สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 421

ตอนที่ 421

ตอนที่ 421 ที่ติดค้างคุณเอาไว้ต่อไปจะค่อยๆคืน

ไม่นานนัก พยาบาลประจำเวรก็เข้ามาเคาะประตู “คนไข้ตื่นแล้ว พวกเราต้องทำการตรวจเช็คดูสักหน่อย อีกสักครู่ก็ต้องย้ายออกจากห้องคนไข้แล้วนะคะ”

คุณท่านเผยได้ยินดังนั้น ก็เงยหน้ามองนาฬิกาที่อยู่บนผนังแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยปากสั่งขึ้นเบาๆว่า “นี่ก็ดึกมากแล้ว ลี่เชิน แกพาเสี่ยวไป๋กลับไปก่อน”

เผยลี่เชินได้ยินดังนั้น ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไรออกมา คุณท่านเผยก็ได้ยกมือโบกไม้โบกมือขึ้นมาเล็กน้อย “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฟังที่ฉันว่า คุณลุงเฝิงของแกอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนพ่อแล้ว ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก”

คุณท่านเผยดื้อรั้นมาโดยตลอด เรื่องที่ตัดสินใจไปแล้วก็จะไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆอีก เผยลี่เชินทำได้เพียงแค่รับปาก “งั้นก็ได้ครับ ผมพาเธอกลับไปก่อน พรุ่งนี้พวกเราค่อยมาเยี่ยมพ่ออีกที”

คุณท่านเผยพยักหน้าเล็กน้อย โบกมือให้กับพวกเขา

ออกมาจากห้องคนไข้ ทั้งสองคนนิ่งเงียบตลอดทาง จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าประตูใหญ่ของโรงพยาบาล ลมเย็นระลอกหนึ่งพัดโหมเข้ามา ไป๋เสว่เอ๋อร์ตัวสั่น ขนลุกตั้งชันไปทั่วทั้งตัว

เผยลี่เชินสังเกตเห็นการตอบสนองของเธออย่างฉับไว รีบถอดเสื้อคลุมที่อยู่บนร่างกายของตัวเองออก คลุมไปบนร่างกายของเธอ จากนั้นโอบไหล่ของเธอเอาไว้ให้อยู่ภายใต้อ้อมแขนในทันที

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกตะลึงไปชั่วขณะ สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ตามเขาเดินตรงไปข้างหน้าต่อไปอย่างเชื่อฟัง

ขึ้นมาบนรถ ประตูเพิ่งจะถูกปิดลง อยู่ๆเผยลี่เชินก็เอ่ยปากออกมา ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “วันนี้ผมไม่ได้ปกป้องคุณให้ดี ขอโทษครับ”

การขอโทษที่มาอย่างกะทันหันของชายหนุ่ม กลับทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกแอบตกใจขึ้นมา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ ไม่โทษคุณค่ะ”

“ทำไมจะไม่เกี่ยวข้อง?” อยู่ๆเผยลี่เชินก็ยื่นมือออกมา กุมมือของเธอเอาไว้ในฝ่ามือทันที สายตาแสดงถึงความจริงใจออกมา “ผมควรจะปกป้องคุณ”

น้ำเสียงของเขาอ่อนเบาลงไปมากอย่างกะทันหัน ราวกับพูดพึมพำกับตัวเอง ทั้งยังเหมือนกำลังตำหนิตนเองอยู่

ภายใต้แสงไฟที่มืดสลัวภายในรถยนต์ ไป๋เสว่เอ๋อร์มองดูบนใบหน้าของชายหนุ่มที่มีความอ่อนโยนเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย หัวใจก็บีบรัดแน่นขึ้นมาอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้

ชั่วพริบตา เธอก็เอ่ยปากออกไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว “ฉันไม่โทษคุณค่ะ”

เผยลี่เชินเงยหน้าขึ้น ทั้งสองคนสบสายตากัน ทันใดนั้น ความรู้สึกที่พูดได้ไม่ชัดเจนนักก็แอบล้นทะลักขึ้นมา

ในขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกเพียงแค่ตนเองแทบจะถลำเข้าไปในสายตาของชายหนุ่มอยู่แล้วนั้น อยู่ๆเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่มาอย่างกะทันหัน ชั่วพริบตาก็ทำลายบรรยากาศทิ้งลงไปในทันที

เผยลี่เชินขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย หยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา มองไม่ที่หน้าจอแวบหนึ่ง จากนั้นกดรับในทันที “ฮัลโหล? เกิดอะไรขึ้น?”

ฉีเฟิงเอ่ยขึ้นจากสายโทรศัพท์ฝั่งนั้นว่า “ประธานเผย เมื่อครู่นี้มีผู้ถือหุ้นของบริษัทหลายคนโทรศัพท์มาสอบถามสถานการณ์กับผม น้ำเสียงของพวกเขาต่างก็ไม่ค่อยจะน่าฟังนัก บอกว่าเรื่องนี้อาจมีผลกระทบไปถึงภาพลักษณ์ของเผยซื่อ ยังถามว่าท่านประธานมีมาตรการรับมืออะไรหรือเปล่าอีกด้วยครับ”

เรื่องที่เกิดขึ้นบนงานเลี้ยงภายในคืนนี้นั้น แม้ว่าจะเป็นข่าวฉาวส่วนตัวของจินจิงจิงเอง แต่เมื่อไรที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับบ้านตระกูลเผยแม้เพียงแค่วันเดียว ข่าวลือเหล่านั้นก็มีโอกาสที่จะนำภัยพิบัติกระทบมาถึงเผยซื่อได้

นี่เป็นสิ่งที่เผยลี่เชินคิดได้ถึงมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่วิ่งวุ่นมาตลอดทาง เขาแทบจะไม่ทันที่จะได้จัดการเลยแม้แต่น้อย

เผยลี่เชินสั่งออกไปด้วยสีหน้าที่มืดมนว่า “หากพวกเขาโทรหาคุณอีก ไม่ต้องรับอีกทั้งสิ้น พรุ่งนี้ตอนเช้าผมจะไปเปิดการแถลงที่บริษัท คุณนำข่าวนี้ประกาศแจ้งให้กับทุกคนได้ทราบ จากนั้นติดต่อคนจัดการเรื่องเหล่านั้นที่อยู่ในเว็บไซต์”

“ครับ”

วางสายโทรศัพท์ลง เผยลี่เชินก็กุมโทรศัพท์มือถือเอาไว้ นิ่งเงียบลงไปอย่างกะทันหัน

ในใจของเขาชัดเจนเป็นอย่างมากว่า ขอเพียงแค่การถ่ายทอดสดถ่ายทอดออกไป ก็จะแพร่กระจายไปทั่วราวกับโรคระบาดก็ไม่ปาน ต่อให้พวกเขาคิดอยากจะหยุดยั้งเรื่องนี้ลงไป ทุ่มเงินนำคำค้นหายอดนิยมออก ลบคลิปวิดีโอทิ้ง แต่ก็ยังจะมีคลิปวิดีโอรูปแบบอื่นๆถูกเผยแพร่ออกไปอีกอยู่ดี จะป้องกันมากแค่ไหนก็ยังคงป้องกันได้ไม่หมด

เห็นเผยลี่เชินสีหน้ามืดมน คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น ไม่พูดอะไรอยู่นาน ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็สูดหายใจเข้าเต็มปอด เอ่ยถามขึ้นเบาๆว่า “เป็นอะไรไปคะ?”

เผยลี่เชินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “ไม่มีอะไร เพียงแต่เรื่องในวันนี้อาจจะมีผลกระทบเล็กน้อยต่อบริษัท”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนั้น ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยปากออกมาเบาๆว่า “งั้นพรุ่งนี้คุณไปจัดการธุระที่บริษัทก่อน โรงพยาบาลทางนี้ฉันมาเอง ฉันจะให้ป้าจางตุ๋นซุปบำรุงกำลังนิดหน่อย นำมาให้กับคุณลุง”

เผยลี่เชินได้ยินดังนั้น ก็หันไปมองไป๋เสว่เอ๋อร์ครู่หนึ่งด้วยสายตาที่ล้ำลึก จากนั้นถึงได้เอ่ยปากออกมาเบาๆว่า “ครับ”

ในขณะที่พูด อยู่ๆเขาก็ยื่นมือออกไป โอบกอดเธอเอาไว้แน่นภายในอ้อมแขนทันที

ไป๋เสว่เอ๋อร์นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ รู้สึกเพียงแค่แขนทั้งสองข้างของชายหนุ่มออกแรงโอบกอดร่างกายของเธอเอาไว้ แทบอยากจะฝังเธอเข้าไปในร่างกายของตนเองอย่างแน่นหนาก็ไม่ปาน

ทันใดนั้น ข้างใบหูก็มีไอความร้อนระลอกหนึ่งพัดผ่านเข้ามา เสียงที่นุ่มนวลของชายหนุ่มดังขึ้น “ที่ผมติดค้างคุณเอาไว้ ต่อไปจะค่อยๆคืน”

ในประโยคนี้ได้แฝงความคลุมเครือที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเอาไว้อย่างมากมาย ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด กลับไม่มีความรู้สึกรังเกียจอย่างประหลาด กลับรู้สึกเกิดความอบอุ่นขึ้นภายในจิตใจเสียด้วยซ้ำ

กลับมาถึงคฤหาสน์หลังเล็กที่จงหลวี่ฉวน พอไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าประตูไป ป้าจางก็เข้ามาต้อนรับในทันที ยื่นมือออกมารับกระเป๋าและเสื้อคลุมของเธอ

“ป้าจาง ทำไมยังไม่นอนอีกคะ?”

คืนวันนี้ตั้งแต่งานเลี้ยงจนถึงโรงพยาบาล พวกเขาวิ่งวนไปวนมาเป็นรอบขนาดนี้ เวลาก็ดึกมากแล้ว เห็นได้ชัดว่าป้าจางไม่ได้นอนมาโดยตลอด รอพวกเขามาจนถึงตอนนี้

“ป้าได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ในใจนี่ก็วุ่นวายไม่ยอมสงบ เห็นพวกคุณยังไม่กลับมา ก็เป็นห่วงจนนอนไม่หลับ”

ได้ยินป้าจางพูดเช่นนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รู้สึกแสบร้อนที่บริเวณปลายจมูก รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา เธอยื่นมือออกไป ดึงมือของป้าจางเอาไว้ เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “วางใจนะคะ พวกเราไม่เป็นอะไร ป้ารีบกลับไปนอนเถอะค่ะ”

พอเห็นเผยลี่เชินเดินตามเข้ามาด้วย ป้าจางถึงได้วางใจ เธอพยักหน้าเล็กน้อย หมุนตัวกลับเข้าห้องไปในทันที

“รีบพักผ่อนค่ะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์กวาดตามองไปยังเผยลี่เชินแวบหนึ่ง จากนั้นก้าวขาเดินไปทางห้องของตนเอง

“ไป๋เสว่เอ๋อร์”

ทันใดนั้น เผยลี่เชินก็เอ่ยปากเรียกเธอเอาไว้

พอไป๋เสว่เอ๋อร์หันหน้ากลับไป ก็เห็นชายหนุ่มเดินเข้ามา โน้มลำตัวลง จูบเบาๆลงบนข้างแก้มของเธอในทันที

ราวกับกลีบดอกไม้พาดผ่านไปบนข้างแก้มของเธออย่างไม่ชัดเจนนัก ในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกจั๊กจี้ วูบวาบขึ้นมาอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่

เห็นสีหน้าที่ตะลึงงันของหญิงสาว มุมปากของเผยลี่เชินก็ปรากฏรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา เขาหมุนตัว ก้าวขาเดินห่างออกไป

ไป๋เสว่เอ๋อร์กลับมาถึงห้องอย่างไม่ค่อยมีสตินัก ในสมองยังคงเป็นจูบเบาๆเมื่อสักครู่นี้ที่ทำให้เธอจิตใจฟุ้งซ่าน แต่ที่น่าอัศจรรย์ก็คือ ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะจูบนี้พอดี ที่ทำให้เธอฝันดีตลอดทั้งคืน

เช้าวันต่อมาตื่นขึ้น ไป๋เสว่เอ๋อร์มองดูเวลาแวบหนึ่ง คิดได้ว่าวันนี้ยังจะต้องไปเยี่ยมคุณท่านเผยที่โรงพยาบาล ชั่วพริบตาเธอก็ตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อย ลุกขึ้นลงจากเตียง รีบไปล้างหน้าแปรงฟันในทันที

เดินออกมาจากห้อง เธอก้าวขาอย่างแผ่วเบาเดินไปถึงห้องนอนเด็กที่อยู่ด้านข้าง คิดถึงเรื่องเมื่อวานนี้ทั้งๆที่รับปากห้าวเจ๋อน้อยไว้แล้วว่าจะกลับบ้านให้เร็วหน่อยมาอยู่เป็นเพื่อนเขา แต่สุดท้ายเธอกลับทำไม่ได้ ก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาในชั่วขณะ

ดันประตูห้องให้เปิดออก เดิมทีคิดว่าหนุ่มน้อยคงจะยังนอนอยู่บนเตียง แต่ใครจะรู้ว่าพอกวาดตามองเข้าไป บนเตียงนั้นว่างเปล่า ไม่ได้มีเงาของห้าวเจ๋อน้อยอยู่เลย!

หัวใจบีบตัวเข้าหากันแน่น ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกลนลานขึ้นมาเล็กน้อย แต่ทันใดนั้น ขาของเธอก็เหมือนกับว่าถูกอะไรกอดเอาไว้ จากนั้นเสียงพูดของเด็กที่อ่อนนุ่มก็ดังสะท้อนขึ้นมา “คุณแม่ กำลังทำอะไรครับ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้มศีรษะลง มองเห็นห้าวเจ๋อน้อยที่กอดต้นขาของเธอเอาไว้กำลังเงยหน้าจ้องมองเธอด้วยดวงตากลมโตที่ราวกับลูกองุ่นแดงก็ไม่ปาน ก็รู้สึกตกใจและดีใจขึ้นมาในชั่วขณะ เธอย่อตัวลงจากนั้นก็กอดเขาเข้ามาไว้ข้างในอ้อมแขน “คิดถึงแม่หรือยัง!”

ห้าวเจ๋อน้อยพยักหน้าอย่างจริงจัง ถือโอกาสยื่นมือออกไปโอบล้อมรอบคอของเธอเอาไว้ “คิดถึงแล้วครับ!แม่ ผมมีเรื่องจะบอก”

หนุ่มน้อยประชิดเข้ามาที่ข้างใบหูของเธออย่างกะทันหัน ลดเสียงให้เบาลงเอ่ยขึ้นอย่างลึกลับว่า “วันนี้…เจียเจียที่อยู่บ้านข้างๆของเราหลังนั้นจะมาเป็นแขกที่บ้านของเรา เป็นผมที่เชิญเธอมาเอง”

“เจียเจีย?” ไป๋เสว่เอ๋อร์มึนงงไปชั่วขณะ

ห้าวเจ๋อน้อยพยักหน้าด้วยท่าทีที่จริงจัง “ใช่ครับ คือเพื่อนของผม ผมเพิ่งรู้จักเมื่อวานนี้”

ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รู้สึกยินดีและสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย

ที่จริงแล้วเธอมีความรู้สึกละอายใจต่อห้าวเจ๋อน้อยมาโดยตลอด ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเซียงหนานมาหลายปี อยู่ๆเธอก็พาเขามายังเมืองไห่เฉิง สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแห่งนี้ แม้กระทั่งเพื่อนสักคนก็ยังไม่มี และเธอก็รู้เช่นเดียวกันว่าเขาอยู่คนเดียวนั้นน่าเบื่อ และเหงามาก

ตอนนี้มาได้ยินว่าเขาคบค้าสมาคมกับเพื่อนใหม่ แน่นอนว่าเธอก็ต้องดีใจตามไปด้วยเช่นเดียวกัน

แต่ใครจะรู้ว่า อยู่ๆห้าวเจ๋อน้อยก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ผมเพิ่งจะบอกกับเธอว่า แม่เป็นแม่ของผม คุณอาข้าวโอ๊ตคือพ่อของผม แม่ คงจะไม่โกรธใช่ไหมครับ?

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท