บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 57

ตอนที่ 57

ตอนที่ 57 ไม่อาจะเทียบเท่าซูพ่านเอ๋อ

ซ่านเซียนหยวนนั้นถูกพิษสุรามึนเมาจนรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเล็กน้อย และยื่นมือออกไปพยุงคนขึ้นมาแล้วสำรวจดูว่าบาดเจ็บตรงไหน ทันใดนั้นก็มีแสงสีเงินสว่างวาบผ่านดวงตาไปเป็นทหารลับชุดดำใช้ดาบยาวขวางเขาไว้

เขาจ้องมองอยากที่จะล้มดาบยาวตรงหน้า ซ่านจินจื๋อที่ผ่านมาก็รีบวิ่งเข้าไปนำซูพ่านเอ๋อเข้าสู่อ้อมกอดเมื่อเห็นว่าผิวนางแดงไปหมดเพราะโดนน้ำแกงลวกก็ตะโกนด้วยความโมโห“เมี่ยวหาร!”

ซูพ่านเอ๋อน้ำตาอาบหน้า “ท่านพี่จื๋อ….ข้าเพียงแค่ที่นี่….”

“ข้ารู้ ๆ” ซ่านจินจื๋อกอดนางและจูบตรงขมับ

เมี่ยวหารผู้ติดตามก็รีบให้การต้อนรับ

ซ่านจินจื๋อหันกลับไปก้มมองแววตาราวกับมองศัตรูในสนามรบพลางพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เจ้ากล้ามากนะ! สองสามวันนี้ข้าจะให้เจ้าอยู่แต่ในตำหนัก! ไม่อนุญาตให้ออกไปไหน!”

“เสด็จอา ข้าไม่ได้ตั้ง….”

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจเรื่องที่ข้าส่งคนติดตามเจ้า แต่พ่านเอ๋อร่างกายอ่อนแอ ถ้าหากนางเกิดเป็นอะไรขึ้นนั้นมันเป็นเพราะเจ้า ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิต!” ซ่านจินจื๋ออุ้มซูพ่านเอ๋อขึ้นและเดินจากไป

ไม่มีใครเห็นว่าซูพ่านเอ๋อนั้นยกยิ้มมุมปาก

ซ่านเซียนหยวนยืนนิ่งอยู่กับที่เบิกตากว้างด้วยความแข็งกร้าว

ชดใช้ด้วยชีวิต?

ซ่านจินจื๋อคงจะจำไม่ได้ว่าใครที่อยู่ด้วยในสนามรบ ตอนโดนบังคับให้เจอกับความยากลำบากในป่าใครกันที่ช่วยให้มีชีวิตอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้!

เขาหัวเราะเยาะเย้ย เขาทำได้แค่มองชายชุดดำหายไป เหลือเพียงเขาที่นั่งดื่มจนเมามายอยู่คนเดียว หลายวันมานี้ไม่ว่าเขาจะปรากฏตัวที่ใดในตำหนักอ๋องจะมีดวงตาคู่นึ่งจับจ้องอยู่ตลอดเวลา

หลังจากผ่านมรสุมไปในที่สุดกู้อ้าวเวยก็ได้ออกมาจากวิหารเฟิ่งหมิง

นางผอมลงไปจากตอนแรกมากโขนางสวมเพียงแค่ชุดสีขาวสะอาดตาท่ามกลางฝนปรอยปราย เมื่อออกมาไม่พบกับหยินเชี่ยวและชิงต้ายนางก็กางร่มกระดาษแล้วเดินไปทางห้องครัวพลางหยิบกับข้าวอาหารต่าง ๆออกมาใส่กล่องแล้วเดินกลับไปยังวิหารเฟิ่งหมิง

ไม่รู้ว่าในตำหนักอ๋องเกิดเรื่องอะไรขึ้น และเห็นซ่านเซียนหยวนเดินใกล้เข้ามาหัวเราะเบาๆ “ข้าออกมาแล้ว เจ้าอยากที่จะกลับไปร้านเหย้ากับข้าไปเล่นกับพุทราหรือไม่?”

เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง ซ่านเซียนหยวนก็ตกตะลึง

หลายวันมานี้เขานั้นอยู่ในตำหนักอ๋องราวกับคนเร่ร่อนไปมา วันนี้ฝนตกก็คิดว่าจะไปห้องครัวก่อนเพราะไม่อยากที่จะเผชิญหน้ากับซ่านจินจื๋อหรือซูพ่านเอ๋อที่ห้องโถงแต่ไม่คาดคิดว่าจะบังเอิญเจอนาง

“ตกลง” ซ่านเซียนหยวนยกยิ้ม

“ข้ายังเจ็บอยู่หรือไม่?” กู้อ้าวเวยเดินไปพลางถามสารทุกข์สุกดิบเขาไปด้วย

“ไม่เจ็บแล้ว” ซ่านเซียนหยวนลูบปลายจมูกตัวเองและตามกู้อ้าวเวยกลับมายังวิหารเฟิ่งหมิงกินดื่มกันจนเต็มที่จนเขารู้สึกอิ่มเอมใจขึ้นมาทันใด

แต่เมื่อเดินมายังประตูตำหนักอ๋องทั้งคู่กลับถูกขวางทางไว้ “พระชายา ท่านอ๋องมีรับสั่งไม่อนุญาตให้องค์ชายสี่ออกจากตำหนักขอรับ”

“เพราะเหตุใดกัน?” กู้อ้าวเวยมองไปที่ซ่านเซียนหยวนอย่างไม่วางตา

ซ่านเซียนหยวนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งหมดให้กู้อ้าวเวยได้รับรู้ กู้อ้าวเวยหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่รู้ได้ถึงความคิดของซูพ่านเอ๋อว่ากำลังคิดจะทำอะไร

ลังเลอยู่นาน กู้อ้าวเวยก็นำร่มที่ถือมายัดใส่มือของซ่านเซียนหยวน

“เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้ ข้าจะไปพาเจ้าพุทรามาที่นี่เอง”

นางยิ้มอย่างน่ารักออกมาและผลักทหารตรงหน้าและวิ่งหายไปในม่านฝน

ซ่านเซียนหยวนหัวเราะยืนรอนางอยู่ที่เดิม

ในเวลาสองก้านธูปนางก็อุ้มเจ้าพุทราพร้อมกับกล่องยากลับมาและผมที่เปียกโชกแต่กลับยิ้มอย่างสดใสเหมือนเดิมและหยิบผลไม้เชื่อมจากกระเปาส่งให้ซ่านเซียนหยวน “โชคดีที่ฝนตกไม่หนัก พวกเรากลับวิหารเฟิ่งหมิงกันเถอะ”

“ไปกันเถอะ” ซ่านเซียนหยวนว่านอนสอนง่ายรับผลไม้เชื่อมมากินไปหนึ่งคำรสชาติหวานมัน ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาก

แถมหญิงสาวข้างกายก็ยังลูบเจ้าพุทราในอ้อมอกอย่างระมัดระวัง ผ้าสีเขียวสดหล่นลงใบหน้าของนางยิ่งทำให้ผิวของนางนั้นขาวราวกับหิมะ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแม้กระทั่งหยาดฝนที่ตกกระทบผิวก็มีรสชาติราวกับผลไม้เชื่อม

“ทำไมเจ้าต้องพาเจ้าพุทรามาที่นี่ทันทีด้วยละ?” เขาโยกศีรษะไปมากระแอมสองสามทีถึงได้ถามออกไป

“เพราะฉีหลินบอกข้าว่า ให้เจ้าพุทรามาอยู่เป็นเพื่อนข้าตอนที่ข้าจำศีล เพราะก่อนหน้านี้ข้าลืมไปตอนนี้หมดช่วงแล้วก็เลยไปอุ้มมันมา ครั้งหน้าจะได้ให้มันอยู่เป็นเพื่อนข้า” กู้อ้าวเวยจับหัวเจ้าพุทรามาตรงเสื้อผ้าที่ไม่เปียกฝนและจับหางมันไว้ตรงท้องแขน

แลกมาด้วยกับเสียงร้องของมันหางนั้นก็สะบัดออกมาและฟาดเข้าที่คางของกู้อ้าวเวย

ซ่านเซียนหยวนหัวเราะออกมา กู้อ้าวเวยจับคางที่โดนฟางสะบัดใส่ก็เลยจำใจต้องนำเจ้าพุทราไปไว้ในอ้อมแขนของซ่านเซียนหยวน “มีความสุขหรือยัง?”

“ที่สุดเลย” ซ่านเซียนหยวนอุ้มเจ้าพุทราราวกับจับปูใส่กระด้ง

ตลอดทางที่เดินกลับมายังวิหารเฟิ่งหมิง เจ้าพุทราก็วิ่งวนไปทั่วอย่างกับลิงโลด

กู้อ้าวเวยท้าวคางมองไปยังซ่านเซียนหยวน “เจ้าไปทำอะไรให้แม่นางซูพ่านเอ๋อเกลียดเข้าให้ละ? เจ้ากับนางไม่เคยมีเรื่องบาดหมางต่อกันไม่แน่ว่านี่อาจจะเกินความคาดหมายไปเสียหน่อย”

“ถ้ามันเป็นเพียงแค่ครั้งเดียวที่เสด็จอาก็คงจะบอกได้ว่าบังเอิญ สองครั้งข้าก็ไม่เชื่ออีกต่อไป” ซ่านเซียนหยวนส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง “ไม่กี่วันมานี้มีคนสะกดรอยตามข้า ข้าโมโหมากแล้วก็หลายวันมานี้ก็ไม่เห็นเสด็จอาเลย”

กู้อ้าวเวยพยักหน้าอย่างจนปัญญา ซ่านเซียนหยวนยังอยากจะดื่มต่อนางก็แย่งขวดเหล้าในมือไปและกลับไปวางไว้บนโต๊ะดังเดิม “ยิ่งดื่มก็ยิ่งเศร้า”

“ก็ยังดีกว่าโทสะที่ไม่สิ้นสุดของข้าในทุกวันนี้” ซ่านเซียนหยวนยกมือหวังว่าจะหยิบขวดเหล้าแต่กลับถูกมือของกู้อ้าวเวยผลักออกและขวดเหล้าก็หล่นไปยังมุมโต๊ะพอดิบพอดี ปลายนิ้วอันเรียวยาวของนางเคาะเขาที่คอขวดพลางเงยหน้าขึ้นมองเขา “อายุยังน้อยรู้เรื่องดื่มเหล้าย้อมใจก็คงจะรู้ว่าเหล้าก็เป็นพิษเช่นกัน หลังจากนี้ถ้าไม่ระวังจะทำอย่างไร?”

“เจ้านี่บ่นยิ่งกว่าท่านแม่ข้าเสียอีกนะ” ทันใดนั้นเขาก็ใจร้อนไม่เป็นสุขและยังคิดจะแย่งขวดเหล้ามาอีกครั้ง

กู้อ้าวเวยพลิกฝ่ามือและขวดเหล้าก็หล่นไปที่ม้านั่งข้าง ๆ

“ซูพ่านเอ๋อเป็นของท่านอ๋อง มองไม่ได้ จับไม่ได้ ยุ่งไม่ได้ ถ้าอยากใช้ชีวิตอย่างมีอิสระก็ต้องไม่ก่อเรื่อง ถึงอย่างไรอำนาจและอิทธิพลของท่านอ๋องก็สูงเทียมฟ้า ทั้งเจ้าและข้าก็ไม่อาจจะเอื้อม” นางพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ และเตะไปที่ม้านั่งข้างๆพลางเติมน้ำชายื่นส่งให้เขาที่อยู่ตรงข้างหน้า

ซ่านเซียนหยวนชะงักกึกมองไปทางกู้อ้าวเวย “นางสำคัญเช่นนั้นเชียวหรือ?”

“เจ้าคิดว่าใจและเลือดของข้าถูกขุดออกมาอย่างไร?” กู้อ้าวเวยหัวเราะเยาะเย้ยตัวเองแต่นางก็ไม่ได้สนใจว่าจะมีใครมามองเพียงแค่พูดออกมา “บางที่ซ่านจินจื๋อในสนามรบก็เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม พออยู่ที่ราชสำนักก็มักจะมีแผนที่ยอดเยี่ยม แต่เมื่ออยู่ที่ตำหนักไม่ว่าฟ้าหรือแผ่นดินก็ไม่อาจเทียบซูพ่านเอ๋อ”

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท