บทที่ 522 ตัดสินใจรบ
เวลานี้ลู่เฉินยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่ดี
การพัฒนาครั้งใหญ่นี้ ทุกคนพยายามตั้งใจทำงานกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ใครก็ไม่รู้ว่าจะเจอผู้ทำความสะอาดรวมทั้งเผ่าปีศาจเมื่อไหร่
ถ้าอย่างนั้นพวกเขาทำได้แค่อัพระดับเทคโนโลยีให้ได้เร็วที่สุด พยายามเพิ่มกำลังความสามารถไม่หยุด ถึงจะมีสิทธิ์ชนะในอนาคตได้
ตอนนี้เอง การปรากฏตัวแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของข้อความนี้ในคอมพิวเตอร์ส่วนกลางของยานอวกาศซี-หวั้ง แถมยังมาเหมือนครั้งก่อน ไม่ต้องแปล ผันเป็นภาษาจีนอัตโนมัติเองเลย
ลู่เฉินเห็นข้อความนี้เมื่อเวลาผ่านไปกว่าสามชม.แล้ว
ตอนเห็นข้อความนี้ เขานั่งอึ้งอยู่ในห้องทำงาน สีหน้าซีดขาว
มนุษย์เจอกับอารยธรรมต่างดาวที่แกร่งกว่าจนได้
แถมข้อความใหม่ยังส่งมาไม่หยุด
“นี่เป็นการสอบถามจากยานสำรวจที่387ของหน่วยโดเมนที่สามของสหพันธ์ผู้พิทักษ์ หากคุณเป็นอารยธรรมที่ฉลาดพอ คุณควรจะรู้ว่าไม่ควรต่อกรกับผม
กลับไปกับผม สหพันธ์จะนำเสนอเขตปลอดภัยให้พวกคุณอาศัยอยู่ หากขัดขืน ผมจะทำลายยานคุณทั้งหมด และทำลายเผ่าพันธุ์คุณทั้งหมดด้วย”
“ผมให้เวลาคุณหนึ่งนาที จะตัดสินใจยังไงขึ้นอยู่กับคุณ”
“หกสิบ”
ด้วยสติปัญญาที่โดดเด่น ทำให้ลู่เฉินได้สติอย่างไว
สิ่งแรกที่เขาคิดถึงคือ หาว่าข้อความนี้มาจากไหน
“ห้าสิบเก้า”
แต่หลังจากพยายามไม่ถึงหนึ่งวินาที เขาก็ยกเลิกความคิดที่จะหาที่มาของมัน
ข้อความนี้เป็นข้อความที่อ้างว่ามาจากสหพันธ์ผู้พิทักษ์เหมือนกับครั้งก่อน มาเองดื้อๆ หาที่มาไม่ได้
แถมข้อความครั้งนี้ยังไม่ใช่ข้อความประกาศในที่กว้าง แต่ส่งมาโดยตรง แสดงว่า อีกฝ่ายจับโลเคชั่นของมนุษย์ได้แล้ว
ลู่เฉินไม่มีเวลาไปตกใจหรือกลัว
อีกฝ่ายให้เวลาแค่หนึ่งนาที งั้นในเวลาหนึ่งนาทีนี้เขาต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ใช้ได้จริง
แถมเวลายังไม่ทันเลย เขาไม่สามารถไปปรึกษากับคนอื่นได้
เขาได้แต่ตัดสินใจตามวิจารณญาณของตัวเอง
จะยอม…หรือขัดขืน?
ถ้าขัดขืน จะขัดขืนยังไง?
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ลู่เฉินเห็นคำนี้จากสหพันธ์ผู้พิทักษ์
แต่จากการวิเคราะห์ครั้งที่แล้ว เขาคิดว่า ในทฤษฎีป่ามืด ไม่มีทางมีสหพันธ์อยู่ได้ แต่ว่าดูจากตอนนี้แล้ว เหมือนเขาต้องเปลี่ยนความคิดตัวเองแล้ว
“ตามหลักแล้ว รูปแบบของ‘สหพันธ์’มีสองแบบ หนึ่งคือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของหลากหลายอารยธรรม ในกรณีนี้ความสามัคคีของแต่ละอารยธรรมจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แสดงว่า ในการพัฒนาเทคโนโลยี อารยธรรมเหล่านี้จะมีค่าเฉลี่ยออกมาในระดับเดียวกัน คือความสามารถจะไม่ต่างกันมากจนเกินไป
แบบที่สอง คือกลุ่มที่มีแกนนำอารยธรรมแข็งแกร่ง ถ้าเป็นแบบนี้ มีความเป็นไปได้กว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ว่า ระดับเทคโนโลยีของแต่ละอารยธรรมแตกต่างกันมาก ความสามารถต่างระดับกันมาก”
“สหพันธ์ผู้พิทักษ์เป็นแบบไหน ตอนนี้ยังไม่สามารถแน่ชัดได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ถ้ามนุษย์จะขัดขืน โอกาสชนะน้อยมาก แทบจะไม่มีเลย”
ลู่เฉินได้ข้อสรุปเร็วมาก
“ห้าสิบสอง…”
เวลาผ่านไปแล้วแปดวินาที
“ขัดขืนไม่ได้ ก็ได้แต่ยอม
แต่ถ้าไม่ขัดขืน ให้พวกเขาเอาตัวมนุษย์ไปกักขังไว้
ในฐานะมนุษย์ จะทนกับสภาพเป็นเชลยอย่างนั้นได้อย่างไร?”
“ในเมื่อเป็นเชลย งั้นข้อจำกัดต้องมีมากแน่ และยังสูญเสียความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยี ถ้าอย่างนั้นมนุษย์ก็จะหมดความหวังในการหนีออกมาหรือแข็งข้อได้เลย!”
“สี่สิบแปด…” ข้อความเย็นชาส่งมาเรื่อยๆ
“ในสถานการณ์แบบนี้ ยานอวกาศซี-หวั้งไม่สามารถหนีได้เลย มีแค่สองทางให้เลือกคือยอมหรือขัดขืน! ยอม จะโดนกักบริเวณเป็นเชลยตลอด ขัดขืนก็เท่ากับมีโอกาสที่จะตายถึง99%!
แม่งเอ๋ย พวกเราผ่านความลำบากมามากมาย ยังหาที่อยู่ลงหลักปักฐานไม่ได้เลย
นี่มันตัวอะไรโผล่มาเนี่ย!”
วินาทีนี้ ลู่เฉินมีความคิดอยากด่าคนขึ้นมา
“42…”
“37….”
ลู่เฉินคิดอย่างร้อนใจ พยายามหาทางรอด
“31…”
“แม่งเอ๊ย สู้เลย! ต่อให้ตายก็ต้องตายอย่างสมเกียรติ!”
“เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที เรื่องอะไรจะยอมโดนคนอื่นกักขัง?”
วินาทีนี้ลู่เฉินตัดสินใจสู้ตายสักตั้ง
ในเวลาเดียวกัน เขาส่งคำสั่งสูงสุดไปที่ตู้เฟยด้วยตัวเอง ฝ่ายทหารรีบจัดเตรียมกำลังรบเป็นการด่วน
จากนั้นเขาเลือกที่บริการระดับสูงหลายคนที่สำคัญเช่น เซ่เว่ยเหา ตู้เฟย หวังเหวยเป็นต้นมาร่วมประชุมออนไลน์กับเขา
ในที่ประชุม เขาบอกอันตรายที่อาจจะมาถึงมนุษย์โดยตรงเลย ให้พวกเขาสั่งการให้นำคนทั้งหมดกลับยานอวกาศซี-หวั้ง ยานอวกาศซี-หวั้งจะเป็นแหล่งรองรับได้เลย
ที่บริหารระดับสูงทั้งหมดตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดลู่เฉิน
แต่พอคิดว่านี่อยู่ในกาแล็คซี่ ทุกคนก็เข้าใจในทันที
เพียงแต่ว่า ศัตรูที่ต้องเผชิญคราวนี้ ไม่รู้ว่าจะแกร่งกว่าคนแคระมากแค่ไหน ตอนนี้ถึงมนุษย์จะพัฒนาจนเข้าสู่อารยธรรมกาแล็คซี่ระดับสามแล้ว แต่จะสามารถเป็นคู่แข่งของอารยธรรมต่างดาวนั่นได้ไหม?
แถมยังไม่มีใครรู้แนวการโจมตีของอีกฝ่ายเลยด้วย
แต่เดาได้ก่อนเลยว่า แนวทางโจมตีแบบนี้ต้องเหนือกว่าที่มนุษย์จะคาดคิดได้แน่
ตอนนี้สิ่งที่มนุษย์ทำทั้งหมด อาจจะไม่มีประโยชน์เลยก็ได้
แต่ในเมื่อตัดสินใจสู้แล้ว งั้นก็ทำให้เต็มที่ละกัน ไม่ว่าชะตาชีวิตจะเป็นไปยังไง ก็ต้องจัดการเรื่องของตัวเองให้ดีก่อนค่อยว่ากัน
แบบนี้ต่อให้แพ้ก็ไม่เสียดาย
“พวกเรามาลองเดากันก่อนถึงแนวทางโจมตีและป้องกันยังไง!”
พวกเซ่เว่ยเหาไปจัดการเตรียมตัว ฝ่ายทหารหลายคนอย่างลู่เฉินกับตู้เฟยคุยปรึกษากันต่อ
“อย่างแรก อีกฝ่ายต้องเป็นอารยธรรมที่เชี่ยวชาญการขับยานด้วยความเร็วเหนือแสงรวมถึงการส่งข้อความในระยะทางไกลแน่!
แถมการเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสงในทฤษฎีของพวกเรา อย่างน้อยก็เป็นการวาร์ป แต่ผมไม่คิดว่าระดับการขับยานของอีกฝ่ายจะเป็นแค่การวาร์ป
ถ้าอย่างนั้น เป็นไปได้อย่างมากว่า อีกฝ่ายจะเชี่ยวชาญเทคโนโลยีขับยานขั้นสุดยอดอย่างทฤษฎีรูหนอนหรือการวาร์ปผ่านห้วงอวกาศ
ถ้าเป็นเทคโนโลยีแบบนี้ พวกเรารอโดนฆ่าเถอะ ไม่มีทางสู้ได้เลย”
ลู่เฉินวิเคราะห์อย่างช้าๆ
ยิ่งวิเคราะห์ ยิ่งละเหี่ยใจ มันไม่มีทางชนะได้เลย
“เอาล่ะ ในเมื่อพวกคุณตัดสินใจแล้ว งั้นก็อย่าหาว่าผมใจร้ายละกัน รอโดนฆ่าเถอะ”
แต่ในตอนนี้ลู่เฉินหมุนตัวกลับมามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง และเห็นอีกฝ่ายส่งข้อความมาอีก
พอข้อความนี้ออกมา เขาตึงเครียดถึงขีดสุดทันที
อีกฝ่ายจะบุกมาเมื่อไหร่เนี่ย?