หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 275 ไม่มีวันยอมปล่อยนาง

ตอนที่ 275 ไม่มีวันยอมปล่อยนาง

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 275 ไม่มีวันยอมปล่อยนาง

หัวใจเกอซีเต้นโครมครามราวจะกระเด็นหลุดออกจากอก ความกระวนกระวายพยายามหาทางออกจากการเหนี่ยวรั้งใต้วงแขนของหนานกงยี่รุนแรงขึ้น หากแต่นางกลับได้ยินสุ่มเสียงที่แหบพร่าหม่นมัวเอ่ยกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “ไม่มีทาง ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป ! ซีเอ๋อ จงยอมรับชะตาของเจ้าเถิด ! นี่คือชะตาชีวิตที่ถูกกําหนดไว้แล้ว ในช่วงชีวิตนี้ เจ้าต้องเป็นของข้า !”

จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงแนบชิดใกล้ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อที่อ่อนนุ่มนั่นที่เขาคอยเฝ้าฝันถึงไปทีละน้อยๆ ความรู้สึกช่างหวาน ความปลาบปลื้มยินดีซึบซาบลงสู่ทุกอณูถึงชั้นกระดูก ผู้ที่เขาเฝ้าคิดถึงมาหลายวันกําลังอยู่ในอ้อมแขนเขาในยามนี้

ทว่าเสี้ยวนาทีที่ริมฝีปากของเขาจรดลง อีกฝ่ายกลับเบี่ยงใบหน้าน้อยๆหลบไปด้านข้าง จุมพิตอันแสนอบอุ่นของเขาจึงจบลงที่มุมปากของเกอซี

แม้สัมผัสที่ได้รับจะเป็นผิวเนียนที่ละเอียดนุ่ม กรุ่นกลิ่นหอมบางที่ยั่วเย้าอารมณ์ได้อย่างเหลือแสน กระนั้น บรรยากาศที่ร้อนแรงภายในถ้ํากลับค่อยๆถูกแทนที่ด้วยความเย็นยะเยือกทีละน้อย

หนานกงยี่สามารถรับรู้ได้ถึงความแข็งกร้าวไม่พอใจที่เกอซียังคงมีต่อตน

เมื่อเกอชีหันกลับมา สายตาที่จับจ้องมองเขาเขม็งนั้นเย็นยะเยือกด้านชาประดุจน้ําแข็ง ริมฝีปากของนางค่อยๆขยับ กล่าวคําอย่างไม่เร่งร้อน “หนานกงยวี่ ไม่ว่าเจ้าจะพร่ําพรอดได้น่าฟังสักเพียงไร ข้ายังคงมีสิ่งหนึ่งที่ต้องการเตือนเจ้าไว้ก่อน!”

“เฟิ่งเหลียนยิ่ง… ข้าต้องสังหารนางอย่างแน่นอน! ข้าไม่สนว่านางจะเป็นใคร ทั้งไม่สนว่านางจะมีผู้หนุนหลังที่ทรงอิทธิพลสักเพียงไหน ข้าจะไม่มีวันปล่อยนางไปอย่างแน่นอน !นางจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ติดค้างข้าคืนเป็นร้อยเท่า!”

น้ําเสียงของนางเย็นยะเยือกนั่งแท่งน้ําแข็งเนื้อเสียงเด็ดเดี่ยวมั่นคง ร่องรอยแรงมุ่งพิฆาตสังหารที่แฝงมากับคํากล่าวนั้นชัดเจน เพียงผู้ใดได้ยินย่อมรู้สึกหนาวเย็นสุดขั้วหัวใจอย่างที่ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน

นางยอมรับว่าพลังฝีมือของตนในยามนี้ย่อมไม่อาจลงมือสังหารเพิ่งเหลียนยิ่งได้ ทั้งย่อมไร้สิ้นหนทางจะประจันหน้ากับสํานักหลิวหลี่

เพียงทว่าความไร้สามารถในยามนี้หาใช่ความไร้สามารถ ในวันหน้า นางเกอซีคือผู้ที่แทนคุณด้วยคุณ แทนแค้นด้วยแค้น คนเยี่ยงนางไม่เคยปล่อยให้ผู้ที่กล้ารังแกคนของตน มีลมหายใจทําลอยหน้าต่อไปได้! แม้นหากต้องตั้งตนเป็นปรปักษ์กับหนานกงยวี่ นางก็ไม่เคยนึกลังเลเลยแม้เพียงน้อย!

วันหนึ่งข้างหน้า นางจะสร้างพลังอํานาจของตนให้มั่นคง เมื่อนั้น ผู้คนทั่วหล้าจะไม่มีผู้ใดกล้ารังแกนางได้ง่ายดายเช่นนี้อีก!

จะอาศัยเพียงสองมือของตน ไม่ขอพึ่งพิงผู้ใดอื่น

หนานกงยวี่จ้องมองสายตาที่ร้อนแรงเปล่งประกายดุจเปลวเพลิงที่มิอาจหยั่งลึกถึงก้นบึงของนางด้วยความหลงใหล นัยน์ตาคู่นี้ประหนึ่งมหาสมุทรที่มอาจคาดคะเน ทรงความหยิ่งผยอง ถือดีอหังการ ทั้งยังน่ากึ่งแทบหยุดลมหายใจอย่างถึงที่สุด

นี่ล่ะ คือซีเอ๋อของเขา !

ความรู้สึกที่ซับซ้อนเผยผ่านออกทางดวงหน้าของชายหนุ่มวูบหนึ่ง ภายใต้ดวงตาที่ล้ําลึกคู่นั้น อารมณ์ที่รุนแรงบางประการพลันพลุ่งพล่านขึ้นอย่างดุเดือด เมื่อการต่อสู้หักล้าง ภายในใจสิ้นสุดลง ที่สุดเขากดลิ้นฝืนกลั้นถ้อยคําทั้งหมดที่พยายามดิ้นรนออกจากปาก เพื่อปลดเปลื้องตนให้เป็นอิสระกลับคืนลงไปในลําคอ

คําตอบของเขาหาได้ทําให้เกอชีนึกฉงนไม่ ทั้งไม่ต้องรั้งรอให้เขาแก้ต่างแต่อย่างใด นางก็ผลักร่างอีกฝ่ายออกพร้อมน้ําเสียงราบเรียบ “เจ้าอยู่รักษาตนไปก่อน ข้าจะออกไปตรวจตราด้านนอก”

ไม่ว่าจะอย่างไร การที่หนานกงยวี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ย่อมสืบเนื่องมาจากพยายามช่วยเหลือนางเช่นนั้น นางย่อมจดจําบุญคุณในครานี้เสมอ

ขณะที่ฝีเท้าของนางกําลังเร่งเคลื่อนกายออกไปนอกถ้ํา น้ําเสียงอ่อนโรยแรงแฝงความเศร้าเคล้าความเสน่หาของชายหนุ่มพลันดังไล่หลังมา “ซีเอ๋อ ซีเอ๋อ…”

เขาเอ่ยเรียกขานนางอย่างอ่อนโยนถึงสองครา ก่อนที่สุ่มเสียงแหบห้าวทรงเสน่ห์นั้นจะกลืนหายไปในเสียงทอดถอนใจบางเบา

เขาไม่มีคําใดจะเอ่ยกล่าว หากทว่ามันได้ทิ้งร่องรอยบาดแผลไว้ในใจของเกอซี

ฝ่าเท้าของนางชะงักเล็กน้อยก่อนจะรีบขยับก้าวออกจาก ถ้ําอย่างไม่ต้องการรั้งอยู่ในที่นี้อีกต่อไป

เมื่อหญิงสาวออกมายืนสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างเต็มที่อยู่หน้าปากถ้ํา ความร้อนรุ่มกระวนกระวายภายในใจจึงค่อยจางคลายลงได้

นางปลดปล่อยเถาวัลย์ม่วงอเวจีออกมา คืนสภาพร่างของมันให้คงเดิมเพื่อปกปิดปากทางเข้าถ้ําไว้ดังเช่นก่อนหน้า

เพียงเจ้าเถาวัลย์ม่วงอเวจีพบหน้าเกอซี มันก็สะบัดแกว่งไกวโบกเถาไปมาไม่หยุดด้วยท่าทางตื่นเต้นยินดีอย่างถึงที่สุด

ประหนึ่งภาพลวงตา เมื่อเกอซีรู้สึกว่าเถาวัลย์ม่วงที่เพิ่งถูกโยนเข้ามิติเวทได้เพียงไม่นาน ยามนี้กลับดูแข็งแกร่งทรงพลังขึ้นกว่าเดิมมาก ใบไม้ที่อยู่ตามเถาทั้งหลายเพิ่มดกหนาแน่นทั้งลําต้น และใบที่เคยมีสีม่วงโปร่งใสยามนี้ถูกขับสีให้เข้มข้นชัดเจนขึ้นอีกด้วย

***จบตอน ไม่มีวันยอมปล่อยนาง***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

Status: Ongoing

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

เมื่อนางคือสุดยอดมือสังหารเกียรติยศระดับเหรียญทองแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาสู่ร่าง คุณหนูสาม น่าหลานเกอซี แห่งตระกูลแพทย์ผู้ปรุงโอสถอันลือลั่น นางผู้สิ้นดี นางผู้ถูกกลั่นแกล้งสารพัด

นางคือผู้ที่ไร้สิ้นกระแสปราณแห่งพลังจึงมิอาจโคจรฝึกฝนพลังปราณเยี่ยงผู้อื่นได้เช่นนั้นล่ะหรือ? จะต้องเกรงไปไย เมื่อนางคือยอดหมออัจฉริยะสวรรค์บันดาน แค่อาการจิ๊บจ้อยเพียงเท่านี้ ไม่พอมือนางหรอก บิดาไม่เอ็นดูข้า มารดาไม่รักข้า ทุกคนล้วนข่มเหงรเหยียบย่ำข้ากระนั้นหรือ? ฮึ่ม! เมื่อนางคือผู้ครอบครองมิติและสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้ผู้เทียบเทียม เช่นนี้แล้ว ไยนางต้องแสร้งทำตนเป็นคุณหนูลูกแหง่ในสกุลน่าหลานอีกเล่า!

ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ ร่างกายที่ผ่ายผอมแลดูอมโรคนั้น หาได้มีผู้ใดต้องการมันใช่ไหม? เพียงชั่วพริบตา นางจะกระชากหน้ากากเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทำให้บุรุษรูปงามเป็นโหลๆต้องคอยเฝ้าล้อมหน้าล้อมหลัง! หากแต่บุรุษจอมเผด็จการผู้นั้นกลับยังตามตื้อกันไม่เลิกไม่ราตั้งแต่งานประมูลเมื่อคราก่อน

ผู้ใดบอกว่าชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับเจ้ากัน? ชีวิตของข้าย่อมต้องเป็นของข้า! ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมากำหนดชีวิตของข้าได้!

บุรุษนิรนาม : เช่นนั้นชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้า แล้วแต่เจ้าจะบัญชาให้เป็นไปดีไหม?

*****

ลำดับขั้นแห่งการฝึกฝนพลังปราณอันต้องอาศัยผู้ที่มีรากฐานแห่งพลังอันเนื่องด้วยกระแสจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะสามารถควบกลั่นโคจรพลังปราณในกายได้ ไล่เรียงลงไปตามลำดับขั้นจากขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นสูงสุดมีทั้งหมด 9 ขั้น โดยกำลังปราณแต่ละขั้นมี 10 ระดับ

กำลังปราณขั้น 1 เมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม กำลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันต์ กำลังปราณขั้น 3 พลิกผันอเวจี กำลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน กำลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ กำลังปราณขั้น 6 เปิดม่านฟ้าดิน กำลังปราณขั้น 7 ทะลวงสิ้นโลกสาม กำลังปราณขั้น 8 ก้าวข้ามสูญญภพ กำลังปราณขั้น 9 สยบทั้งจักรวาล

ผู้แปลไม่ได้เก่งภาษาจีน เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ

ดังนั้นชื่อเฉพาะของบุคคลและสถานที่ต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ หากท่านใดไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ขอเชิญมาสนุกด้วยกันเลยค่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท