บทที่24 ยืนยันว่าเขาเป็นแฟนของเธอ
ในเวลาแบบนี้ ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่พูดไม่จามาตลอดในที่สุดก็เอ่ยปาก “ใครบอกว่าผมไม่ใช่แฟนของเฟยเอ๋อ?”
โล่เฟยเอ๋อเงยหน้ามองซูซีมู่อย่างตกใจ เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะช่วยเธอจากเหตุการนี้ ตอนแรกเธอคิดว่าเขาโมโหมากเสียจนไม่สนใจเธออีก
ซูซีมู่นั้นราวกับไม่รู้สึกถึงสายตาของคนตัวเล็กข้าง ๆ สายตาเย็นชามองตรงไปที่ถังหซิวฉี ถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเฉือดเฉือน “เมื่อครู่เธอพูดว่าฉันไม่ใช่แฟนของเฟยเอ๋อใช่มั้ย?”
ได้รับสายตาจากซูซีมู่ ถังหซิวฉีก็พลันรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา แต่ก็ยังพยายามพูดไปต่อ “คุณจะเป็นแฟนของเฟยเอ๋อได้ยังไง เพราะโล่เฟยเอ๋อแอบรักแฟนของฉันอยู่ตลอด”
“ผู้ชายคนนั้นที่ยืนข้างเธอนั่นเหรอ?” ซูซีมู่แสยะยิ้มพูดไปทางถังหซิวฉี “ถ้าอย่างนั้นฉันจะยืนยันให้เธอดูว่าที่จริงแล้วฉันใช่แฟนของเฟยเอ๋อหรือเปล่า”
มือใหญ่โอบเอาโล่เฟยเอ๋อเข้ามาให้อ้อมกอดเขาอย่างรวดเร็ว ไม่รอให้เธอได้มีปฏิกิริยาอะไร ซูซีมู่ก็ก้มหน้าลงพลางขยับตัวแนบกับโล่เฟยเอ๋อและประกบริมฝีปากกับเธอ
จริง ๆ ซูซีมู่คิดแค่ว่าเขาจะทำทีเป็นแฟนเท่านั้น แค่ช่วยโล่เฟยเอ๋อให้พ้นจากวงล้อมนี้ก็พอ
แต่พอริมฝีปากของเขาแตะเข้ากับริมฝีปากของโล่เฟยเอ๋อที่ทั้งนุ่มหอมหวานเช่นนั้น เขาก็ออกไม่ได้ที่จะจูบลงไปเบา ๆ ค่อย ๆ สอดลิ้นผ่านฟันของเธอ เข้าไปสัมผัสความนุ่มในปากของเธอ
ซูซีมู่ยิ่งจูบก็ยิ่งลึกลงไป ทั้งปากและลิ้นสัมผัสกัน ราวกับจะทำให้โล่เฟยเอ๋อหายใจอย่างลำบาก
หัวใจของเธอเต้นตุ้บตุ้บไม่หยุด รสชาติของความแข็งแรง ความแปลกใหม่ ความตื่นเต้นนั้นถูกส่งไปทั่วร่างของเธอ เธอรู้สึกราวกับว่าจะหยุดหายใจในนาทีนี้
ในขณะที่โล่เฟยเอ๋อคิดว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจตายอยู่นั้น ซูซีมู่ก็ปล่อยให้ปากของเธอเป็นอิสระ
ร่างกายของโล่เฟยเอ๋อไร้เรี่ยวแรง ยืนพิงอยู่บนตัวของซูซีมู่ หายใจไม่เป็นจังหวะ นาทีที่เธอลืมตาขึ้นพบว่าผ็คนรอบข้างต่างพากันตาโตอ้าปากค้างจ้องมาที่เธอ
โล่เฟยเอ๋อยืนงงอยู่นานถึงนึกขึ้นมาได้ว่าพวกเขามองอะไรกัน
สีหน้าของเธอก็พลันแดงขึ้นมาทันที เอาหน้าซุกเข้าไปที่อกของซูซีมู่ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
เห็นปฏิกิริยาเช่นนั้นของโล่เฟยเอ๋อ สีหน้าของเขาก็มีรอยยิ้มบาง ๆ แวบขึ้นมา ยกมือขึ้นมาลืมหัวของโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นใบหน้าพลันกลับมาเย็นชาเช่นเดิม
สวยตาเย็นชานั้นกวาดไปรอบวง สุดท้ายก็มาหยุดอยุ่ที่ถังหซิวฉี “นี่ยืนยันได้หรือยัง?”
ถังหซิวฉีสามารถรู้สึกได้แค่เพียงความเย็นชาในสายตาของเขานั้นราวกับว่าจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ คิดไปถึงการกระทำอันโหดเหี้ยมของซูซีมู่เมื่อครั้งก่อน ร่างกายของถังหซิวฉีก็อ่อนยวบล้มลงไปนั่งกับพื้น
ก่อนหน้านี้ถังหซิวฉีบังคับโล่เฟยเอ๋อให้ยอมรับว่าเธอเอาแฟนปลอม ๆ มาหลอกทุกคนอย่างมั่นอกมั่นใจ ผลสุดท้ายกลับถูกซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อตบหน้าเข้าอย่างแรง คนรอบข้างในตอนนี้เริ่มรังเกียจและดูถูกเธอแล้ว ดูเธอที่นั่งหมดสภาพอยู่บนพื้น ไม่มีสักคนที่จะพยุงเธอขึ้นมา
ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของถังหซิวฉีอย่างกู้ชิงหลันนั้น สีหน้าแสดงชัดว่ารับไม่ได้ ยิ่งในตอนที่ถังหซิวฉีพยายามจะยืนยันว่าซูซีมู่ไม่ใช่แฟนของโล่เฟยเอ๋อ แถมยังจงใจพูดว่าโล่เฟยเอ๋อแอบรักเขามาสี่ปี แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะปล่อยไว้แบบไม่สนใจได้
เขาหันไปมองทางซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อที่กอดกันอยู่ จากนั้นก็ค่อย ๆ พาถังหซิวฉีเดินออกมา
เมื่อพวกเขาเดินออกไป ฝีปากที่จัดจ้านของพวกเพื่อนก็ค่อยๆรอบวงกันเขามาซุบซิบเรื่องถังหซิวฉีไม่หยุด
ซูซีมู่ขมวดคิ้วเข้าหากัน เห็นได้ชัดว่าไม่ชอบใจ โล่เฟยเอ๋อก็ไม่มีเวลามาเขินอายแล้ว รีบเงยหน้าขึ้นมารับหน้าพวกเขา
ยังดี คนไม่เยอะ เสียงเพลงงานแต่งเริ่มดังขึ้น
ลำโพงค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนทยอยกันออกไป กลับเขาไปที่นั่งของตัวเอง รอบ่าวสาวขึ้นเวที
หลังจากทุกคนแยกตัวกันไปแล้ว โล่เฟยเอ๋อถึงได้หันไปหาซูซีมู่ด้วยสีหน้าสำนึกผิด “ขอโทษด้วย สร้างปัญหาให้คุณมากขนาดนี้”
“ไม่ …” ซูซีมู่หันหน้ากลับมาสายตาก็หันไปเห็นริมฝีปากที่แดงระเรื่อและบวมขึ้นมาเล็กน้อย สายตาของเขาก็หยุดมองอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็หันกลับด้วยความรวดเร็ว
โล่เฟยเอ๋อร้องอ้อขึ้นมา จากนั้นก็ชี้ไปที่มุมหนึ่ง มืออีกข้างก็ลากเอาซูซีมู่ไปด้วย “พวกเราไปนั่งตรงนั้นกัน”
ซูซีมู่มองมือเล็กที่กำลังลากแขนเขาอยู่แวบหนึ่งก็ปล่อยให้เธอลากเขาดินไปทางนั้น
หลังจากที่พวกเขานั่งลง บ่าวสาวก็ขึ้นเวทีเริ่มพิธีการแต่งงาน
โล่เฟยเอ๋อนั้นดูพิธีไปพลางทำหน้าซาบซึ้งยินดี
“เจ้าสาวสวยมาก เจ้าบ่าวหล่อมาก ความสุขล่องลอยเต็มไปหมด… ”
ซูซีมู่ใช้น้ำเสียงเย็นชาหยุดเธอไว้ “หุบปาก”
จริง ๆ แล้วเขาชอบฟังเวลาที่โล่เฟยเอ๋อเจื้อยแจ้วไม่หยุดมาก เขาก็ฟังอยู่เงียบ ๆ
เพียงแต่ว่าวันนี้เขารู้ว่าเธออารมณ์ไม่ดีมาก ๆ แต่ก็ยังจงใจพูดคำพวกนี้ เขาก็ไม่อาจทนฟังต่อไป ดังนั้นจึงหันไปบอกให้เธอหุบปากเสีย
ถูกซูซีมู่ดุเข้าแบบนี้ น้ำตาที่โล่เฟยเอ๋อกลั้นมานาน ตอนนี้กลั้นไม่อยู่ มันไหลออกมาแล้ว
ซูซีมู่ถอนหายใจอยุ่ในใจ จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบกระดาษเช็ดหน้าบนโต๊ะส่งให้เธอเช็ดน้ำตา
รอจนโล่เฟยเอ๋อร้องไห้จนพอ กระดาษเช็ดหน้าก็ถูกใช้ไปเป็นกอง
สุดท้ายเธอพยายามกลั้นน้ำตาพลางหันไปขอโทษซูซีมู่ “ขอโทษ …”
ซูซีมู่ไม่ได้รับคำขอโทษจากโล่เฟยเอ๋อ เพียงแต่พูดออกมาเบาเบา “ร้องพอแล้ว? ไปกันเถอะ”
“ไป? ไม่ร่วมงานแต่งแล้วหรือ?” โล่เฟยเอ๋อถามออกมาเสียงเบา
“งานแต่งจบไปตั้งแต่คุณยังร้องไห้อยู่” ซูซีมู่ตีหน้านิ่งตอบคำถามเธอ
“จบแล้ว?” โล่เฟยเอ๋อมึนงงไปหมด เงยหน้ามองไปรอบ ๆ ก็พบว่าคนส่วนมากทยอยกลับกันแล้ว เธอทำตัวไม่ถูกมือก็ถูจมูกไปมา จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนตามซูซีมู่
หลังจากออกมาจากงานแต่งงาน ซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อก็แวะเข้าไปมื้อค่ำที่ร้านอาหารของโรงแรม
รอจนกินเสร็จออกมาจากโรงแรมก็ห้าทุ่มแล้ว
ฝนก็หยุดตกแล้ว บนพื้นถนนเปียกไปทั่ว
ทั้งสองคนเดินตามกันมาไปทางโรงจอดรถ เมื่อเดินมาจนเกือบถึงรถของซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อที่เดินตามมาด้านหลังอยู่ ๆ ก็หยุดฝีเท้า “คุณขับรถกลับดีดี ฉันขอตัวกลับก่อน”
พูดจบโล่เฟยเอ๋อก็หมุนตัวกำลังจะเดินออกไป แต่กลับถูกซูซีมู่เรียกเอาไว้ก่อน “ผมไปส่ง!”
โดยไม่รอให้เธอตอบ เขาก็พูดต่อ “มืดขนาดนี้เรียกรถกลับไม่ปลอดภัย”
ขับไปได้ครึ่งทาง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
ลู่ยู่โทรมา
“เฮ้อ ประธาณซู ท่านยังจะมาหรือไม่? ถึงแม้ผมจะเป็นคนนัดท่าน แต่ท่านก็กรุณาตอบรับแล้ว แต่ผลคือรอมาสามชั่วโมงแล้วก็ยังไม่ถึง ท่านจะเอายังไง …” ลู่ยู่บ่นขิงข่าตามเข้ามาในสาย
ซูซีมู่รอจนลู่ยู่พูดจบถึงเอ่ยปากตอบ “ฉันมีธุระ”
“มีธุระอะไร? จะเที่ยงคืนอยู่แล้ว ยังยุ่งอยู่อีก?” ดูแล้วลู่ยู่นั้นท่าจะไม่ยอมง่าย ๆ
ซูซีมู่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “เรื่องส่วนตัว”
เมื่อได้ยินซูซีมู่พูดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ลู่ยู่ก็รีบเสนอหน้าอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที “เรื่องส่วนตัว? อุต่ะ ที่แท้ซูซีมู่ก็มีเรื่องส่วนตัวกับเขาด้วย! เรื่องส่วนตัวอะไรเหรอ? ต้องการให้ช่วยมั้ย?”
ซูซีมู่ขมวดคิ้ว แล้วก็ตะโกนเข้าไปตามสาย “ไปให้พ้น”
โล่เฟยเอ๋อคิดว่าซูซีมู่โกรธอีกแล้ว รีบพูดขึ้นมาว่า “คุณมีธุระ จอดให้ฉันลงข้างทาง …”
ซูซีมู่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ยู่ที่อยู่ในสายได้ยินเสียงซูซีมู่ ก็รีบแทรกขึ้นมาทันที “หวาหวา … ซูซีมู่ แกอยู่กับผู้หญิงเหรอวะ? ใคร? เรื่องส่วนตัวนี่คือกับผู้หญิงเรอะ?”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบอะไรลู่ยู่ พูดเพียงแค่ “ฉันไปถึงช้าหน่อย”
“ช้าหน่อย? ข้าแค่ไหน …” ลู่ยู่ยังไม่ทันพูดจบ ซูซีมู่ก็ตัดสายทิ้งไปดื้อ ๆ