หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 351 พันเขตอาณาจักรกําบัง

ตอนที่ 351 พันเขตอาณาจักรกําบัง

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 351 พันเขตอาณาจักรกําบัง

เพียงชั่วขณะ เศษเนื้อถูกฉีกกระจายทั่วทุกทิศทางเสียงเศษกระ ดูกกลิ้งกระทบไปตามผืนทราย

บรรยากาศภายใต้ทะเลทรายที่ร้อนระอุกว้างใหญ่พลันถูกเติมเต็มด้วยกลิ่นคาวโลหิตที่คละคลุ้ง สร้างความหวาดผวาให้ผู้คนหากทว่ากลับกลายเป็นแรงกระตุ้นเร้าใจสําหรับฝูงสัตว์อสูร

การต่อสู้ยิ่งยืดเยื้อ สีหน้าของเฟงอวิ่นจึงกลับยิ่งน่าเกลียดน่ากลัว เมื่อยามนี้พลังวัตรในกายคล้ายจะถูกนําออกใช้กระทั่งแทบเหีอดแห้ง

ศิษย์ร่วมสํานักที่รายล้อมรอบกายเริ่มบางตาลงไปทีละน้อย

บ้างถูกสัตว์เวทอสูรกัดกิน บ้างถูกเพิ่งเหลียนยิ่งกับเนียจินเฉินคว้าตัวไปทําโล่ห์บังกาย

กระทั่งเพิ่งเหลียนยิ่ง และเนียจินเฉินผู้อาศัยเหล่าศิษย์ร่วมสํานักมาเป็นผู้รับเคราะห์แทนตนล้วนเริ่มเหน็ดเหนื่อยสิ้นแรงกําลัง

เหนืออื่นใดนั้นคือ อาภรณ์บนร่างของเพิ่งเหลียนยิ่งซึ่งเดิมคือสิ่งช่วยเสริมส่งเรือนร่างที่งามสง่าของนาง ทั้งยังมีความสามารถใน การป้องกันแรงโจมตีเพียงทว่ามีหรือที่มันจะสามารถทานทนต่อกา รโจมตีที่รุนแรงของเหล่าสัตว์อสูรได้ ? ยามนี้อาภรณ์บนร่างของ นางจึงเริ่มฉีกขาดหลุดรุ่ยเอี้ยมตัวในเริ่มปรากฏพอให้เห็นเพียงรําไร

ศิษย์สํานักหลิวหลีส่วนใหญ่ล้มตาย ไม่ก็ได้รับบาดเจ็บเป็นจํานวนมากกระทั่งแทบไม่เหลือผู้ใด ขณะที่เพิ่งออิ่นจึงถูกสัตว์เวทอสูรขั้นหกเข้าล้อมกรอบ เพิ่งเหลียนยิ่งก็ถูกฝูงอสูรเวทขั้นสี่ถึงสามตนพุ่งกระโจนเข้าใส่ ยามนี้พวกเขาทั้งหมดแทบไม่เหลือแรงกําลัง

เพิ่งเหลียนยิ่งไม่อาจฝืนรับมือเหล่าสัตว์อสูร ร่างของนางทรุดล้มลงพร้อมเสียงร้องโวยวาย “ไม่ ไม่ – เข้ายังไม่อยากตาย ! ช่วยด้วย ! อ้า ! เนียจินเฉิน เจ้าไม่ชอบข้าแล้วกระนั้นหรือ ? รีบเข้ามาช่วยข้าเร็ว !”

พร้อมกันนั้นนางก็คว้าตัวเนียจินเฉินเข้ามาบังร่าง “เร็วเข้า ช่วยกันให้ข้าที่ !”

แววตาของชายหนุ่มฉายอาการแห่งความหวาดกลัวตื่นผวาขี้นวาบหนึ่ง หากทว่าท่อนแขนทั้งสองยังตวัดกระบี่ยาวในมืออย่างมิรู้ทิศรู้ทาง

กระนั้นสัตว์อสูรตนหนึ่งยังสามารถขบกัดลงบนท่อนแขนด้านซ้ายของเขา ทั้งยังได้ยินเสียง กรอบ กรอบ” ความเจ็บปวดอย่างหนักพลันถาโถมเข้าใส่ชายหนุ่ม เนียจินเฉินรับรู้ได้ทันทีว่า ยามนี้กระดูกท่อนแขนข้างซ้ายของตนได้แหลกลงเสียแล้ว

ทั้งขณะเดียวกันนั้นเอง สัตว์อสูรอีกตนก็ยื่นปากที่ส่งกลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้งเข้ามาใกล้ใบหน้าของเขา

ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายพลันส่งให้ชายหนุ่มนิ่งค้างตัวแข็งแม้นเขาอยากร่ําร้องขอความช่วยเหลือ แม้นอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลหากทว่าทั่วร่างคล้ายนิ่งแข็งไม่อาจขยับเขยื้อน

นอกเสียจากจะรอคอยความตายภายใต้ความสิ้นหวัง เขามิอาจกระทําสิ่งใดได้อีก

ชายหนุ่มพลันหวนนึกถึงความพยายามทุ่มเทกระทําตามคําเรียกร้องของหัวใจ ความอ่อนโยนเอาอกเอาใจ ความยินยอมโอนอ่อนผ่อนตามที่เขามอบให้แก่เพิ่งเหลียนยิ่งตลอดสิบปีที่ผ่านมาหวนนึกถึงความโหดเหี้ยมไร้น้ําใจที่นางมีต่อเขาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นกัน

ยามนี้ความรักใคร่ที่เขาเคยมีให้เพิ่งเหลียนยิ่งพลันเลือนหายอย่างไม่มีเหลือ

นอกเสียจากแรงราคะภายในใจ สิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ล้วนมีเพียงความเกลียดชัง และความคิดอยากยื่นางไม่ให้เหลือดีอย่างเต็มหัวใจ

คล้ายในช่วงเวลาที่เพิ่งเหลียนยิ่ง และเนียจินเฉินกําลังจะถึงกาลสิ้นสุด ทางด้านเพิ่งอวุ่นวิ่งก็ไม่นับว่ายิ่งหย่อนไปกว่ากัน

เพียงเสี้ยวเวลาที่ชีวิตผู้คนทั้งสามถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายภาพฉากเบื้องหน้าทุกสิ่งพลันแปรเปลี่ยน

ปราศจากอายร้อนระอุ ปราศจากลมหายใจกลิ่นคาวคลุ้งของเหล่าอสูรเวท ปราศจากท้องนภาที่ตลบฟังไปด้วยผงฝุ่นทรายไร้สิ้นกลิ่นเน่าเหม็นอันพาให้อยากคลื่นเหียน เมื่อทุกสิ่งพลันถูกแทนที่ด้วยกลิ่นอายความหอมหวานจากเหล่าพฤกษาและชั้นบรรยากาศ ที่บริสุทธิ์

ทั้งสามต่างกวาดตามองโดยรอบ เพื่อจะพบว่ายามนี้พวกเขาพลันโผล่ขึ้นมาท่ามกลางหุบเขาแห่งหนึ่งอย่างไม่นึกฝัน

ยังมีผืนดินกลางหุบเขาแห่งนี้ล้วนคุ้นตา สถานที่แห่งนี้ตําแหน่งที่พวกเขาเริ่มก้าวเข้าสู่เขตแดนผนึกมังกรแห่งอาณาจักรกําบังมิใช่หรือ ?

นี้มัน….นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? เหตุใดจู่ ๆ พวกเขาก็เข้าไปโผล่กลางฝูงอสูรเวท ? ทว่าเพียงพริบตาพวกเขากลับถูกขับออกจากอาณาจักรกําบัง ?

ขณะที่เพิ่งอขึ้นจึงกําลังเกรี้ยวกราด และตื่นตกใจอยู่นั้นเสียงองตะโกนของคนผู้หนึ่งพลันดังก้อง

“เฮ้ย ! หินผลึกเวทขั้นห้าที่ข้าเพิ่งได้มาอยู่ที่ใดกัน ? ข้าถือมันไว้ในมือแท้ ๆ เหตุใดจู่ ๆ มันกลับหายไปเสียเล่า ?”

“เมื่อครู่ข้ายังอยู่ในอาณาจักรผลาญสวรรค์ ทว่าเพียงพริบตาเหตุใดข้ากลับมาโผล่ในที่นี้ ?”

“กล่องบรรจุผลไม้เวทที่ข้าเก็บรวบรวมมาได้ล้วนมีค่าถึงหนึ่งล้านหินผลึกหายไปไหนเสีย ? กว่าข้าจะได้มาล้วนยากเย็นข้าต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรที่ทําหน้าที่ปกป้องมันอยู่เนิ่นนาน เหตุใดทุกสิ่งพลันกลับกลายไม่เหลือเช่นนี้ ?”

“ที่สุด นี่คือฝีมือของผู้ใดกัน ? เหตุใดพวกเราทุกคนถึงถูกถีบส่งออกมาเช่นนี้ ?”

***จบตอนพ้นเขตอาณาจักรกําบัง***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

Status: Ongoing

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

เมื่อนางคือสุดยอดมือสังหารเกียรติยศระดับเหรียญทองแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาสู่ร่าง คุณหนูสาม น่าหลานเกอซี แห่งตระกูลแพทย์ผู้ปรุงโอสถอันลือลั่น นางผู้สิ้นดี นางผู้ถูกกลั่นแกล้งสารพัด

นางคือผู้ที่ไร้สิ้นกระแสปราณแห่งพลังจึงมิอาจโคจรฝึกฝนพลังปราณเยี่ยงผู้อื่นได้เช่นนั้นล่ะหรือ? จะต้องเกรงไปไย เมื่อนางคือยอดหมออัจฉริยะสวรรค์บันดาน แค่อาการจิ๊บจ้อยเพียงเท่านี้ ไม่พอมือนางหรอก บิดาไม่เอ็นดูข้า มารดาไม่รักข้า ทุกคนล้วนข่มเหงรเหยียบย่ำข้ากระนั้นหรือ? ฮึ่ม! เมื่อนางคือผู้ครอบครองมิติและสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้ผู้เทียบเทียม เช่นนี้แล้ว ไยนางต้องแสร้งทำตนเป็นคุณหนูลูกแหง่ในสกุลน่าหลานอีกเล่า!

ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ ร่างกายที่ผ่ายผอมแลดูอมโรคนั้น หาได้มีผู้ใดต้องการมันใช่ไหม? เพียงชั่วพริบตา นางจะกระชากหน้ากากเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทำให้บุรุษรูปงามเป็นโหลๆต้องคอยเฝ้าล้อมหน้าล้อมหลัง! หากแต่บุรุษจอมเผด็จการผู้นั้นกลับยังตามตื้อกันไม่เลิกไม่ราตั้งแต่งานประมูลเมื่อคราก่อน

ผู้ใดบอกว่าชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับเจ้ากัน? ชีวิตของข้าย่อมต้องเป็นของข้า! ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมากำหนดชีวิตของข้าได้!

บุรุษนิรนาม : เช่นนั้นชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้า แล้วแต่เจ้าจะบัญชาให้เป็นไปดีไหม?

*****

ลำดับขั้นแห่งการฝึกฝนพลังปราณอันต้องอาศัยผู้ที่มีรากฐานแห่งพลังอันเนื่องด้วยกระแสจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะสามารถควบกลั่นโคจรพลังปราณในกายได้ ไล่เรียงลงไปตามลำดับขั้นจากขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นสูงสุดมีทั้งหมด 9 ขั้น โดยกำลังปราณแต่ละขั้นมี 10 ระดับ

กำลังปราณขั้น 1 เมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม กำลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันต์ กำลังปราณขั้น 3 พลิกผันอเวจี กำลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน กำลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ กำลังปราณขั้น 6 เปิดม่านฟ้าดิน กำลังปราณขั้น 7 ทะลวงสิ้นโลกสาม กำลังปราณขั้น 8 ก้าวข้ามสูญญภพ กำลังปราณขั้น 9 สยบทั้งจักรวาล

ผู้แปลไม่ได้เก่งภาษาจีน เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ

ดังนั้นชื่อเฉพาะของบุคคลและสถานที่ต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ หากท่านใดไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ขอเชิญมาสนุกด้วยกันเลยค่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท