ตอนที่881สับสนอลหม่าน
ธามนิธิค่อยๆบรรจงจุมพิต พร้อมกับดูดกลืนหยดน้ำตาที่ร่วงหล่นอาบแก้มของเธอ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ชายหนุ่มโอบกอดเธอเอาไว้เเน่น ” ปาณี !ในที่สุดฉันก็หาเธอจนเจอ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา กว่าฉันจะผ่านมันไปได้ในเเต่วัน มันช่างเเสนลำบากยากเย็น !เธอรู้มั๊ยว่าทุกๆนาที ทุกๆวินาที ที่ไม่มีเธอ ฉันต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหน …… ”
ปาณีสะอื้นสะอื้นซุกตัวอยู่ในอ้อมเเขนของธามนิธิ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยหยดน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นจนปริ่มขอบตา พร้อมที่จะไหลรินลงอาบสองแก้ม หญิงสาวพูดพลางสะอื้นไห้ ” แต่ว่าคุณ คุณไม่ต้องการฉัน …… ”
เมื่อนึกไปถึงตอนที่ตัวเองถูกบีบบังคับให้ต้องหย่า ปาณีก็ยิ่งรู้สึกแย่ลงไปอีก มันแย่เสียยิ่งกว่าตอนที่ได้เห็นข้อตกลงการหย่าซะอีก !
เเต่เมื่อเธอได้อยู่ในอ้อมกอดของคุณอาอีกครั้ง ได้สัมผัสน้ำเสียงเเละลมหายใจของชายผู้เป็นที่รัก ปาณีก็จำต้องยอมใจอ่อนเพราะว่าเธอคิดถึงคุณอามากเหลือเกิน เธอได้แต่คิดถึงทุกๆนาทีที่ได้อยู่กับเขา เเละแทบจะรอที่จะแบ่งปันความสุขเเละความปีติยินดีในการตั้งครรภ์ของเธอร่วมกับเขาไม่ไหว
ทันใดนั้นเอง อยู่ดีๆปาณีก็ผลักธามนิธิออกจากตัวเธออย่างไว โดยไม่แยแสสายตาอันไม่สบอารมณ์ของธามนิธิเลยเเม้เเต่น้อย เธอบรรจงลูบไปที่ท้องของเธอเบาๆ พร้อมกับพูดพึมพำกับตัวเองด้วยความกังวล ” เมื่อกี้ฉันรีบวิ่งไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ ไม่รู้จะกระทบกระเทือนถึงลูกหรือเปล่า ?”
เมื่อธามนิธิได้เห็นเธอเริ่มสำรวจตัวเองแบบนั้น ก็ทำให้เขานึกถึงเรื่องที่เธอกำลังตั้งท้องขึ้นมาได้ ชายหนุ่มถึงกับออกอาการกังวลจนหน้าซีดเผือก ก่อนจะเข้าไปประคองกอดเธอเเล้วพากันเดินออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตไป
เวทัสได้เห็นดังนั้นก็พยายามจะเดินเข้าไปหา เเต่กลับถูกไวยาตย์มาขวางเอาไว้เสียก่อน ” คุณชายเวทัส ผมคิดว่าคุณควรไปดูอาการของคุณแม่เเละคุณยายของคุณ ที่โรงพยาบาลกับผมจะดีกว่าครับ ”
เวทัสยืนนิ่งชะงักงัน จากนั้นเมื่อได้เห็นเบื้องหลังของน้าชายที่เลือนลับหายไปต่อหน้า พลันกำปั้นของเขาก็กำหมัดจนเเน่นด้วยความคับแค้นที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจ เเต่สุดท้ายเขาก็เดินจากไปพร้อมกับไวยาตย์อย่างไม่เต็มใจนัก
ทานด้านของธามนิธิ ซึ่งกำลังประคองกอดปาณีเดินไปยังรถที่จอดอยู่ ปาณีซุกกายอยู่ในอ้อมกอดของเขา หูพลางแนบชิดกับอกแกร่งกำยำ ฟังเสียงหัวใจของชายหนุ่มที่กำลังเต้น ” ตึกตักๆ “เมื่อสัมผัสไออุ่นกรุ่นร้อนจากกายของเขา ทำให้ความกังวลเมื่อสักครู่พลันหายไปเป็นปลิดทิ้ง หลงเหลือไว้แค่เพียงความรู้สึกอบอุ่นสบายใจ !
หลังจากประคองเธอไปยังที่นั่งเบาะหลังเรียบร้อย ธามนิธิก็ขึ้นไปประจำตำเเหน่งคนขับ ก่อนจะขับรถออกไปด้วยท่าทางอันขุ่นมัว ปาณีเห็นสีหน้าท่าทางของธามนิธิที่ดูเย็นชา บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก เธอจึงแอบชำเลืองมองดูเขาอยู่บ่อยๆ เเล้วเมื่อได้เห็นเขาเม้มริมฝีปากแน่นทำท่าทางเคร่งขรึมแบบนั้น มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นทุกที
เเต่ทว่าธามนิธินั้นกำลังจมดิ่งลงไปในห้วงแห่งความรู้สึกผิด เขาคิดแต่ตำหนิและโทษตัวเองว่าเขามันแย่ไม่เอาไหน สมควรตายๆไปซะ ทั้งๆที่ปาณีกำลังเผชิญกับช่วงวิกฤติในการตั้งท้องแท้ๆ แต่เขากลับมาพูดเรื่องหย่า !ไม่รู้ว่าป่านนี้การกระทำเลวๆของเขา ได้ทำร้ายเธอเเละลูกในท้องไปถึงไหนต่อไหนเเล้ว !
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ เขาก็อยากตบหัวตัวเองเเรงๆอีกสักฉาดสองฉาดเสียจริงๆ ไม่ใช่สิ ต้องให้ปาณีตบเขาถึงจะถูก !
จากนั้นไม่นานรถก็เเล่นมาถึงจุดหมาย ปาณีมองออกไปยังนอกหน้าต่างรถก็ได้เห็นว่านั่นคือโรงพยาบาลของชลิต ปาณีก็ถึงกับงงว่ามาที่นี่ทำไม ธามนิธิจอดรถเเละลงมาประคองกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน จากนั้นจึงพาเธอเดินมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลอย่างทะนุถนอม
เมื่อได้รับการประคบประหงมดูเเลแบบนี้ ทำเอาปาณีตกตะลึงไปชั่วขณะ ในใจก็พลันคิดว่า ” เมื่อสักครู่นี้ คุณอายังดูอารมณ์ไม่ดีอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ?เเล้วตอนนี้กลับมาเป็นแบบนี้ไปได้ นี่มันยังไงกันนะ ?”
ภายใต้ความวิตกกังวลที่อยู่ในใจ ปาณีเผลอเลียริมฝีปากตัวเองด้วยความกังวล ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า ” เอ่อ นี่มัน …… ”
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ จู่ๆธามนิธิก็ชำเลืองมองที่เธอ ในตอนนั้นเอง คำพูดที่ติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ พลันถูกกลืนกลับลงคอไปในทันทีทันใด
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ธามนิธิมุ่งตรงไปหาชลิตอย่างชำนาญทาง ขลิตเห็นทั้งคู่เดินเข้ามาก็ถึงกับถลึงตาด้วยความประหลาดใจ หูฟังแพทย์ในมือเขาถึงกับร่วงพื้นอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยทีเดียว
” นี่ พวกเธอ ?” ชลิตเอ่ยปากถาม
ยังไม่ทันที่ประโยคคำถามจะเอื้อนเอ่ยออกจากปากของชลิต ธามนิธิก็รีบตะโกนออกไปด้วยความร้อนใจเสียก่อน”มัวแต่ชักช้าร่ำไรอยู่ทำไมรีบมาช่วยตรวจดูอาการของปาณีหน่อย ลูกในท้องของเธอ …… ”
ชลิตไม่ถือสาท่าทางอันไร้มารยาทของธามนิธิ ส่วนปาณีก็หน้าแดงระเรื่อๆนั่งอยู่ตรงนั้น สัมผัสอันอุ่นร้อนจากสองมือที่เกาะกุมอยู่ตรงเอวของเธอ ส่งผ่านต่อมายังร่างกายอันบอบบางของหญิงสาว มิหนำซ้ำยังส่งผ่านขึ้นมาถึงใบหน้าของเธอ ซึ่งบัดนี้ใบหน้าเธอเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ดูน่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด
ธามนิธิมองดูชลิตตรวจอาการของปาณี เเล้วจู่ๆเขาก็พูดเสียงเรียบนิ่งขึ้นมา ” หน้าเธอแดงๆนะ ไม่รู้ว่ามีไข้หรือเปล่า ?”
ชลิตเองก็เห็นเป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน เขายื่นมือออกไปแตะที่หน้าผากของปาณี เเต่ก็ไม่รู้สึกถึงความอุ่นร้อนที่หลังมือของเขา จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วจึงทำการตรวจต่อไป
ตลอดการตรวจชุดใหญ่ในวันนี้ ธามนิธิทำตัวเหมือนเขาไท่ซานก็ไม่ปาน ที่คอยดูเเลอยู่เป็นเพื่อนปาณีตลอดการตรวจ ทำให้เธอต้องถูกสายตาของผู้คนมากมายจับจ้อง อีกทั้งยังถูกมองด้วยสายตาแห่งความอิจฉาริษยาจากผู้คนที่ได้เห็นเธออีกด้วย
แต่เธอเองกลับไม่รู้สึกอะไรเลยแม้เเต่น้อย เพราะสิ่งเดียวที่ทำให้เธอกังวลใจที่สุดในตอนนี้ ก็คือลูกน้อยๆในท้องของเธอต่างหาก เธอกังวลว่าลูกจะเเข็งเเรงดีหรือไม่ จะปลอดภัยดีหรือเปล่า !
ดังนั้น ตลอดการตรวจของหมอชลิตในวันนี้ ปาณีจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีการต่อต้านขัดขืนใดๆทั้งสิ้น ขนาดธามนิธิยังอดประหลาดใจไม่ได้เลย
ระหว่างที่ชลิตกำลังรอผลการตรวจอยู่นั้น เขาก็เริ่มซักถามถึงอาการทั่วไปในช่วงนี้ของปาณี ” อาการเเพ้ท้องเป็นอย่างไรบ้างครับ เเพ้หนักหรือเปล่า ?อีกอย่าง ท้องของคุณมีอาการผิดปกติอะไรบ้างหรือเปล่าครับ ?”
ปาณีตอบเขากลับไปด้วยความสัตย์จริงทุกประการ ” แพ้หนักมากเลยค่ะ !เวียนหัวคลื่นไส้อาเจียน ทุกครั้งที่อ้วกเหมือนจะพาเอาตับกับถุงน้ำดีอ้วกออกมาด้วยเลยค่ะ !กินอะไรเข้าไป ก็อาเจียนออกมาหมด !”
เมื่อได้ฟังที่ปาณีตอบหมอไปแบบนั้น แววตาของธามนิธิกลับเต็มไปด้วยความตระหนกตกใจ กระอักกระอ่วน ยิ่งไปกว่านั้นก็คือความรู้สึกผิด !
ตัวเขาเองเป็นสามีของปาณีแท้ๆ เเต่ในวันที่เธอต้องเผชิญกับช่วงเวลาอันเลวร้ายที่สุด เขากลับทอดทิ้งเธออย่างไม่ใยดี ทำให้เธอต้องทุกข์ทรมานอยู่เพียงลำพัง เขามันสมควรตายจริงๆ !
ชลิตรีบหันกลับไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ก่อนจะพูดกับปาณีว่า ” เดี๋ยวรอผลตรวจออกมาเเล้ว ผมจะอธิบายให้คุณฟังแบบละเอียดอีกที ว่ามีอะไรที่คุณต้องระมัดระวังและใส่ใจเป็นพิเศษ !”
พูดจบหมอก็ส่งสัญญาณให้พวกเขา เชิงว่าขอตัวออกไปก่อน ธามนิธิรีบตะโกนตามออกไปด้วยความไม่พอใจ ” ปาณีแพ้ท้องหนักมากไม่ใช่รึไง ?เป็นหมอแท้ๆ ไม่มีวิธีการจัดการอะไรบ้างเลยรึไงกัน ?นี่แกได้ใบประกอบวิชาชีพหมอมาได้ยังไงกันวะ ?”
ชลิตส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้คนที่กำลังมีท่าทางร้อนใจอย่างหนัก ก่อนจะพูดสวนกลับไปว่า ” ใบประกอบวิชาชีพแพทย์ของฉันจะได้มายังไง มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเงินของนายเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว !ถ้านายไม่เชื่อฉัน นายก็ลองไปหาหมออื่นดูก็ได้นะ !”
” นายนี่มัน …… ” ธามนิธิตะโกนด้วยความไม่พอใจ
ชลิตยิ้มกริ่มอย่างชอบอกชอบใจ จากนั้นจึงเหลือบไปมองที่ปาณีแวบหนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูคลุมเครือ ” ฉันทำไมเหรอ ?อย่างน้อยๆฉันก็ไม่เหมือนใครบางคนที่ขอหย่ากับเมีย ทั้งๆที่เมียกำลังอยู่ในสภาวะหนักหน่วงย่ำแย่แบบนั้นหรอก ”
ทันทีที่ประโยคนั้นหลุดออกมาจากของชลิต เขาก็เห็นธามนิธิที่จู่ๆกลับหยุดชะงักไป เเละหันไปมองที่ปาณีด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก ร้อนอกร้อนใจ ชลิตรู้สึกสะใจไม่น้อยที่เห็นเขาเป็นแบบนั้น เเต่เขาก็ไม่ได้ถือสาโกรธเคืองในความไร้มารยาทของธามนิธิ เพราะเขาเองก็สนิทสนมกันดีกับบ้านวิสิทธิ์เวชอยู่เเล้ว
ทันใดนั้นเอง ธามนิธิก็สังเกตเห็นว่าปาณียืนนิ่งเหมือนถูกสาปอยู่ตรงนั้น อีกทั้งสีหน้าของเธอยังดูไม่ค่อยปกติอีกด้วย !
เขารีบเดินพุ่งเข้าไปหาเธอ ” ปาณี !ปาณี !เธอเป็นอะไรไป ?เธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ?ใจเย็นๆนะ ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละ !”
เมื่อพูดจบ เขาก็เตรียมประคองเธอไปโรงพยาบาล
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะขยับตัว ชลิตก็ขำก๊ากออกมา ก่อนจะพูดไปขำไป ” ท่านประธานธามนิธิครับ !ไอ้ที่ๆคุณกำลังยืนเหยียบอยู่เนี่ย มันก็เรียกว่าโรงพยาบาลนะครับ !”
ชลิตไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับเรื่องที่เกิดตรงหน้า หลังจากที่ธามนิธิชะงักงันไปเล็กน้อย เขาก็หันไปมองที่ปาณีด้วยความเป็นห่วง น้ำเสียงเขาฟังดูตื่นตกใจ ” ปาณี !อย่าทำให้ฉันกลัวสิปาณี !ตกลงเธอเป็นอะไรกันเเน่ล่ะเนี่ย ?ชลิต นายรีบเข้ามาดูอาการเธอหน่อย เกิดอะไรขึ้นกับเธออ่ะ ?”
ชลิตเองก็ตกใจไปด้วย เขารีบเดินเข้ามาหาเธอ ตั้งใจอยากจะมาตรวจดูเธอสักหน่อย เเต่ยังไม่ทันจะได้แตะต้องตัวเธอ ก็ได้สบตาเข้ากับดวงตาคมเข้มดำขลับคู่นั้น จากนั้นเสียงทุ้มนุ่มลึกก็ดังแว่วมาข้างหู ” คุณหมอชลิตคะ พวกคุณรู้มาตั้งนานเเล้วใช่มั๊ยคะ ว่าฉันท้อง ?”
ยังไม่ทันที่หมอชลิตจะได้ตอบ ธามนิธิก็รีบพูดแทรกขึ้นมา ” ปาณี มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด …… ”
พูดยังไม่ทันจบประโยค เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่ดูเย็นชาแข็งกร้าว ทำให้เขาต้องรีบกลืนสิ่งที่กำลังจะเอ่ยออกมา กลับลงคอไปในทันที
ตอนที่882เข้าใจผิดไปกันใหญ่
เมื่อได้สัมผัสถึงสายตาอันเย็นชาของปาณี ธามนิธิถึงกับนิ่งสงบลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะยืนนิ่งทำตัวลีบเล็กหน้าสลดอยู่ตรงนั้น
ในช่วงเวลานั้นเอง เขาไม่ใช่ธามนิธิคนก่อนที่เคยกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาอีกแล้ว ทว่าชีวิตของธามนิธิในตอนนี้กลับดูธรรมดาๆ จืดชืด ไร้ชีวิตชีวา เเละกลับกลายเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่กลัวว่าจะต้องสูญเสียปาณีอันเป็นที่รักไป !
เมื่อได้เห็นปาณีส่งสายตาเย็นชาเเละท่าทีอันเเข็งกร้าวมองมาที่เขา จะว่าไปแล้วก็ยิ่งทำให้ธามนิธิรู้สึกเจ็บปวดหัวใจมากขึ้นไปอีก เพราะเขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ระหว่างที่ธามนิธิกำลังครุ่นคิดวิตกจริตอยู่นั้น ปาณีก็หันไปทางหมอชลิต เธอพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอีกครั้ง ” คุณหมอชลิต บอกฉันหน่อยได้ไหมคะว่า เขารู้ตั้งเเต่เมื่อไหร่ว่าฉันตั้งท้อง ?”
หญิงสาวพูดด้วยสายตาอ้อนวอน !
ชลิตหันไปมองที่ธามนิธิที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ข้างๆ เเววตาของเขาในตอนนี้ ไม่สามารถที่จะปิดบังอำพรางความเศร้าโศกเอาไว้ได้ เเละเมื่อมองไปที่อีกฝั่ง ซึ่งก็คือหญิงสาวที่กำลังเเข็งกร้าวกับความจริงที่กำลังจะได้ฟัง ” หลังจากที่คุณหนีออกจากบ้าน !ผมเองก็เพิ่งทราบข่าวว่าพวกคุณแยกทางกันเเล้ว เเต่ในตอนนั้น ธามนิธิก็ออกตามหาคุณอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง …… ”
” พอแล้ว !” จู่ๆปาณีก็พูดสวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดกับคำพูดของหมอชลิตอีกต่อไป ทันทีที่เธอตระหนักได้ว่าตัวเองเริ่มอารมณ์ไม่ดี เธอจึงเม้มริมฝีฝากเเน่น ก่อนจะเดินดุ่มๆตรงไปที่ประตู ” ขอโทษค่ะหมอชลิต ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ !”
เมื่อพูดจบ เธอก็ค่อยๆเดินจากไปท่ามกลางสายตาของธามนิธิ ที่มองตามไปอย่างเงียบๆ
ชลิตเห็นสีหน้าเเววตาอันเศร้าโศกของธามนิธิ เเละปาณีที่กำลังฝืนบังคับตัวเองไม่ให้หลั่งน้ำตาออกมา เขารู้สึกหมดหนทางที่จะเยียวยาคนทั้งคู่แล้วจริงๆชลิตได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างจนปัญญา ก่อนจะเดินออกไป
ในออฟฟิต คงเหลือเเต่เพียงธามนิธิคนเดียวเท่านั้น เขายังคงยืนนิ่งครุ่นคิดอยู่ตรงนั้น ที่จริงเเล้ว ตอนที่ปาณีเอ่ยปากถามประโยคนั้นออกมา ธามนิธิก็รู้ลางๆแล้วว่าเธอหมายถึงอะไร เเต่ตอนนั้นเขาก็คิดเเค่ว่า มันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไร เดี๋ยวก็คงผ่านๆไป เเต่กลับคิดไม่ถึงว่า ปาณีจะตอบสนองออกมาด้วยท่าทางเเบบนั้น !
เเต่พอคิดไปคิดมา หากย้อนนึกไปถึงตอนที่เอ่ยปากเรื่องหย่ากันแล้ว ทัศนคติของเขาเองก็เหมือนจะเปลี่ยนไปสัก 85 เปอร์เซ็นต์เห็นจะได้ ในทางกลับกันหากเป็นเขาเอง ก็คงต้องรู้สึกลังเลสงสัยด้วยเหมือนกัน
แต่ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไง ธามนิธิก็ได้แอบสาบานเอาไว้เเล้วว่า ” ปาณี !ฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปอีกเเล้ว !ไม่มีวันเด็ดขาด !”
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ธามนิธิก็ไม่รีรอที่จะรีบออกไปตามหาปาณี ” ฉันต้องทำให้เธอรู้ว่า ฉันยังคงรักเธอ!รักเธอเสมอมา !”
หลังจากคิดได้เเล้ว ธามนิธิก็รีบสาวเท้าออกจากห้องไปทันที
แต่หลังจากที่ตามหาจนทั่วโรงพยาบาล เขาก็ยังไม่เห็นแม้เเต่เงาของเธอ ธามนิธิวิ่งหน้าตาตื่นด้วยความร้อนใจออกไปข้างนอกตึกโรงพยาบาล วิ่งไปมือก็พลางกดโทรศัพท์ต่อสายหาไวยาตย์ไป ” ไวยาตย์ รีบมานี่เลย ปาณีหายไปอีกเเล้ว …… ”
จังหวะที่เขากำลังตามหาตัวปาณีอยู่นั้น ก็พลันหันไปเห็นคนที่กำลังตามหากำลังยืนใจลอยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเพียงลำพัง
เธอกำลังเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว เมื่อรู้ว่าเธอตั้งท้องคุณอาก็เลยเปลี่ยนความคิดของเขาในทันทีทันใด ที่บอกว่าไม่รู้สึกอะไร นั่นมันเป็นไปไม่ได้ การที่เธอได้มาเห็นทัศนคติของเขาอีกครั้ง มันเหมือนกับการถูกล้างสมองใหม่ ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าความเข้าใจผิดระหว่างคนสองคน จะมลายหายไปจนหมดสิ้นเเล้วเสียอีก
” แต่ที่แท้ เมื่อเขารู้ว่าฉันตั้งท้อง ถึงได้พยายามฝืนใจที่จะยอมรับฉัน !เขาไม่เคยคิดล้มเลิกความตั้งใจที่จะหย่าเลยสักนิด !ในสายตาของเขา ฉันมันไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเขาเลย !ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าลูกในท้องของฉันเเล้วล่ะก็ เขาก็คงไม่แม้เเต่จะชายตามองฉันด้วยซ้ำ …… ” ปาณียิ่งคิด น้ำตาก็ยิ่งค่อยๆเอ่อล้นออกมา หญิงสาวกลั้นน้ำตาต่อไปอีกไม่ไหว เธอจึงปล่อยโฮ ตะโกนตัดพ้อออกมา ” ทำไมนะ ?สวรรค์เบื้องบน ทำไมถึงได้ทำกับฉันแบบนี้ ?ถ้าหากเขาไม่ใช่คนที่สวรรค์กำหนดมาให้ เเล้วทำไมท่านต้องดลบันดาลให้ฉันต้องพบเจอกับเขาด้วยล่ะ ?ถ้าท่านกำหนดให้ฉันได้เจอกับผู้ชายคนอื่น ฉันก็คงไม่ต้องมานั่งทนทุกข์ทรมาน เสียใจอยู่แบบนี้ !”
หลังจากระบายความเศร้าโศกกับฟ้าดินจนหมดสิ้น เธอก็ทรุดตัวลงไปนั่งกองอยูที่พื้น
ความโศกเศร้าทุกข์ระทมใจ กำลังกัดกินบีบรัดหัวใจน้อยๆของปาณี ในตอนนั้นเอง ร่างกายของเธอกลับสิ้นไร้เรี่ยวเเรง ก่อนจะคว้าเอาต้นไม้เอียงๆต้นหนึ่งเอาไว้ได้ ใบหน้าของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้าอาดูร หญิงสาวบ่นพึมพำกับตัวเอง ” ใครก็ได้บอกฉันหน่อย ว่าฉันควรทำยังไงดี ?ฉันจะไปเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนั้นได้ยังไง ?เเล้วต่อไปฉันจะบอกกับลูกฉันว่ายังไง ?”
ทันใดนั้น จู่ๆร่างกายของปาณีก็แข็งเกร็ง มือของเธอที่จับต้นไม้อยู่ก็เเข็งทื่อไปด้วย เธอเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที เพราะเมื่อสักครู่นี้ เธอเพิ่งจะรู้สึกว่าขาเธอเป็นตะคริว !
ตอนนี้ปาณีรู้สึกหงุดหงิดเเละโมโหตัวเองมาก ทางดีๆมีไม่รู้จักเดินไป ดันเดินมาที่ริมตลิ่งนี้ทำไมกัน ?
ถึงเเม้ว่าเธอพยายามที่จะเดินกลับขึ้นไปบนฝั่ง และออกให้ห่างจากริมตลั่งที่แสนอันตรายนี้ ทว่าตอนนี้ทั้งน่องและท้องของเธอมันสั่นเกร็งไปหมด อาการหดเกร็งจากตะคริวมันทำให้เธอหมดเรี่ยวหมดเเรงที่จะขยับตัวเคลื่อนไหว ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าปล่อยมือจากต้นไม้ต้นนั้น เเต่กลับจับมันเอาไว้เเน่น จากนั้นพลันสายตาของเธอก็สาดส่องขึ้นไปบนฝั่ง ด้วยหวังแต่เพียงว่าจะมีใครสักคนเห็นเธอ เเละรีบเข้ามาช่วยเธอออกไปที !
ธามนิธิร้อนรนกระวนกระวายใจ เขาเที่ยวตามหาปาณีให้ทั่วโรงพยาบาลไปหมด เเต่ถึงกระนั้นก็ยังคงหาตัวปาณีไม่พบ ชายหนุ่มเริ่มออกอาการลุกลี้ลุกลน ในสมองเริ่มจินตนาการ มโนภาพเหตุการณ์ที่ดูน่ากลัวไปต่างๆนานา
” ต้องไม่เป็นแบบนี้สิ ปาณีจะต้องไม่หายไปไหนอีก !ฉันยอมรับในความผิดพลาดของตัวเองเเล้ว เธอคงไม่ใจร้ายใจดำทิ้งฉันไปอีกหรอกน่ะ !”
ในขณะนั้นเอง ธามนิธิก็พลันได้ยินเสียงหวีดร้องดังเเว่วมา ” แย่เเล้วๆ มีคนจะกระโดดน้ำ !พวกเราไปช่วยกันหน่อยเร็ว !”
เเละในระหว่างที่มีคนมากระจายข่าวอยู่นั้น เหล่ามหาชนก็พากันเฮโลพุ่งตรงไปที่ริมฝั่งเเม่น้ำในทันที
ธามนิธิตะลึงงันอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับไป ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวตามฝูงมหาชนพวกนั้นไปติดๆ ถึงเเม้เขาเองจะไม่เชื่อว่าปาณีจะทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นได้ เเต่มันก็ไม่แน่ ถ้าเกิดไปถึงริมแม่น้ำเเล้วดันเป็นเธอขึ้นมา ?
ธามนิธิรีบเดินดิ่งไปที่ริมเเม่น้ำพร้อมกับมโนภาพเหล่านั้นในสมองของเขา เมื่อไปถึงริมแม่น้ำก็ได้เห็นก้อนตะคุ่มๆกำลังโหนจับต้นไม้อยู่ เขาถึงกับอึ้งตะลึงงัน เพราะไอ้ก้อนที่เห็นอยู่ตรงนั้น ก็คือปาณีนั่นเอง !
ชายชาติทหารอย่างธามนิธิ รีบพุ่งทะยานไปริมฝั่งแม่น้ำในทันที เเต่เขาก็ต้องถูกรายล้อมไปด้วยฝูงมหาชนที่มายืนมุงกันอยู่ตรงริมน้ำ คนเหล่านั้นกำลังมองไปที่อะไรสักอย่าง
เริ่มได้เห็นเงาตะคุ่มๆลางๆ ธามนิธิแหวกตัวสอดแทรกฝ่าฝูงชนไปเรื่อยๆ ก็ได้เห็นเบื้องหลังที่คุ้นเคยของคนๆหนึ่ง เขารีบตะโกนเสียงดังอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น ” กรุณาหลีกทางหน่อยครับ !หลีกทางหน่อย !”
การกระทำของเขา ทำให้ผู้คนที่มามุงดูเหตุการณ์พากันไม่สบอารมณ์ เริ่มมีเสียงกร่นด่าตำหนิติเตียนดังมาจากทุกทิศทาง ” อะไรของมันวะเนี่ย ?ให้มันรู้บ้างสิว่าใครมาก่อนมาหลังอ่ะ ?”
” เฮ้ย อะไรวะ แกมาผลักฉันทำไมเนี่ย ?คิดว่าที่นี่เป็นที่ของตัวเองรึไง …… ”
” อย่าเบียดสิ …… ”
……
เสียงบ่นด่าพึมพำดังมาจากทั่วสารทิศ ธามนิธิใช้ร่างกายอันแข็งแกร่งกำยำของเขา พาตัวเองให้เบียดเสียดฝ่าเข้าไปจนพ้นฝูงมหาชนจนได้ แล้วเขาก็ได้เห็นปาณีที่กำลังนั่งอยู่บนพื้น โดยมีผู้ชายอีกคนหนึ่งกำลังก้มหน้าก้มตานวดคลึงน่องของเธออยู่ !
ธามนิธิยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น
เพราะผู้ชายคนที่ว่า ไม่ใช่ใครที่ไหน เเต่เป็นคนที่เขาเข้าใจผิดคิดว่าปาณีไปหลงรักจนหัวปักหัวปำ —— ศิวรรจน์ !นี่คือเหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้ธามนิธิตัดสินใจเซ็นต์หย่าในเอกสารข้อตกลง เพียงเพราะเขาอยากทำให้ปาณีมีความสุข !
ธามนิธิยืนเงียบๆอยู่ตรงนั้น สายตาจดจ้องไปยังปาณีที่กำลังขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ช่างดูราวกับว่าทั้งคู่เป็นคู่รักที่พลัดพรากไม่ได้เจอกันมานานเเสนนานยังไงยังงั้นพอได้มาเจอกันก็ถึงกับซาบซึ้งตรึงใจกันสุดๆ !
ทางด้านของศิวรรจน์ ในขณะที่กำลังนวดคลึงน่องให้เธอ ก็มักจะคอยเงยหน้าขึ้นมามองเธออยู่บ่อยๆ ด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูจริงจัง จนทำให้ผู้คนที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ต่างพากันอิจฉาริษยาเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้กับธามนิธิ ตะโกนออกมาว่า ” ทั้งหล่อเหลา !ทั้งอ่อนโยน ละเมียดละไม !ดูสนิทสนมกันมากเลยอ่ะ สงสัยจะเป็นแฟนกันแน่ๆ !”
เพื่อนอีกคนของผู้หญิงคนนั้น ก็พูดเสริมขึ้นมาว่า ” อาจจะเป็นคนที่บังเอิญเดินผ่านมาก็ได้นะเธอ !”
ผู้หญิงที่พูดขึ้นมาคนแรก รีบตอบสวนกลับไป ” จะเป็นไปได้ยังไงเล่า ?คนที่บังเอิญเดินผ่านมาจะมองเธอด้วยแววตาอ่อนโยนแบบนั้นได้ยังไง ?เธอลองคิดๆดูสิ …… ”
เพื่อนของผู้หญิงคนนั้นกลับไม่พูดอะไรต่ออีก
ธามนิธิยืนนิ่งอึ้งเหมือนคนถูกสาป เขาไม่คิดเลยว่าศิวรรจน์จะมาปรากฏตัวอยู่ข้างๆเธออีก อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกล อยู่ใกล้แค่ใต้จมูกของเขานี่เอง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ธามนิธิเริ่มรู้สึกโกรธ เพราะเหมือนตัวเองโดนหลอกเข้าให้เเล้ว !
ได้เห็นสองคนนั้นกำลังคลอเคลียใกล้ชิดสนิทสนม ธามนิธิจึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกไป ” ปาณี !เธอ …… ”
ปาณีเงยหน้าขึ้นมองด้วยท่าทางอันเวิ้งว้างเลื่อนลอย ก่อนจะสบตาเข้ากับคุณอาที่กำลังมองมาที่เธอด้วยความโกรธ ……
ตอนที่883ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
ยังไม่ทันได้ตอบโต้ใดๆเธอก็ถูกคุณอาดึงให้ลุกขึ้นมา ระหว่างที่กำลังงงอยู่นั้น เธอก็รู้สึกว่ากล้ามเนื้อตรงน่องของเธอเริ่มบีบรัดตัวอีกครั้ง ทำเอาปาณีเจ็บปวดเป็นอย่างมาก จนหน้าตาบิดเบี้ยวเหยเกเลยทีเดียว !
ทางด้านของธามนิธิที่เฝ้าดูปฏิกิริยาของเธออยู่ตลอดนั้น เมื่อได้เห็นท่าทางเจ็บปวดรวดร้าวของเธอก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นคนที่อยู่ในอ้อมเเขนของเขาตอนนี้ก็ถูกศิวรรจน์แย่งตัวกลับไป ” ธามนิธิ !คุณบ้าไปแล้วรึไง ?คุณรู้มั๊ยว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่ ?”
พูดจบศิวรรจน์ก็พยุงให้ปาณียืนนิ่งๆ จากนั้นเขาก็ลงไปนั่งคุกเข่ายองๆ ค่อยๆถลกขากางเกงของปาณีขึ้น ก่อนจะนวดคลึงที่น่องของเธอเบาๆ
จากการสัมผัสนวดคลึงอันอ่อนโยนของเขา ทำให้ปาณีรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเเล้ว เมื่อสักครู่นี้น่องของเธอมันทั้งเจ็บทั้งปวดจนเธออยากจะตัดขาทิ้งเสียให้ได้ !
การเข้ามาร่วมวงของธามนิธิ ยิ่งทำให้ผู้ชมที่มุงดูอยู่โดยรอบพากันตื่นเต้นสนใจ เพิ่มความอยากรู้อยากเห็นให้หนักขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะบรรดาสาวๆทั้งหลาย เมื่อได้เห็นหน้าธามนิธิกับศิวรรจน์ สองหนุ่มสองสไตล์ที่ดูเเล้วมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ก็ยิ่งทำให้สาวๆพวกนั้นพากันฮือฮาบ้าคลั่งไปกันใหญ่
” ว้าว คนที่ดูหนุ่มกว่าคนนั้น โคตรหล่อเลย !”
” ไม่ใช่สักหน่อย คนที่ดูมีอายุหน่อยดูดีกว่าตั้งเยอะ !ไม่ได้ละ เขามองมาทางฉันด้วยอ่ะ ตายๆๆ ฉันปลื้มจะตายอยู่เเล้วเนี่ย …… ”
” ใช่ที่ไหนกัน ฉันว่าคนที่หนุ่มๆนั่นแหละชนะเลิศย่ะ !”
……
สาวๆพวกนั้น ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดราวาศอกกันเลยทีเดียว เสียงนกเสียงกาจ๊อกแจ๊กเหล่านั้นไม่ได้เล็ดลอดเข้าไปในโสตประสาทของธามนิธิเลยสักนิด ในหัวของเขาตอนนี้มีเพียงเรื่องของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ที่กำลังเพลิดเพลินกับการถูกชายอื่นพินอบพิเทาปรนนิบัติดูแล
ธามนิธิเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่างที่น่าเศร้า เขาพบว่าตัวเองไม่ใช่คุณอาที่เธอเคยรักหมดหัวใจอีกต่อไปแล้ว ขนาดเมื่ออยู่ในอ้อมเเขนของเขา เธอยังแสดงท่าทีที่ดูเหมือนกับต้องจำฝืนทน ทำให้ธามนิธิรู้สึกเสียใจเเละเจ็บปวดหัวใจเป็นที่สุด !
มันตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน ที่หัวใจของผู้หญิงซึ่งรักเขามากที่สุดคนนั้น ได้แปรเปลี่ยนไป ;ตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน ที่เขาได้กลายเป็นตัวประกอบฉากของผู้ชายคนอื่นไปเสียได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ผู้หญิงคนนั้น คนที่เคยบอกกับเขาว่าจะไม่มีวันทิ้งเขาไป เเต่บัดนี้กลับตีจากเขาไปเเล้ว ……
เมื่อได้เห็นสีหน้าท่าทางที่ดูเเสนเจ็บปวดรวดร้าว จนไม่สามารถที่ระงับอารมณ์ไม่ให้แสดงมันออกมาได้ของธามนิธิ ปาณีก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์ในบัดดล ยังไม่ทันที่เธอจะเรียกสติให้คืนกลับมาได้ น่องน้อยๆของเธอก็เกิดเป็นตะคริวขึ้นมาอีก ครั้งนี้มันหนักมากจนเธอมิอาจจะยันตัวเองให้ยืนอยู่ได้อีกต่อไป หญิงสาวค่อยๆทรุดตัวลง ทันใดนั้น ธามนิธิรีบพุ่งตัวยื่นมือออกไปคว้าเธอ เเต่ช้าเกินไป .. หญิงสาวล้มตัวลงไปในอ้อมเเขนของชายอีกคนหนึ่งไปเสียเเล้ว ……
” ผมจะพาคุณไปส่งโรงพยาบาลนะ !” หลังพูดจบ ศิวรรจน์รีบนำตัวปาณีไปส่งโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขาในทันที
ส่วนธามนิธิก็ยังยืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น กำปั้นทั้งสองข้างค่อยๆกำเเน่น !จากนั้นจึงหันตัวกลับไป เเล้วรีบมุ่งหน้าตรงไปทางโรงพยาบาลด้วยอีกคน
ศิวรรจน์รีบมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว โดยมีปาณีอยู่ในอ้อมเเขนของเขา ขณะที่ศิวรรจน์กำลังอุ้มเธอไป เขาก็พูดกับเธอเบาๆว่า ” ไม่เป็นไรนะ อีกนิดเดียวก็ถึงโรงพยาบาลเเล้ว !”
ปาณีค่อยๆหันกลับไปมองอย่างเงียบๆ เเววตาที่ดูอึมครึมเย็นชาคู่นั้นกำลังมองที่เธอพอดี ปาณีหลุดปากพึมพำออกมา ” คุณอา …… ”
ศิวรรจน์เองก็เห็นเเล้วว่าธามนิธิตามพวกเขามา เเต่เขาก็ไม่ได้สนใจในท่าทีอันอึมครึมคุกรุ่นนั้น เขายังคงรีบเดินหน้าพาปาณีไปส่งโรงพยาบาล
ไม่กี่วินาทีต่อมา ธามนิธิที่เหมือนจะโกรธจนเลือดขึ้นหน้า รีบเดินก้าวออกไปขวางหน้าพวกเขาไว้ ทำให้ศิวรรจน์ถึงกับหยุดกึก ธามนิธิเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่แสนเยือกเย็น ” ส่งตัวปาณีมาให้ฉัน !”
เมื่อได้ฟังน้ำเสียงอันเย่อหยิ่ง ศิวรรจน์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงยิ้มเยาะในทันที ” เฮอะ ให้คุณอย่างนั้นเหรอ ?คุณเห็นปาณีเป็นตัวอะไร หรือเห็นว่าเธอเป็นสิ่งของรึยังไงกัน ?ส่งเธอให้คุณเหรอ ?ผมจะบอกให้นะว่า ต้องไม่ใช่คุณ เเละมันไม่ควรที่จะเป็นคุณเลยด้วย !”
ดวงตาของธามนิธิเริ่มเปลี่ยนสีเป็นแดงกํ่า เเววตาแห่งความโกรธเกรี้ยวจับจ้องไปที่ศิวรรจน์ !
เเต่ศิวรรจน์กลับไม่มีทีท่าหวาดกลัวนัยน์ตาแดงก่ำคู่นั้นเลยแม้เเต่น้อย มีเเต่ความเย้ยหยันที่ฉายแววอยู่ในแววตาของศิวรรจน์ ” ทำไมล่ะครับ ?ท่านประธานธามนิธิอยากแสดงทักษะการต่อสู้หรือยังไงครับ ?เเต่จะว่าไป คุณเองก็เป็นชายชาติทหาร เเข็งเเรงบึกบึน ส่วนผมมันก็เเค่ไอ้กระจอกตัวผอมกะหร่อง คงไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของคุณ !เเต่ว่าท่านประธานธามนิธิครับ ผมก็เเค่อยากจะเตือนคุณว่า ปาณีเป็นเเค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง เธอเป็นคนนะ ไม่ใช่สิ่งของที่จะโยนไปโยนมาได้ตามอำเภอใจ !”
ในที่สุด ยังไม่ทันที่ธามนิธิจะได้ตอบโต้ เสียงเย็นชาของปาณีก็ตะโกนสอดแทรกขึ้นมาเสียก่อน ” พอได้เเล้ว !หยุดพูดสักที !”
พอพูดจบเธอก็หันไปทางธามนิธิ ที่ดูคล้ายกับว่าเขาจะลดตัวลงไปเป็นเด็กเสียเเล้ว ” คุณก็เหมือนกัน !หยุดพูดได้เเล้ว !”
ธามนิธิถึงกับนิ่งชะงักงัน ศิวรรจน์ทำเสียงยิ้มเยาะ เหอๆๆ ออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร
ปาณีไม่สนใจสองคนนั้น ที่กำลังขับเคี่ยวกันชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน เธอกลับพยายามออกเเรงดิ้นจนสลัดหลุดจากอ้อมแขนของศิวรรจน์ จากนั้นจึงเดินมุ่งหน้าตรงไปยังโรงพยาบาลเพียงลำพัง
การกระทำของปาณีในตอนนั้น ทำให้ทั้งสองหนุ่มพากันมึนงงไปตามๆกัน จากนั้นไม่นานเมื่อกลับมาตั้งสติได้ ทั้งสองหนุ่มใช้สายตาฟาดฟันกันอยู่ยกหนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งตามเธอไปที่โรงพยาบาล
ปาณีเข้าไปถึงด้านในโรงพยาบาล โดยไม่หันกลับไปมองที่สองคนนั้น เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ได้เจอกับหมอชลิตที่กำลังตามหาตัวเธออยู่พอดี ” ปาณี !เจอคุณสักที ผลตรวจของคุณออกมาเเล้วนะ ไปที่ออฟฟิตผมกันเถอะ !”
หลังจากพูดจบ หมอชลิตก็พาปาณีเดินไปที่ออฟฟิตในทันที
ธามนิธิเดินขึ้นมาขวางหมอชลิตไว้ ” เป็นยังไงบ้าง ?ร่างกายของปาณีปกติดีหรือเปล่าหมอ ?”
หมอชลิตยังไม่ทันได้ตอบคำถามของธามนิธิ ศิวรรจน์ที่ยืนอยู่ข้างๆก็รีบพูดแทรกขึ้นมา ” จริงด้วยครับหมอ เมื่อสักครู่นี้ปาณีเพิ่งจะเป็นตะคริวที่น่องของเธอ เป็นหลายรอบเลยครับ คุณหมอช่วยดูเธอหน่อยครับ !”
ชลิตได้ยินดังนั้น จึงคุกเข่าลงและตรวจดูที่น่องของปาณี หมอคลึงๆที่น่องของเธอก่อนจะยิ้มออกมา ” ไม่เป็นอะไรร้ายแรงหรอกครับ !มันเป็นอาการปกติของคนที่กำลังตั้งครรภ์น่ะ !เเต่ถ้าเป็นตะคริวบ่อยๆ ก็เเสดงว่าร่างกายของคุณขาดแร่ธาตุบางอย่างนะครับ เดี๋ยวผมจะจัดยาให้กลับไปทาน อีกไม่นานก็หายครับ ”
เมื่อธามนิธิได้ยินที่ศิวรรจน์พูดก็ถึงกับอึ้งไปเลย ที่เเท้เมื่อสักครู่นี้ สองคนนั้นไม่ได้กำลังพลอดรักกัน เเต่เพราะปาณีเป็นตะคริวที่ขานั่นเอง !
พอนึกขึ้นมาได้ ธามนิธิก็ตบหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดไปหนึ่งฉาด จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปหาปาณี เอ่อ ปาณี คือฉัน …… ”
ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกศิวรรจน์ขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน ” ปาณี หมอชลิตให้เธอตามเข้าไปฟังผลตรวจที่ออฟฟิตน่ะ พวกเรารีบไปกันเถอะ !”
พูดจบเขาก็เตรียมจะจูงมือเธอเดินไปที่ออฟฟิตของหมอชลิต
แต่ปาณีกลับปัดมือของเขาออก เเล้วเดินไปออฟฟิตเพียงคนเดียว ศิวรรจน์ที่ถูกหญิงสาวสะบัดมือจากไป ได้เเต่ยืนทื่อเป็นตอไม้มองดูหลังมือตัวเอง จากนั้นจึงส่ายหัวเบาๆอย่างคนสิ้นหวัง
ในตอนนั้นเองที่ธามนิธิรู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก เขาทำท่าพยักพเยิดเชิดคางใส่ศิวรรจน์ประหนึ่งเหมือนเป็นผู้ชนะก็ไม่ปานจากนั้นธามนิธิก็รีบเดินไปที่ออฟฟิตของชลิตทันที ทว่าเมื่อไปถึงที่ประตู อีกนิดเดียวเขาก็เกือบจะโดนประตูห้องหนีบจมูกซะเเล้ว !
ถึงเเม้ว่าเขาจะหลบมันได้ทัน เเต่จมูกของธามนิธิก็โดนบานประตูนาบเอานิดหน่อย เขายืนเอามือกุมจมูกตัวเองเอาไว้ เเล้วก็ยืนรออยู่ตรงหน้าประตูนั้น เเต่เมื่อได้เห็นศิวรรจน์ที่กำลังทำท่าเหมือนกับกลั้นหัวเราะอยู่ ท่าทางของธามนิธิก็พลันเปลี่ยนเป็นโมโหขึ้นมาทันที เขาไม่รีรอที่จะหันไปคำรามใส่ศิวรรจน์ ” ปาณีเป็นภรรยาของฉัน !อยู่ให้ห่างๆเธอเอาไว้ !”
ศิวรรจน์หัวเราะคิกคัก ก่อนจะตอบกลับไปว่า ” ได้ยินว่าใครบางคนได้เซ็นต์หย่าในเอกสารข้อตกลงเเล้วไม่ใช่เหรอ ?นั่นหมายความว่า ตอนนี้ปาณีก็เป็นอิสระเเล้วน่ะสิ เธอไม่ได้เป็นของใครทั้งนั้น !แบบนี้ผมก็สามารถจีบปาณีได้อย่างเปิดเผยเเล้ว !”
ไม่คิดเลยว่าศิวรรจน์จะกล้าพูดต่อหน้าธามนิธิอย่างโจ่งครึ่มเยี่ยงนี้ อีกทั้งยังกล้าแสดงความรู้สึกโหยหาอาวรณ์ที่มีต่อปาณีอย่างออกหน้าออกตา ชั่ววินาทีนั้นเอง ธามนิธิรู้สึกถึงความโกรธเกรี้ยวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนเขามิอาจจะปกปิดอำพรางโทสะนั้นไว้ได้อีกแล้ว เขามองจ้องไปที่ศิวรรจน์ตาเขม็ง ทางฝ่ายของศิวรรจน์เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า จ้องมาก็จ้องกลับ !ณ เวลานั้น ลูกผู้ชายอกสามศอกทั้งสองคน ก็ยืนจ้องกันตาต่อตาฟันต่อฟัน เปรียบเสมือนกำลังจะเเข่งชนไก่กันที่หน้าประตูยังไงยังงั้น !
ชลิตมองดูใบหน้านิ่งเงียบสงบของปาณี เขาอธิบายสรุปผลการตรวจร่างกายให้เธอฟังคร่าวๆ จากนั้นเขาก็เอ่ยปากพูดบางอย่างกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูจริงใจ ” เอ่อ ปาณี ผมมันก็คนนอกอ่ะนะ จะว่าไปแล้วผมก็ไม่ควรจะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพวกคุณ เเต่นี่เป็นครั้งเเรกที่ผมเห็นธามนิธิเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงคนหนึ่งมากขนาดนี้ จนเขาสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง !คุณรู้หรือไม่ว่า ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนอยู่สายตาเลยสักคน แม้เเต่กับนลิน มีสุวรรณ์ คู่หมั้นของเขาในตอนนั้นก็เหมือนกัน !”
ตอนที่884ปฏิเสธ
ปาณีนั่งฟังที่หมอชลิตพูดอย่างเงียบๆ
” ที่จริงเเล้ว ตอนที่ผมรู้ว่าคุณกับเขาเเต่งงานกัน ตอนนั้นผมรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะผมไม่เชื่อว่าคนเลือดเย็นอย่างธามนิธิจะรักใครได้ !แต่เมื่อผมได้เห็นคุณเป็นครั้งเเรกผมก็รู้เลยว่า ไม่ผิดแน่ คุณนี่แหละคือแก้วตาดวงใจของเขา ที่เขาเฝ้ารอคอยมานานเเสนนาน !” ชลิตพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง
ปาณีหันกลับมาทางหมอชลิต เธอมองไปที่เขาด้วยสายตาอันขมขื่น ก่อนจะพูดความในใจของเธอให้เขาฟัง ” คุณหมอชลิต คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ !ฉันกับเขา เราเเต่งงานกันเพราะข้อตกลงเท่านั้นแหละค่ะ !ตอนนั้นฉันไม่มีเงินเรียนต่อมหาวิทยาลัย เเล้วเขาเองก็ต้องการใครสักคนมาแต่งงานด้วย พวกเราก็เลยจับพลัดจับผลูได้มาอยู่ด้วยกันน่ะค่ะ จนมาถึงตอนนี้ ในที่สุดทุกอย่างก็ได้พิสูจน์ให้เห็นเเล้วว่าเราสองคนไม่เหมาะสมกันจริงๆ !เราทั้งคู่เหมือนอยู่กันคนละโลก !”
พูดจบ ปาณีก็ก้มหน้าก้มตา พยายามจะเก็บซ่อนความเจ็บปวดอันเเสนขมขื่นนั้นไว้
จากนั้นไม่นาน กระดาษทิชชู่แผ่นหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรงหน้าของเธอ เมื่อปาณีเงยหน้าอันห่อเหี่ยวของเธอขึ้นมาก็ได้สบตากับหมอชลิต เเววตาของเขาเต็มไปด้วยความใสซื่อเเละจริงใจ หญิงสาวรับเอาทิชชู่จากเขามา ก่อนจะพูดเสียงอ่อยๆ ” ขอบคุณนะคะ !”
ชลิตส่ายหน้าเบาๆ ” จริงๆเเล้ว ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณคุณนะ ปาณี !ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ธามนิธิจะกลับมาเป็นปรกติแบบนี้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ !อีกอย่าง คุณไม่เคยสังเกตเลยเหรอว่า ตลอดเวลาที่เขาอยู่ข้างๆคุณ ความเกรี้ยวกราดของเขาไปหายไปเยอะเลยนะ !คุณไม่รู้หรอกว่า เมื่อก่อนเวลาอยู่ต่อหน้าผมธามนิธิน่ะร้ายกาจแค่ไหน !เเต่ที่จริงๆเเล้วเขาก็เเค่เสเเสร้งเท่านั้นเเหละ !เเต่ว่า หลังจากที่เขาเเต่งงานกับคุณ เขาก็เหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน !ไม่เย็นชา ไม่เลือดเย็น เเลดูมีหัวจิตหัวใจ มีความเป็นมนุษย์ปุถุชนกับเขาขึ้นมาหน่อย …… ”
เมื่อได้ฟังที่หมอชลิตสาธยาย ปาณีก็ถามกลับไปด้วยความประหลาดใจ ” อย่างนั้นเหรอคะ ?ทำไมฉันไม่เห็นรู้สึกแบบนั้นเลย ?คุณอาไม่ได้เป็นคนที่ดูเย็นชา เเต่ลึกๆเเล้วจิตใจอ่อนโยนแบบนี้มาตลอดหรอกเหรอคะ ?”
ชลิตส่ายหัวยิกๆ ก่อนจะพูดด้วยท่าทางที่ดูจริงจัง ” ธามนิธิที่คุณรู้จัก มันต้องไม่ใช่ธามนิธิคนที่ผมรู้จักเเน่ๆ !คุณไม่รู้หรอกว่า เเต่ก่อนตอนที่ผมต้องเผชิญหน้ากับสีหน้าท่าทางที่แสนจะเยือกเย็นจนเข้าไปในไขกระดูกของเขาน่ะ มันทรมานใจเเค่ไหน …… ”
ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสุขสำราญใจ ชลิตเม้ามอยเล่าเรื่องของธามนิธิให้เธอฟังเป็นการใหญ่ เเต่ปาณีก็เป็นผู้ฟังมากกว่าผู้พูด นี่ถือเป็นครั้งเเรกที่ปาณีได้ฟังเรื่องราวของคุณอาผ่านมุมมองของบุคคลที่สาม เเล้วเธอก็ได้พบว่า เธอกับคุณอามีช่วงเวลาดีๆร่วมกันมากมาย !เหมือนบุพเพอาละวาด ที่สวรรค์ส่งมาให้เป็นคู่กันอย่างนั้นแหละ !
เธอได้เเต่คิดมาตลอดว่าเป็นเพราะชาติกำเนิดของตัวเอง จึงทำให้เธอไม่คู่ควรกับคุณอา เเละนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น ว่าเธอกับคุณอานั้นเป็นคู่รักที่เหมาะสมกันดั่งฟ้าประทานมาให้เกิดเป็นคู่กันจริงๆ !
ถึงแม้ว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของหมอชลิต ซึ่งบางทีก็อาจจะถูกเเต่งเติมเสริมเเต่งไปบ้าง เเต่ถึงกระนั้น ปาณีก็ยังรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก !เพราะในที่สุดก็มีคนเห็นว่าเธอนั้นยังมีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้ !อีกทั้งยังยอมรับในการเเต่งงานระหว่างเธอกับคุณอาอย่างมีเหตุมีผล !
เมื่อได้เห็นสีหน้าของปาณีดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ชลิตจึงพูดต่อไป
อีก ” ยังมีอีกนะปาณี คุณไม่สังเกตเลยเหรอว่า หลังจากที่ธามนิธิเเต่งงานกับคุณ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็มากขึ้นทุกวันๆใช่หรือเปล่า ?ที่ว่ามานี้คุณเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจอยู่เเล้ว เเต่คุณกลับมองข้ามมันไปซะอย่างนั้น คุณเอาเเต่คิดเรื่องความเเตกต่างของชาติตระกูลระหว่างคุณกับเขา ปาณี คุณไม่รู้สึกเลยเหรอว่าแบบนั้นมันไม่ยุติธรรมกับเขาเลยนะ ?คุณเอาแต่มองความคับอกคับใจของตัวคุณเอง เเต่คุณกลับไม่เคยสนใจเลยว่าธามนิธิเขาทำเพื่อคุณขนาดไหน !”
ชั่ววินาทีนั้น คำพูดจากปากของหมอชลิตทำให้ปาณีเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ตลอดระยะเวลาที่พวกเขาแต่งงานกันมา เธอนี่แหละที่เป็นคนใจเสาะอ่อนเเอ เธอนี่แหละที่เอาเเต่หาเหตุผลนั่นนี่มาเป็นชนวนให้เธอทำอะไรโง่ๆลงไป !
ตัวอย่างเช่น ในเหตุการณ์ตอนที่เธอเกือบจะถูกทีนาร์ทำร้ายจนบาดเจ็บ เธอก็เลือกที่จะไม่รับสายโทรศัพท์ของคุณอา !ในตอนนั้นปาณีมั่นใจได้เลยว่า อีกนิดเดียวเธอก็เกือบจะไม่รอดเเล้ว ทว่าคุณอากลับไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย !
ยังมีเรื่องตอนที่เธองอนคุณอาก็เลยไปกินข้าวศิวรรจน์อีก ตอนนั้นเธอก็ไม่ยอมโทรไปบอกคุณอา
มีครั้งหนึ่งที่คุณอาไปกินข้าวกับทยาติ เธอก็โกรธกระฟัดกระเฟียดใส่คุณอา คุณอาก็พยายามที่จะอดทนอดกลั้นกับพฤติกรรมของเธอ อีกทั้งยังพาเธอไปเเนะนำตัวต่อหน้าทยาติอีกด้วย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของเขา ……
เรื่องงี่เง่าประเภทนั้น มันเกิดขึ้นมากมายหลายครั้งจริงๆ ตลอดชีวิตการเเต่งงานของพวกเขา !
เเต่เธอกลับคิดทึกทักไปเองว่า มีเพียงเธอเท่านั้นที่เป็นผู้ถูกกระทำ มีเพียงเธอที่ต้องเเบกความทุกข์ใจนั้นไว้ เเละเธอสมควรที่จะได้รับการง้อเเละการเอาใจจากคุณอา !
เเต่เธอดันลืมไปว่า การเเต่งงานเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน !ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถที่จะเป็นฝ่ายที่ต้องคอยประนีประนอมไปตลอดอย่างไร้ที่สิ้นสุด เเละอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่สามารถที่จะคอยเรียกร้องทุกสิ่งอย่างอยู่ร่ำไปเช่นกัน !
สุดท้ายเเล้วทุกคนก็เป็นมนุษย์ เธอไม่ควรใช้สิ่งที่เรียกว่าความรัก ไปกักขังหน่วงเหนี่ยวพันธนาการคุณอาเอาไว้แบบนี้ !
คุณอาเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง !ถึงแม้จะถูกเธอคอยโจมตีหาเรื่องอยู่เป็นประจำ เเต่เขาก็ยังรักใคร่เอ็นดูเธออยู่เสมอ เเล้วเเบบนี้จะไม่ให้เธอเจ็บปวดหัวใจได้ยังไงกันล่ะ !
เมื่อได้เห็นสีหน้าของปาณีที่ดูเหมือนจะสงบสติอารมณ์ได้แล้ว รวมถึงน้ำตาแห่งความสำนึกผิดที่กำลังเอ่อคลออยู่ที่เบ้าตา ชลิตรู้ทันทีว่าเขาทำสำเร็จเเล้วเเละควรที่จะถอยออกมา เขาค่อยๆปิดประตูห้อง เเละเดินออกจากห้องนั้นไปเงียบๆ
ทันทีที่ชลิตเดินพ้นประตูออกมา ก็ถูกสองหนุ่มที่ยืนรออยู่ตะโกนเรียกเขาเอาไว้
” เอ่อ ชลิต !ปาณีเป็นอย่างไรบ้าง ? ร่างกายเธอไม่มีอะไรผิดปกติใช่มั๊ย ?” ธามนิธิจับเเขนของชลิตไว้ เเละถามเขาด้วยความร้อนใจ
ศิวรรจน์ที่ยืนอยู่ข้างๆกันก็รีบชิงถามด้วยเหมือนกัน ” เอ่อใช่สิ พวกคุณคุยกันนานมากเลย คงไม่ได้หมายความว่า ร่างกายของปาณีมีปัญหาอะไรใช่มั๊ยครับ ?เเล้วมันร้ายเเรงหรือเปล่า ?”
แต่ธามนิธิกลับไม่มีท่าทางคัดค้านเขาแต่อย่างใด
ชลิตยิ้มแบบมีเลศนัย ” ถ้าพวกคุณเป็นห่วงเธอขนาดนี้ ทำไมไม่ไปถามเธอเองล่ะ ?”
พอพูดจบชลิตก็เดินจากไปในทันที
ศิวรรจน์มองดูเบื้องหลังของชลิตที่เพิ่งเดินจากไป ก่อนจะพูดด้วยความหมั่นไส้ ” ถ้าหากว่าการชกหน้าคนมันไม่ผิดกฎหมายเเล้วล่ะก็ ฉันจะใส่เขาสักหมัดเลย คอยดู !”
ธามนิธิเหลือบไปมองศิวรรจน์เเวบหนึ่งเเต่ก็ไม่ได้พูดว่าอะไร พลางผลักมือจะเปิดประตูห้อง แต่ยังไม่ทันได้ผลักประตูนั้น ก็ได้เห็นว่าประตูถูกเปิดมาจากด้านในพอดี ทั้งสองหนุ่มพร้อมใจกันหันไปมองด้านในประตูบานนั้น และร้องเรียกด้วยเสียงแผ่วเบา ” ปาณี เธอ …… ”
จังหวะที่ปาณีเดินออกมาจากห้อง ก็เห็นสองหนุ่มพากันมองมาที่เธอ อีกทั้งยังพร้อมใจกันร้องเรียกชื่อเธออีก !
เธอยืนนิ่งชะงักไปเล็กน้อย ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะได้เห็นภาพนี้อยู่เบื้องหน้า เธอหันไปพูดกับศิวรรจน์ก่อน ” เอ่อ คุณศิวรรจน์ ฉันสบายดีค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ !”
ธามนิธิสังเกตเห็นอาการเย้ยหยันที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของศิวรรจน์ เเต่เขากลับทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ สายตาของธามนิธิจดจ้องอยู่ที่ปาณี เขายังคงมองเธอตาไม่กระพริบ
ปาณีพยายามบังคับตัวเองไม่ให้หันไปสบตากับคุณอา เธอหันไปส่งยิ้มให้กับศิวรรจน์ ก่อนจะพูดกับเขาว่า ” คุณศิวรรจน์ ขอฉันคุยด้วยเป็นการส่วนตัวหน่อย จะได้ไหมคะ ? ”
มีหรือที่ศิวรรจน์จะปฏิเสธ
เมื่อมองดูสองคนค่อยๆเดินจากไป ธามนิธิยังคงยืนอย่างอ้างว้างโดดเดี่ยวอยู่ตรงนั้น ร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาดูร ดูคล้ายกับหมาป่าที่ถูกทอดทิ้งโดยคู่ของมันให้อยู่อย่างเดียวดาย !
ปาณีพาศิวรรจน์เดินมาจนถึงมุมๆหนึ่ง หญิงสาวก้มหน้านิ่งก่อนจะเอ่ยปากขึ้นมาว่า ” คุณศิวรรจน์ ฉันต้องขอบคุณคุณมากๆเลยค่ะ !จริงๆนะ ถ้าหากไม่ได้คุณล่ะก็ ฉันก็คงจะ …… ฉันขอขอบคุณจากใจจริงค่ะ !”
เมื่อได้ยินที่เธอพูด ศิวรรจน์ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย เขามองเธอด้วยสายตาที่ดูประหลาดใจเเละเริ่มที่จะไม่มั่นใจ ” ปาณี เธออยากบอกอะไรฉันกันเเน่ ?เธอคงไม่ได้คิดจะพูดอย่างที่ฉันคิดใช่มั๊ย ?”
ปาณีพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้เขา ” อืม !ที่ฉันอยากจะพูดกับคุณ ก็คงเป็นเรื่องที่คุณคิดนั่นแหละค่ะ !แต่ว่า ฉันก็อยากจะขอบคุณคุณอีกครั้ง !เเละก็ขอขอบคุณแทนลูกในท้องของฉันด้วย ขอบคุณนะ …… ”
ศิวรรจน์ส่ายหัวไปมา เขาพูดด้วยท่าทางจริงจัง ” ปาณี !เธอก็รู้ว่าที่ฉันต้องการมาตลอด มันไม่ใช่คำขอบคุณจากเธอ !เธอเองก็รู้ดีนี่ !แล้วทำไมเธอยังจงใจที่จะพูดแบบนั้นล่ะ ?”
เมื่อได้ยินที่เขาพูดแบบนั้น ปาณีจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เเละบอกกับเขาไปว่า ” ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น ฉันรู้เเค่เพียงว่าตอนนี้ฉันกำลังท้อง และฉันก็ไม่สามารถที่จะแบกลูกในท้องของฉันไปชอบพอกับผู้ชายคนอื่น !ตั้งเเต่วันนั้นจนถึงวันนี้ คนที่ฉันชอบมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ก็คือพ่อของลูกในท้องฉัน !”
ศิวรรจน์ไม่คาดคิดมาก่อนว่า เขาจะต้องมาได้ยินคำปฏิเสธอันแสนโหดร้ายในเวลานี้ ……
ตอนที่885กระวนกระวายใจสุดๆ
เห็นศิวรรจน์ยืนหน้าจ๋อยอยู่ตรงหน้าตัวเองแบบนี้ ปาณีก็รีบพูดต่อไปทันที ” ฉันขอโทษนะคะ !”
ศิวรรจน์มองดูหญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ก่อนจะกัดฟันฝืนยิ้มพูดออกไปว่า ” ฉันนี่มันแย่มากเลยหรือไง ?ฉันออกจะปฏิบัติกับเธอด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน เธอไม่รู้สึกเลยเหรอ ?”
” เอ่อ ?” ปาณีได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจ ” คุณพูดว่าอะไรนะ ?”
ศิวรรจน์เห็นที่เธอไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ก็ถึงกับส่ายหัว ” ไม่ได้พูดอะไร !แต่ปาณี เธอแน่ใจเหรอว่าจะยังอยู่กับเขาน่ะ ?เธอไม่กลัวว่าเขาจะทิ้งเธออีกรึไง ถึงตอนนั้นก็คงไม่มีใครมาอยู่เคียงข้างเธอ คอยปลอบใจเธออีกเเล้วนะ ”
ปาณีเงยหน้าขึ้นมองศิวรรจน์ เธอมองหน้าเขาตาไม่กระพริบ จากนั้นจึงพูดกับเขาด้วยเเววตาที่มุ่งมั่นอย่างเเรงกล้า ” มันจะไม่เป็นอย่างนั้นหรอก !ถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆล่ะก็ ฉันก็จะดูเเลลูกของฉันเองตามลำพัง !”
เมื่อศิวรรจน์ได้ยินที่เธอพูด ถึงขนาดวางแผนสำรองเอาไว้เรียบร้อย เขาก็อดไม่ได้ที่จะเปรยยิ้มออกมา จากนั้นก็ยื่นมือออกไปลูบผมเธอเบาๆ ” ถ้าเธอต้องถูกใครข่มเหงรังแกขึ้นมาจริงๆล่ะก็ เธอมาหาฉันได้เลย !ฉันจะเเก้เเค้นให้เธอเอง !ถึงเเม้ว่าเขาจะดูแข็งเเรงบึกบึนกว่าฉัน แต่คนอย่างศิวรรจน์ก็ไม่ใช่คนอ่อนปวกเปียกหรอกนะจะบอกให้ !”
” ฮิฮิฮิ ” เสียงหลุดขำดังออกมาจากปากของปาณี หญิงสาวหัวเราะจนงอหาย พร้อมกับชี้นิ้วไปทางศิวรรจน์ ” คุณเอาชนะคุณอาไม่ได้แน่นอน !เขาน่ะชายชาติทหารเชียวนะ …… ”
เมื่อได้เห็นเธอเคลือบแคลงในพละกำลังของตัวเองเเบบนั้น ศิวรรจน์ถึงกับทนไม่ได้ รีบคว้ามือเธอไปลูบๆตรงหน้าอกของตัวเขาเอง ” นี่เธอกำลังดูถูกฉันอยู่เหรอ ?นี่ ไม่เชื่อเธอลองจับดูเลย ลองลูบๆดู ดูกล้ามอกของฉันซะก่อนเห็นมั๊ย !ถ้าเขากับฉันขึ้นชกกันล่ะก็ ใครแพ้ใครชนะนี่ก็พูดยากล่ะนะ !”
ปาณีถูกบังคับให้สัมผัสหน้าอกของเขา แล้วทันใดนั้นหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ” คุณศิวรรจน์ !” เธอพูดออกไปด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา
ศิวรรจน์เห็นท่าทางเหนียมอายของหญิงสาว ก็อดไม่ไหวที่จะหัวเราะก๊ากออกมา อย่างน้อยๆก็เพื่อปกปิดความเศร้าโศกของเขาเอง ขณะที่ปาณีกำลังเผลอๆอยู่นั้น ศิวรรจน์ก็ขโมยจูบไปที่หน้าผากของเธอหนึ่งที โดยที่ปาณียังไม่ทันได้ตั้งตัว
หลังจากแผนขโมยจูบของเขาสำเร็จลง เขาก็หันไปโบกมือให้ปาณีด้วยท่าทางอันสง่าผ่าเผย ” ไปล่ะนะ ไม่ต้องส่งล่ะ !ฉันไปก่อนนะ …… อีกอย่าง ถ้าเธอมีเรื่องอะไรก็ติดต่อมาหาฉันนะ มือถือของเธอมีเบอร์ติดต่อฉันอยู่ เป็นเบอร์ส่วนตัวของฉันเอง !”
หลังจากพูดจบ เขาหันมามองใบหน้าสวยละมุนแดงระเรื่อของปาณีอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความเสียใจเเละเสียดายในเวลาเดียวกัน จากนั้นจึงหันหลังเดินจากไปอย่างทนงองอาจ
ที่จริงเเล้วศิวรรจน์ก็ไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าใดนัก แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อผู้หญิงที่ตัวเองชอบกำลังตั้งท้องลูกของผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่ !และยังคงมีใจให้ผู้ชายคนนั้นอยู่ด้วย !แต่ระดับหนุ่มฮอตติดอันท็อปเท็นของวงการอย่างศิวรรจน์ทั้งคน จะเดินจากใครไปทั้งทีมันก็ต้องท็อปฟอร์มกันสักหน่อย !
ถึงแม้ว่าไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ เเต่เขาจะยังคอยเฝ้าดูเธอเงียบๆอยู่ห่างๆ หญิงสาวตัวเล็กๆน่ารักนามว่าปาณี เธอคือคนที่ทำให้วัยหนุ่มอันสดใสของเขาได้รู้จักกับความรักที่สวยงาม !
หลังจากส่งศิวรรจน์กลับไปแล้ว ปาณีถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ศิวรรจน์ช่างเป็นคนหนุ่มที่เลือดร้อนเเล้วยังมุทะลุดุดันอีก จนเธอเองก็มิอาจจะควบคุมหรือยับยั้งคนอย่างเขาได้ โชคยังดีที่เขายังยอมรับฟังเธออยู่บ้าง ……
จังหวะที่ปาณีกำลังจะหันหลังกลับไป เธอก็ได้ชนเข้ากับร่างกายอันกำยำร่างหนึ่งเข้าให้ จากนั้นเอวของเธอก็ถูกมือใหญ่ๆมาโอบรัดเอาไว้
” คุณอา เอ่อ …… ” ปาณีมองคนตรงหน้าด้วยสายตาอันตกตะลึง
ใบหน้าของธามนิธิเต็มไปด้วยความเย็นชาไร้อารมณ์ สายตาอันแสนโกรธเกรี้ยวของเขาจับจ้องอยู่ที่หน้าผากของเธอ จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปพร้อมทั้งออกเเรงถูๆไปตรงหน้าผากของเธอ ถูไปถูมาจนหน้าผากของปาณีเริ่มจะเปลี่ยนเป็นแดง เเต่ก็ยังไม่ยอมหยุด !
ปาณีรู้สึกโมโหจนสุดขีด จึงแผดเสียงออกไปว่า ” ธามนิธิ !หยุดเดี๋ยวนี้นะ !”
ทันทีที่เธอพูดจบ ก็พลันสบตาเข้ากับเเววตาอันแสนเจ็บปวดรวดร้าวผสมกับความกราดเกรี้ยว ที่กำลังมองจ้องเขม็งมาที่เธอ
ปาณีเห็นอาการของธามนิธิที่แสดงออกมา ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขันในท่าทางของเขา ซึ่งทำให้ความขุ่นเคืองใจก่อนหน้านี้ของเธอ พลันสลายหายไปจนหมดสิ้น ” นี่คุณทำอะไรของคุณเนี่ย ?เล่นถูซะจนหน้าผากฉันเจ็บไปหมดเเล้ว !”
ธามนิธิทำตัวเหมือนเด็กน้อยก็ไม่ปาน งอนตุ๊บป่องไม่พูดไม่จา
ปาณีเห็นแบบนั้นก็เริ่มชักสีหน้าใส่เขาบ้าง ” ถ้าไม่พูดก็ตามใจ ฉันไปก่อนล่ะ !”
แต่ยังเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกรั้งตัวเอาไว้อีก ปาณีหันขวับกลับไปอย่างหงุดหงิด ก็ได้เห็นว่าเป็นธามนิธิที่มารั้งเธอเอาไว้ เขาลังเลอยู่นานกว่าจะยอมปริปากพูดเสียงอ่อยๆออกมา ” ปาณี อย่าไปเลยนะ !อย่าทิ้งฉันไปอีกเลยนะ …… ”
พูดจบก็ดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา และยังคงพูดความในใจกับเธอต่อไป ” อย่าจากฉันไปอีกนะปาณี !ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหุนหันพลันแล่นแบบนั้น …… ฉันไม่ควรละเลยเธอ ฉันไม่ควรทิ้งเธอไว้แบบนั้น !ปาณี ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไปเลย ………… ”
ปาณีซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา จนถูกกระดูกจากร่างกายเขาทิ่มเอาจนรู้สึกเจ็บ จากนั้นเธอจึงพยายามออกแรงดิ้นให้หลุดพ้นจากตรงจุดที่ทำให้เธอเจ็บตัว เเต่ก็กลับถูกธามนิธิกอดรัดเธอจนแน่นขึ้นไปอีก จนเธอขยับตัวไปไหนไม่ได้
ปาณีอดไม่ได้ที่จะกรอกตาบนอย่างเซ็งๆอยู่หลายรอบ ระหว่างที่อยู่ในอ้อมเเขนของเขา ทว่าธามนิธิกลับไม่รู้ด้วยกับเธอสักนิด เขารู้เเค่เพียงว่าตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มในความเสี่ยงที่จะต้องสูญเสียเธอไป ” ปาณี ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ฉันไม่ควรคิดเองเออเอง ไม่ควรตัดสินใจเรื่องหย่าโดยพลการ ไม่ควรที่จะ …… ”
” พอได้เเล้วค่ะ !” ปาณียกมือขึ้นไปปิดปากเขาไว้ ให้เขาหยุดพูดโทษตัวเองสักที จากนั้นจึงพูดกับเขาด้วยเสียงอ่อนนุ่มว่า ” จริงๆเเล้วฉันเองก็ผิด !ฉันก็ไม่ควรโมโหใส่คุณ ไม่ควรไม่รับโทรศัพท์คุณ ไม่ควรมีเรื่องราวที่ต้องปิดบังคุณ …… ”
เมื่อธามนิธิได้ฟังเธอพูดจนจบ เขาก็ยังคงอยู่ในอาการมึนงง เพราะเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าปาณีไม่เพียงแต่ไม่โทษเขา แต่กลับตำหนิตัวเธอเองเสียด้วยซ้ำ !
เมื่อหวนคิดไปถึงวันที่เขาสูญเสียเธอไป ธามนิธิก็อดไม่ได้ที่จะกระชับกอดเธอเอาไว้แน่นอีกครั้ง มือของเขาออกเเรงโอบรัดเธอหนักหน่วงขึ้น ด้วยเกรงว่าเธอจะหนีจากเขาไปไกลแสนไกล เเละเขาจะไม่มีวันหาเธอเจออีก ……
เมื่อนึกถึงช่วงที่เธอหนีจากเขาไป เขาก็อดสงสัยไม่ได้ ” ช่วงนี้เธอพักอยู่ที่ไหนเหรอ ?ฉันตามหาเธอจนทั่วเมืองชยุต ก็ไม่เห็นจะเจอร่องรอยของเธอ …… ”
” ฉันพักอยู่ที่อพาร์ทเมนท์ของนภันต์ !” ปาณีไม่ลังเลที่จะบอกความจริงกับเขา ” คุณก็รู้ดีว่าเเม่ของฉันเป็นคนยังไง ฉันไม่มีวันที่จะกลับไปเมืองชลธีแน่นอน ส่วนในเมืองชยุตคนที่จะยอมให้ฉันอยู่ด้วยโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ก็เห็นจะมีแต่นายนภันต์เท่านั้นแหละค่ะ !”
ธามนิธินิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ” …… ”
ปาณีเห็นเขานิ่งเงียบไม่ยอมพูดจาตอบโต้ เธอจึงพยายามที่จะผละตัวออกจากเขาเพื่อที่จะได้มองหน้าเขาให้ชัดๆ เเต่ก็ถูกเขาดึงตัวกลับไปกอดไว้แน่นอีกครั้ง
เเต่ปาณีก็ดูจะเพลิดเพลินกับอ้อมกอดอันเเสนอบอุ่นของเขา ซึ่งเธอห่างเหินมานาน !
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอจึงค่อยๆผละตัวเองออกจากธามนิธิ เเล้วหันมาเผชิญหน้ากับใครบางคนที่ดูท่าทางไม่ค่อยจะเบิกบานใจสักเท่าไหร่ ปาณีชี้นิ้วไปทางด้านหลังของเขา !
เมื่อธามนิธิหันกลับไปมองก็เห็นหมอชลิตพร้อมกับพยาบาลอีกกลุ่มหนึ่ง กำลังยืนอมยิ้ม แอบหัวเราะคิกคักอยู่ตรงนั้น ธามนิธิถึงกับหน้าแดงอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ชลิตเผยอยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ได้เห็นทั้งคู่กลับมาคืนดีกัน จากนั้นเขาก็เเกล้งทำทีตะโกนออกไปหาสองคนนั้น “ท่านประธานธามนิธิ !ที่นี่มันโรงพยาบาลนะครับคุณ เอาไว้ช่วยคนเจ็บคนป่วย !คุณเล่นมาพลอดรักกันประเจิดประเจ้อแบบนี้ ไม่รู้สึกละอายแก่ใจบ้างเลยรึยังไง !ผมว่ามันดูไม่ค่อยเหมาะนะครับท่าน !”
เมื่อหมอชลิตพูดจบ ธามนิธิก็หันไปจ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตายก่อนจะประคองปาณีเดินไปที่ประตู
เดินมาได้สักครึ่งทาง จู่ๆเขาก็หยุดกึก เเล้วก็หันไปมองที่ท้องน้อยๆที่ยังคงเรียบเเบนของปาณี ” ท้องของเธอ !”
ปาณีก็ก้มลงไปมองที่ท้องของเธอด้วย ” ท้องฉันทำไมเหรอคะ ?”
ธามนิธิชี้ไปที่ท้องของเธออย่างกระวนกระวายใจ ก่อนจะพูดจาละล่ำละลัก ” เมื่อครู่นี้ตอนฉันกอดเธอ ฉันกอดเธอซะเเน่นเลย ลูกในท้องจะเป็นอะไรมั๊ย ?”
พอนึกมาถึงตรงนี้ ธามนิธิรีบหันกลับไปหาชลิตที่ยังเห็นหลังไวๆ เขารีบตะโกนออกไป ” ชลิต !นายมานี่หน่อย !”
หมอชลิตกำลังจะเดินกลับไปเพื่อเตรียมตัวไปตรวจคนไข้รายอื่นๆ เขายังไม่ทันจะได้หันกลับไปมองเลยด้วยซ้ำ ก็ถูกผู้ชายใจร้อนคนหนึ่งลากตัวเข้าไปยืนอยู่ข้างๆปาณีเสียเเล้ว และชายคนนั้นก็รีบพูดจาอย่างร้อนรน ” เมื่อกี้ตอนฉันกอดเธอ ฉันออกเเรงเยอะไปหน่อย นายมาดูหน่อยสิว่า ปาณีกระทบกระเทือนตรงไหนหรือเปล่า ?”
ปาณีได้เเต่ยืนหน้าแดงระเรื่อด้วยความอายอยู่ตรงนั้น หญิงสาวได้แต่ยืนมองคุณอาที่กำลังอยู่ในอาการกระวนกระวายใจสุดๆอยู่เงียบๆ
ชลิตได้ยินดังนั้น ก็หลุดขำก๊ากออกมาเลย ” ฮ่าๆๆๆ !ธามนิธิ นี่นายล้อฉันเล่นรึเปล่าเนี่ย ?นายพูดอะไรอ่ะโคตรตลกเลย นี่มันหลุดออกมาจากปากนายจริงๆเหรอเนี่ย lol ?”