บทที่ 428 ความเกลียดของลูกชาย
“กู้อ้าวเวย ขนาดว่าเจ้าตายไปแล้วยังจะมาเป็นศัตรูกับข้าอีกหรือ?”
ซ่านจินจื๋อไม่เคยรู้สึกเสียใจแบบนี้มาก่อน ปกติสีหน้าของเขาก็ดูเยือกเย็นและทุกข์ใจตลอดเวลาอยู่แล้ว
ตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ เขากลับไม่รู้จักถนุถนอมนาง พอตอนนี้ข้างกายเขาเหลือเพียงกู้จี้เหยากับซูพ่านเอ๋อร์เขากลับมานึกถึงรอยยิ้มของนาง เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของนางก็ทำให้เขามีความสุขขึ้นมาได้ และแม้ว่าเขาสองคนจะไม่ถูกกันก็ตาม
“สองสามวันก่อน พวกข้าได้ไปดูที่ป้ายหลุมศพของนางมา ก็ไม่ได้มีใครมาทำอะไรเลยแม้แต่น้อย ตอนนั้นก็เคยทดสอบพระชายามาแล้ว เรื่องการตายแล้วฟื้นนั้นไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน”
“ถ้าพูดแบบนี้ แสดงว่าต้องมีคนทำอะไรบางอย่างอย่างแน่นอน ลองคิดดูว่าพวกมันต้องการอะไรกันแน่?”
ซ่านจินจื๋อก้มลงจ้องมองจดหมายลับที่อยู่ในมือตัวเอง และรู้สึกว่าช่วงนี้มีแต่เรื่องเสียใจและปวดหัวอย่างมาก : “กู้เฉิง ทำไมเจ้าถึงคิดว่าหยุนหว่านยังมีชีวิตอยู่ ถึงได้พลิกฟ้าหากัน………”
พอได้ยินแบบนั้น เฉิงซานก็พลันหยุดเดิน แล้วพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ: “ในเมื่อพูดแบบนี้ หรือว่าที่ท่านเห็นวิญญาณพระชายาตอนนั้น อาจจะเป็นหยุนหว่านฮูหยินที่มาล้างแค้น”
ทั้งสองคนหันไปมองหน้ากัน ซ่านจินจื๋อก็พอจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด
แต่ก่อนหยุนหว่านก็เป็นเสี้ยนหนามของเสด็จพอมาตลอด และโลงศพของนางนั้นก็เอาไปเอามาอยู่หลายรอบ บางทีนางอาจจะยังมีชีวิตอยู่ และอีกอย่าง หยุนหว่านกับกู้อ้าวเวยก็เป็นแม่ลูกกัน ก็เลยอาจจะดูหน้าตาคล้ายกัน
“กู้เฉิงคงจะคิดว่า ตอนนั้นหยุนหว่านกินยาสำรับลึกลับเขาไปเลยไม่ตาย ” ซ่านจินจื๋อลุกขึ้น แล้วมองด้วยสีหน้าดุดัน พลันพูดขึ้น: “ถ้าพูดแบบนี้ เราก็ควรจะเตรียมตัวรับมือกับหยุนเฉินกันหน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นการร่วมมือของเขากับหยุนหว่าน และก็มีการล่อให้กู้เฉิงออกมา ตอนที่เขาออกมานั้นห้ามใจร้อน เพราะถ้าหากว่าเขาเอาเรื่องพ่านเอ๋อร์พูดออกมามันจะไม่ดี…..”
“อย่างน้อย ก่อนที่กู้เฉิงจะตาย เราก็ห้ามให้คนของตระกูลหยุน ได้เปิดปากออกมา”
พอพูดจบ ซ่านจินจื๋อก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว: “ร้านอาหารป่ายเว่ย”
“พ่ะย่ะค่ะ” เฉิงซานตอบรับ
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ตอนที่กู้อ้าวเวยได้สตินั้น นางก็ได้มานั่งอยู่ต่อหน้าซ่านจอนจื่อแล้ว
และนางก็ได้ถูกมัดตัวเอาไว้ แต่กลับไม่มีสีหน้าตกใจเลยสักนิด
พอเห็นสีหน้าของซ่านจินจื๋อนิ่งมาก และเหมือนจะมาไม่ดี นางก็ทำได้เพียงแค่ทำเป็นไม่สนใจเขา แต่โชคดีที่ตอนนางออกมานั้น นางได้กลืนยาเข้าไป เลยทำให้เสียงแหบพร่า: “อ๋องจิ้งช่างมีน้ำใจเปี่ยมล้น ต้องการอะไรหรือ?”
“คนของพวกเจ้าไม่ง่ายเลยที่จะใช้ความตายของเวยเอ๋อร์มาเป็นเครื่องมือ ตอนนี้ยังจะมาร่วมมือกับองค์ชายสามอีก เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้า” ซ่านจินจื๋อฟังสิ่งที่นางพูดแล้วขมวดคิ้ว: “อย่าทำเป็นกดเสียงพูด”
“ตอนที่ข้ายังเด็ก ข้าได้เอาพิษมาล้างคอตัวเอง” กู้อ้าวเวยพูดต่อ เพราะเหนื่อยต่อการดัดเสียง และตรงนั้นก็มีของที่สามารถเอามาทำเป็นลูกกระเดือกได้ นางก็เลยทำให้เขาดู: “อีกอย่าง ที่ข้ายอมทำงานให้กับองค์ชายสาม ก็เพราะว่าต้องการล้างแค้นให้พี่สาวข้าด้วย”
ล้างแค้นสองคำนี้ดังขึ้นมา ก็เหมือนมีมีดปักเข้ามาที่หัวใจของซ่านจินจื๋อทันที
“ตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้โทษเจ้า หลังจากที่นางตายไปก็ยังไม่โทษเจ้า แต่ว่าข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไว้!”
กู้อ้าวเวยทั้งโมโหทั้งพยายามลุกขึ้น แล้วหันไปมองซ่านจินจื๋อที่ทำหน้าตะลึงอยู่ และก็ถือว่านางได้ระบายความแค้นออกมาด้วย
บรรยากาศเกิดการหยุดชะงัก และเสียงดาบก็ดังขึ้นและวางลงบนบ่าของนางทันที แล้วก็มีเสียงพูดขึ้น: “นั่งลงไป”
กู้ก้าวเวยไม่ว่าอะไรแต่กลับหัวเราะออกมา: “ข้านั้นไม่ได้มีความเป็นหญิงเทียบเท่าท่านพี่ ถ้าตอนนี้เจ้าฆ่าข้า องค์ชายสามก็ต้องกลับไปทูลฝ่าบาทอย่างแน่นอน”
“ก็แค่พวกคนธรรมดาคนหนึ่ง นึกว่าข้าจะฆ่าไม่ได้งั้นหรือ”
แก้วในมือแตกทันที ซ่านจินจื๋อเงยหน้าขึ้นมาด้วยสายตาอาฆาต
“ข้าเป็นคนวางแผนให้องค์ชายสาม วันก่อนเขาก็ได้เอาฎีกาที่เกี่ยวกับข้าไปให้ฝ่าบาทแล้ว เรื่องของโรงเรียนนั้นข้าก็ได้จัดการแล้ว ท่านอ๋อง ท่านว่าควรจะฆ่าหรือไม่? ” กู้อ้าวเวยโน้มตัวลงไป แล้วก็เอามือไปกุมบนโต๊ะ จ้องหน้าซ่านจินจื๋ออย่างไม่ละสายตา
ทั้งสองต่างจ้องหันเขม่น ซ่านจินจื๋อนึกไม่ถึงว่าเขาจะลงมือเร็วขนาดนี้
ตอนนี้ เรื่องโรงเรียนนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องของลูกศิษย์ แต่ว่าฝ่าบาทกลับให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก ถึงได้ยอมมอบให้กับหยุนเฉิน และนี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทำอะไรนางไม่ได้
เสียงหัวเราะดังขึ้น กู้อ้าวเวยเหมือนกับว่ายึดดาบไว้ได้แล้ว พลันพูดขึ้น: “ในเมื่อท่านพี่ถูกเจ้าหลอกลวงจนเป็นแบบนั้น ข้าเองก็จะลองกับเจ้าสักครั้ง ดูว่าใครจะเหนือกว่ากัน”
พูดเสร็จนางก็เอามือดันดาบพวกนั้นออกไป แล้วก็เดินออกไปจากตรงนั้นอย่างปกติ
และเขาก็กำหมัดเอาไว้แน่น เหงื่อออกมาจนชุ่มมือ
เขาหันไปมองเงาของนางที่เดินออกไป แล้วก็พลันเอามือลง ในระหว่างนั้นเลือดก็ไหลออกมา หยดลงไปในน้ำชา จนสีกลายเป็นสีเลือด
“กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง” มีเสียงดังขึ้นมา ไม่เพียงแค่พูดคำนี้
สิ่งที่ได้รับในตอนนี้ ก็เกิดจากการกระทำในตอนนั้น ตอนนี้ถึงเวลาต้องชดใช้แล้ว
พอออกมาจากร้านแล้ว กู้อ้าวเวยก็เดินออกมาด้วยสีหน้าเยือกเย็น และเดินกลับมาที่ ตำหนักองค์ชายสาม ซ่านเซิ่งหานรู้ว่าวันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงรีบเดินเข้ามาหานางทันที: “ท่านน้าไม่รู้เรื่องอะไรใช่ไหม…..”
“ไม่รู้อะไร แต่ว่าหลังจากนี้ ข้าต้องระวังเขาไว้ให้มากๆ ”
กู้อ้าวเวยทำหน้าเคร่งเครียด แล้วก็พลันนั่งลง แต่กลับเอามือไปลูบท้อง
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ซ่านเซิ่งหานพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
กุ่ยเม่ยที่อยู่ข้างๆ ทนไม่ไหวจึงเดินเข้ามา แล้วเรียกให้ซ่านเซิ่งหานออกมาด้านนอก
แล้วกุ่ยเม่ยก็ยืนนิ่งด้วยสีหน้านิ่งๆ แล้วก็เอาหมวกหัวเสือเล็กๆ ออกมา พร้อมกับสายตาที่โมโห: “ก่อนที่นางโดนเรียกตัวไปนั้น ข้าได้เข้าไปในจวนแล้วก็เก็บของพวกนี้มา”
“ของพวกนี้คือ….”
“เป็นของที่นางเตรียมไว้ให้เด็กๆ เดิมทีควรจะเอาไปฝังพร้อมกับหลุมศพพวกเขา” กุ่ยเม่ยกอดของพวกนั้นเอาไว้อย่างถนุถนอม แต่ว่าในกล่องพวกนั้น ยังมีของเล่นเด็กอย่างอื่นอยู่อีก
ซ่านเซิ่งหานขมวดคิ้วแน่น หรือว่าซ่านจินจื๋อจะไม่สนใจเยื่อใยอะไรเลยหรือ
กู้อ้าวเวยกลับรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง ความรู้สึกที่เคยมีกับเขาเมื่อก่อนนั้น ตอนนี้ได้กลายเป็นความเกลียดเข้ามาแทนที่หมดแล้ว เดิมทีนางต้องการจะสู้กับเขาอย่างยุติธรรม แต่ว่าตอนนี้นั้น นางแทบอยากจะเอามีดร้อยพันเล่มแทงเข้าไปในตัวของชายผู้นี้
เพราะนั่นคือ เลือดเนื้อของพวกเขา……
ประตูถูกเปิดออกเบาๆ ซ่านเซิ่งหานเดินเข้ามาข้างๆ นาง แล้วก็เอาของพวกนั้นยัดใส่ตัวนาง เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะปลอบนางอย่างไรดี
พอเห็นของเล่นที่อยู่ในอกตัวเอง กู้อ้าวเวยก็พลันน้ำตาไหลรินลงมา แล้วก็พลันพูดออกมา: “ข้ายังนึกว่า ไม่ว่าเขาจะเป็นคนโหดร้ายแค่ไหน เขาก็คงไม่โทษลูกที่น่าสงสารของข้า….”
“ไม่นึกว่า เขาจะทำเรื่องแบบนี้ลงได้” กู้อ้าวเวยไม่สามารถจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ แต่นางก็ยิ้มออกมาอย่างทรมาน:” ต้องโทษที่ข้านั้นตาบอด ที่ในตอนนี้ก็ยังไม่สามารถตัดใจได้ เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า”
“ถ้าหากว่าเจ้าไม่ไหว ข้าว่าเจ้าควรกลับตระกูลหยุน…”
“ไม่” นางเงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น: “กรรมใดใครก่อ คนนั้นก็ต้องชดใช้ เขาและซูพ่านเอ๋อร์สองคนที่ตัดกันไม่ขาด ในเมื่อต้องการจะสู้ ข้าก็จะสนองให้เขาเอง