ตอนที่ 444 นี่เป็นของขวัญที่มอบให้เธอ
เห็นพวกเขาเดินเข้ามาทางนี้ สีหน้าเผยลี่เชินเศร้าสลดลงอีกครั้ง
เขากำชับเป็นพิเศษให้คนใช้ดูแลเสี่ยวเจ๋อและเจียงหวั่นหวั่นให้ดี ทำทุกอย่างไม่ให้พวกเขาออกมาจากคฤหาสน์ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะออกมา
ป้าจางซึ่งตามมาด้านหลังก้าวเท้ามาข้างหน้ารายงานสถานการณ์ “คุณผู้ชาย เสี่ยวเจ๋ออยู่บ้านร้องไห้หาแม่ตลอดเวลา ป้าไม่รู้จะทำอย่างไร….”
เผยลี่เชินพยักหน้าเล็กน้อย พูดด้วยเสียงเข้ม “รู้แล้ว”
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ทุกคนมาหมดแล้ว ให้พวกเขากลับไปก็ไม่ค่อยจะดีนัก
เจียงหวั่นหวั่นรีบก้าวเท้าเดินไปหน้าประตูห้องวอร์ด เปิดประตูด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจ เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นอนอยู่บนเตียงยังไม่ฟื้น อดไม่ได้ที่จะตื่นตกใจ
ห้าวเจ๋อน้อยเห็นแบบนี้ถึงกันสะอื้นไห้ ไม่กล้าร้องเสียงดังออกมา กลั้นหายใจวิ่งไปที่ข้างเตียง กุมมือของไป๋เสว่เอ๋อร์
ชายชราส่งสัญญาณให้ลุงเฝิงเข็นรถไปที่ประตู เห็นภาพนี้อดถอนหายใจไม่ได้ เขาเหลือบมองเผยลี่เชินที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดอย่างเยือกเย็น “ลี่เชิน แกต้องรับผิดชอบพวกเขา ไม่เช่นนั้น….”
เขายังพูดไม่จบ ทันใดนั้นมีเสียงไออย่างรุนแรงดังขึ้น
เผยลี่เชินเห็นเข้ารีบก้าวไปข้างหน้า พูดปลอบโยน “พ่อ วางใจเถอะ ผมรู้ว่าต้องทำอย่างไร”
แม้ว่าชายชราจะบอก เขาเองไม่อาจละทิ้งไป๋เสว่เอ๋อร์และเสี่ยวเจ๋ออย่างแน่นอน
คุณท่านเผยโบกมือ พูดด้วยเสียงเข้ม “เรียกเสี่ยวเจ๋อมานี่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขา”
เผยลี่เชินพยักหน้า เดินเข้าไปในห้องวอร์ด เห็นห้าวเจ๋อน้อยยืนอยู่ด้านหน้าเตียง น้ำตาที่อยู่ในดวงตาไหลออกมา ไม่กล้าร้องเสียงดังด้วยท่าทางที่น่าสงสาร เขาอดเวทนาในใจไม่ได้
เขาก้มตัวลงครึ่งหนึ่งกอดห้าวเจ๋อน้อยไว้ในอ้อมแขน พูดเบาๆ “เสี่ยวเจ๋อไม่ต้องห่วง แม่จะฟื้นขึ้นมาในไม่ช้านี้ ตอนนี้แม่มีไข้สูงต้องพักผ่อนเยอะ”
ห้าวเจ๋อน้อยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หันไปมองเผยลี่เชิน “จริงหรือครับ?”
เผยลี่เชินพยักหน้า การแสดงออกทางใบหน้ายากที่จะผ่อนคลาย “พ่อไม่โกหกลูกหรอก”
ขณะพูดเขาลุกขึ้น จูงมือน้อยๆ ของห้าวเจ๋อน้อยออกไปข้างนอก “คุณปู่อยากพบลูก”
ห้าวเจ๋อน้อยถูกจูงออกไปข้างนอกเห็นคุณท่านเผยที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้านนอก เขาสะอื้นไห้น้ำตาไหลออกมา
ชายชราเห็นภาพนั้นรู้สึกเจ็บปวดใจ รีบดึงมือของห้าวเจ๋อน้อยเข้ามาใกล้ตัวเขา ยกมือปาดน้ำตาบนใบหน้าของเขา “เสี่ยวเจ๋อไม่ร้อง วางใจเถอะ แม่เธอต้องฟื้นในไม่ช้า”
ห้าวเจ๋อน้อยพยักหน้า พูดเสียงเบา “อืม”
คุณท่านเผยยกมือขึ้นลูบที่ศีรษะของเสี่ยวเจ๋อ พูดเบาๆ “เธอโตแล้ว ฉันยังไม่เคยให้อะไรเธอเลย นี่เป็น….”
เขาถอนหายใจจากนั้นหันไปที่ลุงเฝิงที่อยู่ด้านหลัง ยื่นมือเป็นสัญญาณ ลุงเฝิงเห็นแล้วรีบดึงกล่องกำมะหยี่สีแดงขนาดเล็กออกจากกระเป๋าเสื้อทันที
ชายชราเปิดกล่องเล็กๆ นั้นออก ในนั้นเป็นล็อกเกตสีเงินขนาดเล็ก ประณีต สวยงาม ส่องแสงสีเงินเป็นประกาย
เขาหยิบล็อกเกตด้วยความระมัดระวัง มองห้าวเจ๋อน้อยพร้อมพูดเบาๆ “นี่เป็นของขวัญที่ฉันมอบให้เธอ เธอต้องดูแลรักษามันให้ดี เพราะมันมีค่ามาก”
ห้าวเจ๋อน้อยพยักหน้าดูเหมือนจะเข้าใจ เห็นชายชราหยิบล็อกเกตห้อยไว้ที่คอของเขา
เผยลี่เชินซึ่งอยู่ข้างๆ มองเห็นทุกอย่างด้วยใจที่รู้สึกขมขื่น
ตระกูลเผยมีประเพณีของตัวเอง ชายชรามีหลานชาย ซึ่งต้องมอบของขวัญเมื่อพบหน้า นี่เป็นเพียงแค่ของขวัญที่มอบให้ช้าไปถึงห้าหกปี
ขณะที่เขากำลังคิดก็หันศีรษะกลับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เห็นเจียงหวั่นหวั่นที่ยืนอยู่ข้างๆ จ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นยะเยือก ราวกับเกลียดชังเขามาเนิ่นนาน
เผยลี่เชินตะลึงอยู่สักพัก คิดแล้วจึงเข้าใจ ที่เจียงหวั่นหวั่นมองเขาด้วยสายตาเช่นนั้น อาจเป็นเพราะไป๋เสว่เอ๋อร์ ตอนนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์นอนหมดสติยังไม่ฟื้น แต่เขากลับกักตัวเธอและเสี่ยวเจ๋อไว้ พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ยากที่จะเข้าใจได้
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เงยหน้ามองเธอ พูดเสียงเบาๆ “ตอนนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังไม่ฟื้น ฉันต้องรบกวนให้เธอช่วยดูแลเสี่ยวเจ๋อไปก่อน”
เจียงหวั่นหวั่นตกใจ คิดไม่ถึงว่าเผยลี่เชินจะแสดงท่าทางอ่อนโยนต่อเธอ
เผยลี่เชินพูดต่อ “เขายังเด็ก ไม่สามารถนอนดึกได้ อีกสักเธอค่อยพาเขากลับไปนอนก่อน ฉันจะอยู่เฝ้าที่โรงพยาบาลเอง หากไป๋เสว่เอ๋อร์ฟื้นแล้วฉันจะให้คนโทรศัพท์ไปบอกพวกเธอ”
ได้เห็นท่าทางของเขาเช่นนี้ ขณะนั้นเจียงหวั่นหวั่นก็ไม่คิดจะสร้างปัญหาขึ้นมา เธอลังเลสักครู่แล้วก็ได้แต่พยักหน้ารับปากเขา “ได้….”
เผยลี่เชินยังกล่าวเสริม “หากมีอะไรต้องการเพิ่มเติมบอกป้าจางได้โดยตรง ป้าจะจัดเตรียมให้พวกเธอเอง”
ป้าจ้างที่อยู่ข้างๆ ได้ยินจึงรีบพยักหน้ารับทราบ
เจียงหวั่นหวั่นไม่มีอะไรจะพูดอีกจึงหันกลับมองไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้ง อดถามไม่ได้ “เสว่เอ๋อร์…เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
เผยลี่เชินยกเปลือกตา สายตาแสดงความลังเลเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็พูดออกมา “ไม่เป็นไร วางใจเถอะ”
เจียงหวั่นหวั่นพยักหน้าเมื่อได้ยิน มองดูเวลาเห็นว่าดึกแล้ว จึงเกลี้ยกล่อมห้าวเจ๋อน้อย
ตอนแรกห้าวเจ๋อน้อยไม่ยอมไปด้วย ต่อมาเจียงหวั่นหวั่นพูดไม่กี่ประโยคก็พยักหน้ารับปาก ให้เจียงหวั่นหวั่นจูงมือเดินจากไปแต่โดยดี
ป้าจางเดินตามออกไป ขณะนั้นที่ด้านนอกห้องวอร์ดเงียบลง
เผยลี่เชินหันไปมองชายชราที่อยู่ข้างๆ พูดเบาๆ “พ่อ นี่ดึกมากแล้ว พ่อกลับไปพักผ่อน มีเรื่องอะไรผมจะไปบอก”
คุณท่านเผยไอสองสามทีติดต่อกันแล้วค่อยๆ ช้าลง เขาพยักหน้าอย่างหมดแรง พร้อมกับกำชับว่า “แกดูแลเธอให้ดีล่ะ”
เผยลี่เชินพยักหน้ารับทราบ มองลุงเฝิงที่เข็นชายชราจากไป
เมื่อกลับเข้ามาในห้องวอร์ด เขามองหญิงสาวที่อยู่บนเตียงด้วยอารมณ์ที่สับสน
จากนั้นยกมืออังหน้าผากของเธอ ยังคงร้อนอยู่ดูเหมือนไข้จะยังไม่ลดลง ขณะนั้นเขารู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาอีกครั้ง
ขวดน้ำเกลือที่แขวนอยู่ใกล้จะหมดแล้ว แต่ไข้ของเธอยังไม่ลดลง เผยลี่เชินขมวดคิ้ว รีบลุกขึ้นเดินออกไปสั่งลูกน้องนอกห้อง “ไปรีบหมอมาเดี๋ยวนี้!”
ลูกน้องได้ยินไม่กล้าถ่วงเวลา รีบเดินไปหาหมอที่ห้องตรวจโรคเพื่อเรียกหมอ
ไม่ถึงห้านาทีก็หมอมาถึง หลังจากเรียกพยาบาลมาวัดอุณหภูมิ จึงรีบเปลี่ยนยากทันที
หลังจากผ่านช่วงเวลาวุ่นวายก็ผ่านไปยี่สิบนาทีกว่าๆ
ในตอนท้ายหมอหันกลับมาสั่งพยาบาล “เสี่ยวเฉิน คืนนี้คุณอยู่เวร อย่าลืมเข้ามาดูอาการของเธอด้วย ถ้าหากไข้ยังไม่ลดลง ให้คุณรีบแจ้งให้ฉันทราบ”
เขาพูดจบหันไปมองเผยลี่เชินซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียด พูดเบาๆ “คุณเผย ผมเปลี่ยนยาให้แล้ว อีกไม่นานไข้คงลดลง คุณอย่าได้กังวลใจไปเลย พักผ่อนเถอะครับ”
เผยลี่เชินเลิกคิ้ว พยักหน้าแล้วพูดว่า “ผมจะไปส่งคุณหมอ”
หลังจากส่งหมอแล้ว เผยลี่เชินกลับมาที่ห้องวอร์ดอีกครั้ง มองหญิงสาวที่อยู่บนเตียงด้วยอารมณ์ที่สับสน
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารับรู้ความรู้สึกแบบนี้นับตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยให้ความสนใจกับผู้หญิงมากนัก
เผยลี่เชินนั่งลงบนเตียง เฝ้าไป๋เสว่เอ๋อร์อยู่ข้างๆ รอจนไข้เธอลดลง แล้วรีบเรียกพยาบาลเข้ามาวัดอุณหภูมิ ทำแบบนี้ไปมาอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งอุณหภูมิในร่างกายเธอลดลง เขาถึงได้สงบใจลง
แต่เผยลี่เชินไม่ใช่มนุษย์เหล็ก เฝ้าอยู่ข้างเตียงจนถึงเช้าไม่รู้ผล็อยหลับไปตอนไหน