MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม – ตอนที่ 641-645

ตอนที่ 641-645

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

ตอนที่641
  snow cultureถูกโอนไปเป็นของปาณี ในขณะที่ธามนิธิแค่ถือหุ้นเท่านั้น แน่นอนว่าหลังจากนี้ ถ้าหากเขาต้องการ snow cultureจะต้องทำหน้าที่ให้บริการแก่เขา
  นี่ถือเป็นการร่วมมือกับปาณีในรูปแบบหนึ่ง
  หลังจากเซ็นเสร็จ ไวยาตย์และธีระก็กลับไป ส่วนปาณีนั้นยืนอยู่ข้างหน้าต่าง ธามนิธิเดินเข้าไปหาและจ้องดูเธอ “ดูอะไร?”
  ปาณีเอ่ย“คุณดูสิคะ วันนี้มีดวงดาวมากมายบนท้องฟ้า”
  ธามนิธิมองไปยังท้องฟ้าอย่างอดไม่ได้ “อืม ชอบ”
  ปาณีหันไปมองเขาอย่างอดไม่ได้ ไม่รู้ว่าชอบที่เขาพูดถึงนั้นหมายถึงดวงดาวบนท้องฟ้า หรือว่าตนเอง
  เธอมองเขา “คุณยกsnow cultureให้ฉันแบบนี้ จะดีหรือคะ?”
  “ไม่ดีอย่างไร?”ธามนิธิจ้องเธอ “ถ้าหากเธอไม่มีความสามารถพอแค่ครึ่งปีบริษัทก็เจ้งแน่ ยิ่งไปกว่านั้นเธอจะมาใส่ใจกับบริษัทประเภทนี้หรือ? ”
  “เอ่อ”
  “ที่เธอสนใจมากกว่าเห็นทีคงจะเป็นความสามารถในการทำงาน? หลังจากเธอเรียนจบ เธอไม่สามารถจะทำที่นี่ไปตลอดได้”
  บริษัทนี้ถึงแม้จะทำรายได้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตของปาณีอย่างแน่นอน
  นี่ก็แค่เป็นเพียงขั้นเล็กๆของชีวิตเธอเท่านั้น
  ปาณีมองธามนิธิ รู้สึกสงสัยอยู่บ้าง “อันที่จริงฉันก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าหลังจากนี้จะทำอะไร แค่คิดว่าหาเงินได้ก็พอแล้ว”
  “แบบนี้ไม่ได้”ธามนิธิมองดูเธอ “ไม่ใช่ว่าหาเงินได้แล้วจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ ในเมื่อเธอเป็นภรรยาของฉัน ก็ควรจะมีเป้าหมายระยะยาวที่แน่นอนให้กับตัวเอง มีแค่การสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมใบนี้เท่านั้นเธอถึงจะได้รับการเคารพ”
  ปาณีจ้องมองเขา คำพูดนี้ของเขาทำเอาเธอเซอร์ไพรส์ขึ้นมาเล็กน้อย
  เธอเคยคิดว่า ตนเองนั้นจะต้องการมีเงินเท่านั้นถึงจะสามารถคู่ควรกับเขาขึ้นมา แต่กลับค้นพบว่า ตนเองนั้นยังอยู่ห่างไกลจากระดับชั้นความคิดของผู้ชายคนนี้มากนัก
  ปาณีเอ่ย “ฉันไม่มีเป้าหมายนี่คะ?”
  “ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มคิดเสียตั้งแต่ตอนนี้” ธามนิธิพูด “มีแค่แบบนี้เท่านั้น เธอถึงจะเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น”
  คำพูดของเขา ทำให้ปาณีรู้สึกว่าภายในใจ คล้ายกับถูกเติมเต็มขึ้นมาในพริบตา
  อาจะเป็นเพราะว่า เธอไม่เคยมีเป้าหมายที่แน่ชัดมาโดยตลอด ก็เลยขาดความรู้สึกมั่นคงไป?
  เธอมองธามนิธิที่ดูเคร่งขรึม ก็อดจะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
  ธามนิธิเอ่ย “เธอกำลังหัวเราะอะไร?”
  คำพูดของเขา น่าขำนักหรือ?
  ปาณีเอ่ยตอบ “ฉันก็แค่รู้สึกว่า คุณดูคล้ายกับเป็นคุณครู แถมยังสอนบทเรียนชีวิตให้ฉันอีกด้วย”
  ตอนนี้เธอพอเข้าใจบ้างแล้ว ว่าทำไมธามนิธิที่มีฐานะร่ำรวยกลับยังวิ่งไปเป็นทหาร
  ธามนิธิหันหน้ามา “ทำไมฉันไม่รู้สึกว่าเธอกำลังชมอยู่?”
  พูดอย่างกับว่าเขาคล้ายกับพ่อเธอเสียอย่างนั้น
  ท่าทีภาคภูมิใจของเขาทำให้ปาณีหัวเราะขึ้นมา เธอเอ่ยกับธามนิธิ “ใช่สิ พรุ่งนี้ฉันกลับดึกหน่อยนะคะ มีงานรวมตัวเพื่อนนักเรียน”
  “อืม”ธามนิธิพูด “ดังนั้นตอนนี้คุณหนูปาณีจะนอนได้หรือยังครับ?”
  “ถ้าอย่างนั้นฉันไปอาบน้ำก่อน”ปาณียิ้มและเดินเข้าห้องอาบน้ำไป
  เดิมทีเธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักที่ธามนิธิยกบริษัทให้เธอ แต่พอถูกเขาจุดประกายขึ้นมา จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าตนเองนั้นแบกความคิดจนเป็นภาระหนักเกินไป
  บางครั้งที่อยู่กับคุณอา เธอรู้สึกเบิกบานใจอย่างยิ่ง เป็นเพราะเขานั้นคุ้มครองเธอ ไม่เพียงแค่ทางกายภาพเท่านั้นแต่กลับไปถึงทางด้านจิตใจ
  อยู่ข้างกายเขา เธอได้เรียนรู้อะไรมากมาย เขามักจะชี้นำเธอให้ไปในทางที่ถูกต้องเสมอ

ตอนที่642
  ธามนิธินั่งอยู่บนโซฟา กำลังพลิกหนังสือในมือไปเรื่อยๆ ก็ได้ยินปาณีที่ด้านหนึ่งกำลังอาบน้ำอีกด้านหนึ่งฮัมเพลงไปด้วย
  “…….”
  ดูท่าวันนี้เธอจะอารมณ์ดีอย่างยิ่ง?
  ปาณีอาบน้ำเสร็จก็เช็ดผมเรียบร้อยและออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะชนอ้อมอกของธามนิธิเข้าให้
  เธอลูบจมูกไปมา “คุณอา มายืนทำอะไรตรงนี้คะ?”
  “รอเธอ” ธามนิธิจ้องเธอและยื่นมือออกไปดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน บรรยากาศแปรเปลี่ยนเป็นคลุมเครือขึ้นมาทันใด
  ปาณีเงยหน้าขึ้นและสบตาขึ้นกับเขา เอ่อ จู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ ตนเองใช่ไม่ใช่ว่ากำลังมึนงงไปกับความภาคภูมิใจ?
  -
  ผ่านไปสองชั่วโมง ปาณีที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ขนาดจะร้องไห้ยังร้องไม่ออก
  กลับเป็นธามนิธิที่มีสีหน้าอิ่มเอม “วันนี้ตอนที่เธออาบน้ำร้องเพลงอะไร เพราะดี”
  “…….”ร้องไห้ไม่ออกหน่ะสิ!
  อสูรร้ายตัวนี้!
  ทุกครั้งหลังจากมีความสัมพันธ์กับเขา ปาณีก็มักเกิดแรงกระตุ้นที่จะหนีออกจากบ้านขึ้นมา
  เธอกอดหมอนเอาไว้และโอดโอยกับตัวเอง
  ธามนิธิกุมมือเธอเอาไว้และมองดูยัยตัวเล็กของตนที่เอาแต่นิ่งเงียบ “ทำไมไม่พูดไม่จา?”
  ปาณีเอ่ยเสียงเบา “ไม่อยากพูด คนชั่วร้าย! คนเลว!”
  “ฉันทำไมกัน?”
