สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 424

ตอนที่ 424

ตอนที่ 424 คุณเป็นห่วงฉัน

พอได้ยินไป๋เสว่เอ๋อร์พูดว่าเธอจะพาห้าวเจ๋อน้อยกลับ สีหน้าของคุณท่านเผยก็มีความลังเลและความผิดหวังเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยในทันที “ห้าวเจ๋อน้อยก็จะไปแล้วเหมือนกันหรอ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นคุณท่านเผยผิดหวังขึ้นมาอย่างกะทันหัน แม้ว่าจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่กลับจะไม่พูดก็ไม่ได้ “วันนี้ห้าวเจ๋อน้อยนัดเพื่อนมาเป็นแขกที่บ้านค่ะ พวกเราต้องกลับไปเร็วหน่อย”

ห้าวเจ๋อน้อยที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าอย่างจริงจัง ราวกับเข้าใจถึงความรู้สึกของเขาอย่างดีก็ไม่ปาน เขาเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงของเด็กกลับทั้งมีท่าทีที่จริงจังว่า “คุณปู่ ไม่ช้าผมก็จะมาเยี่ยมคุณปู่อีก วางใจเถอะครับ!”

ได้ยินห้าวเจ๋อน้อยพูดเช่นนี้ คุณท่านเผยก็ถูกทำให้มีความสุขขึ้นมาในชั่วขณะ เขาหัวเราะพร้อมกับพยักหน้า “ได้ งั้นปู่จะรอหนูมา”

เห็นอารมณ์ของเขาดีขึ้นมาบ้าง ไป๋เสว่เอ๋อร์ถึงได้วางใจลง เธอยิ้มเล็กน้อย ก้มศีรษะลงมองไปยังห้าวเจ๋อน้อย แล้วเอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “รีบบอกบ๊ายบายกับคุณปู่สิจ๊ะ!”

ห้าวเจ๋อน้อยโบกมือให้กับเขาอย่างเชื่อฟัง “บ๊ายบายครับคุณปู่!”

คุณท่านเผยพยักหน้าติดต่อกัน “จ้า!บ๊ายบาย!บ๊ายบาย!”

ในที่สุด หลังจากที่บอกลาแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็จูงห้าวเจ๋อน้อยออกมาจากห้องผู้ป่วย เพิ่งจะผ่านพ้นประตูมา มองเห็นด้านนอกประตูว่างเปล่าไม่มีคนอยู่ เธอก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

เมื่อครู่นี้เจียงหวั่นหวั่นไม่ได้บอกว่าจะรอพวกเขาหรอกหรอ ทำไมอยู่ๆก็หายไปแล้วล่ะ?

ในขณะเดียวกัน ที่มุมเลี้ยวช่องทางบันไดหนีไฟของโรงพยาบาล

“คุณปล่อยฉัน!” เจียงหวั่นหวั่นโกรธจนสีหน้าแดงก่ำ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับข่มขู่ “กู้หลี่เหลียง!หากคุณยังไม่ปล่อยมืออีกฉันจะเรียกคนแล้วนะ!”

กู้หลี่เหลียงได้ยินดังนั้น ฝีก้าวก็หยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน หมุนตัวประชิดเข้าหาเธอ บีบบังคับให้เธอถอยหลังไปชิดที่มุมกำแพง “คุณเรียกสิ เรียกตอนนี้เลย”

เจียงหวั่นหวั่นตกตะลึงไปชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่ากู้หลี่เหลียงจะไม่หลงกลกับคำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่นิ่งเงียบไปชั่วขณะ อยู่ๆเธอก็อ้าปากร้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน “อ้า…อุ๊บ!”

เสียงร้องของเจียงหวั่นหวั่นเพิ่งจะดังออกมา ปากก็ถูกมือที่เรียวงามข้างหนึ่งปิดเอาไว้ในทันที

กู้หลี่เหลียงขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น สีหน้าอึมครึมลงไปเล็กน้อย “ยัยโง่!ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!ผมลากคุณมาเพราะมีเรื่องจะพูดกับคุณ!”

เจียงหวั่นหวั่นถูกปิดปากเอาไว้ ทำได้เพียงเบิกตาที่กลมโตจ้องไปที่เขา

กู้หลี่เหลียงขมวดคิ้วขึ้น ทันใดนั้นก็เข้าใกล้เธอไปอีกเล็กน้อย เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “เจียงหวั่นหวั่น คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เธอจะเปลี่ยนเป็นใจกล้าได้ถึงขนาดนี้? ยังกล้าพูดถึงเผยลี่เชินไม่ดีลับหลัง?”

เจียงหวั่นหวั่นตกตะลึงไปชั่วขณะ รีบยื่นมือออกไปผลักมือของชายหนุ่มออกในทันที เอ่ยถามขึ้นอย่างวัวสันหลังหวะว่า “คุณ…คุณได้ยินหรอ?”

“คุณคิดว่าไงล่ะ!” กู้หลี่เหลียงกลอกตามองบนด้วยสีหน้าที่ไม่แยแส “วันนี้คนที่ได้ยินคำพูดพวกนี้คือผม หากเป็นเผยลี่เชินที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของคุณแล้วล่ะก็ คุณเคยคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาบ้างหรือเปล่า?”

คำพูดไม่กี่ประโยคพูดจนเจียงหวั่นหวั่นรู้สึกลนลานขึ้นมา หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็ราวกับเสริมความกล้าให้กับตัวเองก็ไม่ปาน เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “เขา…เขาก็ไม่ได้ยินสักหน่อย!”

กู้หลี่เหลียงได้ยินดังนั้น อยู่ๆสีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาเป็นอย่างมาก เขาประชิดเข้าไปใกล้หญิงสาวอย่างกะทันหัน เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “ความรู้สึกที่พี่เผยมีต่อไป๋เสว่เอ๋อร์นั้นมาจากใจจริง คุณบอกว่าลู่เหยาเหมาะสมกับไป๋เสว่เอ๋อร์มากกว่าเขา คุณว่า เขาได้ยินแล้วจะเกิดความคิดยังไง? อีกอย่าง ทั้งๆที่คุณก็รู้ว่าตระกูลเผยแต่ละคนต่างก็ไม่สามารถที่จะไปยุแหย่ได้ง่ายๆ ทำไมยังกล้าปล่อยคำพูดวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างเต็มที่ที่ด้านนอกห้องผู้ป่วยของคุณท่านเผยอีก นี่คุณไม่กลัวคนของตระกูลเผยจดจำความแค้นสร้างความเดือดร้อนให้กับคุณเลยหรือไงกัน?”

เจียงหวั่นหวั่นได้ยินดังนั้น กระบวนความคิดก็สับสนวุ่นวายไปในที่สุด เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วเอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “งั้น…จะทำยังไงดี?”

“คุณพูดก็พูดไปแล้ว ยังจะทำยังไงได้อีก?” ทันใดนั้นกู้หลี่เหลียงก็ยกมือขึ้นมาดีดไปบนหน้าผากของเธอหนึ่งทีอย่างไม่แรงแต่ก็ไม่ได้เบามากนัก “คราวหลังจำไว้ว่าเรื่องเหล่านี้อย่านำมาพูดซี้ซั้วที่ด้านนอก รู้หรือเปล่า!”

เจียงหวั่นหวั่นเจ็บจนรู้สึกตกใจ ยกมือขึ้นลูบไปบนหน้าผากเบาๆ ถือโอกาสตบไปที่หัวไหล่ของกู้หลี่เหลียง “ลองกล้าตีฉันอีกที!”

กู้หลี่เหลียงได้ยินดังนั้น ก็แยกเขี้ยวเล็กน้อย แกล้งทำเป็นลูบไปบนบริเวณที่ถูกตี “คนเนรคุณ!ทำดีกับคุณยังไม่รู้ตัวอีก!”

“ใครต้องการให้คุณมาดีกับฉัน!” เจียงหวั่นหวั่นเอ่ยขึ้นอย่างปากแข็ง ทันใดนั้น เธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้ อยู่ๆก็เอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัย “กู้หลี่เหลียง คุณพูดกับฉันมากมายขนาดนี้ เป็นเพราะคุณเป็นห่วงฉัน?”

กู้หลี่เหลียงอุทานออกมาอย่างประชดประชัน เอ่ยขึ้นอย่างไม่แยแสว่า “ใครเป็นห่วงคุณ?”

ในขณะที่พูด เขาก็หมุนตัว ก้าวขาเดินจากไป หลังจากเดินออกไปเพียงไม่กี่ก้าว อยู่ๆเขาก็หยุดลงอย่างกะทันหัน หมุนตัวหันมามองเจียงหวั่นหวั่น เลิกคิ้วพร้อมเอ่ยถามขึ้นว่า “ไม่งั้นก็ไปด้วยกัน? ผมส่งมอบความใจดี ไปส่งคุณสักรอบ?”

เจียงหวั่นหวั่นแยกเขี้ยวเล็กน้อย “ใครต้องการให้คุณไปส่ง!”

ในขณะที่พูด เธอก็ก้าวขาเดินไปทางด้านข้าง

เดินได้เพียงไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นกู้หลี่เหลียงก็เดินตามมา ดึงหมวกฮู้ดที่อยู่บนเสื้อคลุมของเธอเอาไว้ในทันที จากนั้นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหัวเราะเบาๆว่า “วันนี้อารมณ์ดี ยังไงผมก็จะไปส่งคุณ คุณไม่ตกลงก็ต้องตกลง!”

เจียงหวั่นหวั่นโมโหจนพูดอะไรไม่ออก “คุณ!”

ทั้งสองคนทะเลาะเอะอะโวยวาย เดินออกมานอกโรงพยาบาล

ประจวบเหมาะกับที่ไป๋เสว่เอ๋อร์จูงห้าวเจ๋อน้อยเดินออกมาจากแผนกพักฟื้นคนไข้ มองเห็นทางด้านหน้าประตูใหญ่จากที่ไกลๆ กู้หลี่เหลียงกำลังดึงหมวกฮู้ดของเจียงหวั่นหวั่นเอาไว้ ทั้งสองคนทะเลาะถกเถียงราวกับเด็กน้อยสองคนก็ไม่ปาน เธอจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

มิน่าล่ะเจียงหวั่นหวั่นหายไปไหน ที่แท้ก็ถูกคนลักพาตัวไปนี่เอง!

แม้ว่าไป๋เสว่เอ๋อร์จะรู้ว่ากู้หลี่เหลียงเป็นเพื่อนสนิทของเผยลี่เชิน วิธีการต่างๆก็คงจะไม่น้อยไปกว่าเผยลี่เชินอย่างแน่นอน แต่ความรู้สึกดีๆที่เขามีต่อเจียงหวั่นหวั่น ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็สามารถรู้สึกได้ถึงเช่นเดียวกัน

อีกทั้งเจียงหวั่นหวั่นก็ดูเหมือนจะมีใจให้กับกู้หลี่เหลียงอยู่บ้างเช่นเดียวกัน หากคนที่ดูเหมือนเกลียดแต่ที่จริงแล้วชอบพอกันคู่นี้สามารถอยู่ด้วยกันได้ งั้นก็เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

ไป๋เสว่เอ๋อร์พาห้าวเจ๋อน้อยออกจากโรงพยาบาล มุ่งตรงกลับบ้านในทันที

เรื่องที่เธอรับปากห้าวเจ๋อน้อยเอาไว้เมื่อวานนี้เธอยังคงจำได้อยู่ภายในใจ ยิ่งไม่อยากให้เขาเสียหน้าต่อหน้าของเพื่อน

กลับมาถึงบ้าน ป้าจางก็กำลังเตรียมอาหารเย็นแล้ว เธอพาห้าวเจ๋อน้อยไปล้างหน้าล้างมือ มองดูสีของท้องฟ้าที่อยู่ด้านนอกก็เริ่มที่จะมืดลง แต่เผยลี่เชินก็ยังคงไม่ได้กลับมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนรนขึ้น

คิดไปคิดมา เธอก็ยังคงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาเผยลี่เชิน ถึงอย่างไรห้าวเจ๋อน้อยได้บอกต่อหน้าเจียเจียเพื่อนใหม่ของเขาเอาไว้แล้วว่าเธอกับเผยลี่เชินเป็นสามีภรรยากัน เธอก็ต้องแสดงละครฉากนึงกับเผยลี่เชินเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

โทรศัพท์รับสาย ทางนั้นสะท้อนเสียงที่แฝงไปด้วยความอ่อนล้าเล็กน้อยของชายหนุ่มขึ้นมา “ฮัลโหล? ว่าไงครับ?”

“คุณ…จะกลับมาเมื่อไรคะ วันนี้ห้าวเจ๋อน้อยบอกว่าเขาจะเชิญเพื่อนใหม่มาเป็นแขกที่บ้าน ฉันคิดว่าพวกเราออกมารับหน้าพร้อมกันคงจะดีกว่า…”

เผยลี่เชินได้ยินดังนั้น ก็เอ่ยขึ้นเบาๆว่า “ผมเข้าใจแล้ว ผมเก็บของนิดหน่อย จะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้ ภายในครึ่งชั่วโมงถึงบ้าน”

ได้ยินเขารับปาก ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็แอบโล่งอกในใจ “ค่ะ”

วางสายโทรศัพท์ลง เพิ่งจะหกโมงเย็น อยู่ๆเสียงกริ่งที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ห้าวเจ๋อน้อยรีบวิ่งอย่างดีใจกระโดดโลดเต้นไปเปิดประตูในทันที

พอประตูเปิดออก ด้านนอกประตูก็มีผู้หญิงผมยาวที่มีใบหน้าอ่อนโยนคนหนึ่งยืนอยู่ เธอจูงเด็กผู้หญิงที่มีอายุห้าขวบเหมือนกันเอาไว้ เด็กผู้หญิงผมสั้น ดูน่ารักร่าเริง

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มเล็กน้อย เอ่ยขึ้นเบาๆว่า “สวัสดีค่ะ ฉันคือคุณแม่ของเจียเจีย”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มบางๆ รีบทักทายกับเธอในทันที “ฉันคือคุณแม่ของห้าวเจ๋อน้อยค่ะ คุณเรียกฉันว่าเสว่เอ๋อร์ก็พอ”

ทั้งสองคนพูดทักทายตามมารยาทอยู่สองสามประโยค ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รีบเชิญพวกเธอเข้ามา คุณแม่ของเจียเจียยิ้มเล็กน้อย แล้วเอ่ยปากออกมาว่า “เจียเจียของพวกเราก็ต้องขอรบกวนคุณด้วยนะคะ อีกสักครู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณโทรศัพท์หาฉัน ฉันจะมารับเขา เบอร์โทรศัพท์ของฉันคุณถามเจียเจียก็ได้ค่ะ”

“ค่ะ ให้เด็กทั้งสองคนเล่นกันให้สนุก คุณก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ”

หลังจากส่งคุณแม่ของเจียเจียเสร็จ เจียเจียกับห้าวเจ๋อน้อยก็ไปเล่นของเล่นด้วยกันอยู่ในห้องรับแขก ไม่นานนัก ป้าจางก็เดินเข้ามา เอ่ยเตือนขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “อาหารเย็นเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ลงมือรับประทานอาหารได้แล้ว”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อย หันศีรษะมองไปทางห้าวเจ๋อน้อยและเจียเจีย ยิ้มพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “เอาล่ะจ้ะ พวกเราลงมือรับประทานอาหารกันได้แล้วนะ ป่ะ ไปล้างมือกันก่อน”

เจียเจียได้ยินดังนั้น ก็เอียงศีรษะเล็กน้อย มองไปยังบริเวณรอบๆ ทันใดนั้นก็เอ่ยถามห้าวเจ๋อน้อยออกมาว่า “เอ๋? ทำไมไม่เห็นคุณพ่อของเธอ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน