ตอนที่ 213
ปาณีตอบว่า “ก็หนูกลัวคุณขับรถไปรับหนูโดย เฉพาะจะยุ่งยากไม่ใช่หรอคะ? ก็เลยกลับมาเอง”
ไวยาตย์รู้สึกปวดหัว “คุณกลับมาดึกขนาดนี้ คุณ ธามนิธิรู้เข้าจะเป็นห่วงเอานะครับ”
เพราะถึงยังไงก็เป็นเด็กผู้หญิง
ปาณีถามว่า “คุณอาล่ะคะ? นอนแล้วหรอ?” “วันนี้คุณธามนิธิไม่ค่อยสบาย นอนแล้วครับ”
นี่ก็เกือบจะ 5 ทุ่มแล้ว
“ร่างกายเขาไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ?” พอได้ยินว่าธา มนิธิไม่สบาย ปาณีก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีปัญหาอะไรครับ หมอบอกให้พักผ่อนเยอะๆ” ไวยาตย์เพิ่งพูดจบ ปาณีที่ถอดรองเท้าเปลี่ยนมาใส่ รองเท้าแตะก็วิ่งขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว
เธอเปิดประตูย่องเข้าไปห้องธามนิธิอย่างเบามือ มองคุณอาที่นอนอยู่บนเตียง หลับฝันดีมาก
ประมาณตีสองกว่าๆ ธามนิธิก็ตื่น เขาพลิกตัว กลับพบในอ้อมกอดของเขาไม่รู้ว่ามีแมวน้อยที่อ่อน โยนเพิ่มมาตั้งแต่ตอนไหน..
ในห้องไม่ได้เปิดไฟ มืดสนิท
เขาได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคย รู้เลยว่านี่คือปาณี
แขนของปาณีพาดอยู่บนเอวของเขา เปรียบ เสมือนกำหัวใจของเขาไว้ในมือของเธออย่างเหนียว แน่น
ธามนิธิอึ้งไปสักพัก ตามด้วยความสงสัย
ไวยายต์บอกว่าปาณีจะกลับมาพรุ่งนี้นี่ นี่เพิ่งจะเที่ยงคืน ทำไมเธอมาอยู่ตรงนี้แล้วล่ะ
ปาณีที่หลับสนิทกอดเอวเขาไว้แน่น พึ่งพาเขา อย่างมาก ถ้าหากไม่เชื่อใจเขาอย่างสนิทใจ ก็คงไม่ กอดเขาอย่างนี้หรอก
พอคิดถึงจุดนี้ ธามนิธิก็รู้สึกอบอุ่นมาก ไม่ได้ปลุก เธอ เพียงแต่นอนเป็นเพื่อนเธอจนถึงเช้า
เมื่อวานเขาเป็นหวัดนิดหน่อย กินยาก่อนนอนไป และไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลที่ปาณีกลับมารึเปล่า พอ ตื่นนอนก็รู้สึกอาการดีขึ้นเยอะเลย
เช้าแล้ว ผ้าม่านถูกเปิดออก แสงแดดสาดส่องเข้า มาจากภายนอก ธามนิธินอนอยู่บนเตียง ได้ยินเสียง อาบน้ำของปาณีจากในห้องน้ำ เสียงน้ำเบามาก เพราะ ว่ากลัวเขาจะตื่น เธอจึงเปิดน้ำเบาๆ
ปาณีกำลังแปรงฟันอยู่ แปรงจนฟองเต็มปาก ทันใดนั้นก็มีคนเรียกเธอ “ปาณี”
หลังจากที่ได้ยินเสียงเรียกของธามนิธิ ปาณีก็รีบ ยื่นหน้าออกไปโดยที่ยังไม่ทันล้างฟองตรงริมฝีปาก ออกจนหมด เธอมองไปยังธามนิธิ “คุณตื่นแล้วหรอคะ?”
“เธอกลับมาตอนไหนหรอ?” ธามนิธิมองไปยัง ท่าทางที่ตลกของเธอ หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
ปาณีนึกถึงคำพูดของไวยาตย์เมื่อคืน : ถ้าหาก
คุณธามนิธิรู้ว่าคุณกลับมาเองดึกๆแบบนี้ เขาจะเป็น
ห่วงนะครับ เธอจึงโกหกไปว่า “เมื่อกี้ไงคะ”
ธามนิธิกระพริบตาปริบๆ มองไปยังปาณี ไม่อยาก จะเชื่อ นี่เธอโกหกเขาอีกแล้วหรอ?
ยัยเด็กหลอกลวง!
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกอารมณ์ไม่ค่อยดี “ตอนนี้เพิ่งจะ 7 โมงเช้า ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูด แสดงว่าเธอต้องตื่น ตั้งแต่เช้ามืดนะสิ”
แม้น้ำเสียงของเขาจะนิ่งเรียบมาก แต่ปาณีก็ สัมผัสได้ว่าคำโกหกของตัวเองถูกเปิดโปงแล้ว
เธอละทิ้งการโต้ตอบ พูดไปตามความจริงด้วย เสียงเบา “ความจริงแล้ว.. หนูกลับมาตั้งแต่เมื่อคืน แล้วค่ะ”
เธอรู้ว่าคุณอาไม่ชอบให้เธอโกหก แต่ในบางครั้ง เธอก็มักจะบังคับสัญชาตญาณของตัวเองไม่ได้
หากคนเรายังมีชีวิตอยู่ แต่โกหกไม่เป็นเลย ถ้า อย่างนั้นจะไม่กลายเป็นคนโง่หรอกหรอ?
ธามนิธิยังคงจ้องหน้าเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “ทำไม ไม่บอกให้ไวยาตย์ไปรับเธอล่วงหน้า?”
ปาณีถึงจ้องจนกระวนกระวายเล็กน้อย “คุณไวยา ตย์ทำงานทุกวันก็ยุ่งอยู่แล้ว แต่เดิมหนูก็อยากกลับวัน นี้แหละ”
แม้ว่าธามนิธิจะให้ไวยาตย์ทำอะไร ไวยาตย์ก็จะ
ไม่บ่นอยู่แล้ว
แต่ด้วยนิสัยของปาณีแล้ว เรื่องที่สามารถทำเอง ได้ เธอจะไม่รบกวนคนอื่นเป็นอันขาด