  ปาณีเอ่ย “ฉันไม่สน ครั้งหน้าถ้าฉันบอกให้หยุด คุณต้องหยุด”
  เป็นภรรยาของเขาจำเป็นต้องพบเจอเรื่องทุกข์ทรมาน
  ปาณีที่อยู่กับเขา ทำแต่ละครั้งก็ทรมานทุกครั้ง
  ทรมานแบบประเภทที่พอหลังเสร็จกิจ ผ่านไปสองวันนึกถึงมันขึ้นมา ขาของเธอก็ยังอ่อนขึ้นมาได้เทือกๆนั้น
  ธามนิธิกอดเธอเอาไว้ แผ่นหลังของเธอแนบสนิทกับหน้าอกของเขา เขายื่นมือออกมาแตะที่หัวไหล่ของเธอ ดวงตาของเขาเปร่งประกายล้ำลึก “ฉันจะช่วยเธอจ้างโค้ชฟิตเนสมาให้”
  ภรรยาของเขาเรี่ยวแรงแย่นัก เธอจะต้องช่วยเธอคิดหาหนทางสักหน่อย
  ปาณี “……”
  ทำไมเธอถึงรู้สึกว่า ตอนที่เขาเอ่ยเรื่องออกกำลังกายขึ้นมาในใจเขาดูออกจะไม่ค่อยใสสะอาดเท่าไหร่?
  แน่ใจนะว่าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเขาอยากจะรังแกเธอบนเตียงได้ดียิ่งขึ้นหน่ะ?
  “โค้ชฟิตเนสอะไร ฉันไม่เอา”
  “อ่อ”ธามนิธิเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นทีหลังอยู่บนเตียงก็อย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้วกัน”
  “……”
  ปาณีเอ่ย “เห็นอยู่ว่าคุณเป็นคนผิด ทำไมกลายมาเป็นฉันที่มีปัญหาได้คะ? แถมยังจะมาหาโค้ชให้ฉันอีก ฉันมีเวลาที่ไหนไปให้?”
  ทุกวันทำงานยุ่ง เธอจะไปมีเวลาทำเรื่องพวกนี้ได้ยังไง?
  ปาณีจ้องมองเธอ “ฉันไม่ถือสาที่จะจ้างผู้ช่วยอีกสักคนมาจัดการเวลาให้เธอ”
  ไม่มีเวลาออกกำลังกายอะไรกัน ดูท่าแล้วคงไม่พ้นเป็นข้ออ้างของเธอแน่
  เพียงแค่เวลาทั้งหมดนั้นถูกใช้ไปเพื่อเล่นมือถือและแวดวงโซเชียลของเธอซะหมดก็เท่านั้น
  ปาณีเหลือบมองเขา “ไม่ต้องหรอกค่ะ”
  “ทำไม?”
  “แบบนั้น ไม่ใช่ว่าฉันก็ถูกคุณจับจ้องเอาทุกวันหรือคะ?”ถ้าหากมีผู้ช่วยขึ้นมาจริง เห็นทีกระทั่งเวลาอิสระของเธอก็ไม่มีอีกต่อไป ปาณีไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้น เธอเอ่ย “ฉันจะหาเวลาไป”
  ก็แค่หาเวลาไปออกกำลังกายไม่ใช่หรือ?
  เธอทำเองได้
  ธามนิธิพยักหน้ารับ “แบบนั้นก็ดี”
  ถ้าหากเขาอยากให้เธอทำไร ไม่มีทางไม่สำเร็จ
  หนทางของคุณธามนิธินั้นมีมากมายมหาศาล
  แค่พูดขึ้นลอยๆว่าจะหาเลขามาให้เธอ เธอก็รีบเชื่อฟังหาเวลาไปออกกำลังกายได้แล้ว
  เช้าวันรุ่งขึ้น ปาณีออกจากบ้านอย่างรีบร้อนและให้คนขับรถไปส่งตนเอง เธอเพิ่งจะเดินออกมา ธามนิธิก็ตามมาติดๆ “รอก่อน”
  “…..”ปาณีมองดูธามนิธิ เห็นเขาส่งอาหารเช้ามาให้เธอ “ทำไมไม่ทานอาหารเช้า?”
  “วันนี้ฉันไม่ทันแล้วค่ะ ต้องไปแล้ว”ปาณีเอื้อมไปรับอาหารอย่างเร่งรีบและเอ่ย “วันนี้ที่มหาลัยตอนบ่ายมีงานนิดหน่อย ฉันต้องรีบไป”

ตอนที่643
  เป็นเพราะเขา เมื่อคืนเธอถึงนอนดึกๆดื่นๆ วันนี้ก็เลยตื่นสายขนาดนี้
  ธามนิธิจับมือเธอเอาไว้และช่วยเธอจัดปกคอ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างช้าๆ “ตอนบ่ายเธอจะไปงานรวมตัวของเพื่อนนักเรียนหรือ?”
  “ค่ะ”
  “กลับมาประมาณกี่โมง?”
  ปาณีคิดๆ “ประมาณทุ่มนึงน่าจะเสร็จแล้วนะคะ”
  “ถ้าอย่างนั้นเธอไปถึงแล้ว ส่งสถานที่มาให้ฉัน ทุ่มนึงฉันไปรับเธอ”
  “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับมาเองได้”ถ้าหากธามนิธิไปรับเธอแล้วถูกเพื่อนๆเห็นเข้า ปาณีคิดภาพสถานการณ์ตอนนั้นไม่ออก
  ที่สำคัญคือตอนนี้คนชอบพูดลับหลังเธอมากนัก ปาณีเคยชินกับการทำตัวลีบๆไม่โดดเด่นสักหน่อย
  ธามนิธิกอดเธอและจูบลงที่ข้างหู “ไม่เป็นไร ฉันอยากไปรับเธอ”
  “โอเคค่ะ ฉันไปไม่ทันแล้วจริงๆ”ไม่ทันระวังก็มัวแต่คุยอยู่กับเขา ปาณีรู้สึกไม่พอใจ เธอรีบแทบแย่อยู่แล้วแต่เขายังคงใจเย็น เธอจะสายแล้วนะ!
  ธามนิธิยังคงไม่ปล่อยให้เธอไป “จูบก่อน ฉันถึงปล่อยเธอไป”
  “……..”ปาณีมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ “คุณนี่มันจริงๆเลย!”
  คนขับรถ คนสวย แถมยังมีคุณน้า เขากลับยังจะให้เธอจูบเขา
  “อย่างนั้นเธอไม่ไปเรียนแล้วหรือไง?”ธามนิธิไม่รีบร้อนแลยแม้แต่น้อย
  ปาณีสูดหายใจเข้าอย่างแรง เห็นว่าไม่ทันการแล้ว จึงเขย่งเท้าขึ้นและหลับตาลง ก่อนจะจูบเข้าไปที่แก้มของเขาหนึ่งที การกระทำเล็กๆน้อยๆนี่ทำเอาใบหน้าของเธอแดงก่ำ
  แค่คิดว่าอาจจะมีคนไม่น้อยกำลังมองดูอยู่ เธอก็รู้สึกอายจะแย่แล้ว
  ธามนิธิกลับคล้ายว่าพึงพอใจอย่างมาก “ระวังตัวด้วย”
  น้ำเสียงของเขาไม่ดังไม่เบา พอที่จะให้คนรอบข้างได้ยิน
  ทุกคนกำลังมองดูสองสามีภรรยา ช่างมีความสุขอะไรเยี่ยงนี่! ทำเอาคนที่มองดูคิดอยากจะกลับบ้านไปอี๋อ๋อกับหวานใจซะเดี๋ยวนี้เลย
  น้าลำมุงที่อายุห้าสิบกว่าปีคนนี้ แถมลูกสาวยังอายุมากกว่าปาณี พอเห็นฉากนี้เข้าก็ยังอดไม่ได้ที่จะแอบมองดูปาณี
  ก็แค่ชอบมองพวกเขาที่สวีทหวานเวลาอยู่ด้วยกันก็แค่นั้น
  ปาณีนั่งอยู่บนรถ กำลังใช้หลอดดูดนมที่ธามนิธิส่งมาให้ เธอหันกลับไปมองที่ประตูบ้านรอบหนึ่ง ก็พบว่าธามนิธิยังคงยืนอยู่ตรงนั้นมองดูเธอ ในสายตาราวกับมีเงาของเธอสะท้อนออกมา
  ในวินาทีนั้นเอง ความรู้สึกแห่งความสุขก็ปริ่มล้นออกมารอบตัวเธอ
  ตอนบ่าย หลังจากปาณีออกมาจากชมรม เธอมองเห็นเวทัสที่กำลังยืนอยู่และนิ่งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
  ตั้งแต่ที่บ้านตัดสินใจให้เวทัสไปเมืองนอก เขาก็หายตัวไปนานมาก ไม่รู้ว่าไปทำอะไรกันแน่
  เวทัสจ้องดูปาณี ในตากลับไม่ดูเย็นชาเหมือนในยามปกติ เขาเอ่ยปากขึ้น “คุยกันหน่อยเป็นไง?”
  ปาณีเดินเข้าไป “อยากจะพูดอะไร?”
  เห็นท่าทีที่ดูสงบของเขาแบบนี้ คงจะใจเย็นลงมาแล้ว
  เวทัสจ้องมองปาณี ไม่กี่วันมานี้เธอดูไม่เลวคล้ายว่ามีความสุขอย่างยิ่ง เทียบกับท่าทีไม่มีความสุขในช่วงที่ยังไม่ได้หย่าตอนนั้นก็คล้ายว่าจะมีความสุขกว่ามาก
  มุมปากของเขายกขึ้นมาและเอ่ย “ดูท่าอยู่กับคุณน้าเธอมีความสุขเป็นอย่างมากจริงๆ”
  ปาณีเคลื่อนสายตาออกและจ้องมองไปทางอื่น ก่อนจะเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวโดยมีเวทัสตามขึ้นมา
  ปาณีเอ่ย “อยู่กับคนที่ชอบ แน่นอนว่ามีความสุขเป็นอย่างมาก”
  “ฉันตัดสินใจไปต่างประเทศแล้ว หลังจากนี้จะไม่มาปรากฏตัวให้เธอรำคาญแบบตอนนี้ใจอีก”น้ำเสียงของเขาฟังคล้ายกำลังเยาะเย้ยตัวเองอยู่บ้าง
  ปาณีเหลือบมองดูเขา “okpก็รู้ดีแก่ใจ ว่าทุกคนปรารถนาดีกับนายทั้งนั้น ไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร เด็กนักเรียนมอปลายหลายคนก็ออกไปต่างประเทศทั้งกันทั้งนั้น หรือว่านายกลัว?”
  ปาณีรู้ดีตั้งแต่เมื่อก่อน ว่าตนเองกับเวทัสนั้นแตกต่างกันเกินไป การออกไปต่างประเทศสำหรับเธอแล้วคือเรื่องที่ห่างไกลออกไปมากนัก แต่สำหรับเขาแล้วกลับง่ายดายเหมือนปอกกล้วย

ตอนที่644
  เวทัสมองดูปาณี “ฉันรู้ว่าพวกเขาหวังดีกับฉัน แล้วเธอหล่ะ? เธออยากให้ฉันไปต่างประเทศ ก็เพราะหวังดีกับฉันเหมือนกันหรือไง?”
  “…….”ปาณีเอ่ย “นายอยากให้ฉันตอบนายยังไง? พูดจริงหรือโกหก?”
  เวทัสนิ่งไป “เรื่องจริง”
  ปาณีเอ่ยตอบ “ถ้าอย่างนั้นก็เพราะฉันมองนายแล้วไม่สบายตา ก็เลยหวังให้นายอยู่ไกลออกไปอีกหน่อย ไม่ต้องมารบกวนฉันกับคุณอา”
  รู้ดีแก่ใจว่าเธอเป็นผู้หญิงใจดำ แต่พอมาได้ยินสิ่งที่ปาณีพูดในตอนนี้ เวทัสก็ยังรู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อย
  “คำโกหกหล่ะ?”เวทัสเอ่ยถาม
  เขาคิดว่า ฟังปาณีพูดโกหกหลอกลวงเขาก็ดีเช่นกัน
  “คำโกหก?”ปาณีนิ่งคิดและเอ่ย “แน่นอนว่าหวังว่าเธอจะสามารถเรียนรู้อะไรจากการไปต่างประเทศได้บ้าง เปลี่ยนเป็นคนที่ได้เรื่องได้ราว ตลอดทั้งชีวิตคนเรา ความรักไม่ใช่ทุกสิ่งอย่าง รอให้นายอายุสาม…ไม่สิ บางทีพอถึงยี่สิบห้า นายอาจจะรู้สึกขึ้นมาว่าปาณีก็แค่ผีสาง ตอนนี้นายวางไม่ลง ก็เป็นเพราะในตาของนายมีใบไม้ใบหนึ่งบังมันอยู่ ทำให้มองไม่เห็นป่ากว้าง เวทัส นายรู้ไหมว่าทำไมเมื่อก่อนฉันถึงชอบนาย?”
  “……”เวทัสนิ่งไป
  ปาณีเอ่นย “เป็นเพราะฉันรู้สึกว่า นายเข้าใจอะไรมากมาย นายบอกว่านายชอบดาราศาสตร์ นายชอบจักรวาล นายมักจะแบ่งปันเรื่องที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนให้ฉันอยู่เสมอๆ นายไม่เหมือนฉัน นายไม่รู้ว่าที่ฉันขยันเข้าเรียนที่จริงเป็นเพราะรางวัลเงินสดที่มหาลัยมีให้ นี่คือสื่งที่เราไม่เหมือนกัน แต่ในตอนนี้ เป็นเพราะฉัน นายถึงได้แปรเปลี่ยนไปจนไม่สมกับที่เป็นนาย”
  ปาณีไม่ได้พูดจนออกจากก้นบึ้งหัวใจกับเขามานานมากแล้ว
  ตั้งแต่ที่พวกเขามีติรยาแทรกเข้ามาและบาดหมางกัน คนที่สองคนที่เคยสนใจอะไรเหมือนๆกัน ก็ค่อยๆห่างไกลกันออกไปอย่างช้าๆ
  ที่จริงพอคิดๆแล้ว เขาผิดอะไรหรือ?
  มันก็เป็นเพียงเพราะพวกเขายังเด็กเกินไป รักกันไม่ล้ำลึกพอก็เท่านั้น
  รักอีกฝ่ายเทียบไม่ได้กับรักโลกใบนี้
  ตอนนี้ปาณีเรียนรู้ที่จะรักคนๆหนึ่งแล้ว เพียงแต่คนที่เธอรักนั้นไม่ใช่เวทัสอีกต่อไป
  แต่เธอเชื่อมั่นว่าจะต้องมีสักวันหนึ่งที่เวทัสจะคิดได้ทะลุปรุโปร่งและเข้าใจมัน
  เวทัสฟังคำพูดโกหกของปาณี ดวงตาเคลื่อนไหวไปมา คำพูดโกหกของเธอเทียบกับคำพูดจริงแล้วกลับกระทบใจคนมากกว่ามาก
  เวทัสกำลังมองดูเธอ มีลมพัดผ่านมาทำให้ผมสาวของเธอปลิวสยาย
  น้ำเสียงของเขาอ่อนนุ่มอย่างยิ่ง “ที่แท้เธอก็เป็นจอมหลอกลวง พูดโกหกได้เป็นฉากๆ”
  ปาณีเลิกคิ้วและเตรียมจะเดินจากไป เวทัสคว้าข้อมือเธอเอาไว้และหมุนเธอกลับมา ปาณียังไม่ทันได้ตอบโต้กลับ จู่ก็มีจูบประทับลงมาบนแก้มของเธอ
  โลกใบนี้เงียบสนิทลงทันใด ราวกับว่าเธอนั้นได้ยินเสียงใบไม้ร่วงหล่น
  ปาณีนิ่งไปชั่วครู่ ตอนที่มีสติกลับมา ใบหน้าขาวๆของเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำเพราะความโมโหขึ้นมาทันใด
  เธอยกมือขึ้นมาโดยสัญชาตญาณแล้วตบลงบนหน้าเขา
  เสียง“ เพี๊ยะ”ดังขึ้น พร้อมๆกับใบหน้าของเวทัสที่หันเอนไป
  เขางุงงงไปชั่วครู่ ก่อนจะหันหน้ากลับมามองปาณีและค้นพบว่านัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธหลังจากถูกทำให้อับอาย “ฉันดูนายผิดไปจริงๆ!”
  ไม่กี่วิก่อนหน้านี้เธอยังแก้ตัวแทนเขา บอกว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร วินาทีถัดมา ปาณีก็ถูกทำให้โกรธจนแทบบ้า อยากจะเอาคำพูดที่คิดในใจว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดย้อนคืนกลับมา
  มองดูเธอที่กำลังโกรธ เวทัสกลับหัวเราะขึ้นมา
  ปาณีโกรธจนแทบบ้า แม้กระทั่งเอ่ยพูดยังสั่นเทา “นายนี่มันบ้าจริงๆ!”
  พูดจบเธอก็หยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาและรีบวิ่งออกไป เวทัสจ้องมองดูแผ่นหลังของเธอที่จากไปด้วยแววตาจริงจังอย่างยิ่ง ก่อนจะเอ่ยกับตัวเองในใจ ‘ปาณี รอฉันกลับมา’

ตอนที่645
  จะต้องมีสักวัน ที่เขาจะเปลี่ยนเป็นคนที่เปล่งประกายมากกว่าคุณน้า ทำให้เธอมองเห็นเขาขึ้นมา
  และไม่เหมือนตอนนี้ที่คุณน้าไม่ต้องทำอะไรก็สามารถยึดครองตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในใจเธอไปได้
  โมรียืนอยู่ออกไม่ไกล กำลังมองดูฉากนี้อยู่ รวมถึงภาพที่เวทัสจูบลงบนหน้าปาณีด้วยเช่นกัน
  เธอรู้มาตลอดว่าเวทัสชื่นชอบปาณี แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะชอบเธอขนาดนี้ แม้กระทั่งเกิดเรื่องขึ้นมากมาย กระทั่งถูกปาณีทำให้ต้องเจ็บปวด เขาก็ยังไม่ยอมแพ้
  เห็นๆอยู่ว่าสองวันก่อนยังเศร้าเสียใจเรื่องของปาณี รู้ว่าเขาจะไปต่างประเทศ ปาณีก็ไม่ได้ใส่ใจเขาแต่อย่างใก แต่เขาก็ชอบเธอ ชอบผู้หญิงคนนั้นไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา คนที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดใจ
  -
  ปาณีนั่งอยู่ที่โต๊ะและจ้องดูแก้วน้ำตรงหน้า ในขณะที่กำลังคิดไปถึงเรื่องที่เวทัสจูบเธอ ถึงแม้จะเป็นแค่ที่แก้ม แต่เธอก็รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
  คลื่นไส้!
  เธอคิดว่าเขาไม่ได้มีความคิดร้ายกาจอะไรขั้นนั้น แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้กับเธอในมหาลัย
  แค่คิดถึงมันขึ้นมา ปาณีก็รู้สึกไม่สบายใจ
  ถ้าหากถูกคนเห็นเข้า จะทำยังไง?
  ที่สำคัญคือ เรื่องนี้ถ้าหากไปถึงหูคุณอาเข้า……
  ปาณีไม่อยากจะคิดภาพ
  “ปาณี”เนื่องจากเป็นงานรวมตัว คนมาร่วมงานจึงไม่น้อย พวกเขากินหม้อไฟกัน มีคนเห็นว่าปาณีไม่พูดไม่จาถึงเอ่ยเรียกเธอ “เวทัสไม่มาหรือ?”
  เวทัสสองคำนี้ ทำเอาคิ้วปาณีขมวดขึ้นมา “ฉันไม่รู้”
  “ทำไมถึงไม่รู้ พวกเธอสามคนไม่ใช่มาจากโรงเรียนเดียวกันหรือไง? แถมเมื่อก่อนพวกเธอก็สนิทกันจะตาย”
  สามคน ก็คือปาณี เวทัส แล้วยังมีติรยา
  ในห้องมีพวกเขาสามคนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยชยุต ที่จริงสอบได้ไม่เลว อีกไม่น้อยก็ไปสอบเข้ายังเมืองอื่นๆ
  คิ้วของปาณีขมวดขึ้น ไม่รู้ว่าตนเองสมควรตอบอย่างไร
  มีคนเอ่ยขึ้น “ฉันได้ยินมาว่า ที่บ้านของติรยาล้มละลายแล้ว ไม่รู้ว่าจริงไหม?”
  ปาณีดื่มน้ำต่อไป ในตอนนี้เธอขี้เกียจจะไปใส่ใจเรื่องของติรยา
  เห็นว่าปาณีไม่เอ่ยถึงติรยาเลยสักนิด จึงมีเพื่อนนักเรียนที่ไม่ได้มาเมื่อครั้งที่แล้วเอ่ยถามเธอขึ้น “เมื่อก่อนได้ยินว่า ติรยาเป็นมือที่สามแย่งเวทัสไป เห็นทีคงจะจริงสินะ? ไม่อย่างนั้นพวกเธอทั้งสามคนสนิทกันขนาดนั้น ทำไมถึงไม่ไปมาหาสู่กันแล้วหล่ะ?”
  ปาณีจ้องดูคนเหล่านี้ ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมคนพวกนี้ถึงขี้นินทานัก
  ระหว่างนั้นก็มีนักเรียนที่เพิ่งจะเข้าร่วมเมื่อครั้งที่แล้ว เอ่ยหัวเราะขึ้นมา “ได้ยินว่าปาณีตอนนี้แต่งงานแล้ว! แถมแต่งงานให้กับคนแก่นั่งรถเข็นอีกด้วย คงจะเลิกกับเวทัสแน่นอนแล้วหล่ะ!”
  ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวเก่าก่อนทั้งนั้น ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงยังมีคนขุดขึ้นมาพูดได้อยู่อีก
  ไม่ใช่ว่าตอนนี้สมควรจะพูดเรื่องที่เธอกับคุณอาหย่ากันหรอกหรือ?
  ปาณีจ้องมองพวกเขา ไม่เข้าใจว่าทำไมคนพวกนี้ถึงเอาแต่พูดถึงเธอ ไม่สามารถพูดถึงคนอื่นได้หรือไง?
  ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาคล้ายกับว่าการถกเถียงกันเรื่องเธอไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร แถมยังอยากให้เธอยืนยันบางเรื่องให้อีกเสียด้วยซ้ำ
  “ไม่พูดไม่ได้ รู้สึกว่าปาณีช่วงนี้จะสวยกว่าเมื่อก่อนอีกนะ เสื้อผ้าที่ใส่ยิ่งอยู่ยิ่งมีราคา”
  ปาณีในตอนนี้รู้สึกว่าตนเองในสายตาของพวกเขาไม่ต่างจากเป็นแพนด้าตัวใหญ่ที่กำลังถูกคนจ้องมองอยู่ในสวนสัตว์
  “ยังไงซะก็แต่งให้กับคนแก่ที่มีเงิน ช่างน่าเสียดาย”
  “ปาณี สามีเธอลุกไม่ได้ แล้วด้านนั้นหน่ะไม่มีปัญหาหรือไง? ฉันได้ยินมาว่าด้านนั้นของเขาก็ใช้การไม่ได้ แปลว่ายังไม่เคยแตะต้องเธอเลยหน่ะสิใช่ไหม?”
  ใครบอกกับเธอกันว่าสามีฉันตรงนั้นมีปัญหา?
  เมื่อคืนเธอถูกพลิกตัวไปมาจนต้องร้องขอชีวิต ปาณีที่วันนี้ขายังอ่อนปวกเปียกแทบอยากจะปล่อยโฮใส่ฝ่ายตรงข้าม

MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม

MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม

Status: Ongoing

เผชิญกับความบีบบังคับของครอบครัว การทรยศของเพื่อน สนิท และการบอกเลิกของแฟน ปาณีเลยเลือกแต่งงานกับธา มนิธิ ผู้ชายที่ทั้งแก่ทั้งพิการจากนั้นไป เขาเป็นที่พึ่งของเธอ เธอเป็นผู้รักษาจิตใจอันโดนทำลายของเขา…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท