บทที่ 504 วันสุดท้ายของการสถาปนาประเทศ
“ได้เลย” ลู่เฉินยิ้ม
เขาให้ตู้เฟยนั่งลงและฉีกเปลือกผลไม้นมใส่ปากตัวเอง
“ผลไม้นมชนิดนี้น่าทึ่งมาก เป็นพวกผลไม้อบแห้งแต่เนื้อของมันกลับอุดมไปด้วยไขมันพืชและเนื้อเหลว ปัจจุบันพบเฉพาะในป่าสนทางตอนเหนือเท่านั้น ผลผลิตน้อยมาก ก่อนปลูกเทียมขนาดใหญ่ คาดว่าทุกเดือนฉันคงมีพอที่จะกินประมาณสิบเม็ดได้”
“มาๆ วันนี้พวกนายก็มาลองชิมดู”
ลู่เฉินโบกมือให้เซ่เว่ยเหาและคนอื่นๆที่ยังคงยืนอยู่มารับผลไม้นมไปชิม
“ผมเคยกินดูแล้วก็น่าทึ่งจริงๆด้วย น่าเสียดายที่มีน้อยเกินไป” เซ่เว่ยเหายิ้ม
“เจ้าพวกนี้นี่ พวกนายเป็นนักกิน ของอร่อยๆอย่างนี้ก็ไม่ยอมส่งให้ฉันกินสักสองสามลูก” ลู่เฉินพูด
“ก็เพิ่งได้กินเมื่อกี้นี้ นายคิดว่าพวกเราไปกินตอนไหนกัน” ตู้เฟยพูด
“ช่างเถอะ ถือว่าฉันพลาดเอง” ลู่เฉินพูดขณะที่เขากินอาหารเช้า
หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่แสนเรียบง่ายแต่อิ่มอร่อยแล้ว ตอนนี้ดวงอาทิตย์ก็ส่องแสงออกไปข้างนอก อุณหภูมิภายนอกอยู่ที่ประมาณ 32 องศาซึ่งไม่ร้อนเกินไป
สำหรับชายหาดเขตอบอุ่น อุณหภูมิเช่นนี้สามารถอธิบายได้ว่ากำลังพอดี แสงอาทิตย์ไม่ได้ส่องกระทบร่างกาย แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนโยน
เอ๊ะ แต่นี่มันก็ถูก เพราะดาวเคราะห์ดวงนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากมลพิษที่มากมายของยุคปัจจุบันเท่ากับชั้นบรรยากาศของโลกและชั้นโอโซนก็ยังไม่ถูกทำลาย
ดังนั้นแสงอาทิตย์ของดาวเคราะห์ดวงนี้จึงไม่เป็น “พิษ”เท่ากับบนโลก แค่เพียงต้องมีมาตรการป้องกันสักเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวไหม้หรือเป็นมะเร็งผิวหนัง
ลู่เฉินและคนอื่นๆกลับมาที่ชายหาดอีกครั้ง
จากนั้นหลินอี้จุน ภรรยาตู้เฟย และภรรยาของเซ่เว่ยเหารวมถึงภรรยาคนอื่นๆก็อยู่ที่นี่ ไม่ได้ออกไปเล่นน้ำทะเลกับพวกลู่เฉินด้วย
พวกเธอเตรียมผ้าขนหนูและผ้าชายหาดมาไม่กี่ผืนเพื่อทำที่นอนบนชายหาดแห้ง ไปเล่นฟองทะเลแล้วกับมานอนอาบแดดตรงที่นอน
ลู่เฉินและคนอื่นๆพาฉีฉีออกทะเลไปจับปลา
ทุกคนกำลังจะกลับมาในเช้าวันพรุ่งนี้
แน่นอนว่ามีกองทัพอากาศคุ้มกันตลอดการเดินทางและยังมีโดรนอีกหลายตัวที่บินไปทั่วโลกเพื่อสำรวจสถานการณ์ของประเทศคนแคระในอีกสี่ทวีป
ตราบใดที่มีการเคลื่อนไหวก็จะถูกค้นพบในทันที
แน่นอนว่าอีกสี่ทวีปยังไม่ได้สร้างการสื่อสารที่สมบูรณ์ขึ้นมาใหม่ ดาวเทียมสื่อสารของพวกเขาล้วนถูกยิงไปแล้วหลายตัว พวกเขาจึงไม่รู้กำหนดการของพวกลู่เฉิน
ระหว่างการเดินทางลู่ฉีฉีบอกว่าเธอมีความสุขมากแค่ไหน
ไม่ว่าจะเป็นบนโลกหรือที่แห่งนี้ เธอได้เห็นทะเลเป็นครั้งแรกและยังเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งเรืออีกด้วย
แม้ว่าเธอจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว แต่ในเวลานี้เธอเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่กำลังอยู่บนดาดฟ้าที่มีชีวิตชีวา
“มีความสุขไหม?” ลู่เฉินสวมแว่นกันแดด เอามือวางบนท้ายทอย ขณะที่เพลิดเพลินกับความสบายอกสบายใจที่ไม่ได้มีมานานก็หันไปถามลูกสาวที่อยู่ในอาการตื่นเต้น
“มีความสุขค่ะ ตอนแรกเมาเรือนิดหน่อย แต่ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว ต่อไปหนูจะมาเที่ยวทะเลบ่อยๆ” ฉีฉียิ้ม
“ได้สิ แต่ถ้าจะมาก็ให้อาซู๋มากับหนูด้วย” ลู่เฉินพูด
“อืม” ฉีฉีพยักหน้า เสี่ยวจิงเป็นบอดี้การ์ดให้เธอมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงเชื่อใจเสี่ยวจิงมาก
“ฉีฉี ไปเล่นที่ชายหาดเถอะ พวกเรากับพ่อของหนูมีเรื่องต้องคุยกันนิดหน่อย ”
ขณะนี้ตู้เฟยและคนอื่นๆไม่กี่คนมาข้างๆลู่เฉิน
“โอเคค่ะ” ฉีฉีพยักหน้าพร้อมกับไปดาดฟ้าอีกด้าน
ตู้เฟย เซ่เว่ยเหา หวังเหวย อวู๋กวางเจิ้ง ทั้งสี่คนนั่งอยู่ด้านข้างลู่เฉิน ทุกคนเอนกายพิงเก้าอี้นอน
เซ่เว่ยเหาหยิบบุหรี่ออกมาจุดให้ทุกคน แต่ละคนล้วนเป็นนักสูบบุหรี่
ไม่มีทาง ทำงานที่มีความกดดันสูงในระยะยาว การสูบบุหรี่จึงได้กลายเป็นเครื่องมือในการผ่อนคลายความเครียด
“ยังเหลืออีกสิบวัน การก่อสร้างล็อตแรกจะเสร็จสมบูรณ์ ผมคิดว่าจัดพิธีสถาปนาประเทศวันนั้นก็ไม่เลว” เซ่เว่ยเหาพูด
พวกเขารับผิดชอบการก่อสร้างใหญ่ โครงการสำคัญล็อตแรกคือการสร้างเมืองหลวงของประเทศ กำลังและสมาธิส่วนใหญ่ล้วนทุ่มเทให้กับการสร้างเมืองหลวง มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเหลือให้กับที่บ้าน
“จริงด้วย มนุษย์เราได้ครอบครองสถานที่บนพร็อกซิมาคนครึ่งม้าแล้วก็ควรจะถึงเวลาสถาปนาราชวงศ์สักที” อวู๋กวางเจิ้งพูด
ตั้งแต่เข้าร่วมกองทัพตอนอายุ 17 ปี เขาก็ใช้ชีวิตอยู่ในค่ายทหารมาโดยตลอดและไม่คุ้นเคยกับสถานะภาพไร้สัญชาติเช่นนี้
“ลู่เฉิน นายคิดว่าไง?” ตู้เฟยเอียงศีรษะและมองไปทางลู่เฉิน
ลู่เฉินสูบบุหรี่พร้อมกับมองควันที่หมุนไป
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พยักหน้าและพูดว่า “ก็ได้ เอาตามนี้ไปก่อน ทุกคนจะได้สบายใจ ส่วนเรื่องราชวงศ์ หลายวันนี้พวกนายก็คิดดีดีแล้วกัน กำหนดให้เสร็จในห้าวันนี้”
“อืม ได้” ทั้งสี่คนพยักหน้า
“ฉันยังมีข้อเสนอแนะ เรื่องผู้บริหารยังเปลี่ยนแปลงไม่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ” เซ่เว่ยเหาพูด
ลู่เฉินครุ่นคิดสักพักและกล่าวว่า “อืม ฉันจะเป็นผู้บริหารอย่างน้อยหนึ่งร้อยปี
ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลของมนุษย์หรืออารยธรรมมนุษย์ นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หนึ่งร้อยปีนั้นยาวนานเพียงพอ อย่างน้อยก็กำเนิดสักสี่ชั่วอายุคน สี่ชั่วอายุคนก็เพียงพอแล้วที่จะวางรากฐานสำหรับอนาคตของมวลมนุษยชาติ…”
“ฉันคาดการณ์ว่าภายใน 50 ปีประชากรมนุษย์จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 5 ล้านคน
แน่นอนว่าฐานประชากรในปัจจุบันค่อนข้างต่ำ ดังนั้นฉันจึงวางแผนที่จะใช้สเปิร์มแช่แข็งและสต็อกไข่ในช่วงเวลา 10 ปี เมื่อกรอบทางสังคมได้ถูกวางรากฐานอย่างดีแล้ว
จากนั้นเมื่อทารกแรกเกิดที่มีเส้นดีเอ็นเอที่ดีที่สุดของล็อตแรกออกมา ประชากรมนุษย์ทั้งหมดจะมีจำนวนถึง 5 ล้านคนในระยะเวลา 50 ปีให้หลัง นี่คือแผนระยะแรก”
“ส่วนระยะกลาง จำนวนประชากรอย่างน้อย 5 ล้านคนนี้เป็นเงื่อนไขข้อแรก จากนั้นยุคแห่งการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่จะเริ่มขึ้น แน่นอนว่าโดยส่วนตัวแล้วฉันไม่เห็นด้วยที่จะพัฒนา พร็อกซิมาคนครึ่งม้าBอย่างจริงจัง
ฉันคิดว่าโลกใหม่ควรจะคงอยู่ในรูปแบบธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบนี้ คาดว่าตอนนั้นคงจะทำการพัฒนาดาวเทียมและดาวเคราะห์ดวงอื่นเป็นหลัก
สร้างสงครามนอกโลกและตั้งอาณานิคมต่างดาว ในขณะเดียวกันก็สร้างกองเรืออวกาศขนาดใหญ่และวิเคราะห์เทคโนโลยีทั้งหมดของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่
ต่อสู้เพื่อที่จะให้มนุษย์เราเข้าสู่จุดสุดยอดของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ในรอบหนึ่งร้อยปี ”
ปัจจุบันชื่อเสียงของลู่เฉินนั้นสูงเกินไปในหมู่มนุษย์ มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถสยบมวลมนุษย์ทั้งหมดได้
การตัดสินใจทั้งหมดของเขาจึงได้รับการเห็นชอบและการยอมรับจากทุกคน
ดังนั้นหากการเลือกตั้งทั่วไปมีขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นไปได้มากว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นได้
นี่เป็นเรื่องเลวร้ายมากสำหรับมนุษย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมนุษย์ต้องทำการช่วงชิงกับคนแคระเพื่อที่จะเป็นฝ่ายกุมอำนาจบนดาวเคราะห์นี้
มนุษยชาติจะต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
การจลาจลอื่นๆอาจทำให้คนแคระฉวยโอกาสที่ดีงามทำลายล้างมนุษย์
ดังนั้นลู่เฉินจึงตัดสินใจนั่งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงสุดภายในระยะเวลาหนึ่งร้อยปี