับถูกคั่นด้วยใยฝ้ายชั้นหนึ่ง แม้ว่าไป๋เสว่เอ๋อร์จะได้ยินอย่างชัดเจน กลับรู้สึกราวกับสะท้อนเข้ามาจากสถานที่ห่างไกล

เธอนิ่งอึ้งอยู่กับที่ สมองว่างเปล่าไปหมด

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เธอถูกจับให้นั่งลงไปบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้าง ได้ยินพวกเขาโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ทั้งยังเห็นรถฉุกเฉินรีบเร่งเข้ามา นำโชเฟอร์และผู้ก่อเหตุเคลื่อนย้ายลงมาจากรถด้วยตาของตนเอง…

ในความวุ่นวายนั้น รถคันหนึ่งจอดลงที่ด้านข้าง เงาร่างที่คุ้นเคยเดินไปยังหน้ารถแท็กซี่ด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าบนรถมีคนขับรถเพียงแค่คนเดียวอยู่ในนั้น เขาก็เริ่มค้นหาไปทั่วทุกทิศอย่างโกลาหลอลหม่าน

ในที่สุด เผยลี่เชินก็มองเห็นร้านค้าเล็กๆในบริเวณไม่ไกลนัก ผ่านประตูกระจกใส เขามองเห็นหญิงสาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด…

ทันใดนั้น ความตื่นตระหนกและความเป็นกังวลทั้งหมดภายในหัวใจก็สลายหายไปในวินาทีนั้น เผยลี่เชินรีบวิ่งเข้ามา ก้าวขาเดินเข้าไปข้างในร้านค้า หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เขาก็รีบกอดเธอเข้ามาไว้ด้านในอ้อมแขนทันที

“ยังดีที่คุณไม่เป็นอะไร…” ชายหนุ่มเหมือนยกภูเขาออกจากอก หลังจากเห็นเธอโชคดีรอดชีวิตมาได้ก็เอ่ยความรู้สึกลึกๆออกมา

ทันใดนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ราวกับถูกดึงกลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริงใหม่อีกครั้ง ลำตัวของเธอสั่นเล็กน้อย น้ำตาทะลักออกมาอย่างหยุดเอาไว้ไม่ได้ เอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่สั่นเทาว่า “เขาพุ่งเป้ามาที่ฉัน…”

เธอสามารถมั่นใจได้ นี่ไม่อาจจะใช่อุบัติเหตุโดยเด็ดขาด!

มีคน ต้องการชีวิตของเธอ!

โชเฟอร์ที่วินาทีก่อนยังพูดคุยหัวเราะกับเธอ ไม่ถึงสามนาที ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นศีรษะแตกเลือดอาบ ถูกยกลงมาจากรถ หามขึ้นไปบนรถฉุกเฉิน…

เธอไม่กล้าคิดเลยว่า หากเธอไม่ได้ลงมาซื้อน้ำ ในเวลานี้คนที่นอนอยู่บนรถฉุกเฉินก็ต้องมีเธออยู่ในนั้นด้วยใช่ไหม?

เผยลี่เชินขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น แต่กลับอดทนตบไปที่บ่าของเธอเบาๆพร้อมกับเอ่ยปากพูดปลอบใจว่า “ไม่ต้องกลัว…ผมจะต้องตรวจสอบให้ได้”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ขาอ่อนแรงลง ด้านหน้ามืดมิด เธอสลบลงไป หมดสติไปในทันที

โรงพยาบาลปินเฉิง

เผยลี่เชินมองดูหญิงสาวบนเตียงที่ใบหน้าซีดขาวจนแทบจะมองผ่านทะลุเข้าไปได้ หัวใจก็บีบรัดเจ็บปวดขึ้นมาเป็นระลอก

เขาก้าวขาเดินออกจากห้องผู้ป่วย มองเห็นฉีเฟิงที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตู ก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “ตรวจพบอะไรบ้าง?”

ฉีเฟิงส่งกระดาษแผ่นนึงมาให้ เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “นี่คือข้อมูลส่วนตัวของเมิ่งจูน ครอบครัวธรรมดา เป็นคนขับรถของบริษัทตีตีมาโดยตลอด ไม่มีความรู้จักกับคนขับรถแท็กซี่เลยแม้แต่น้อย เขาบอกว่าเป็นเพราะตนเองไม่ระวังเหยียบคันเร่งไปแทนเบรกถึงได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นครับ”

มือที่ถือกระดาษแผ่นนั้นกำเข้าหากันแน่น เผยลี่เชินขมวดคิ้วขึ้น “เขาไม่ยอมรับ?”

“เขาบอกว่าไม่ได้มีคนคอยสั่งการครับ” ฉีเฟิงหยุดชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยปากขึ้นต่อไปว่า “แต่ว่าผมตรวจพบข้อมูลอย่างอื่นเจอ เขาเป็นโรคมะเร็งปอด ระยะสุดท้าย”

ได้ยินดังนั้น สายตาของเผยลี่เชินก็มืดมนขึ้นมาอย่างกะทันหัน “จะต้องมีคนคอยสั่งการอย่างแน่นอน คิดหาวิธีย้ายเขาออกจากโรงพยาบาล ไม่ว่าจะใช้อุบายอะไร ก็จะต้องถามหาคนที่อยู่เบื้องหลังของเขาออกมาให้ได้!”

ฉีเฟิงมีสีหน้าที่ลังเล “ประธานเผย เพียงแต่ตอนนี้พวกเราอยู่ที่เมืองปินเฉิง เกรงว่าจะแทรกมือไปไม่ค่อยสะดวก ยังไงซะเรื่องนี้ก็จะต้องตรวจสอบโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเมืองปินเฉิงก่อน…”

สีหน้าของเผยลี่เชินอึมครึมลงไปเล็กน้อย เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด “ผมบอกแล้วว่า ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีอะไรก็ตาม”

ไม่ว่าเมิ่งจูนจะได้รับคำสั่งจากใคร สรุปแล้วก็คือตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาสามารถแน่ใจได้ก็คือไป๋เสว่เอ๋อร์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย!

“แค่กๆ…”

อยู่ๆภายในห้องผู้ป่วยก็ดังสะท้อนเสียงไอของหญิงสาวออกมา เผยลี่เชินสูดหายใจเข้าเต็มปอด หมุนตัวเปิดประตูห้องเดินเข้าไป

ไป๋เสว่เอ๋อร์ฟื้นขึ้นมาแล้ว เพียงแต่สีหน้าซีดเผือด ร่างกายดูเหมือนจะอ่อนแอมาก

มองเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามา เธอก็ตัวแข็งทื่อ ลุกลี้ลุกลนอย่างแปลกประหลาดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เผยลี่เชินกลับไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย เขาก้าวขาเข้าไปข้างหน้า เอ่ยปากถามขึ้นเบาๆ “รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง?”

ไม่ได้ตอบคำถามของเขา ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด “ตรวจสอบเจอหรือยังคะ?”

“กำลังตรวจสอบ”

ได้ยินดังนั้น เธอก็กัดริมฝีปากล่างเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยถามขึ้นต่อไปว่า “โชเฟอร์ เขาเป็นยังไงบ้างคะ?”

เผยลี่เชินหยุดชะงักไปเล็กน้อย เอ่ยตอบตามความเป็นจริง “ยังคงไม่ได้สติ”

ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ในที่สุดไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว อยู่ๆเธอก็ยื่นมือออกมา จับมือของเผยลี่เชินเอาไว้แน่น เธอเอ่ยปากพูด ริมฝีปากสั่นเบาๆอย่างไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ “คุณรู้ไหมคะ? เป็นฉันที่ลากเขาเข้ามาเดือดร้อนด้วย…”

เรื่องนี้เดิมทีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนขับรถเลยแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพราะเธอ เขาก็คงจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น!

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท