บทที่ 518 มนุษย์เราต้องแก้แค้น!
“สวัสดีครับท่านลู่!”
พอเห็นลู่เฉินเข้ามา ผู้นำทั้งสี่คุกเข่าทำความเคารพลู่เฉินพร้อมกัน
พวกเขายอมรับเงื่อนไขทั้งหมด ลู่เฉินเปรียบเสมือนเทพในใจพวกเขา
ก่อนนี้ตอนที่แพ้สงคราม พวกเขายังไม่รู้สึกว่ามนุษย์ร้ายกาจตรงไหน
แต่พอพวกเขาเห็นมนุษย์กว่าแสนคน ในเวลาสั้นๆไม่กี่ปีก็จัดการทวีฟ้าร้องได้ดีเยี่ยมไม่มีหลุด พวกเขาถึงยอมรับความน่ากลัวของมนุษย์จากใจจริง
จากนั้นเลยยิ่งเคารพนบนอบกับผู้นำมนุษย์อย่างลู่เฉินมากขึ้น
การที่ลู่เฉินรับปากจะสร้างยานอวกาศสองลำให้พวกเขา และจะพาชนเผ่าแคระของพวกเขาไปจากพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbด้วย เรียกได้ว่าเห็นลู่เฉินเป็นเหมือนเทพของเผ่าแคระไปแล้ว
“ลุกขึ้นเถอะ”
ลู่เฉินโบกมือ จากนั้นเดินไปนั่งที่นั่ง
“ท่านลู่ อัจฉริยะคนแคระของเรามีมากเกินไป ไม่เพียงแค่หนึ่งล้านเท่านั้น พวกเราพาไปเพิ่มอีกห้าแสนเถอะ” ชาร์ล็อตต์มองลู่เฉินอย่างขอร้อง
“ใช่ครับท่านลู่ ท่านดูสิชนเผ่าเรามีจำนวนมากจริงๆ พวกเราจะทิ้งพวกเขาไว้ไม่แยแสไม่ได้นะ พาไปได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ละกัน” เนเบนชิริพยักเพยิดร่วม
อีกสองคนถึงจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็มองลู่เฉินอย่างวิงวอน
ลู่เฉินมองผู้นำสี่คนของเผ่าแคระที่ตัวเตี้ยกว่าเขามากนักและพูดอย่างหนักแน่นว่า “พาไปมากกว่านี้ไม่ได้ หนึ่งล้านคนเป็นจำนวนมากขั้นสุดของยานอวกาศสองลำแล้ว
และ จำไว้ว่า ที่ผมต้องการคืออัจฉริยะ อัจฉริยะในหมู่คนแคระของพวกคุณ
พวกคุณต้องรู้นะว่า เข้าสู่กาแล็คซี่แล้ว มีแต่พัฒนาเทคโนโลยีไม่หยุดเท่านั้นถึงจะมีโอกาสอยู่รอดต่อไปมากขึ้น
อีกอย่าง เร่งรีบเข้าไป เก็บวัตถุดิบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่งั้นอีกไม่กี่ข้างหน้าหรือหลายสิบปีนี้ เผ่าแคระของพวกคุณต้องควบคุมจำนวนประชากร”
คำพูดของลู่เฉินไม่ใช่ไม่มีเหตุผล ยานอวกาศระดับหมู่บ้านลำหนึ่งรองรับคนแคระห้าแสนคนถือว่าเต็มกลืนแล้ว ดังนั้นมีแต่ต้องพัฒนาไม่หยุด ถึงจะสามารถรองรับคนแคระได้มากขึ้น
ดังนั้นก่อนการสร้างจะเริ่ม คนแคระต้องควบคุมจำนวนประชากร ไม่งั้นไม่มีทางรองรับได้แน่
ลู่เฉินวางแผนว่า ตอนที่ครั้งหน้าเจอวัตถุที่อัพเกรดดาวเคราะห์ ถึงจะสามารถเพิ่มขนาดยานให้พวกเขาได้
พอได้ยินคำพูดของลู่เฉิน สี่ผู้นำสีหน้าทุกข์ทรมาน แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก
“พวกคุณรู้ไหมว่าจำนวนคนในเผ่ามนุษย์ที่ตอนแรกพวกเราละทิ้งไปมีเท่าไหร่?”
ลู่เฉินเห็นสีหน้าผู้นำทั้งสี่ แค่นเสียงเย็นบอกว่า “ตอนแรกผมละทิ้งไปเกือบเจ็ดพันล้านคน มากกว่าของพวกคุณสองเท่าด้วยซ้ำ ของพวกคุณถือเป็นอะไรล่ะ?”
“ยังมีเวลาอีกห้าเดือน ไปดูและควบคุมคนของพวกคุณซะ รีบไปเก็บรวบรวมวัตถุดิบให้ผมดีกว่า”
“อีกอย่าง ถึงเวลานั้นยานอวกาศทั้งสองลำ ผมจะคัดเลือกหัวหน้ายานยานละหนึ่งคน ฟังคำสั่งจากผม ถึงเวลานั้นจะคัดเลือกสองคนที่เก็บวัตถุดิบได้มากที่สุดจากพวกคุณสี่คน”
สุดท้ายเขาพูดพลางสะบัดมือออกจากห้องไป
ผู้นำทั้งสี่มองตามแผ่นหลังลู่เฉิน ได้แต่ยอมจำทนอย่างปวดใจ และค่อยๆทยอยจากไป
แต่คำพูดสุดท้ายของลู่เฉินที่บอกจะเลือกหัวหน้ายาน ทำให้พวกเขาแต่ละคนมีแผนการผุดขึ้นในใจทั้งนั้น
ต่อมาในหลายเดือนนี้ ทุกคนต่างรู้ดีเรื่องที่เศษดาวนิวตรอนจะเข้าชนดาวนี้
ตอนแรกทุกคนยังรับไม่ได้ แต่สองวันผ่านไปก็ต้องยอมรับความจริงเรื่องนี้
จากนั้นทุกคนต่างรับรู้ได้ถึงความรู้สึกบีบคั้น
เวลาห้าเดือนแป๊บเดียวก็ผ่านไป เหลืออีกหนึ่งเดือนสุดท้ายก่อนเศษดาวนิวตรอนเข้าสู่กลุ่มดาวคนครึ่งม้า
วันนี้ ในที่สุดลู่เฉินได้ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า
“ทุกคน ผมคือลู่เฉิน ผมยืนตรงนี้ขอบอกความจริงอันแสนโหดร้ายกับทุกคนด้วยหัวใจที่เจ็บปวดยิ่ง เศษดาวนิวตรอนชิ้นหนึ่งกำลังจะพุ่งเข้าชนดาวที่เราอยู่นี่…”
“ใช่ เหมือนเหตุการณ์ที่โลกเราระบาดไวรัส Dเมื่อสิบกว่าปีก่อน พวกเรากำลังโดนบีบอีกครั้ง”
“ตอนนั้นบนโลก พวกเรายังคาดหวังจะสามารถไขรหัสDNAของไวรัส D แต่เมื่อเผชิญหน้าเศษดาวนิวตรอน พวกเราทำอะไรได้ ไม่มีหนทางอะไรเลย…”
“สองปีครึ่งก่อนหน้านี้พวกเราค้นพบดาวนิวตรอนนี่แล้ว พวกเราไม่ได้แพ้ ได้ให้ยานอวกาศรวมถึงนักวิทยาศาสตร์มากมายอย่างเช่นลูกสาวผมบินไปดูเศษดาวนิวตรอนกับตาตัวเอง”
“พวกเราอยากหาวิธีแก้ปัญหาตอนนี้ แต่พวกเราล้มเหลว”
“ทีมงานบนยานอวกาศลำนี้ได้กลับมาที่พร็อกซิมาคนครึ่งม้าbได้ครึ่งปีแล้ว ข่าวที่นำกลับมาหลังจากมอบให้ทีมวิจัยไปวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดแล้ว พวกเราแน่ใจได้แล้วว่า พวกเราทำอะไรไม่ได้จริงๆ…”
“พวกเราทำได้แค่ละทิ้งดาวแม่พวกเราอีกครั้ง พวกเราต้องกลับไปเร่ร่อนในกาแล็คซี่อีกครั้ง…”
“แต่ว่า ผมรับประกันกับทุกคนได้เลยว่า ผมจะไม่ละทิ้งพวกคุณคนใดคนหนึ่ง พวกเราจะจากไปด้วยกัน!”
“ผมยังจะรับประกันอีกว่า การจากไปครั้งนี้ไม่ได้แปลว่าพวกเราจะยอมรับชะตาชีวิต!”
“ตอนนี้พวกเราอ่อนแอนัก แต่มนุษย์เราจะพัฒนาต่อ จะเติบโตกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งแน่!”
“ที่นี่ ผมและพวกคุณที่ฟังผมพูดอยู่ พวกเรามนุษย์ทุกคน!”
“พวกเราทุกคนจะจดจำเรื่องทั้งหมดนี้ไว้ในใจ ไว้ในจิตวิญญาณ ไว้ในดีเอ็นเอ!”
“ให้พวกเราจดจำเรื่องทั้งหมดนี้ไว้เถอะ บอกลูกบอกหลาน และให้ลูกหลานบอกทายาทพวกเขาต่อว่า ตอนหนีจากโลก เป็นความตายของประชากรกว่าพันล้านคน!”
“การหนีจากโลกใหม่เป็นการสูญเสียของชีวิตใหม่พวกเรา!”
“ให้พวกเราจดจำความแค้นและการเสียศักดิ์ศรีทั้งหมด!”
“ต่อให้อีกพันปี หมื่นปี แสนปี ล้านปี…ให้พวกเราจารึกทั้งหมดนี้ในประวัติศาสตร์!”
“อนาคต มนุษย์เราจำต้องล้างบางอารยธรรมต่างดาวที่บีบคั้นพวกเรา! บีบขยี้พวกมันให้ตายเหมือนหนอนเน่า!” ลู่เฉินยิ่งพูดยิ่งเสียงดัง พอพูดถึงตอนนี้ก็ดังถึงขีดสุดแล้ว
เขากำหมัดแน่นก่อนชูสูงขึ้น
ตะโกนแผดเสียงกร้าวว่า
“มนุษย์ต้องล้างแค้น!”
“มนุษย์ต้องล้างแค้น!”
วินาทีนี้มนุษย์กว่าสองแสนโดนจุดไฟแค้นขึ้น
เสียงแผดเสียงตะโกนของมนุษย์กว่าสองแสน น้ำเสียงแหลมคมประดุจกระบี่คมพุ่งออกมาจากพื้น
ตรงดิ่งผ่าฝูงเมฆ!
วินาทีนี้ ก้อนเมฆในท้องฟ้าขมวดแน่น ฝูงนกคล้ายกำลังสั่นเทา!
คนแคระหนึ่งล้านคนได้ยินเสียงแผดตะโกนของมนุษย์อยู่ไกลๆ แต่ละคนสองเท้าสั่นเทากันหมด
พวกเรารับรู้ได้ถึงจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ของมนุษย์เหมือนกัน!
“ทุกคน ออกเดินทางเถอะ เป้าหมาย เอปไซลอนเอริดานี”
“ขอให้พวกเราเจอดาวใหม่ที่เอปไซลอนเอริดานี!”
ตามการสะบัดมือของลู่เฉิน ทุกคนต่างเดินไปที่ยานอวกาศซี-หวั้งอย่างมีระเบียบ