นัทธีนั่งอยู่เบาะหลัง หลับตาเล็กน้อย ไม่ได้มีการลืมขึ้น ส่งเสียงอืมเป็นการบ่งบอกว่ารู้แล้ว
มารุตเห็นดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรอีกและขับรถต่อไป
ประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็มาถึงยังที่คุมขังนักโทษชาย
คุณหญิงอัณณ์ยืนอยู่ตรงประตูเรือนจำในเสื้อคลุมยาวสีดำ บนใบหน้าสวมแมสด้วย และข้างหลังมีบอดี้การ์ดสองคน
เมื่อเห็นนัทธีมาแล้ว คุณหญิงอัณณ์จึงเดินเข้าไปทันที “นัทธี”
สายตานัทธีตกไปที่กระเป๋าเอกสารในมือของเธอ
คุณหญิงอัณณ์สังเกตเห็น จึงยิ้มอย่างค่อนข้างเขินอาย “มันคือข้อตกลงการหย่าร้างน่ะ”
“ผมรู้ เข้าไปเถอะ” นัทธีถอนสายตา เอ่ยต่อน้ำเสียงบางเบา ยกเท้าก้าวเดินเข้าไปในที่คุมขัง
คุณหญิงอัณณ์สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะตามเข้าไป
เนื่องจากขงเบ้งเป็นอัมพาตครึ่งซีกยืนไม่ได้ จึงถูกผู้คุมเรือนจำเข็นรถเข็นออกมา
อันที่จริงสภาพอย่างขงเบ้ง สามารถไม่ต้องติดคุกได้
แต่นัทธีกังวลว่าถ้าให้ขงเบ้งถูกตัดสินประหารนอกเรือนจำ จะเกิดปัญหาเพิ่ม เช่นถูกช่วยหรืออะไรซักอย่าง
ดังนั้นจึงต้องใช้สถานะของเขา ในการขอให้ขังขงเบ้งเอาไว้
นี่ก็คือสาเหตุว่าเพราะอะไร ขงเบ้งที่เป็นคนพิการ แต่ยังต้องติดคุก
“เป็น……เป็นพวกเธอ……” มือข้างหนึ่งของขงเบ้งหยิบไมโครโฟนมา มองคนสองคนที่หลังกระจก ถ้อยคำไม่ชัด และปากขยับพูดอย่างตื่นเต้น
ขงเบ้งกับสุภัทรเป็นอัมพาตต่างกัน
ก่อนสุภัทรตาย เป็นอัมพาตอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ใต้คอลงไป แต่ยังคงพูดได้ และพูดได้เป็นปกติ
ส่วนขงเบ้งเป็นอัมพาตครึ่งซีก เป็นอัมพาตที่สมมาตร ปากฝั่งหนึ่งปกติ ปากอีกฝั่งแข็งขยับไม่ได้ ดังนั้นเวลาพูดปากจะไม่เปิดกว้าง ถ้อยคำจึงเชื่องช้าและไม่ชัด เสียงก็เปลี่ยนเป็นแปลกไป ฟังไปแล้วค่อนข้างตลก
แต่นัทธีกับคุณหญิงอัณณ์ไม่มีการยิ้ม
นัทธีสายตาเย็นชามองขงเบ้ง คุณหญิงอัณณ์มีสีหน้าขอโทษ “ตาเฒ่าขง ฉันมาเยี่ยมคุณ”
ขงเบ้งส่งเสียงหึ ค่อยๆ พูดช้าๆ “ผมเข้ามาตั้งนานแล้ว คุณไม่เคยมาเลย มาตอนนี้ ไม่รู้สึกว่ามันเสแสร้งเกินไปหน่อยเหรอ”
เขาจำได้อย่างชัดเจน ตอนที่เขาถูกจับ ผู้หญิงคนนี้ขายเขา บอกว่าเขาเป็นฆาตกร ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ
ใช่ ทุกอย่างมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอ แต่เธอเป็นภรรยาของเขา เมื่อมีวิกฤตเข้ามา เธอทิ้งเขาเลย ให้เขาเผชิญหน้าตามลำพัง ทำให้เขาท้อแท้สิ้นหวัง
“ฉันเสแสร้งเหรอ” เดิมทีคุณหญิงอัณณ์ยังรู้สึกค่อนข้างละอายใจที่ผ่านมาตั้งนานแล้วตนถึงเพิ่งมา แต่เมื่อได้ยินขงเบ้งบอกว่าตัวเองเสแสร้ง ความละอายแก่ใจพลันหายไปทันที สิ่งที่แทนที่เข้ามามีเพียงความโกรธ
“นัทธี เธอออกไปก่อนนะ ฉันมีเรื่องจะพูดกับตาเฒ่านี่สักหน่อย” คุณหญิงอัณณ์มองขงเบ้งอย่างโกรธเกรี้ยว พร้อมพูดกับนัทธี
นัทธีเลิกคิ้ว “ได้ สิบนาที จัดการเรื่องของคุณให้จบ”
“ได้” คุณหญิงอัณณ์พยักหน้า
นัทธีก้าวขายาวเดินออกไป
ที่เผชิญหน้ากันในห้อง เหลือเพียงคุณหญิงอัณณ์กับขงเบ้ง
คุณหญิงอัณณ์ตบถุงกระดาษในมือที่อยู่บนกรอบหน้าต่าง “ใช่ เป็นความจริงที่ช่วงที่ผ่านมาฉันไม่เคยมาเยี่ยมคุณเลย คุณคิดว่าฉันไม่อยากมาเหรอ เหลวไหล ฉันถูกนัทธีกักบริเวณอยู่ในบ้าน ทุกๆ วันฉันจะกินจะดื่มก็มีคนคอยจับจ้อง ทันทีที่มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ล้วนถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีการสมรู้ร่วมคิดหรือไม่ คุณรู้ไหมว่าฉันผ่านช่วงเวลานี้มาได้ยังไง นี่คือสิ่งที่คุณนำมันมาให้ฉันทั้งนั้น”
“ผม……ผมไม่รู้ คุณเองก็ไม่บอกก่อน” ขงเบ้งกะพริบตาอย่างรู้สึกผิด แต่ที่น่าขำก็คือ เขากลับไม่เต็มใจอยากยอมรับว่าเป็นตัวเองที่ไม่เคยถาม กลับกันยังโทษคนอื่นว่าไม่บอกเขาก่อน
คุณหญิงอัณณ์รู้เช่นเห็นชาติเขานานแล้ว จึงไม่ได้อารมณ์เสียมากมายนัก แค่รู้สึกเย้ยหยัน “เอาเถอะ วันนี้ฉันไม่ได้มาคุยกับคุณเรื่องพวกนี้”
“แล้วคุณมาทำอะไร” ขงเบ้งขมวดคิ้ว
คุณหญิงอัณณ์จ้องมองเขา “ฉันได้ยินว่าคุณกำลังจะได้รับการพิจารณาคดีครั้งสุดท้าย และอาจถูกตัดสินประหารชีวิต ดังนั้นจึงมาเยี่ยมคุณ”
เมื่อได้ยินคำว่าประหาร ขงเบ้งพลันตัวสั่น อารมณ์เริ่มรุนแรงขึ้น ตาทั้งดวงแดงก่ำ “ทุกอย่างเป็นเพราะไอ้สารเลวนัทธี ผมเป็นลุงของเขานะ เขากล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับผม!”
“ไม่เอาน่า ลุงอย่างคุณฆ่าพ่อของเขานะ แถมยังวางยาเขา ทำให้เขาเกือบจะไม่ได้เป็นพ่อคน เขาทำแบบนี้กับคุณ เพราะคุณหาเรื่องใส่ตัวเอง” คุณหญิงอัณณ์กลอกตา
ขงเบ้งมองเธออย่างเหลือเชื่อ “คุณช่วยพูดแทนเขางั้นเหรอ”
“ฉันไม่ได้ช่วยพูดแทนใคร ฉันแค่มองในมุมของคนนอก พูดไปตามที่เห็นเท่านั้น” คุณหญิงอัณณ์โต้กลับ
ขงเบ้งส่งเสียงเยาะ “เอาเถอะ ผมไม่คุยกับคุณเรื่องพวกนี้แล้ว คุณรีบติดต่อนิรุตติ์ไป ให้เขาช่วยผม นิรุตติ์มีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่ง ตราบใดที่เขายื่นมือเข้าช่วย โทษประหารชีวิตของผมอาจไม่มีกำหนด คุณ……”
“เลิกคิดเถอะ ในใจนิรุตติ์ไม่เคยมีพวกเราพ่อแม่ เขาจะไม่ช่วยคุณ ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเราถูกจับ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้ แต่เขามาปรากฏตัวเหรอ ส่งข้อความมาบอกว่าจะช่วยเราเหรอ สักนิดก็ไม่มี เขาไม่เคยดูดำดูดีพวกเราพ่อแม่เลย” คุณหญิงอัณณ์เอ่ยบางเบา ในดวงตาเผยร่องรอยแห่งความเศร้า
ขงเบ้งตัวสั่นอย่างรุนแรง “เขาทำแบบนี้ได้ยังไง ผมเป็นพ่อของเขานะ!”
“เป็นพ่อแล้วยังไง ก่อนหน้านี้คุณใส่ใจสนใจเขา ปกป้องดูแลเขางั้นเหรอ ไม่มีเลย ดังนั้นจะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะถือว่าคุณเป็นพ่อของเขา เช่นเดียวกัน สิ่งเหล่านี้ฉันก็ไม่เคยทำต่อเขา ดังนั้นเขาก็จะไม่ถือว่าฉันเป็นแม่ของเขา ใจของเขา เย็นชายิ่งกว่าที่พวกเราคิด และต้นเหตุของทุกอย่างนี้ก็คือพวกเรา ฉะนั้นสุดท้ายแล้ว เป็นพวกเราที่ต้องขอโทษเขา ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของพ่อแม่ และไม่โทษเขาที่เป็นแบบนี้” คุณหญิงอัณณ์ถอนหายใจ
ที่จริงในใจเธอก็มีการบ่นที่ลูกชายอย่างนิรุตติ์ไม่ดูดำดูดีพวกเขาที่เป็นพ่อเป็นแม่
แต่บ่นก็แค่บ่น เธอไม่มีความกล้าจะไปขอร้องเขาต่อหน้า
ตอนแรกไม่มีหน้า ต่อมาไม่มีคุณสมบัติ สุดท้ายไม่มีหัวใจ
ในเมื่อเขาไม่อยากจดจำพวกเขาพ่อแม่ งั้นเธอก็จะช่วยให้เขาสมหวัง อย่างไรเธอก็กำลังจะไปจากตระกูลไชยรัตน์ในไม่ช้า หลังจากจากไป เธอกับตระกูลไชยรัตน์ และลูกชายอย่างเขา ก็จะไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันอีกต่อไป
แต่ละวันหลังจากนี้ เธอจะไม่รบกวนลูกชายคนนี้ และจะไม่ติดต่อกับลูกชายคนนี้ และยิ่งจะไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ลูกชายคนนี้ แค่คิดว่าเธอเป็นแม่ เป็นสิ่งเดียวที่ทำเพื่อเขาได้
แต่ขงเบ้งไม่คิดอย่างนั้น ไม่ได้เป็นคนดียิ่งใหญ่ขนาดนั้น
เขาตบต้นขาอย่างอารมณ์เสีย พูดพร้อมกับถลึงตาจนเบ้าตาแทบแตก “ต่อให้พวกเราไม่ได้ทำหน้าที่ของพ่อแม่ แต่พวกเราให้กำเนิดเขา เขาต้องกตัญญูต่อพวกเรา ต้องมาช่วยพวกเรา”
“งั้นคุณก็ฝันเอาแล้วกัน สักวันฝันอาจจะเป็นจริง” คุณหญิงอัณณ์กลอกตา จากนั้นก็เปิดกระเป๋าแฟ้ม หยิบเอาข้อตกลงการหย่าร้างและปากกาออกมา ใส่เข้าไปในร่องใต้หน้าต่างกระจก “เอาล่ะ เรื่องอื่นฉันไม่อยากพูดแล้ว อีกสิบนาทีใกล้หมดเวลา เอานี่ไปเซ็นซะ”
“นี่คืออะไร” ขงเบ้งไม่ได้ยื่นมือไปหยิบ ดังนั้นจึงไม่เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน
คุณหญิงอัณณ์พ่นลมหายใจ “ข้อตกลงการหย่า”
ขงเบ้งสีหน้าเปลี่ยน “คุณต้องการหย่ากับผมงั้นเหรอ”
“ใช่ คุณกำลังจะตายแล้ว นิรุตติ์ก็ไม่กลับมาแล้ว ครอบครัวนี้ก็ควรกระจัดกระจายไป เพราะฉะนั้นรีบเซ็นซะ จะได้ปล่อยฉันไป”
“คุณอย่าแม้แต่จะคิด ผมถูกจับอยู่ในนี้ คุณคิดแค่เรื่องหย่า คุณ……ในสายตาคุณยังมีสามีอย่างผมคนนี้อยู่หรือเปล่า!” ขงเบ้งยกมืออันสั่นเทาชี้ไปยังคุณหญิงอัณณ์
คุณหญิงอัณณ์ยิ้มเยาะ “สามีงั้นเหรอ เสียใจด้วยนะ ไม่เลย คุณคู่ควรเป็นสามีของฉันเหรอ เราเพิ่งแต่งงานกันเดือนเดียว คุณก็ออกไปอยู่กับผู้หญิงข้างนอก ฉันไปหาถึงที่ คุณยังตบตีฉัน ตอนที่ฉันท้อง คุณถึงขั้นพาผู้หญิงข้างนอกกลับมาบ้าน หลังจากฉันคลอดนิรุตติ์ คุณก็ยังคงอยู่กินกับผู้หญิงคนอื่น สิ่งเหล่านี้ที่คุณทำ แบบไหนบ้างที่ไม่ทิ่มแทงหัวใจของฉัน”