สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 358

ตอนที่ 358

ตอนที่ 358 อยู่ข้างกายคุณอันตรายยิ่งกว่า

ในใจรู้สึกหนักหน่วง ไป๋เสว่เอ๋อร์อยู่ๆก็ใจเย็นลงมาอย่างกะทันหัน เ ธอหันหน้าไปมองเผยลี่เชิน หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ยกมุมริมฝีปากขึ้น เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “ฉันสงบมากมาโดยตลอด”

เธอกำหมัดแน่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ไม่รอให้เผยลี่เชินได้พูดอะไรออกมา ไป๋เสว่เอ่อร์ก็พูดต่อไปอีกว่า “เพียงแต่คุณไม่มีความรับผิดชอบเกิดไปหน่อยแล้วหรือเปล่าคะ? ไม่บอกอะไรสักคำ ก็พาฉันกลับมาที่เมืองไห่เฉิงเลย คุณเคยถามความคิดเห็นของฉันบ้างหรือเปล่าคะ?”

ทั้งๆที่เขารู้ดีว่าในใจของเธอมีความรู้สึกผิดมีความละอายใจต่อคนขับรถมากแค่ไหน แต่ไม่รอให้คนขับรถฟื้นขึ้นมา เขาก็พาเธอกลับมายังเมืองไห่เฉิง…

เผยลี่เชินขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา

ไป๋เสว่เอ๋อร์เบนสายตาไปทางอื่น ใช้ผ้าห่มคลุมศีรษะของตนเอง แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

บรรยากาศภายในรถเยือกเย็นลงมาอย่างกะทันหัน

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถก็จอดลงที่หน้าประตูคฤหาสน์ ป้าจางได้รับข่าวมาล่วงหน้า พอเห็นว่ารถมาถึงแล้วก็รีบออกมาต้อนรับจากในบ้านภายในทันที

เพียงแค่ประตูรถเปิดออก ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เดินลงมาด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น

มองเห็นบนร่างกายของหญิงสาวสวมใส่เพียงแค่ชุดผู้ป่วยบางๆ สีหน้าซีดขาวแทบจะมองทะลุลอดไปได้ ป้าจางก็ขมวดคิ้วขึ้นมาในทันที “คุณหนูไป๋ รีบเข้าไปในบ้านค่ะ คุณใส่น้อยเกินไปแล้ว อย่ายืนหนาวอยู่ตรงนี้เลยค่ะ”

ถูกป้าจางดึงเข้าไปในบ้าน เผชิญหน้ากับความเป็นห่วงเป็นใยของเธอ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็พยักหน้าเล็กน้อย เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “ขอบคุณป้าจางมากค่ะ ฉันไม่ทานอะไรทั้งนั้น แค่อยากจะกลับห้องนอนหลับให้สบายซักตื่น”

พูดจบ เธอก็ก้าวขาเดินขึ้นชั้นสองไปในทันที

ป้าจางได้ยินดังนั้น ก็หันไปทางเผยลี่เชินอย่างประหลาดใจเล็กน้อย เห็นเขามีสีหน้าที่เยือกเย็นเช่นเดียวกัน ก็ทำได้เพียงนำคำถามทั้งหมดที่ขึ้นมาจนถึงริมฝีปากกลืนกลับเข้าไป

เผยลี่เชินเอ่ยปากสั่งขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “เตรียมน้ำแกงไก่สักหน่อยครับ”

หลังจากพูดจบ ก็ก้าวขายาวๆตามขึ้นไปที่ชั้นสองเช่นเดียวกัน

เดินมาถึงหน้าประตูห้องนอน เห็นประตูห้องกลับไม่ได้ปิดลง เผยลี่เชินจึงเดินมุ่งตรงเข้าไป

เพิ่งจะเดินเข้าไปในห้อง ก็เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังเก็บเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้

เผยลี่เชินรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย ก้าวขายาวๆเดินเข้าไปด้วยความรวดเร็ว “คุณจะทำอะไร?”

“ฉันอยากกลับไปพักที่บ้านระยะหนึ่ง”

เดิมทีก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน เพราะว่าความขัดแย้งที่ไม่สามารถปรับเข้าหากันได้ระหว่างทั้งสองคน ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ได้แยกกันอยู่กับเผยลี่เชินไปสองสามวัน ต่อมาในตอนที่กลับมาเอาของก็ถูกเผยลี่เชินบังคับให้อยู่ที่นี่ แม้ว่าในใจของเธอจะยังมีความบาดหมางอยู่ แต่สุดท้ายความโกรธที่มีต่อเขาก็สลายไปเกินครึ่ง

แต่ตอนนี้ เรื่องได้กลายเป็นอีกเรื่องนึงโดยสมบูรณ์แบบแล้ว

ความขัดแย้งระหว่างพวกเขาสองคนยิ่งสะสมยิ่งมากขึ้นไปเรื่อยๆ ได้มาถึงขั้นที่ไม่มีวิธีที่จะฝืนทนต่อไปได้อีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นได้ประสบกับเรื่องที่เมืองปินเฉิงในคราวนี้ ก็ถือเป็นการเตือนเธอแล้วว่าการที่เธออยู่ข้างกายของเผยลี่เชินเป็นเรื่องที่อันตรายมากขนาดไหน

เธอไม่มีทางจินตนาการได้เลยว่าวินาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งจินตนาการไม่ได้ว่าจะมีคนได้รับบาดเจ็บเพราะเธออีกหรือเปล่า

สีหน้าของเผยลี่เชินมืดมนจนน่ากลัว “ไป๋เสว่เอ๋อร์ คุณรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่?”

การเคลื่อนไหวที่อยู่ในมือหยุดชะงักลง ไป๋เสว่เอ๋อร์หมุนตัวหันมามองชายหนุ่มด้วยท่าทีที่จริงจัง “ฉันชัดเจนมากค่ะ ฉันคิดว่าพวกเราสองคนจำเป็นต้องแยกกันระยะหนึ่ง”

หลังจากที่มั่นใจในน้ำเสียงที่แน่นอนของหญิงสาวแล้ว เผยลี่เชินก็ส่ายศีรษะ “ผมไม่มีทางให้คุณไป”

“มีสิทธิ์อะไร?” ไป๋เสว่เอ่อร์เอ่ยถามย้อนกลับ “ต่อให้อาศัยว่าคุณเป็นแฟนของฉัน คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาจำกัดอิสรภาพของฉัน!”

สายตาอึมครึมลงไปอย่างกะทันหัน เผยลี่เชินยื่นมือออกมา บีบหัวไหล่ของเธอเอาไว้แน่นหมุนลำตัวของเธอให้หันมาตรงๆ “คนที่ลอบทำร้ายคุณตอนนี้ยังตรวจสอบไม่พบ คุณรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้แยกจากผมอันตรายมากขนาดไหน?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด เอ่ยขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “อยู่กับคุณอันตรายมากยิ่งกว่า”

ประโยคนี้ราวกับเสียงฟ้าผ่าที่ทำให้คนรู้สึกช็อก ระเบิดออกมาที่ข้างใบหูของเผยลี่เชิน เขานิ่งเงียบสบสายตากับเธอ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไป

ในขณะที่เดินไปถึงหน้าประตูนั้น เขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “ผมไม่มีทางให้คุณไป”

ในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์ชัดเจนเป็นอย่างมาก ขอเพียงแค่เป็นสิ่งที่เผยลี่เชินได้ทำการตัดสินใจแล้ว เขาจะต้องพูดได้ทำได้อย่างแน่นอน

แต่นี่กลับไม่ได้หมายความว่า เธอจะไม่มีวิธีการรับมือของตนเอง

ในขณะที่ป้าจางเคาะประตูเป็นรอบที่สองแล้วไม่มีคนตอบรับนั้น ในที่สุดเธอก็ลุกลี้ลุกลนขึ้นมา “คุณหนูไป๋ หากคุณอยู่ในนั้นก็ตอบรับสักหน่อยเถอะค่ะ ตอนกลางวันไม่ทานข้าวก็มากพอแล้ว ตอนเย็นก็ยังไม่ทานอีก ร่างกายนี้จะรับไหวได้ยังไงกันคะ!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ขดตัวอยู่ที่มุมๆหนึ่งบนเตียง ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

เผยลี่เชินดันประตูออกมาจากห้องหนังสือ เห็นป้าจางที่ทำอะไรไม่ได้ยืนอยู่หน้าประตูห้อง เขาก็ขมวดคิ้วขึ้น แล้วสั่งออกไปว่า “นำอาหารยกขึ้นมาชุดนึงครับ ที่เหลือผมจัดการเอง”

ป้าจางได้ยินดังนั้น ถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก หมุนตัวเดินจากไปอย่างเร่งรีบ

เผยลี่เชินดันประตูเดินเข้าไปข้างใน เปิดไฟที่อยู่ในห้อง มองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังขดตัวอยู่ที่มุมๆหนึ่งของเตียง

“คุณคิดจริงๆหรอว่าอดอาหารไม้นี้จะมีผลต่อผม?” เผยลี่เชินขมวดคิ้วขึ้น ก้าวขาเดินเข้าไปข้างหน้า เห็นหญิงสาวราวกับสัตว์น้อยตัวหนึ่งที่กำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างระแวดระวังก็ไม่ปาน ก็เกิดความปวดใจขึ้นมาอีกเล็กน้อย

ถอนหายในออกมาเบาๆ เขายื่นมือออกไป โอบหญิงสาวเข้ามาไว้ข้างในอ้อมแขน โน้มศีรษะลงเอ่ยปากโน้มน้าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “เชื่อฟัง ได้ไหม?”

“ปล่อยฉันกลับไป” ไป๋เสว่เอ๋อร์เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว

สุดท้ายก็ถูกความดื้อรั้นที่ไม่ยอมจำนนนี้ของหญิงสาวทำให้พ่ายแพ้ ความปวดใจในที่สุดก็ทำให้เขาไม่อาจจะใจร้ายกับเธอจริงๆได้

รอจนกระทั่งป้าจางนำอาหารส่งเข้ามา เผยลี่เชินก็หยิบถ้วยเล็กๆขึ้น นำกับข้าววางลงไปบนข้าวสวยที่อยู่ในถ้วย ผสมเข้ากันอย่างตั้งใจ

นำถ้วยนั้นวางไปที่ด้านหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ เอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ทานข้าวให้หมด แล้วพวกเราค่อยคุยกัน”

เห็นน้ำเสียงที่จริงจังของชายหนุ่ม ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็สูดหายใจเข้าเต็มปอด หลังจากที่ลังเลอยู่เล็กน้อยก็หยิบถ้วยนั้นขึ้นมาอย่างช้าๆ ทานข้าวที่อยู่ในถ้วยนั้นทีละคำๆ

พอทานจนเห็นพื้นของถ้วย ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็วางถ้วยลง เอ่ยด้วยสายตาเปล่งประกายกลับทั้งจริงจังอย่างหาได้เปรียบ “ฉันทานหมดแล้ว”

มองเห็นมุมริมฝีปากของหญิงสาวยังมีเม็ดข้าวติดอยู่ เผยลี่เชินก็จับเชยคางของเธอขึ้นมาอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่เธอยังไม่มีการตอบสนองกลับมานั้น เขาก็จูบลงไปบนริมฝีปากของเธออย่างรุนแรง

บนริมฝีปากเจ็บแปลบขึ้น ไป๋เสว่เอ่อร์ก็มีการตอบสนองกลับมาอย่างกะทันหัน ยกมือขึ้นดันตัวของชายหนุ่มออกโดยจิตใต้สำนึกในทันที

ราวกับคาดเดาได้ตั้งนานแล้วว่าเธอจะต้องตอบโต้ เผยลี่เชินยื่นมืออีกข้างหนึ่งออกไป จับมือของเธอเอาไว้อย่างแม่นยำ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มการจูบให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

ในที่สุด หลังจากที่พึงพอใจแล้ว เขาถึงได้คลายเธอออกอย่างช้าๆ

ก่อนที่หญิงสาวจะโมโหออกมา เผยลี่เชินก็เอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “ผมยอมให้คุณไป แต่ว่าแยกจากผมได้เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ เจ็ดวันนี้ คิดให้เข้าใจในเรื่องที่คุณยังคิดไม่เข้าใจ พวกเราพูดคุยกันให้ชัดเจน หลังจากเจ็ดวัน คุณยังเป็นของผม”

เขาทิ้งคำพูดที่ไม่มีที่ว่างให้ปรึกษาหารือนี้เอาไว้ แต่นี่ก็เป็นการยอมถอยที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเขาแล้ว

เผยลี่เชินลุกยืนขึ้น เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “ผมจะให้คุณน้าเป็นคนมารับคุณ คุ้มกันคุณออกจากที่นี่ไปโดยโจ๋วฝัน ไม่สามารถปฏิเสธได้ เรื่องนี้ไม่อาจจะมาปรึกษาหารือกัน”

พูดจบ เขาก็ก้าวขาเดินออกจากห้องไปด้วยความรวดเร็ว

รอจนกระทั่งเงาร่างของชายหนุ่มหายไปจากในขอบเขตของสายตาแล้ว ร่างกายที่เกร็งตัวเข้าหากันแน่นถึงได้ผ่อนคลายลงมาอย่างกะทันหัน

ถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก เธอมีความแปลกใจเล็กน้อยกับการยอมพบกันครึ่งทางของเขาเช่นเดียวกัน

เดิมคิดว่าจะต้องรอจนถึงเธออดข้าวสองสามวันเขาถึงจะยอมตกลง คิดไม่ถึงว่า…

ไม่ได้คิดมากขนาดนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์มองดูด้านนอกที่สีของท้องฟ้าได้เริ่มมืดสลัวลงแล้ว เธอลุกขึ้นลงจากเตียง เปลี่ยนเสื้อผ้า จัดกระเป๋าเดินทางให้เรียบร้อย อยู่ในห้องเงียบๆรอการมาถึงของคุณแม่ไป๋

ในขณะเดียวกัน เผยลี่เชินที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก แกว่งแก้วไวน์ที่อยู่ในมือเบาๆ ของเหลวที่มีสีทองอร่ามก็แกว่งเคลื่อนไหวตามไปด้วย ความรู้สึกภายในดวงตาอึมครึมลงไปเล็กน้อย เขายกมือขึ้น นำเหล้าที่อยู่ในแก้วเทใส่ปากจนหมด

ไม่ถึงสี่สิบนาที ด้านนอกคฤหาสน์ก็มีเสียงรถยนต์ดังขึ้น คนรับใช้ออกไปดึงประตูใหญ่ให้เปิดออก

ไม่ช้า คุณแม่ไป๋ก็ก้าวขาเดินเข้ามา พอผ่านพ้นประตูก็มองสังเกตไปรอบๆด้าน

เผยลี่เชินลุกขึ้นเดินเข้ามา ทักทายกับเธอด้วยสีหน้าที่ราบเรียบ “คุณน้า”

มองเห็นเขา กลับไม่ได้มองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ คุณแม่ไป๋ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย “พวกเธอสองคนทะเลาะกันแล้วหรอ? มีเรื่องอะไรที่จะต้องทะเลาะกันจนถึงต้องแยกกันอยู่ระยะหนึ่ง?

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท