สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 423

ตอนที่ 423

ตอนที่ 423 คนตระกูลเผยไม่มีใครที่รับมือง่ายสักคน

ไป๋เสว่เอ๋อร์ชะงักงัน ฟังออกว่านี่เป็นเสียงของเจียงหวั่นหวั่นในทันที เธอยังไม่ได้มีการตอบสนองกลับมา อยู่ๆประตูก็ถูกคนผลักให้เปิดออก เย่ชิวหรงปรากฏอยู่ที่หน้าประตูด้วยสีหน้าที่ลนลาน

จากนั้น เจียงหวั่นหวั่นก็จูงห้าวเจ๋อน้อยเดินเข้ามา เธอมองดูเย่ชิวหรงด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร เอ่ยปากถามขึ้นเบาๆว่า “ท่านนี้คงจะเป็นภรรยาของคุณท่านเผยใช่ไหมคะ?”

เย่ชิวหรงพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าไม่ค่อยจะเป็นธรรมชาตินัก เพียงแต่พอสายตาเคลื่อนย้ายต่ำลงมา ตกมาบนร่างกายของห้าวเจ๋อน้อย ก็อดไม่ได้ที่จะมองค้างเอาไว้อยู่ครู่หนึ่ง

เจียงหวั่นหวั่นพยักหน้าอย่างคิดอะไรอยู่ในใจ จากนั้นเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มว่า “งั้นเมื่อสักครู่นี้คุณยืนอยู่ที่หน้าประตูทำไมถึงไม่เข้าไปล่ะคะ?”

พอคำพูดนี้พูดออกไป เย่ชิวหรงก็หน้าซีดขึ้นมาในทันที ยิ้มอย่างเก้ๆกังๆ ถือกล่องขนมเค้กที่อยู่ในมือเดินไปที่ข้างเตียงคนไข้ของคุณท่านเผย เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ก็เข้ามาแล้วยังไงล่ะจ๊ะ!เมื่อครู่นี้เป็นเพราะกลัวจะมารบกวนการสนทนาระหว่างพวกเขาเข้า”

เจียงหวั่นหวั่นได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นขึ้นมาอีก

พอบทสนทนาสองสามประโยคนี้เอ่ยขึ้นออกมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เข้าใจความตั้งใจของเจียงหวั่นหวั่นขึ้นมาในทันที หากเธอเดาไม่ผิดแล้วล่ะก็ ตอนที่เจียงหวั่นหวั่นพาห้าวเจ๋อน้อยมาถึงนั้น ก็คงจะพบเข้ากับเย่ชิวหรงที่กำลังเอาหูแนบประตูแอบฟังอยู่พอดี ดังนั้นเมื่อครู่นี้เธอถึงได้ร้องเรียกขึ้นมาอย่างกะทันหันอยู่ที่ด้านนอก

คุณท่านเผยได้ยินดังนั้น ก็รู้อยู่แก่ใจเช่นเดียวกัน เขากระแอมเล็กน้อย มองเห็นห้าวเจ๋อน้อยที่เจียงหวั่นหวั่นจูงเอาไว้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที “ห้าวเจ๋อน้อย…เข้ามานี่!มาให้ปู่ดูหน่อยเร็ว!”

ห้าวเจ๋อน้อยวิ่งเหยาะๆมาถึงที่ข้างกายของไป๋เสว่เอ๋อร์ เบิกตากลมโตมองไปที่คุณท่านเผย เอ่ยถามขึ้นเบาๆว่า “คุณปู่ไม่สบายหรือครับ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นประคองศีรษะของห้าวเจ๋อน้อยเอาไว้ เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “คุณปู่ไม่เป็นอะไรจ้ะ ไม่นานก็หายแล้ว ลูกไปคุยเป็นเพื่อนคุณปู่สิ”

ห้าวเจ๋อน้อยพยักหน้า เดินไปถึงข้างเตียงคนไข้ มองดูคุณท่านเผยพร้อมเอ่ยถาม “คุณปู่ คุณปู่จะเจ็บไหมครับ?”

คำพูดคำจาของเด็กมักจะไร้เดียงสาที่สุดอยู่เสมอ คุณท่านเผยมองเห็นห้าวเจ๋อน้อย ก็ยิ้มจนปิดปากไม่ลง เขาส่ายหน้าเล็กน้อย ลูบไปบนศีรษะเล็กๆของเจ้าหนู “ไม่เจ็บ…”

ทันใดนั้นเขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้ หยิบเค้กที่เย่ชิวหรงเพิ่งจะซื้อมาจากโต๊ะด้านข้าง เปิดกล่องออกแล้วยื่นให้กับห้าวเจ๋อน้อยในทันที “มา ห้าวเจ๋อน้อย มาทานเค้กถั่วเขียว”

มองดูปู่หลานที่อยู่ร่วมกันอย่างสนิทสนม ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว

ทันใดนั้น เจียงหวั่นหวั่นก็เดินเข้ามา ยื่นมือมากระตุกเสื้อของไป๋เสว่เอ๋อร์เล็กน้อย จากนั้นเอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “เธอออกมาก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนั้น มองดูคุณท่านเผยกับห้าวเจ๋อน้อยกำลังเล่นกันอย่างมีความสุข ก็เลยไม่ได้ขัดจังหวะพวกเขา หมุนตัวเดินตามเจียงหวั่นหวั่นออกมาจากห้องผู้ป่วยในทันที

เพิ่งจะผ่านพ้นประตูมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เห็นสีหน้าของเจียงหวั่นหวั่นไม่ค่อยจะดีนัก

เธอรีบเอ่ยถามขึ้นในทันทีว่า “เป็นอะไรไปหวั่นหวั่น? ห้าวเจ๋อน้อยทำอะไรให้เธอโกรธใช่หรือเปล่า?”

“ไม่ใช่ ห้าวเจ๋อน้อยจะทำให้ฉันโกรธได้ยังไงกัน ฉันพาเขาออกไปเที่ยวแฮปปี้จนไม่รู้จะแฮปปี้ยังไงอยู่แล้ว!” ในขณะที่เจียงหวั่นหวั่นพูด อยู่ๆเสียงก็กดต่ำลงมา ชำเลืองตามองไปทางห้องผู้ป่วยแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยปากพูดขึ้นเบาๆว่า “เสว่เอ๋อร์ เธอไม่รู้ว่าเมื่อครู่นี้ตอนที่ฉันมาเจอเข้ากับอะไร!เย่ชิวหรงนั่น กำลังเอาหูแนบอยู่ที่ด้านนอกประตู แอบฟังพวกเธอคุยกันอยู่ล่ะ!ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอแอบฟังมานานแค่ไหนแล้ว”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กลับรู้ดีอยู่แก่ใจ

เธอรู้ดีว่า คุณสมบัติประจำตัวของเย่ชิวหรงคนนี้ใช้ไม่ได้มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ตอนที่เป็นคนรับใช้อยู่ในเขตคฤหาสน์ ก็มักจะคิดให้ท่าคุณผู้ชายของบ้านเพื่อเลื่อนตำแหน่งของตนเอง ถึงขนาดแม้กระทั่งคุณพ่อของเธอก็ยังเคยถูกให้ท่ามาก่อน

ตอนนี้แม้ว่าเธอจะได้เข้าบ้านคนรวยตามใจปรารถนาแล้ว แต่ความทะเยอทะยานของเธอไม่ได้จำกัดไว้เพียงแค่เท่านี้

เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไรอยู่นาน เจียงหวั่นหวั่นก็ร้อนรนขึ้นมา “เสว่เอ๋อร์ เธอคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยใช่หรือเปล่า? ที่จริงแล้วฉันเข้าใจเป็นอย่างดี!อีกทั้งช่วงสองวันมานี้เรื่องที่เกี่ยวข้องกับจินจิงจิงต่างก็แพร่กระจายเต็มทั่วเว็บไซต์ไปหมด ฉันจะบอกเธอให้นะ คนของตระกูลเผยนี่ไม่มีใครที่รับมือง่ายสักคน ใครก็ไม่สามารถที่จะไปยุแหย่ได้ง่ายๆ!”

ในขณะที่เธอพูด อยู่ๆก็ยื่นมือออกมา จับมือของไป๋เสว่เอ๋อร์เอาไว้ เอ่ยเกลี้ยกล่อมขึ้นอย่างไม่ยอมหยุด “คนตระกูลเผยนั้นซับซ้อนมาก เธอจะต้องระวัง รู้ไหม? ก่อนหน้านี้ที่เธอกับห้าวเจ๋อน้อยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเซียงหนานก็เรียบง่ายและสงบสบายมาก โอ้ย!เธอก็ไม่ควรจะกลับมาเลย!”

มองดูเจียงหวั่นหวั่นที่เป็นกังวลแทนตนเองขนาดนี้ ในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างล้นหลาม เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยขึ้นเบาๆว่า “หวั่นหวั่น ฉันรู้ว่าเธอหวังดีกับฉัน แต่ตอนนี้ต่อให้ฉันคิดอยากจะไปก็ไปไม่ได้แล้ว”

เจียงหวั่นหวั่นไม่เข้าใจอย่างเห็นได้ชัด “ทำไมถึงไปไม่ได้? หกปีก่อนพวกเราไปได้ ทำไมตอนนี้ถึงไปไม่ได้? เสว่เอ๋อร์ พวกเราสามารถไปขอความช่วยเหลือจากลู่เหยา…”

ยังไม่ทันที่จะฟังคำพูดของเธอให้จบ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ได้ส่ายศีรษะ เธอเข้าใจความคิดของเจียงหวั่นหวั่นดี แต่เวลาผ่านไปสถานการณ์ก็ได้เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ผ่านมาแล้วหกปี เรื่องมากมายต่างก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว

ไป๋เสว่เอ๋อร์เอ่ยปากขึ้นเบาๆ “หวั่นหวั่น เธอวางใจ ฉันจะดูแลตัวเองให้ดี”

เจียงหวั่นหวั่นมองดูท่าทีที่แน่วแน่ของเธอ ก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมา จากนั้นเอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “ในเมื่อในใจของเธอมีคำตอบของตัวเองแล้ว ฉันก็ไม่สะดวกที่จะเข้าไปสอดแทรก เพียงแต่ยังไงฉันก็อยากจะเตือนเธอเอาไว้ เปรียบเทียบระหว่างเผยลี่เชินกับลู่เหยาแล้ว ลู่เหยาเป็นคนที่เหมาะสมกับเธอมากกว่าอย่างแน่นอน แล้วก็คนของตระกูลเผยต่างก็ซับซ้อนมาก เธอต้อง…”

“แค่กๆ!”

คำพูดของเจียงหวั่นหวั่นยังไม่ทันที่จะพูดจบ ด้านข้างก็ดังสะท้อนเสียงไอแบบจงใจขึ้นมาสองสามที พวกเธอหันหน้า มองไปทางต้นเสียงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย พอมองเห็นกู้หลี่เหลียงที่ยืนอยู่ในบริเวณที่ไม่ไกลนัก ต่างก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะ

เจียงหวั่นหวั่นมีสีหน้าที่ตกใจ “คุณ…มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?”

กู้หลี่เหลียงจ้องมองเจียงหวั่นหวั่น เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเย้ยหยัน “ทำไม ผมจะมาเยี่ยมคุณลุงไม่ได้?”

ในขณะที่พูด เขาก็ไม่รอให้เจียงหวั่นหวั่นได้ตอบ หันหน้าไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์พร้อมเอ่ยถามขึ้นในทันที “คุณไป๋ก็มาเยี่ยมคุณลุงเหมือนกันหรือครับ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าส่งเป็นสัญลักษณ์ให้กับเขา แล้วเอ่ยขึ้นเบาๆว่า “ค่ะ”

หลังจากทั้งทายกันแบบง่ายๆเสร็จ กู้หลี่เหลียงก็พยักหน้าเล็กน้อยส่งให้กับพวกเธอ ถือโอกาสพาลูกน้องที่ในมือถือของเยี่ยมถุงเล็กถุงใหญ่เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยพร้อมกัน

มองดูแผ่นหลังที่เย่อหยิ่งของเขา เจียงหวั่นหวั่นก็ส่งเสียงอุทานออกมาอย่างประชดประชันอย่างไม่แยแส

ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่ยืนอยู่ด้านข้างกลับถูกท่าทางเช่นนี้ของเจียงหวั่นหวั่นทำให้ขำเข้าให้ เธอที่มองดูอะไรออกอย่างรวดเร็วด้วยความไวต่อความรู้สึกหัวเราะออกมาพร้อมกับกระตุกเสื้อของเจียงหวั่นหวั่นเล็กน้อย “อะไรกัน? เธอไม่พอใจเขาขนาดนี้เลยหรอ?”

เจียงหวั่นหวั่นอุทานออกมาอย่างไม่พอใจ “ลูกคนรวยที่ไม่เอาถ่านในหมู่วงการนักเลง นี่ก็ผ่านมาหกปีแล้ว เป็นยังไงก็ยังเป็นแบบนั้น!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อย เอ่ยถามขึ้นเบาๆว่า “เธอรู้ได้ยังไงว่าผ่านมาหกปีเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย? หรือว่าก่อนหน้านี้เธอเคยติดต่อกันมาก่อน?”

ฟังความหมายอีกความหมายหนึ่งแบบลองหยั่งเชิงที่อยู่ในน้ำเสียงของไป๋เสว่เอ๋อร์ออก เจียงหวั่นหวั่นก็หน้าแดงขึ้นในทันที รีบยื่นมือออกไปผลักไป๋เสว่เอ๋อร์เบาๆ “ไปๆๆ ฉันไม่เคยติดต่อกับเขาสักหน่อย!”

ทั้งสองคนหัวเราะพูดคุยกันไปสองสามประโยค ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นว่าเวลาก็สายมากแล้ว จึงได้เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “หวั่นหวั่น นี่ก็สายมากแล้ว ฉันเข้าไปบอกลาคุณท่านเผย จากนั้นพาห้าวเจ๋อน้อยกลับบ้าน หากเธออยากจะกลับแล้ว ก็กลับไปก่อนได้เลย”

เจียงหวั่นหวั่นยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ฉันรอพวกเธออยู่ที่นี่ กลับพร้อมกัน!”

ในขณะที่พูด ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็หมุนตัว ผลักประตูเดินเข้าไปข้างใน

ภายในห้องผู้ป่วย ห้าวเจ๋อน้อยกำลังอยู่รอบๆเตียงคนไข้ คุณท่านเผยกำลังพูดคุยกับกู้หลี่เหลียง และเย่ชิวหรงก็นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง

“ฉันไม่เป็นอะไร ยังทำให้เธอต้องวิ่งวนมาอีก”

กู้หลี่เหลียงฉีกยิ้ม “คุณลุง ดูพูดเข้าสิครับ ผมกับเผยลี่เชินเป็นเพื่อนสนิทกัน นี่เขายุ่งอยู่ที่บริษัทมาไม่ได้ ผมก็ควรมาเยี่ยมคุณลุงแทนเขาเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ!”

คุณท่านเผยได้ยินดังนั้นก็หัวเราะขึ้นเล็กน้อย มองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ที่เพิ่งจะเดินเข้ามา เขาก็เอ่ยปากพูดกับกู้หลี่เหลียงเบาๆว่า “ฉันรู้ว่าเธอก็มีธุระมากมายเช่นเดียวกัน ตั้งใจมาที่นี่โดยเฉพาะก็คงจะไม่ง่าย ตอนนี้ฉันไม่มีเรื่องใหญ่อะไรแล้ว หากเธอมีธุระก็กลับไปก่อน”

กู้หลี่เหลียงพยักหน้าเล็กน้อย “ครับ งั้นก็ได้ งั้นคุณลุงรักษาตัวให้ดีนะครับ”

ในขณะที่พูด เขาก็โค้งตัวเล็กน้อยให้กับคุณท่านเผย จากนั้นส่งยิ้มให้กับไป๋เสว่เอ๋อร์ ถึงได้หมุนตัวเดินออกจากห้องไป

ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินเข้าไปข้างหน้า เอ่ยปากเบาๆเช่นเดียวกันว่า “คุณลุงคะ นี่ก็สายมากแล้ว หนูกับห้าวเจ๋อน้อยก็ควรจะต้องกลับแล้วเช่นเดียวกันค่ะ”

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท