บทที่ 362 ในใจนั้นอบอุ่น1
จะอย่างไรก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อย
ทั้งยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ร้ายแรงกว่า…
นั่นก็คือไทเฮา!
อ้านซิงเป็นคนไร้เดียงสาและจิตใจดีอย่างไม่ต้องสงสัย โดยปกติแล้วนางก็เคยช่วยเหลือซินเหยาทั้งโจ่งแจ้งและเป็นความลับหลายครั้ง!
ดูภายนอกนางเป็นคนเย็นชา แต่ว่าในใจนั้นอบอุ่น
ในอดีตไทเฮาจะลงโทษสนมและนางในที่ทำความผิดเหล่านั้น นางก็แอบช่วยเหลืออยู่เสมอ
จุดนี้ความเคารพของผู้คนในวังที่มีต่อนางก็เขยื้อนขึ้นบ้างแล้ว
ถ้อยคำที่อ้านซิงเอ่ยย่อมต้องไม่ใช่ความเท็จอยู่แล้ว
โดยเฉพาะเรื่องราวของนางและพี่สาว…
พี่สาวที่หยั่งรากฝังลึกด้วยความรักอย่างลึกซึ้ง เป็นไปไม่ได้เลยสักนิดที่นางจะเอ่ยเท็จประดิษฐ์ประดอยขึ้นมา…
อ้านซิงไม่เคยออกจากวังหลวงมาก่อน…
เช่นนั้นหญิงสาวที่เอากล่องเซิ้นที่สองไปที่ร้านจี้โม่ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นพี่สาวของอ้านซิง….อ้านปิง!
อ้านปิง?
นางเป็นคนของไทเฮา
อ้านซิงบอกว่าหลายปีมานี้นางทำธุระแทนไทเฮาอยู่นอกวังตลอด
เห็นได้ชัดเจนว่าเจ้าของที่แท้จริงของกล่องเซิ้นที่สอง…ก็คือไทเฮา!
ในเมื่อนางมีกล่องเซิ้นอันหนึ่งอยู่ในมือ เหตุใดยังต้องเอามันไปขายโดยไร้เงื่อนไขด้วยเล่า
นางร้อนเงินจริงๆ เชียวหรือ?
แค่โบกมือคราเดียวก็เอาให้ซินเหยาเจ็ดแสนตำลึง!
ในฐานะไทเฮา ผู้ควบคุมดูแลวังหลัง
นางจะขาดแคลนเงินได้อย่างไรกัน
ต่อให้ขาดเงินจริงๆ ก็คงไม่ขายสมบัติล้ำค่าอย่างกล่องเซิ้นกล่องนี้ไปได้หรอกกระมัง?
แรงจูงใจของไทเฮา…น่าสงสัยมาก!
ไม่ใช่ทำเพื่อเงิน แล้วเช่นนั้นทำเพื่ออะไรกัน
จุดนี้ ซินเหยาเดาไม่ออกเลยจริงๆ!
อีกอย่างอ้านซิงยังบอก แรกเริ่มตอนที่นางไปขโมยกล่องเซิ้นที่อาราม และถูกซินเหยาจับได้ในที่เกิดเหตุ…
ต่อมาซินเหยาปล่อยนางไป
เรื่องนี้ ซินเหยาคิดมาโดยตลอดว่าอ้านซิงแค่อยากรู้อยากเห็นเอง หรือไม่ก็เห็นของมีค่าแล้วเกิดความละโมบ…
และก็ไม่ได้ไปตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน
อย่างไรเสียสมบัติล้ำค่ามหาศาลอย่างกล่องเซิ้น ใครๆ ก็อยากได้
แต่คิดไม่ถึง…ว่าจะเป็นไทเฮาที่ใช้ให้นางไปขโมยกล่องเซิ้นตั้งแต่ทีแรก
แม่มดเฒ่านางนี้ คิดอะไรอยู่ในใจกันแน่
ซินเหยาสับสนยิ่งนัก
นางมีกล่องเซิ้นอยู่ในมือ แต่กลับโยนมันออกไปประมูล…
จากนั้นก็สั่งคนไปขโมยกล่องเซิ้นอีกกล่อง
นี่มันค่อนข้างพิลึกไปหน่อยกระมัง
กล่องเซิ้นสองกล่องต่างมีความเชื่อมโยงกับไทเฮา?
หรือว่า…ไทเฮาก็คือกองฉุกเฉินพิเศษในอนาคต?
ซินเหยาขบคิดให้ละเอียด แต่กลับรู้สึกว่าความเป็นไปได้น้อยมาก
ถ้าหากนางเป็นกองฉุกเฉินพิเศษในอนาคต จะต้องรู้วิธีแต่งหน้าเสริมความงามแน่…แม่มดเฒ่ากลับไม่รู้เลยสักนิด
นางแสร้งทำอย่างนั้นเชียวหรือ
ดูท่าทางก็ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่
ทว่าทั้งอ้านซิงและฮ่องเต้อำมหิตเคยเน้นย้ำว่าไทเฮาเป็นอีกคนที่ไม่อาจสบประมาทได้เลย!
บางที เบาะแสทั้งหมดล้วนเริ่มต้นมาจากเงื้อมมือของไทเฮา
ถ้าหากนางเป็นเจ้าของตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังกล่องเซิ้นที่สอง…
เช่นนั้นอุบายที่อ้านซิงพูดว่าไทเฮาคนนั้นดำเนินการมาหลายปีแล้ว…วันหน้าจะน่ากลัวอย่างมากถึงมากที่สุด!
ธรณีประตูของตำหนักชิงหย่าถูกคนเหยียบย่ำจนพังไปแล้ว!
ห้าวันเต็มๆ ตำหนักชิงหย่าแน่นขนัด คนที่ต่อแถว ต่อกันจนเป็นมังกรตัวยาว…
แม้ว้าจะเป็นเวลาตกดึก ด้านนอกของตำหนักชิงหย่ากลับสว่างไสว เต็มไปด้วยผู้คนต่อคิวกัน…
โจว๋ชิงหยีและนายหญิงเซียวยุ่งง่วนตัวเป็นเกลียว
เคราะห์ดีที่ซินเหยาเตรียมการแต่เนิ่นๆ และอบรมให้นางในสิบกว่าคนมาทำหน้าที่ขาย
เงินหลั่งใหลเข้าตำหนักชิงหย่าราวกับกระแสน้ำ…
ทุกๆ สามชั่วยาม ซินเหยาจะพาองครักษ์กว่าสิบนายควบม้าออกไปนอกวังเพื่อเอาเงินสดไปแลกเป็นตั๋วเงิน
เงินสดในวังทั้งหมดไหลไปอยู่ในมือของซินเหยาด้วยความรวดเร็วราวกับการแพร่เชื้อของไวรัส…
ห้าวันหลังจากนั้น…
ซินเหยาคิดวิธีอย่างนั้นขึ้นมา
เรียกสนมที่มีทุนทรัพย์และตำแหน่งสิบกว่านางมาพบเป็นการส่วนตัว จากนั้นก็แบ่งหุ้นขายให้แก่พวกนาง เพื่อให้พวกนางรับผิดชอบดำเนินงานของตนเอง
นางสนมเหล่านี้เดิมทีก็ตาร้อนผ่าวที่ซินเหยาทำธุรกิจแต่เพียงผู้เดียว และสร้างรายได้เป็นเงินจำนวนมากมายก่ายกอง…
ตอนนี้ซินเหยายอมเอาสิทธิ์การจัดการออกมา ก็ปลื้มปีติแทบบ้า
ค่าธรรมเนียมกว่าหลายแสนได้ลงนามการเข้าร่วมโดยไม่ต้องกะพริบตา
ลงนามเข้าร่วมมีอยู่สามประเภท
การเข้าร่วมชั้นหนึ่ง ค่าธรรมเนียมสามแสนตำลึง สามารถรับส่วนลด 40% จากราคาซื้อและรับการฝึกอบรมด้านการขายและทักษะวิธีใช้เครื่องสำอาง
การเข้าร่วมชั้นรอง ค่าธรรมเนียมสองแสนตำลึง สามารถรับส่วนลด 30% จากราคาซื้อ
การเข้าร่วมชั้นสาม ค่าธรรมเนียมหนึ่งแสนตำลึง สามารถรับส่วนลด 20% จากราคาซื้อ
ค่าธรรมเนียมสูงกว่าหนึ่งแสนตำลึง สำหรับนางสนมที่มีพื้นเพภูมิหลังเป็นตระกูลสูงศักดิ์แข็งแกร่ง หรือไม่ก็ผู้ที่ได้รับความโปรดปรานมีตำแหน่งสูงๆ ในวัง ก็ไม่ถือว่าเป็นตัวเลขสถิติทางดาราศาสตร์อะไรเลย
อย่างไรก็ตามผลกำไรมหาศาลและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น กลับซื้อไม่ได้ด้วยเงินทอง
ต้องตระหนักว่าท่ามกลางวังหลวงแห่งนี้ สายสัมพันธ์สำคัญกว่าเงินทอง
นี่คือเหตุผลที่นางสนมหลายคนต้องจ่ายสินบนให้กับขันทีนางใน เพียงเพื่อสืบข้อมูลหรือข่าวสารบางอย่าง…
ช่วงเวลาชั่วพริบตา
สนมสิบสองนางที่ซินเหยาเรียกพบ มีอยู่สิบเอ็ดนางที่ลงนามในข้อตกลงเข้าร่วมในเวลานั้นเลย ทั้งยังจ่ายค่ามัดจำแล้วด้วย
ไม่ต้องเปลืองแรง ซินเหยาเปิดร้านขายเครื่องสำอาง “เจ้าสวยมาก” สิบเอ็ดแห่งในวังหลวงติดต่อกัน และที่สำคัญกว่านั้นก็คือลดทอนหน้าที่งานขายของตำหนักชิงหย่าไปได้โดยตรง…
ในวันที่หก
ในที่สุดตำหนักชิงหย่าก็สะอาดสงบอย่างแท้จริง…
สิบเอ็ดร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ติดต่อกัน เพื่อเป็นการดึงดูธุรกิจ ต่างพากันเปิดราคาพิเศษ และดึงดูดลูกค้าให้เดินเข้ามา…
ซินเหยาเบิกบานเสียจนเกียจคร้าน
สั่งปิดประตูใหญ่ในเรือนสนิท ให้องครักษ์และขันทีคอยเฝ้าอยู่ด้านนอก ไม่ให้บุคคลใดๆ เข้ามา…
ส่วนพวกนางสามคน ก็พาเสี่ยวหงและเสี่ยวสิจือแอบนับเงินอยู่ด้านใน…
มีประโยคหนึ่งเป็นที่นิยมมากๆ
“ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตมนุษย์คือการนอนหลับจนตื่นขึ้นมาเอง นับเงินนับจนมือเป็นตะคริว”