หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 314 เทพธิดาบัวเยือกแข็ง โปรดช่วยพวกเราด้วย !

ตอนที่ 314 เทพธิดาบัวเยือกแข็ง โปรดช่วยพวกเราด้วย !

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 314 เทพธิดาบัวเยือกแข็ง โปรดช่วยพวกเราด้วย !

สีหน้าของหนานกงยวี่เรียบเฉย เขาเพียงกล่าวลอย ๆ

“เขาเพิ่งเข้ามาใหม่ ยังไม่รู้ธรรมเนียม อวิ๋นจิ่ง เจ้าไม่ควรถือสา”

ยามนี้ หวูอวี้ทําตัวปะปนอยู่กับเหล่าอารักขาทั่วไปในตําหนัก หากทว่า อารักขาที่ขวัญกล้าถึงขั้นพูดจาจาบจ้วงคนตระกูลเฟิ่งจะมีแต่ที่ใด ! กับทั้งการแสดงออกที่เย็นชาของหนานกงยวี่ ยิ่งทําให้เฟิ่งอวิ๋นจิ่งตระหนักชัดว่าบุรุษเบื้องหน้าตนกําลังปั้นน้ำเป็นตัว!

ขณะที่หวูอวี่กําลังจะขยับปาก ชิงหลงก็ขยับขึ้นขวาง พลางยกมือกดบ่าหวูอวส่ายหน้าบอกความนัย

ยามนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะประจันหน้ากับสํานักหลิวหลี หาไม่ แผนที่นายท่านทุ่มเทลงมือกรุยทางไว้ก่อนหน้ายอมเป็นอันพังพินาศ

ริมฝีปากทั้งสองของหวูอยกโค้ง ชายหนุ่มปิดปากสนิท ไม่เอ่ยกล่าวสิ่งใดให้มากความ

ยามนี้ บุรุษทั้งสองผู้ที่เต็มไปด้วยทุ่มโลหิต น้ำเหลืองน้ำหนองหยดไหลพรากตามร่าง เริ่มพยายามตะเกียกตะกายออกจากสวนสมุนไพร

นัยน์ตาของพวกเขาเปล่งประกายทันทีที่ได้เห็นเฟิ่งเหลียนอิ่ง ทั้งคู่ต่างเดินปัดปายโซเซมุ่งตรงเข้าหา

เพียงพวกเขาเคลื่อนขยับผ่านในที่ใด เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างเลี่ยงหลบประหนึ่งพบเจออสรพิษร้าย

เฟิ่งเหลียนอิ่งย่อมอยากวิ่งหนีเช่นกัน หากทว่าสองฝ่าเท้ากลับแข็งค้างไม่อาจขยับด้วยความหวาดกลัว

“เทพธิดาบัวเยือกแข็ง ช่วยพวกเราด้วย !!” เสียงแผดร้องน่าอนาถดังก้องไปทั่วสวนสมุนไพร

บุรุษทั้งสองทรุดร่างลงคุกเข่าเบื้องหน้าเฟิ่งเหลียนอิ่ง ส่งเสียงร่ำร้องตะโกนระคนครางสนั่นด้วยความเจ็บปวด “ข้า…คือผู้นําตระกูลมู่หรง มู่หรงจางฟง ตระกูลมู่หรงของข้ากับสํานักหลิวหลีอยู่ร่วมกันมาอย่างสันติไร้ความบาดหมางมาโดยตลอด ได้โปรดช่วยพวกเราด้วยเถิด !”

ถ้อยคําที่หลุดออกจากปากของบุรุษผู้นั้นสร้างความแตกตื่นใจให้ทุกผู้คนในที่นั้นอย่างล้นเหลือ

เหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง เมื่อบุรุษผู้ที่ตลอดทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยทุ่มโลหิต กระทั่งมิอาจแยกแยะได้ว่าเป็นผู้ใด แท้จริงกลับคือท่านผู้นําแห่งตระกูลมู่หรง มู่หรงจางฟง หนึ่งในสี่ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองเหยียนจิง

ส่วนอีกผู้หนึ่งนั้นคือ มู่หรงฮ่าย บิดาของมู่หรงฉางฟง อาวุโสแห่งจวนมู่หรง แพทย์ผู้มีทักษะการรักษาระดับสาม ท่านหมอผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วทั้งเหยียนจิง

ทั้งคู่โผร่างเข้าหาเฟิ่งเหลียนอิ่งอย่างกระทันหัน ปลายนิ้วทั้งสิบเหยียดยื่นสัมผัสท่อนแขนละเอียดบางของหญิงสาวเบื้องหน้า น้ำเลือดน้ำหนองที่ชุ่มโชกทั่วฝ่ามือไขว่คว้ากุมอาภรณ์ขาวบริสุทธิ์ดั่งหิมะของนาง

เฟิ่งเหลียนอิ่งหน้าซีดเผือดไร้สีด้วยความขวัญผวา นางกระถดเท้าถอยหลังหนีหลายก้าวด้วยใบหน้าราวคนป่วย สองตาอัดล้นไปด้วยความสยดสยองรังเกียจ

เฟิ่งอวิ๋นจิ่งผู้ยืนจับจ้องอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วมั่น เมื่อได้ยินทั้งสองเผยฐานะที่แท้จริง “พวกท่านมีจุดจบเช่นนี้ได้เยี่ยงไร ?”

เมื่อพบว่าผู้ที่ตั้งคําถามกับตนคือนายน้อยแห่งตระกูลเฟิ่ง มีหรือที่พวกเขาจะกล้าละเลยตอบคํา 2 ทั้งคู่อดกลั้นต่อความเจ็บปวดอันแสนสาหัสระงับความหวาดผวาภายในใจ เร่งบอกเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งสิ้นอย่างไม่รอช้า

เรื่องราวถูกเปิดเผยความจริง ก็คือกลุ่มยอดฝีมือตระกูลมู่หรง สามารถผ่านม่านอาคมเมฆาล่วงเข้าสู่สวนสมุนไพรได้เป็นกลุ่มแรก

นับแต่ก้าวแรกสู่สวนสมุนไพร พวกเขาล้วนพบอายกลิ่นพิษหลอนประสาทซึ่งมีฤทธิ์ทําให้ผู้คนสูญเสียสติสัมปชัญญะแทรกซึมอยู่ในชั้นบรรยากาศ

หากทว่าเมื่อพวกเขามีมู่หรงฮ่าย ท่านหมอแพทย์ระดับสามร่วมเดินทาง ย่อมเป็นธรรมดาที่ทุกคนจะไม่นึกหวั่นต่อพิษเล็กน้อยเพียงแค่นี้

ทันทีที่พิษกล่อมประสาทถูกขับสลาย ทุกคนเริ่มลงมือเก็บพืชสมุนไพรที่เติบโตสะพรั่งกลางสวน ซึ่งดารดาษไปด้วยพฤกษาเวทระดับห้านับจํานวนไม่ถ้วน ภายหลังยังมีคนเห็นบนเนินเขาเปล่งปรากฏรัศมีหลากสีเรืองรอง ทั้งยังพบพฤกษาเวทขั้นหกที่ยิ่งปั่นปวนจิตใจผู้คนให้ล่วงสู่ความละโมบอย่างมิอาจอดกลั้น

ทว่าขณะที่ยอดฝีมือแห่งตระกูลมู่หรงกําลังปิติยินดีอยู่นั้น บางพวกกลับเริ่มหมดสติ และมีอาการกระสับกระส่าย

ไม่ว่ามู่หรงฮ่ายจะทําการตรวจวินิจฉัยสักเพียงไร กลับไม่อาจพบเหตุที่ทําให้คนเหล่านั้นหมดสติลงได้

ที่แย่ไปกว่านั้นคือ บนใบหน้าของผู้ที่กําลังอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัวเริ่มปรากฏผื่นแดง ทั้งผื่นแดงเหล่านั้นกลับผุดกระจายลุกลามอย่างรวดเร็วสามารถสังเกตเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า ก่อนพวกมันทั้งหมดจะเริ่มกลับกลายเป็นตุ่มโลหิตพุพองขนาดใหญ่

ตุ่มโลหิตเหล่านั้นทําให้ผู้ได้รับพิษคันอย่างเหลือแสน เมื่อมันกระจายลุกลามไปทั่วร่าง คันคะเยออย่างยิ่ง คันถึงระดับที่แม้ผู้ที่มีจิตใจหนักแน่นสักเพียงไรยังอดไม่ได้ที่จะกวาดแขนแกะเกาอย่างไม่อาจควบคุม

ย่ำแย่เหลือเกินที่ แม้นหากพวกเขาจะไม่แกะเกาตุ่มโลหิตเหล่านั้นก็ตามที เพียงผ่านไปครู่ใหญ่ ตุ่มโลหิตทั้งหมดย่อมระเบิดน้ำเลือดน้ำหนองออกมาอย่างน่าสยดสยอง

เมื่อใดก็ตามที่ตุ่มโลหิตเริ่มแตกทะลัก เนื้อผิวของคนผู้นั้นตลอดถึงอวัยวะภายในจะเริ่มเน่าเปื่อย กระทั่งถึงแก่ความตายในที่สุด

***จบตอน เทพธิดาบัวเยือกแข็ง โปรดช่วยพวกเราด้วย!***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

Status: Ongoing

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

เมื่อนางคือสุดยอดมือสังหารเกียรติยศระดับเหรียญทองแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาสู่ร่าง คุณหนูสาม น่าหลานเกอซี แห่งตระกูลแพทย์ผู้ปรุงโอสถอันลือลั่น นางผู้สิ้นดี นางผู้ถูกกลั่นแกล้งสารพัด

นางคือผู้ที่ไร้สิ้นกระแสปราณแห่งพลังจึงมิอาจโคจรฝึกฝนพลังปราณเยี่ยงผู้อื่นได้เช่นนั้นล่ะหรือ? จะต้องเกรงไปไย เมื่อนางคือยอดหมออัจฉริยะสวรรค์บันดาน แค่อาการจิ๊บจ้อยเพียงเท่านี้ ไม่พอมือนางหรอก บิดาไม่เอ็นดูข้า มารดาไม่รักข้า ทุกคนล้วนข่มเหงรเหยียบย่ำข้ากระนั้นหรือ? ฮึ่ม! เมื่อนางคือผู้ครอบครองมิติและสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้ผู้เทียบเทียม เช่นนี้แล้ว ไยนางต้องแสร้งทำตนเป็นคุณหนูลูกแหง่ในสกุลน่าหลานอีกเล่า!

ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ ร่างกายที่ผ่ายผอมแลดูอมโรคนั้น หาได้มีผู้ใดต้องการมันใช่ไหม? เพียงชั่วพริบตา นางจะกระชากหน้ากากเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทำให้บุรุษรูปงามเป็นโหลๆต้องคอยเฝ้าล้อมหน้าล้อมหลัง! หากแต่บุรุษจอมเผด็จการผู้นั้นกลับยังตามตื้อกันไม่เลิกไม่ราตั้งแต่งานประมูลเมื่อคราก่อน

ผู้ใดบอกว่าชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับเจ้ากัน? ชีวิตของข้าย่อมต้องเป็นของข้า! ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมากำหนดชีวิตของข้าได้!

บุรุษนิรนาม : เช่นนั้นชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้า แล้วแต่เจ้าจะบัญชาให้เป็นไปดีไหม?

*****

ลำดับขั้นแห่งการฝึกฝนพลังปราณอันต้องอาศัยผู้ที่มีรากฐานแห่งพลังอันเนื่องด้วยกระแสจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะสามารถควบกลั่นโคจรพลังปราณในกายได้ ไล่เรียงลงไปตามลำดับขั้นจากขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นสูงสุดมีทั้งหมด 9 ขั้น โดยกำลังปราณแต่ละขั้นมี 10 ระดับ

กำลังปราณขั้น 1 เมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม กำลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันต์ กำลังปราณขั้น 3 พลิกผันอเวจี กำลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน กำลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ กำลังปราณขั้น 6 เปิดม่านฟ้าดิน กำลังปราณขั้น 7 ทะลวงสิ้นโลกสาม กำลังปราณขั้น 8 ก้าวข้ามสูญญภพ กำลังปราณขั้น 9 สยบทั้งจักรวาล

ผู้แปลไม่ได้เก่งภาษาจีน เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ

ดังนั้นชื่อเฉพาะของบุคคลและสถานที่ต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ หากท่านใดไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ขอเชิญมาสนุกด้วยกันเลยค่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท