บทที่ 37 ประธานเซี่ยให้ที่ห้องทำงานของเขา
เมื่อเห็นลู่เฉินเดินตรงไปที่พนักงานขายฝึกงาน
ที่สวยงามของวันนั้น พนักงานอีกสองสามที่อยู่ถัดเกอดความไม่พอใจเล็กน้อย และสายตาที่พวกเขามองไปที่พนักงานขายฝึกงานเต็มไปด้วยความอิจฉา
” พี่ลู่…… ” ฮันหยุนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยและเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ
“ วันนี้ยังมีรถ A6 อยู่หรือเปล่า ฉันจะขับซื้อไป” ลู่เฉินพยักหน้าและถาม
“มี มี คุณยังต้องการซื้อรถใหม่อีกคันหนือ” ฮันยุนพยักหน้าอย่างรีบร้อน
“อืม ฉันไม่ดูรถแล้ว ทำขั้นตอนการซื้อรถโดยตรงกันเถอะ” ลู่เฉินกล่าว
“โอเค โอเค” หานหยุนพูดอย่างตื่นเต้นและพาลู่เฉินไปทำตามขั้นตอนการซื้อ
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของทั้งสองที่จากไป พนักงานขายไม่กี่คนที่อยู่เบื้องหลังล้วนทุบหน้าอกของตัวเอง รู้สึกเสียใจภายหลังอย่างมาก
เมื่อวานนี้ถ้าพวกเขาไม่ดูถูกเขาและรีบขึ้นไปต้อนรับอย่างกระตือรือร้น พวกเขาก็จะไม่สูญเสียลูกค้ารายใหญ่เช่นนี้แล้ว
“จื่อรัน ฉันเห็นคาดไม่ถึงว่าเด็กฝึกงานคนนี้ที่คุณพามานั้นโชคดีมาก”
“เรามาอิจฉาตรงนี้ก็ไร้ประโยชน์หรอก ต้องโทษแต่ตัวเองที่ไม่มีสายตา ”
“ใช่ไง ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งต่อไปถ้ามีแขกมาอย่าดูถูกพวกเขาเลย พี่ลู่ดูธรรมดามากไม่มีอะไรพิเศษนอกจากความหล่อเหลา
แต่คนอย่างกับเขาถือเรียกว่าไม่อวดไง ”
ใช่ ถ้าเป็นคนรวยจริงๆจะไม่ทำตัวอวดรวยใดหรอก
รูดบัตร เซ็นสัญญา และรับรถ
บุคคลคนเดียวกันซื้อรถ A6 ใหม่สองคันในสองวันติดต่ออกัน แม้แต่ผู้จัดการก็ยังประหลาดใจเล็กน้อย
“เสี่ยวฮาน ด้วยคำสั่งซื้อทั้งสองนี้คุณสามารถเป็นพนักงานแท้จริงได้ล่วงหน้าแล้ว และนี่เป็นโอกาสด้วยนะ ลูกค้ารายใหญ่เช่นนี้จะต้องยึดเอาไว้” ผู้จัดการมองไปที่ฮันหยุนซึ่งยังคงตื่นเต้นพร้อมพูด
ฮันยุนเข้าใจความหมายของผู้จัดการ และใบหน้าสวยของเธอแดงระเรื่อ เธอลังเลอยู่ไปหลายวินาทีในที่สุดก็เดินตามไป
“พี่ลู่ ฉันชื่อฮันหยุนค่ะ ขอบคุณที่มาดูแลสองวันนี้” ลู่เฉินเพิ่งเข้าไปในรถ ฮันหยุนก็เดินมาหาเขา
เมื่อเห็นความเขินอายบนใบหน้าของฮันหยุน ลู่เฉินก็ยิ้มและกล่าวว่า: “เมื่อวานนี้มีเพียงคุณเท่านั้นที่เต็มใจมาต้อนรับเรา เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะดูแลธุรกิจของคุณในวันนี้อีกครั้ง”
ฮันยุนรู้สึกโชคดีมาก กัดริมฝีปากของตัวเองแล้วพูดว่า “พี่ลู่ฉันขอเบอร์คุณไว้ได้ไหม หรือ WeChatก็ได้ค่ะ”
“บนสัญญามีเบอร์ของฉันอยู่ไม่ใช่หรือ คุณไปดูก็รู้”ลู่เฉินรู้สิ่งที่ฮันยุนคิดในใจ จึงยิ้มแล้วตอบเธอ
เมื่อเห็นว่าลู่เฉินไม่ให้หมายเลขโทรศัพท์กับเธอ ฮันหยุนก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงต้องหยิบนามบัตรตัวเองและส่งให้ลู่เฉิน
“พี่ลู่ นี่คือนามบัตรของฉัน ถ้าคราวหน้าคุณจะซื้อ Audiอีก โทรหาฉันแล้วฉันจะออกไปรับ”
ลู่เฉินหยิบนามบัตรมา พยักหน้าแล้วสตาร์ทรถแล้วจากไป
ฮันหยุนไม่ได้รับเบอร์ของลู่เฉินเลยกลับไปที่ห้องทำงานของผู้จัดการ
“ผู้จัดการ ฉันขอเบอร์ลู่เฉินและเขาบอกว่าให้ฉันไปดูบนสัญญา คุณเอาเบอร์เขาให้ฉันหน่อยได้ไหม” ฮันหยุนถาม
“ สัญญายังไม่เข้าตู้ก็ไปดูเอาเองละกัน”ผู้จัดการยิ้มคิดว่าเขาไม่ได้ให้เบอร์คุณ ก็หมายความว่าเขาก็ไม่ได้สนใจคุณ แม้ว่าคุณจะได้เบอร์มาก็คงไม่มีประโยชน์
แต่ถ้าฮันหยุนเต็มใจที่จะติดตาม เขาก็มีความสุขเช่นกัน เพราะมีลูกค้ารายใหญ่ไม่มากที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมาเท่าลู่เฉิน
“ขอบคุณผู้จัดการ” ฮันหยุนดีใจมากและหยิบสัญญาบนโต๊ะขึ้นมาแล้วพลิกดูหมายเลขของลู่เฉิน
หลังจากลู่เฉินออกจากร้าน 4S เขาก็ตรงไปที่ บริษัท
เมื่อเห็น A6 ใหม่ เสี่ยวจิงที่อยู่เวรมองก็รู้ว่านี่เป็นรถของลู่เฉิน
“พี่เฉิน ฉันมาช่วยคุณจอดครับ” เสี่ยวจิงเดินไปและพูด
ลู่เฉินพยักหน้าเปิดประตูแล้วเดินลงไป
“เอ๊ะ เดี๋ยวไปที่ห้องทำงานของประธานเซี่ยด้วยนะ”ระหว่างที่พูดลู่เฉินก็เดินเข้าไปในประตูบริษัท
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่น ๆ ต่างประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นลู่เฉินขับรถ A6 ใหม่มาทำงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเลยแจ้งให้ยูไห่ทราบในเวลาแรก
เมื่อหยูไห่ได้ยินก็รู้สึกไม่พอใจมาก เขาเป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยเขาแค่ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาทำงานเอง เขาไม่คาดคิดว่ารปภ. คนหนึ่งที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาจะซื้อรถ A6 ได้ นี่มันน่าโมโหจริงๆ
เขาวิ่งออกไปและเห็นว่าเสี่ยวจิงเพิ่งจอดรถให้ลู่เฉินเสร็จ เขาเลยตะโกนด้วยความโกรธ: “เสี่ยวจิง คุณไม่ได้ปฏิบัติตามหน้าที่ กลับวิ่งไปช่วยลู่เฉินหจอดรถ คุณไม่มีงานต้องทำหรือ?”
“การช่วยคนอื่นจอดรถเป็นหนึ่งในงานรักษาความปลอดภัยของเราไม่ใช่หรือ?” เสี่ยวจิงมองไปที่หยูไห่อย่างใจเย็นและถามกลับ
“นั่นสำหรับผู้จัดการบริษัทหรือแขกผู้มาเยี่ยมชม ลู่เฉินเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขามีสิทธิ์หรือ” หยูไห่ดุว่า
เสี่ยวจิงมองไปที่หยูไห่อย่างดูถูก จากนั้นก็หันและเดินไปที่อาคารของบริษัท
“คุณไม่ได้อยู่ในหน้าที่คุณจะไปไหน?” ร่างกายของหยูไห่สั่นสะท้านด้วยความโกรธ ลู่เฉินไม่สนใจเขาและเขาก็อดกลั้นไว้ เพราะใครให้ลู่เฉินได้รับความชื่มชนจากประธานเซี่ยล่ะ
แต่เสี่ยวจิงซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตัวเล็กๆ ยังกล้าไม่เคารพผู้จัดการอีก มันจะหยิ่งไปถึงไหนวะ
“ไปที่ห้องทำงานของประธานเซี่ย” เสี่ยวจิงพูดอย่างเมินเฉย
“ดีมาก ฉันจะให้ประธานเซี่ยไล่คุณออกจาก บริษัท !” หยูไห่พูดอย่างโกรธ ๆ แล้วเดินไปที่อาคาร
ในขณะนี้โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นและเขาก็หยิบออกมาดูว่าเป็นเลขาของประธานเซี่ยนั่นเอง
“ผู้อำนวยการหยูครับ ประธานเซี่ยให้คุณมาที่ห้องทำงานของเขา” เลขาพูดและวางสายโทรศัพท์
หยูไห่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เสี่ยวจิงกำลังไปที่ห้องทำงานของประธานเซี่ยและประธานเซี่ยยังต้องการให้ตัวเองไปด้วยอีก มีอะไรหรือ?
เป็นเพราะประธานเซี่ยรู้สึกว่าเสี่ยวปิงทำงานไม่ถูกระเบียบและต้องการขับไล่เขาหรือไม่?
หยูไห่คิดอย่างดุเดือดในใจ ขึ้นไปถึงชั้นสองและก็เห็นฟ่านหมิงออกมาจากห้องทำงาน
“ผู้อำนวยการฟ่าน คุณกำลังจะออกไปเหรอ” หยูไห่ถาม
“ไม่ ประธานเซี่ยให้ฉันไปที่ห้องทำงานของเขา” ฟ่านหมิงส่ายหัว
“อ่า เลขาของเขาโทรมาหาคุณด้วยรึเปล่า?” หยูไห่ถามด้วยความประหลาดใจ
“ประธานเซี่ยยังได้ให้คุณไปที่ห้องทำงานของเขาด้วย?” ฟ่านหมิงตกใจและถาม
“ใช่ไง ฉันก็ไม่รู้ว่าประธานเซี่ยให้เราไปทำอะไร และเมื่อกี้ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเพิ่งขึ้นไปที่ห้องทำงานของประธานเซี่ยด้วย” หยูไห่พยักหน้าและพูด
ฟ่านหมิงหรี่ตาและถาม “เกิดอะไรขึ้นกับแผนกรักษาความปลอดภัยของคุณ”
“ไม่” หยูไห่ส่ายหัว แต่ทันใดนั้นก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและพูดว่า “แต่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนถูกตำรวจจับตัวไปเมื่อวานนี้ ฉันยังไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรผิดกฎหมาย”
ฟ่านหมิงกำลังคิดอยู่และหยูไห่ ก็พูดอีกครั้ง: “ผู้อำนวยการฟ่าน พวกเขารู้เกี่ยวกับการสูญเสียเงิน 100,000 หยวนในแผนกการเงินเมื่อวานนี้แล้วหรือ”
“พวกเขาไปตรวจสอบที่กล้องวรจรหรือยัง?” ฟ่านหมิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว พวกเขาจงใจจะใส่ร้ายลู่เฉินในเรื่องเมื่อวานนี้ หากถูกพวกเขาพบเขาจะไม่สามารถหลบหนีได้
“เป็นไปไม่ได้และฉันได้ลบวิดีโอเฝ้าระวังตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว” หยูไห่ส่ายหัว
“อืม ไปดูสอบสถานการณ์ก่อนละกัน” ฟ่านหมิงพยักหน้า
“ผู้อำนวยการฟ่าน ลู่เฉินขับ Audi A6 มาทำงานวันนี้ ยังใหม่เอี่ยมและน่าจะเพิ่งซื้อมา” หยูไห่พูดอย่างกะทันหัน
“หึ ออดี้ A6 ราคา 400,000 ถึง 500,000 หยวนเองดูเหมือนว่าเขาจะทำข้อตกลงอะไรกับเซี่ยจุนแล้ว” ฟ่านหมิงยิ้มเยาะ
“คนนั้นเป็นขยะจริงๆ ใช้เงินที่ภรรยาของเขาใช้ร่างกายแลกมา เหี้ยหรือเกิน”หยูไห่กล่าวประชด
“ปล่อยให้เขาอาละวาดสักพัก รอให้ฉันจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ถือหุ้นรายใหม่นี้ก่อนและพวกเขาก็จะต้องโดนฉันไล่ออกไปจากบริษัทเหมือนกับหมาตาย ”
ฟ่านหมิงหัวเราะเยาะและเดินไปที่ห้องทำงานของเสี้ยจุน