นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก – ตอนที่ 515

ตอนที่ 515

บทที่ 515ฮูหยินใหญ่โปรดอภัย

ฮูหยินใหญ่จ้องเสี่ยวชุ่ยตาเขม็ง “เจ้าไปตอนนี้ ถ้าเป็นเรื่องจริง ป่านนี้คงไม่จบเรื่องแล้วหรือไง ยังจะรอให้เจ้าไปจับ? อีกอย่างเรื่องที่ข้าตัดสินใจยังต้องให้เจ้าเป็นคนอนุญาต?” เอ่ยด้วยเสียงกร้าว แม้แต่ซินเหยายังใจระส่ำ

ครั้นเสี่ยวชุ่ยได้ยินน้ำคำของฮูหยินใหญ่ ก็ตกใจจะเข่าทรุดลงกับพื้น “บ่าวไม่ได้หมายความเช่นนั้นเจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่โปรดอภัย”

ฮูหยินใหญ่ส่ายหน้าด้วยอาการปวดเศียร ก่อนจะกวักมือเรียกซินเหยา “เสี่ยวชุ่ย เจ้าออกไปก่อน”

เสี่ยวชุ่ยยังจะกล้าอยู่ต่อเสียที่ไหน นางรีบจรลีออกไปอย่างเร็วที่สุดจะดีกว่า

มองเงาหลังของเสี่ยวชุ่ยที่ลาลับ ซินเหยาก็ค่อนข้างปวดใจ แต่ว่านางรู้ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาปวดใจ

“ซินเหยา เจ้าคิดว่าข้าควรออกไปจับหรือไม่” ฮูหยินใหญ่ปริปากเบาๆ ในถ้อยวาจามีความผันผวนอยู่

ซินเหยาก้มหน้าครุ่นคิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยคำอย่างใจเย็น “บ่าวคิดว่าไม่ควรเจ้าค่ะ”

สำหรับคำตอบของซินเหยานั้น ฮูหยินใหญ่เองก็แย้มยิ้มอย่างชื่นชม “ข้าไม่ได้มองผิดจริงๆ ด้วย เจ้าสงบและฉลาดกว่าเสี่ยวชุ่ยมากโขนัก เสี่ยวชุ่ยคนนี้ตีโพยตีพายยิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าไม่ออกไปจับ”

ซินเหยาส่ายหน้าเห็นพ้อง “บ่าวยังต้องขอให้ฮูหยินใหญ่ช่วยชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ”

ฮูหยินใหญ่หยัดกายลุกขึ้นยืน มองไปยังทิศทางที่หมิงเช่ออาศัยอยู่ “ถ้าออกไปจับก็ยังต้องถามว่าจะจับได้หรือไม่ ถ้าหากได้ ย่อมมีผลประโยชน์ต่อข้ามากขึ้นหน่อย แต่ว่าข้าเองก็ไม่ใช่ผู้รับผลประโยชน์ เพราะว่าเขาเป็นญาติผู้น้องของข้า ข้าเองก็ต้องแบกภาระอะไรสักอย่าง ถ้าหากฮูหยินรองอยากจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เช่นนั้นข้าเองก็ต้องถูกลากไปเอี่ยวด้วย…”

เมื่อซินเหยาได้ยินฮูหยินใหญ่วิเคราะห์เช่นนี้ ในใจก็ได้รับการอบรมชี้ทาง ฮูหยินใหญ่รอบคอบกว่าที่ตนคิดเอาไว้เสียอีก

ฮูหยินใหญ่ไม่ได้สนใจสายตาของซินเหยา ก่อนจะเอ่ยวิเคราะห์ต่อไป “ถ้าหากไม่ใช่เรื่องจริง เช่นนั้นนี่ก็คือหลุมพรางอย่างหนึ่ง หลุมพรางที่ขุดเอาไว้อย่างดีเพื่อข้า เจ้าว่าไม่ว่าจะเป็นด้านไหน ข้าก็ล้วนไม่สามารถได้เปรียบเลยสักนิด นับโดยรวมแล้ว ข้าก็ยังเป็นผู้แพ้อยู่วันยังค่ำ”

ไม่พูดไม่ได้ เรื่องนี้ อีกฝ่ายใช้แผนการที่ดีมากจริงๆ ทำให้ซินเหยาอดชมเชยไม่ได้

“ซินเหยา เจ้าออกไปก่อนเถิด ข้าค่อนข้างเหนื่อยแล้ว”

ซินเหยาย่อมรู้ว่าเวลานี้ฮูหยินใหญ่ไม่ได้เหนื่อยกาย แต่สิ่งที่มากกว่าคือเหนื่อยใจ ถูกหลอกเช่นนี้ นางจะไม่เหนื่อยได้หรือ

ซินเหยามองดวงตาที่ปิดสนิทของฮูหยินใหญ่ คำพูดที่ยังอยากเอ่ยก็ถูกกลืนกลับลงไป ในเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏแล้ว เช่นนั้นถ้าหากพูดเรื่องนี้ออกมา นางกลัวว่าฮูหยินใหญ่จะรับไม่ได้

“ใช่แล้ว เรื่องคนในครอบครัวข้า เจ้าจำไว้ว่าจงไปลงมือปฏิบัติเสีย” ดวงตาของฮูหยินใหญ่ยังคงหลับสนิท แต่กลับรู้ว่าซินเหยาจะจากไป จึงปริปากเอ่ยคำ

ร่างกายซินเหยาสั่นเทิ้ม อยากจะจากไปแบบหลบหนี อันที่จริงนับว่านางเห็นการพลัดพรากจากลาจนชินแล้ว ไหนจะกลิ่นคาวเลือดทีละน้อย แต่ว่านางยังคงกลัวที่จะมองเห็นสีหน้าของฮูหยินใหญ่ตอนที่รับรู้ความจริง จะคลุ้มคลั่งหรือว่าเงียบสงบ นางเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร

ตอนนี้บางทีนางควรจะไปหาเบาะแสบางอย่างทางฝั่งคุณชายหมิงเช่อเสียหน่อย

“เสี่ยวชุ่ย เมื่อกี้เจ้าไปไหนมา ข้าเรียกยังไงก็ไม่มีใครตอบ” จู่ๆ หมิงเช่อก็โผล่ออกมาจากด้านหลังของเสี่ยวชุ่ย เสียงนั้นทำเอาเสี่ยวชุ่ยสะดุ้งโหยง

เสี่ยวชุ่ยทำงานอย่างระมัดระวัง ตัวสั่นระริกราวกับได้รับความหวาดกลัวอย่างไรอย่างนั้น หน้าก็ยังไม่กล้าเงยขึ้นมาเลยสักนิด นางกลัวว่าตนเองจะเผลอหลุดปากพูดออกมา

“ข้าถามเจ้าอยู่นะ วันนี้เป็นอะไรไป ไม่ใช่แค่ไม่พูดจา ซ้ำยังดูขี้ขลาดขนาดนี้” หมิงเช่อแสร้งเอ่ยถามด้วยเจตนาดี นี่ทำให้หัวใจของเสี่ยวชุ่ยแต้นระส่ำแทบกระดอนออกมาไม่ยอมหยุด

“เรียนคุณชาย บ่าว บ่าวไม่ได้ไปไหน บ่าวรีบไปฉิ้งฉ่อง” เสี่ยวชุ่ยโป้ปดอย่างลนลาน แต่ว่าคำโกหกนี้ดูเป็นเท็จมากไปหน่อย

“ฮ่าๆ เอาล่ะๆ ไม่ได้ไปไหน ไม่ต้องกังวลขนาดนี้ ข้าไม่บอกกับท่านพี่หรอกน่า” หมิงเช่อกลับไม่ได้มีท่าทีจะซักไซ้เสี่ยวชุ่ย เดินตรงไปดิ่งเข้าไปในห้อง

ตอนที่เสี่ยวชุ่ยทอดถอนใจโล่งอกนั้น น้ำเสียงนั่นก็ลอยมาจากด้านหลังนางอีกครั้ง “เอาน้ำมาให้ข้าหน่อย ข้าอยากจะอาบน้ำ”

เสี่ยวชุ่ยยอมรับ เขาเอ่ยวาจานี้ ทำให้เสี่ยวชุ่ยใจเย็นลง อยากอาบน้ำในเวลานี้ ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยสิแปลก เช่นนั้นสิ่งที่นางเพิ่งได้ยินมาเมื่อครู่นั้นก็เป็นเรื่องจริง เมื่อครู่ก็เพราะนางได้ยิน…บัดนั้นหัวใจก็ถูกจู่โจม นางตั้งใจแน่วแน่ว่าจะลากคอเจ้าโจรโฉดคนนั้นออกมา คิดไม่ถึงว่าจะถูกฮูหยินใหญ่อบรมไปหนึ่งฉาด และยังได้รับผลเช่นนี้ พูดมาแล้วซินเหยาก็ผิด หากไม่ใช่นาง ก็คงไม่ต้องยืดยาดแบบนี้

ซินเหยาที่อยู่บนต้นไม้ได้ยินอย่างชัดเจน มองเห็นอย่างแจ่มแจ้ง ในใจก็ยิ่งโกรธแค้น คิดไม่ถึงว่าคุณชายหมิงเช่อคนนี้จะไร้ยางอายได้ขนาดนี้ หรือบางทีเขาอาจจะรู้ว่าเสี่ยวชุ่ยชอบพอเขา ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เป็นขนาดนั้น เมื่อครู่เสี่ยวชุ่ยติดกับเขาเข้าให้แล้วกระมัง หากไม่ใช่เพราะฮูหยินใหญ่หลักแหลมมากพอ เสี่ยวชุ่ยคนนี้คงจะกลายเป็นแพะรับบาปไปแล้วสินะ

ซินเหยานึกถึงตรงนี้ ก็รีบออกจากต้นไม้ ตอนนี้นางกำลังจะพบไปคนที่ถูกเรียกว่าฮูหยินห้าคนนั้น ดูสิว่าจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มบ้างหรือไม่

“แม่นาง ท่านมีเรื่องอะไรหรือ” ซินเหยาปรากฏตัวหน้าลานของฮูหยินห้าพร้อมกับของบางอย่าง คราวนี้จึงค้นพบว่าที่นี่มันช่างวังเวงนัก วังเวงเสียจนแทบจะไม่มีกลิ่นอายของมนุษย์เลย อุปนิสัยของฮูหยินห้าเย็นชาได้ถึงเพียงนี้ แล้วจะไปทำเช่นนั้นได้อย่างไร…

“พี่สาวท่านนี้ บ่าวคือซินเหยาในเรือนของฮุหยินใหญ่ รบกวนท่านรายงานให้หน่อยเถิด” ซินเหยารู้ แม้ตนจะไม่นับว่ามีชื่อเสียง แต่ครั้งก่อนในเมื่อฮูหยินห้าจำตนได้ เช่นนั้นครั้งนี้ก็คงจะไม่ลืมเลือนถึงจะถูก

และจริงๆ ด้วย ผ่านไปไม่นาน สาวใช้คนนั้นก็ออกมาพร้อมรอยยิ้มและเชิญนางเข้าไป

มาถึงเรือนฮูหยินห้า ซินเหยาจึงรู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าความสดใหม่และสง่างามคืออะไร ส่วนรูปโฉมของฮูหยินห้า กับสวนดอกไม้นานาพันธุ์นี้ ให้ความรู้สึกเหมือนเทพธิดาเดินดิน

“ว่ากันแล้ว ควรเป็นข้าที่ไปหาเจ้าจึงจะถูก คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นฝ่ายมาหาข้า” ฮูหยินห้าไม่ได้หยิ่งทระนงเฉกเช่นฮูหยินคนอื่นๆ ในสายตาของนาง เสมือนว่าไม่ได้แบ่งแยกนายบ่าวเลย

“บ่าวคารวะฮูหยินห้า ขอบคุณฮูหยินห้ายิ่งที่ยังรำลึกถึง ครั้งก่อนของที่บ่าวทำไม่ได้ส่งมาให้ฮูหยินห้า หวังว่าฮูหยินห้าจะไม่มองว่าแปลกจึงจะถูก” ซินเหยากล่าวพลางเอาเกี๊ยวเต้าหู้ที่ตนทำเสร็จแล้วยื่นให้

ฮูหยินห้ามองซินเหยาแวบหนึ่ง สูดดมของที่ยื่นเข้ามานั้น สีหน้าพึงพอใจ “หอมจริงๆ ลำบากเจ้าที่เอาใจใส่มากขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องระแวดระวังขนาดนี้หรอก ที่นี่ไม่ได้มีกฎระเบียบมากมายขนาดนั้น” ฮูหยินห้าเอ่ยปากอย่างเป็นธรรมชาติ

ซินเหยาสังเกตฮูหยินห้าอย่างระมัดระวัง และต้องการเห็นบางสิ่งที่เกี่ยวโยงกับความผิดพลาดจากทางฝั่งของนาง คราวนี้ซินเหยาจึงค้นพบว่าดูเหมือนตนกำลังเอาความคิดต่ำๆ ไปคาดเดาความคิดของปัญญาชนอยู่ เวลานี้ฮูหยินห้าดูสมจริงเกินไป จริงเสียจนดูไม่เป็นความจริง

“ฮ่าๆ บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ ซินเหยาชอบอุปนิสัยเช่นนี้ของฮูหยินห้านักเจ้าค่ะ” ซินเหยาเองก็ไม่เกรงใจ กล่าวว่าตอบรับถ้อยคำของฮูหยินห้าเป็นอย่างดีอย่างไรอย่างนั้น

“ฮ่าๆ มิน่าฮูหยินใหญ่และฮูหยินรองต่างพากันจับตามองเจ้า อุปนิสัยเช่นนี้ มีใครบ้างที่จะไม่ชอบกันเล่า” ฮูหยินห้าง่วนกับงานในมือของตน รอยยิ้มบนใบหน้านั้นทำเอาดอกไม้ใบหญ้ารอบบริเวณพลอยสดชื่นไปด้วย

“ในเมื่อชอบ เช่นนั้นก็เข้ามาพูดคุยตามสบายกับข้าข้างในเถิด ข้าเองก็ยากนักกว่าจะมีคนมาเพิ่มสีสันให้ครึกครื้นเช่นนี้” ฮูหยินห้ากล่าวถ้อยวาจานี้แบบไม่ได้มีการกล่าวโทษใครใดๆ ทั้งนั้น ราวกับว่านางชื่นชอบการใช้ชีวิตเช่นนี้มาก เพียงแต่มีคนเข้ามาเปลี่ยนแปลงจุดๆ นี้เป็นครั้งคราวก็ไม่ได้ทำให้นางขุ่นข้องใดๆ

ซินเหยาเองก็ไม่ได้เกรงใจ ซึ่งนี่ก็คือจุดประสงค์ของนาง

เดิมทีซินเหยาควรจะยืนอยู่จึงจะถือว่าถูกครรลอง แต่ฮูหยินห้าบอกว่าตนไม่ชื่นชอบพิธีไร้สาระเหล่านี้ ซินเหยาไม่อาจขัดขืนฮูหยินห้าได้ และจึงทำตามประสงค์ของฮูหยินห้า

“ซินเหยา ชื่อนี้ไม่เลวเลยจริงๆ ชื่อนี้ไม่เหมือนชื่อของสาวใช้เลยนะ” ฮูหยินห้าตัดแต่งดอกไม้หนึ่งช่อข้างกาย และเอ่ยถามไปอย่างสบายๆ ยิ่งนัก

“ขอบคุณฮูหยินห้าที่กล่าวชมเชย นี่เป็นสิ่งเดียวในความทรงจำของบ่าวเจ้าค่ะ” ซินเหยารู้สึกสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับชื่อของตนเอง เนิ่นนานขนาดนี้นอกจากชื่อของตนเอง ยังมีฉากภาพสั้นๆ ปรากฏขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว อย่างอื่นก็ไม่มีอีกแล้ว

ฮูหยินห้ามองทางซินเหยาอย่างเห็นใจแวบหนึ่ง ก่อนทอดถอนใจ “แต่บางครั้งการลืมเลือนเรื่องราวก่อนหน้านี้ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร”

ซินเหยาตั้งใจฟังน้ำคำของฮูหยินห้ายิ่งนัก และเข้าใจความหมายของนางเป็นอย่างดี “แต่ว่า ปราศจากอดีต ชะตาชีวิตของตนก็ไม่สมบูรณ์ และก็คงไม่เป็นเหมือนฮูหยินห้าที่ใช้ชีวิตอย่างมีใจศรัทธาเช่นนี้”

ฮูหยินห้าแย้มยิ้ม แววตาที่มองทางซินเหยากลับยังบริสุทธิ์เสียขนาดนั้น “อดีต อัย ถ้าหากจำไม่ได้ บางทีตนเองก็อาจจะมีทางเลือกที่เยอะกว่าก็ได้กระมัง อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องจดจำเรื่องราวเหล่านั้น”

ซินเหยารู้สึกว่าตนเองเดาไว้ไม่มีผิด ฮูหยินห้าเคยมีเรื่องราวจริงๆ ด้วย บางทีอาจจะมีอดีตบางอย่างกับหมิงเช่อจริงๆ ก็ได้

ฮูหยินห้าย่อมไม่รู้แผนการในใจของซินเหยาอยู่แล้ว บางทีก็อาจเป็นอย่างที่นางพูด นางไม่ได้พูดคุยกับใครบางคนมาเป็นเวลานานแล้ว จึงพูดคุยเรื่องราวประจำวันในครอบครัวเช่นนั้น

“เอ่อ ฮูหยินห้าค่อนข้างสนิทสนมกับฮูหยินรองเลยทีเดียวเจ้าค่ะ พวกท่านมาจากหมู่บ้านเดียวกันหรือ” ซินเหยาไม่รู้ว่าตนเอ่ยถามเช่นนี้มันจะเป็นการรีบร้อนเกินไปหรือไม่ แต่ถ้าหากพูดอ้อมแอ้มเช่นนั้น เกรงว่าคงจะไร้หนทางชักเข้าหัวข้อนี้ไปตลอดกาล

“เอ๋?” ฮูหยินห้าคิดไม่ถึงว่าซินเหยาจะถามเช่นนี้ “จะพูดอย่างไรดีล่ะ”

เมื่อมองสายตาอันสับสนของฮูหยินห้าที่มองตน ซินเหยารู้สึกว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างเบนออกนอกลู่นอกทางที่นางตั้งใจไว้ “ครั้งก่อนท่านบอกให้สาวใช้ส่งของมาให้บ่าว ไม่ใช่ว่าฮูหยินรองเป็นคนแนะนำหรอกหรือเจ้าคะ” ซินเหยากล่าวอย่างสบายๆ

คราวนี้ใบหน้าของฮูหยินห้าจึงดูเข้าใจขึ้น “อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง ฮูหยินรองก็รับว่าพวกเรารู้จักกันมาแต่ก่อนเก่า ก่อนที่ข้าจะออกเรือน แต่ว่าก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันมากนัก ไม่ถือว่าสนิทสนมกันหรอก”

ซินเหยาและฮูหยินห้าสนทนากันจิปาถะเช่นนี้ ก็กินเวลาไปหลายชั่วยามอยู่เหมือนกัน

“ซินเหยายังมีธุระต่อ ฮูหยินห้า วันนี้ก็พูดกันเท่านี้ก่อน บ่าวยินดีนักที่ต้องตาฮูหยินห้าเยี่ยงนี้เจ้าค่ะ” ซินเหยาหยัดกายขึ้น แย้มรอยยิ้มอย่างเคารพยิ่งนัก ใบหน้าเปี่ยมด้วยความซาบซึ้ง

ซินเหยาไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอะไรที่มากนัก ทุกอย่างที่ฮูหยินห้าพูดมานั้นมันเป็นธรรมชาติเสียขนาดนั้น ตามหลัก ก็ไม่ได้มีเบาะแสอะไรที่ซินเหยาจะสืบหาได้เลย ซินเหยาเริ่มสงสัยในการวิเคราะห์ของตนเอง เพียงแต่มองไปยังภาพผีเสื้อที่แขวนบนผนังนั้นมันค่อนข้างคุ้นตา ไม่สามารถหาทิศทางได้ชั่วขณะ ซินเหยาทำได้เพียงขอตัวลาก่อน แต่อย่างน้อยๆ นางก็รู้ว่าฮูหยินห้าดูหวั่นเกรงฮูหยินรองอยู่หน่อยๆ เช่นนั้น…

ฮูหยินห้าแย้มรอยยิ้มพิมพ์ใจ ไม่ได้มีท่าทีจะยื้อหยุดให้มากเรื่อง ก็ราวกับการมาเยือนของซินเหยาไม่ได้มีผลกระทบอะไรเลยสักนิด และมันก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไร

หลังจากออกมาจากเรือนของฮูหยินห้า ซินเหยายังคงขบคิดว่าจะบอกเรื่องภายในครอบครัวของฮูหยินใหญ่ให้ฮูหยินใหญ่ฟังว่าอย่างไร กลับไม่ได้สังเกตว่ามีคนกำลังเดินมาที่เบื้องหน้า

“อัยโย่” ชนกระแทกหนึ่งครั้ง เปี่ยมด้วยแรงอัดจนล้น ซินเหยาถูกชนด้วยแรงกระแทกจนแทบจะเซล้มพับลงกับพื้น

“ระวัง” เห็นเพียงแต่ชายคนหนึ่งเอื้อมมือมาดึงไว้อย่างรวดเร็ว ซินเหยาถูกดึงเข้าไปในอ้อมอกของชายหนุ่มทั้งอย่างนี้

“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม” ในห้วงที่ซินเหยากำลังแน่นิ่ง น้ำเสียงอ่อนโยนเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากเหนือศีรษะ

ซินเหยาช้อนสายตาขึ้นมองผู้มาใหม่ นั่นก็คือหมิงเช่อคนที่นางต้องการคำตอบนั่นเอง รู้สึกว่าช่วงเอวของตนมีความร้อนผ่าวแผ่เข้ามา บัดนั้นซินเหยาพลันตื่นตัวขึ้น และหยัดกายราวกับว่าสับสนอย่างมากในทันที

ทว่าตอนที่เรือนกายยังไม่ได้พรากจากกันนั้น ดูเหมือนคุณชายหมิงเช่อจะมองเห็นอะไรเข้า ชั่วขณะนั้นจึงปล่อยมือที่คว้าช่วงเอวของตนออกมา ซินเหยามองไปตามสายตาของคุณชายหมิงเช่อ ก็พบกับเงาของหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังตน หัวใจเต้นระส่ำ พลันเกิดแผนการขึ้นในใจ

นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก

นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก

Status: Ongoing

ซินเหยาเป็นสายลับผู้อัจฉริยะ แต่ในการทำภาจกิจครั้งแรกกลับล้มเหลวแล้วได้ข้ามภพตกลงบนเตียงของฮ่องเต้ ทำให้ฮ่องเต้อำมหิตที่กำลังทำเรื่องนั้นอยู่ต้องหยุดลง ซินเหยาที่โดนวางยาโป๊นึกว่าฮ่องเต้เป็นคนขายบริการพิเศษ หลังเสร็จเรื่องก็ทิ้งเงินไว้แล้วจากไป ซึ่งทำให้ฮ่องเต้รู้สึกความมีเกียรติของเขาถูกเหยียดหยาม ผู้หญิงคนนี้มากเกินไปแล้วไหม แต่สำหรับนางแล้วฮ่องเต้อำมหิตคืนคนที่เอาไว้มาทรมาน เงินเอาไว้มาใช้ วรยุทธเอาไว้มารังแกผู้อ่อนแอ ส่วนความสวยนั้นก็เอามายั่วผู้ชายสิ…..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน