หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 257 เชิญรับรางวัลออสการ์

ตอนที่ 257 เชิญรับรางวัลออสการ์

ตอนที่ 257 เชิญรับรางวัลออสการ์

กู้หลิวเฟิ่งตะลึงอึ้งงงงัน รสนิยมของราชันมัจจุราชประหลาดกว่าที่คิดนัก

ทว่ายังไม่ทันปริปาก เกอซีกลับดึงแขนเสื้อขยับเข้ามาขวางหน้าพลางเอ่ยเสียงเย็น “ออกไป เรื่องนี้หาได้เกี่ยวข้องกับเจ้าไม่ พวกเขามีเรื่องกับข้า เจ้าและผู้ดูแลโจว สมควรหลีกไปจากที่นี้เสียในตอนนี้!”

กู้หลิวเฟิ่งหาได้ใส่ใจนางไม่ ชายหนุ่มขยับกายเข้ายืนเคียงข้างเกอซีด้วยท่าที่ไม่ยี่หระใด “เจ้าคงไม่รู้ว่านับแต่ข้าประมือกับเฟิ่งเหลียนอิ่งชะตาชีวิตของเราก็ถูกผูกเข้า ด้วยกันแล้ว สตรีไร้ยางอายผู้นั้นจิตใจคับแคบยิ่งนัก เจ้าคิดว่านางจะยอมปล่อยพวกเราไปจริงดังกล่าวล่ะหรือ?”

คิ้วทั้งสองของเกอซีจิกเข้าหากัน หญิงสาวทิ้งหางตาชําเลืองมองโจวเหยียนอันผู้พลังปราณอ่อนแรงที่อยู่ไม่ไกล น้ําเสียงของนางกลับกลายหมองหม่น “ขออภัยด้วย เพราะข้าโดยแท้ พวกเจ้าทั้งสองจึงพลอยมาติดร่างแหไปด้วย”

เมื่อชายหนุ่มเบียงหน้ามาจึงประสานเข้ากับใบหน้าด้าน ข้างที่งดงามของเกอซี ดวงหน้าที่ขาวผ่องผุดผาดปานหิมะทําให้หัวใจของเขาอ่อนระทวย คล้ายดั่งมีความอบอุ่นบางอย่างค่อยๆ ไหลซึมซาบเติมเต็มในหัวใจ

ทว่าก่อนถ้อยคําใดจะผ่านพ้นมุมปาก ใบหน้าชายหนุ่มพลันแปรเปลี่ยน ฝ่ามือที่เริ่มคืบคลานเข้าปลอบโยนเกอซีถูกชักกลับมาในทันทีพร้อมร่างที่ซวนเซถอยกลับไปหลายก้าว

ขุมพลังที่เฉียบคมร้ายกาจประดุจปลายกระบี่อัดกระแทกเข้าใส่ร่างของกู้หลิวเฟิ่ง ร่างนั้นร่วงอัดพื้น กระทั่งต้นหญ้าน้อยปลิวกระจัดกระจายบ้างลอยฟุ้งจากพื้น ขึ้นเกาะติดตามเส้นผมเสื้อผ้าของเกอซี

เมื่อกู้หลิวเฟิ่งเงยหน้าขึ้นจึงได้เผชิญกับสายตาที่มืดหม่นน่าหวั่นเกรงถึงที่สุดของหนานกงยวี่ สิ่งที่ปรากฏในแววตาทั้งสองมีเพียงอายสังหารรุนแรงร้ายกาจที่เดือดดาลเข้มข้นคล้ายดั่งชายผู้นี้อยากจะนั่นแขนขาขยี้กระดูกทั่วร่างของเขาให้ปนนี้กลายเป็นผุยผงในบัดดล

หากทว่าเพียงครู่ หนานกงยวี่กลับเบี่ยงเส้นทางสายตาจากเขาไปสู่ผู้ที่อยู่ในตําแหน่งเคียงข้างกัน เขาถลึงตาจ้องใบหน้าซีดเซียวของเกอซีพลางเหยียดยื่นมือไปหา “ซีเอ๋อ มานี่ !”

เกอซีจ้องมองด้วยสีหน้าเย็นชา สายตาที่ส่งออกไปเย็นยะเยือกคล้ายสามารถสะกดทุกสิ่งให้เยือกแข็งลงได้ “ไปไหน…เพื่ออะไร ? เพื่อให้ท่านอ๋องราชันมัจจุราชลงมือสังหารข้าล้างแค้นให้น้องหญิงเหลียนยิ่งผู้เป็นที่รักกระนั้นรึ?”

สีหน้าของหนานกงยวี่น่ากลัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขารีบย่างฝ่าเท้าตรงเข้าหานางพลางเอ่ยกล่าวด้วยน้ําเสียงมืดหม่น “ซีเอ๋อ ในใจเจ้า… ”

ยังไม่ทันขาดคํา เฟิ่งเหลียนยิ่งผู้นอนอ่อนระทวยปานประหนึ่งจะขาดใจกลับลุกพรวดขึ้นโดยมีเนียจินเฉินช่วยประคอง หญิงสาวเข้าไปยืนเคียงข้างหนานกงยวี่ยึดชายเสื้อข้างหนึ่งไว้ “ท่านพี่ยวี่ อย่าทําเช่นนี้ คุณชายซีไม่ได้ตั้งใจทําร้ายข้า ท่านอย่าได้ตําหนิเขาเลย”

ยิ่งเห็นความสนิทสนมของทั้งคู่ ความเยียบเย็นในแววตาของเกอซีกลับค่อยๆ เพิ่มทวีประหนึ่งผลึกน้ําแข็งพันปี

ช่างเป็นแม่บัวขาวที่แสนบริสุทธิ์สะอาดจิตใจงดงามเสียเหลือเกิน ! สีหน้าทางทางเช่นนี้ น้ําเสียงการแสดงออกเช่นนี้ หากเฟิ่งเหลี่ยนอิงวาดลวดลายเช่นนี้ในโลกยุคปัจจุบัน นางจะต้องคว้ารางวัลออสก้าร์ไปครอบครองได้อย่างแน่นอน! ต่อหน้าสายตาชาวประชา นางแสดงตนเป็นหญิงสาวผู้บริสุทธิ์สะอาด เย็นชา และสูงส่งประดุจบัวหิมะเยือกแข็ง หากทว่าลับหลังนางคือสตรีที่ดุร้ายเหี้ยมโหดทั้งมีจิตผูกพยาบาท กระทั่งยามนี้ นางยังแสร้งแสดงตนเป็นสตรีที่บอบบางไร้หนทางต่อสู้ !

เหล่าบุรุษล้วนหลงเชื่อนางหัวปักหัวป่าทั้งยังมีใจนิยมชื่นชอบหมายปองจะได้ตระกองกอดนางไว้ในอ้อมแขน หนานกงยวี่ก็เป็นบุรุษผู้หนึ่งเช่นกัน เมื่อนางผู้เลอโฉมทิ้งกาย ลงสู่อ้อมอกเช่นนี้มีหรือที่จิตใจของเขาจะไม่หวั่นไหว ?

ขณะที่เกอซีใคร่ครวญคิดพลางเย้ยหยันไปพลางนั้น กู้หลิวเฟิ่งกลับเอียงกายแนบกระซิบข้างหู “เยว่เอ๋อน้อยเจ้า คิดว่าสายตาของแม่เทพธิดาอะไรนั้นผิดปกติไปไหม ? คิดดูสิ ข้าเป็นคนทําร้ายนางโดยแท้ ไยนางกลับเต้นเร่า ๆ ว่าถูกเจ้า ทําร้าย ? เจ้าเป็นพียงผู้ฝึกยุทธขั้นปฐมภูมิโลกันตร์” ขณะนางเป็นถึงผู้เยี่ยมยุทธขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน หากกล่าวว่าเจ้าเป็นผู้ทําร้ายนางเช่นนี้มิเท่ากับนางกําลังฉีกหน้าตนกระนั้นหรือ ?”

*แท้จริงพลังยุทธของเกอซีอยู่ในขั้นที่ 3 พลิกผันอเวจีแล้ว หากแต่ผู้คนทั่วไปล้วนเห็นพลังยุทธนางเพียงขั้นที่ 2 ปฐมภูมิโลกันตร์เท่านั้น

เย่วเอ๋อน้อย* ? ไอ้ชื่อเรียกบ้าบออะไรนี่โผล่มาได้อย่างไร

* เอ่อ ใช้เรียกคนที่มีความสนิทสนมกัน โดยเรียกชื่อท้ายตามด้วยคําว่าเอ๋อ

เกอซีหันมาทําตาเขียวใส่ก่อนจะเปลี่ยนไป มองเฟิ่งเหลียนยิ่งพลางเอ่ยเย้ยขึ้น

“เจ้ากล่าวดังว่านางไม่ได้ทําร้ายเจ้าทั้งไม่ได้ทําร้ายผู้ใดก่อนหน้านั้น !” แม้เฟิ่งเหลียนยิ่งจะมีพลังยุทธสูงส่งแล้วอย่างไรเล่า ? นางกล้าทําร้ายคนของข้า! แม้นตัวข้ามิอาจเทียบฝีมือกับนางได้ ข้าก็จะทําให้นางถูกถลกหนังทั้งเป็นชดใช้หนี้แค้น !

ยามนี้ อาภรณ์สีขาวบนร่างของเฟิ่งเหลียนยิ่งเปรอะเปื้อน ไปด้วยหยาดโลหิตสีแดงคล้ําเป็นหย่อมๆ สีหน้าของนางซีดเผือด ยามเมื่อสายลมโชยผ่านอาภรณ์ในกายของนางโบกพริ้วไสวงดงามประดุจใบหลิวที่ต้องลม ส่งให้นางแลดูบอบบางอ่อนโยนมีเสน่ห์รัดรึงหัวใจยิ่งนัก

*-*-*จบตอน เชิญรับรางวัลออสก้าร์***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

Status: Ongoing

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

เมื่อนางคือสุดยอดมือสังหารเกียรติยศระดับเหรียญทองแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาสู่ร่าง คุณหนูสาม น่าหลานเกอซี แห่งตระกูลแพทย์ผู้ปรุงโอสถอันลือลั่น นางผู้สิ้นดี นางผู้ถูกกลั่นแกล้งสารพัด

นางคือผู้ที่ไร้สิ้นกระแสปราณแห่งพลังจึงมิอาจโคจรฝึกฝนพลังปราณเยี่ยงผู้อื่นได้เช่นนั้นล่ะหรือ? จะต้องเกรงไปไย เมื่อนางคือยอดหมออัจฉริยะสวรรค์บันดาน แค่อาการจิ๊บจ้อยเพียงเท่านี้ ไม่พอมือนางหรอก บิดาไม่เอ็นดูข้า มารดาไม่รักข้า ทุกคนล้วนข่มเหงรเหยียบย่ำข้ากระนั้นหรือ? ฮึ่ม! เมื่อนางคือผู้ครอบครองมิติและสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้ผู้เทียบเทียม เช่นนี้แล้ว ไยนางต้องแสร้งทำตนเป็นคุณหนูลูกแหง่ในสกุลน่าหลานอีกเล่า!

ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ ร่างกายที่ผ่ายผอมแลดูอมโรคนั้น หาได้มีผู้ใดต้องการมันใช่ไหม? เพียงชั่วพริบตา นางจะกระชากหน้ากากเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทำให้บุรุษรูปงามเป็นโหลๆต้องคอยเฝ้าล้อมหน้าล้อมหลัง! หากแต่บุรุษจอมเผด็จการผู้นั้นกลับยังตามตื้อกันไม่เลิกไม่ราตั้งแต่งานประมูลเมื่อคราก่อน

ผู้ใดบอกว่าชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับเจ้ากัน? ชีวิตของข้าย่อมต้องเป็นของข้า! ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมากำหนดชีวิตของข้าได้!

บุรุษนิรนาม : เช่นนั้นชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้า แล้วแต่เจ้าจะบัญชาให้เป็นไปดีไหม?

*****

ลำดับขั้นแห่งการฝึกฝนพลังปราณอันต้องอาศัยผู้ที่มีรากฐานแห่งพลังอันเนื่องด้วยกระแสจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะสามารถควบกลั่นโคจรพลังปราณในกายได้ ไล่เรียงลงไปตามลำดับขั้นจากขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นสูงสุดมีทั้งหมด 9 ขั้น โดยกำลังปราณแต่ละขั้นมี 10 ระดับ

กำลังปราณขั้น 1 เมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม กำลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันต์ กำลังปราณขั้น 3 พลิกผันอเวจี กำลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน กำลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ กำลังปราณขั้น 6 เปิดม่านฟ้าดิน กำลังปราณขั้น 7 ทะลวงสิ้นโลกสาม กำลังปราณขั้น 8 ก้าวข้ามสูญญภพ กำลังปราณขั้น 9 สยบทั้งจักรวาล

ผู้แปลไม่ได้เก่งภาษาจีน เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ

ดังนั้นชื่อเฉพาะของบุคคลและสถานที่ต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ หากท่านใดไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ขอเชิญมาสนุกด้วยกันเลยค่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท