MVDB : ตอนที่ 153 ฮัลค์เปลี่ยนไป
“ปิ้ว ปิ้ว ปิ้ว!”
เนื่องจากลีไปแตะโดนอะไรบางอย่าง และปล่อยพลังกิใส่เข้าไปในคทา คทาของโทนี่จึงยิงลําแสงพลังงานออกไปทันที
“ไม่เลวเลยใช่ไหม?” โทนี่พูดพร้อมกับยักคิ้วด้วยความเท่ “นอกเหนือจากการทําชุดเกราะ ก็พวกนี้แหล่ะงานอดิเรกผม”
“ก็เยี่ยมดี” ลีพยักหน้าเห็นด้วย หลังจากนั้นก็ถามต่อ “ทําไมคุณถึงสร้างเป็นคทาหล่ะ? ทําพวกอุปกรณ์ติดกับชุดเกราะไม่ดีกว่าหรอ?”
“ตามสถานการณ์หน่ะ” โทนี่ยักไหล่และอธิบายต่อ “อย่าคิดว่ามันไม่เข้ากับชุดเกราะสิ เพราะสิ่งนี้มันจะมีประโยชน์ เผื่อไว้ในกรณีที่ผมไม่ได้สวมชุดเกราะไง”
ลีฟังแล้วก็จ้องมองโทนี่ตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับคิดในใจว่า “ไอนี่มันบ้าไปแล้ว คิดว่าคทาจะทําอะไรได้
แต่ลีก็ไม่ได้พูดแบบนั้นออกไป ลีถามอย่างอื่นแทน “ทํามาอันเดียวหรอ? มีอีกไหม?”
เมื่อได้ยินคําถามของลี โทนี่ส่ายหัวทันที “คุณไม่จําเป็นต้องใช้ของอะไรแบบนี้หรอก”
“ผมไม่จําเป็นต้องใช้ แล้วผมอยากได้บ้างไม่ได้หรอ?”
“…” โทนี่เงียบไปพักนึงแล้วค่อยอธิบายต่อ “แค่หนึ่งเดียวเท่านั้น ฉนวนหุ้มตัวปล่อยพลังงานนี้ไม่สามารถหาซื้อได้ในตลาดปกติ ต้องสั่งทําพิเศษ ส่วนอัลลอยตัวนี้เป็นของหายากมากบนโลก ส่วนอันนี้ราคา 1ร้อยล้าน ผมจะสร้างสองอันได้ยังไงกัน?”
“เป็นร้อยล้านเลยหรอ!?” ลีทําท่าตกใจหลังจากนั้นก็มองบนต่อ “แล้วมันยังไง?”
“เอิ่มม” โทนี่ลูบเคราตัวเอง “ถ้าอยากได้มันจริงๆ ผมสร้างให้ใหม่ก็ได้”
“ลืมมันไปสะเถอะ!” ลีส่ายหัว “นี่มันก็แค่ของเล่น!”
“หึ ถ้างั้นคุณต้องการอะไรหล่ะ สําหรับการมาช่วยผมในครั้งนี้”
“ไม่หล่ะ ผลงานของคุณมันก็สร้างสรรค์ดี ทําให้ผมได้เห็นอะไรใหม่ๆ แค่นี้ก็พอแล้ว”
“แน่ใจ๊!? เพราะเตาปฏิกรณ์อันนี้พลังงานมันหมดไวมากซึ่งถ้าหากมันหมดแล้วผมก็ต้องการความช่วยเหลือของคุณนะ”
“ถ้างั้นก็แค่บอกมา” ลีพูดพร้อมกับส่ายมือ “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน พอดีมีธุระที่ร้านอาหารแล้วต้องไปต่อที่บราซิลหนะ”
“เค! แต่เดี๋ยวก่อน คุณติดค้างคําอธิบายเรื่องการเคลื่อนย้ายพริบตา
“ก็ไม่ใช่เทคโนโลยีอะไร ใช้แค่พลังกิหน่ะ บอกไปก็ไม่เข้าใจ ไว้เจอกันใหม่” หลังจากที่ลีพูดเสร็จก็บินออกไปทันที
“เดี่ยว ไอหัวตั้ง!”
“ได้ยินนะโว้ยย”
“แจ๋ว!”
หลังจากที่ออกมาจากบ้านของโทนี่แล้ว ลีก็ตรงไปที่ร้านอาหารเพื่อไปหาคอลลีนทันที จู๋จี๋ ดูร้านไปเรื่อยๆ
จนถึงเวลาหลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จ จนมาถึงตอนเย็น ลีก็ตรงไปยังบราซิล
ณ ตอนนี้ เวลาที่ริโอไวกว่านิวยอร์คประมาณ 2 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อมาถึง ท้องฟ้ายังคงสว่างอยู่
ดีจึงตรงไปหาบรูซทันทีโดยมิได้นัดหมาย
ทันทีที่บรูซได้เจอกับลีเขาก็ตะลึงเล็กน้อย พร้อมกับแสดงสีหน้าที่เนื่อยๆกับตัวเอง
เมื่อมาถึงจุดสิ้นหวังที่สุดในชีวิตของตัวเอง บรูซก็จําเป็นที่จะต้องยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ เขาเชื่อฟังสิ่งที่ดีแนะนํา เขาพยายามคุยกับตัวเองมาโดยตลอด
แม้ว่าบรูซและฮัลค์ไม่ค่อยจะลงเอยกันนัก แต่ท้ายที่สุดแล้วฮัลค์ก็ยอมเปิดปากพูดออกมาแบบนับคําด้วย
และสาเหตุที่ฮัลค์ยอมพูดด้วยไม่ใช่เพราะเป็นคนเดียวกัน แต่ยอมรับในฐานะมนุษย์ไก่อ่อน
สําหรับลี เขามองว่าทั้งสองนั้นเหมือนกันเป็นประเภทเดียวกัน มนุษย์ที่อ่อนแอแต่มีสติดีเลิศ กับ สัตว์ป่าบ้าคลั่งไร้สมอง
หากทั้งสองรวมกันได้ จะเป็นอะไรที่เลิศเลอเพอเฟคสุดๆ
หลังจากนั้นอีก 14 วันหลังจากที่ลีกลับมาอยู่นิวยอร์คแล้ว บรูซแบนเน่อก็ได้รับบาดเจ็บในโรงงานแปรรูปเครื่องดื่ม และเขาก็ได้เผลอทําเลือดหยดลงไปในขวดโดยไม่ได้ตั้งใจ
ขวดใบนี้ถูกบรรจุและส่งออกไปยังอเมริกา เมื่อลูกค้าดื่มน้ำที่ผสมเลือดแกมม่าเข้าไป ก็เกิดเป็นปัญหาขึ้นมายกใหญ่
เรื่องถึงหูรัฐบาลจนส่งหน่วยออกมาตามสืบข่าวว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหยดเลือดนี้กันแน่
จนกระทั่งมาถึงวันที่ 29 ลีก็กลับไปยังริโออีกครั้งแต่เขาก็พบว่าฮัลค์ได้หายไปแล้ว ไม่ได้อยู่ที่เดิมอีกต่อไปแล้ว แถมยังเคลื่อนไหวได้ไวกว่าสีสะอีก
มันเกิดอะไรขึ้น?
จู่ๆไปโผล่ที่อเมริกาใต้ได้อย่างไร?