“หนานอวี่ รีบไปตรวจสอบสิ่งของในงานว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า ถ้ามีรีบเอาออกไป”น้ำเสียงของเจียงอี้ฝานร้อนลน
หลังจากที่เจียงอี้ฝานออกคำสั่ง จริงๆควรจะอยู่ที่แท่นพิธีงานแต่งอ่านคำอวยพร แต่ตอนนี้มองไม่เห็นเงาเขาแล้ว
เจียงอี้ฝานเงยหน้าขึ้นและเห็น กู้ซี ถือไมโครโฟนอยู่ในมือ
เขามักจะยิ้มด้วยใบหน้าที่สะอาดยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเผยให้เห็นความเย่อหยิ่ง
เจียงอี้ฝานได้เห็นชายที่แสร้งทำเป็นคนดีจู่ๆก็พูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ทุกคนแปลกใจ
“ผมกู้ซีมาที่นี้ อยากจะมาขอโทษทุกคน เดิมทีวันนี้ควรจะเป็นงานแต่งของผม แต่ผมอยากจะขอโทษจริงๆ ผมจัดงานแต่งต่อไปไม่ได้ ผมทนไม่ได้ที่จะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่นอกใจผมก่อนแต่งงาน ”
ใบหน้าเขาดูจริงใจ แม้กระทั่งตอนพูด ดวงตาเขาก็มีความมุ่งมั่น ทำให้คนที่ไม่รู้จักเขาจริงๆเดิมตามเกมเขา
เจียงอี้ฝานกำลังพุ่งตรงไปหา ซังหลินจวินรีบจับเขาไว้
– ปล่อยนะเจียงอี้ฝานกัดฟันดวงตาของเขาดุร้ายและขมขื่น
ซังหลินจวินมองไปที่เขาและพูดโน้มน้าว: “ถ้าเกิดแกเข้าไปแบบนี้ล่ะก็ โดนมันจัดการแน่ ทำไมเขาถึงมาพูดตอนนี้ล่ะ ก็เพราะจะล่อให้แกไปหามันไม่ใช่หรอไง? แต่แกคิดบ้างไหมถ้าเข้าไปแบบนี้ จะส่งผลอะไรกับเจียงฉยงฉยง ”
“ฉันไม่ต้องคิด ฉันไม่ใช่พี่ชายหรอไง”เจียงอี้ฟานไม่รู้ว่าซังหลินจวินหมายถึงอะไร แต่เขาจะอดทนกับร่างที่สั่นเทาที่ยืนอยู่คนเดียวบนพรมแดงในพิธีแต่งงานได้อย่างไร
เจียงอี้ฝาน ดึงมือของ ซังหลินจวินออกและเดินอย่างเด็ดเดี่ยว
เมื่อเห็นเขาเดินกลับไปซังหลินจวินก็ขมวดคิ้วรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น
ซังหลินจวินสืบเรื่องของกู้ซีจำนวนมากในช่วงเวลานี้ แต่ไม่พบอะไรเลย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าไม่สืบเขาก็รู้อยู่แล้วว่าคน ๆ นี้เป็นใคร
ซึ่งแตกต่างจากเจียงอี้ฝานที่ให้ความสนใจกับเจียงฉยงฉยงแต่ ซังหลินจวินกำลังมองไปที่ เฉินเฉียวที่สวมชุดเพื่อนเจ้าสาวในวันนี้เขาพอใจมาก แต่เมื่อเขาจ้องมองเธอเขาก็สังเกตเห็นสายตาที่มองมาอีกทาง
ซังหลินจวินสังเกตว่าหลังจากที่กู้ซีเห็นว่าเขาเห็นกู้ซีก็ไม่หลบ แต่กลับมองเขาแบบยั่วยุแทน
ดวงตาที่คุ้นเคยเหล่านั้น ความทรงจำสมัยก่อนก็ผลุดขึ้นมา
ปู้อี้เฉิน
ซังหลินจวินมั่นใจว่านั่นคือเขา
กู้ซีบนเวทียังคงพูดอะไรบางอย่างที่น่าเห็นใจและเฉินเฉียว ที่ยืนอยู่ข้างๆมองเขาแทบจะฉีกเนื้อเขาออกเป็นชิ้นๆ
เธอขวางดวงตาที่แปลกประหลาดเหล่านั้นและยืนขวางตรงหน้าฉยงฉยง
ดูเหมือนว่าจะถูกยั่วด้วยสายตาของ เฉินเฉียว กู้ซีจึงหยิบ USB ออกมาแล้วเสียบเข้ากับโทรศัพท์และเชื่อมต่อกับหน้าจอที่ควรจะเป็นวิดีโองานแต่งงาน
ได้ยินเสียงของเจียงฉยงฉยง: “พี่ ฉันกับกู้ซีจะดูแลลูกเอง พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
“ ฉันจะไม่เป็นห่วงได้ยังไง ฉยงฉยง พวกเราไปจากที่นี้กัน พาลูกไปใช้ชีวิตในที่ที่ไม่มีใครรู้จักพวกเราดีไหม ”เมื่อการปรากฏตัวของชายคนหนึ่งออกมาจากม่านทุกคนก็ลุกขึ้นด้วยความตกใจ
แม้ว่าเจียงอี้ฝานจะไม่โด่งดังเท่า ซังหลินจวิน แต่ชื่อเสียงของเขาในฐานะที่ผู้หญิงหลายคนต้องการแต่งงานด้วยก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน
ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ของเขากับเจียงฉยงฉยง เป็นเพียงพี่ชายและน้องสาว
หรือว่าจะเป็นพวกพี่น้องท้องชนกัน?
และยังมีเด็กลูกอีก
เดิมทีที่เป็นเพื่อนสมัยมหาลัยที่เชิญมา เวลานี้กลายเป็นอาวุธทิ่มแทงหัวใจฉยงฉยงนับไม่ถ้วน
เจียงฉยงฉยง ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเธอรู้สึกผิดกับเฉินเฉียวและกล่าวขอโทษจากนั้นผลักคนนั้นออกไปและวิ่งออกไปพร้อมกับชุดแต่งงาน
เมื่อเจียงอี้ฝานวิ่งมาจับเธอเธอก็ตะโกนว่า “อย่าตามฉันมา ฉันเกลียดคุณ”
หลังจากที่เธอตะโกนอย่างบ้าคลั่งเธอก็วิ่งออกไป
เจียงอี้ฝานเพียงรู้สึกว่ามีช่องโหว่ในหัวใจของเขา
สายตาเย็นชาของเขาหันไปรอบ ๆ ทุกคนจากนั้นเขาก็เดินตรงไปที่เวทีเพื่อคว้าไมโครโฟนและประกาศอย่างเปิดเผย: “เจียงฉยงฉยงเป็นผู้หญิงที่ผมรักที่สุดผมกำลังบอกให้โลกรู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรผมสามารถบอกพวกคุณตรงนี้ผมไม่เคยมีอะไรกับเจียงฉยงฉยงแบบนั้นเธอเป็นภรรยาที่เติบโตมาด้วยกันกับผมถ้าไม่ใช่ผู้ชายที่ยืนข้างๆผมอยากจะจัดการเธอแล้วจะมีงานแต่งงานที่ไร้สาระแบบนี้ได้วันนี้ผู้รู้ว่าหลาย ๆ คนไม่ เชื่อ แต่คุณสามารถไปสืบแล้วจะได้รู้ว่าครอบครัวเจียงรับเด็กผู้หญิงมาตอนเด็ก”
เจียงอี้ฝานตอนแรกที่เห็นฉยงฉยง เขาพูดว่าเลี้ยงดูลูกสะใภ้ตัวน้อยให้กับตัวเอง
เมื่อฉยงฉยงเป็นลูกบุญธรรม เขาและเพื่อน ๆ หลายคนบอกว่าเขามีลูกสะใภ้
หลังจากนั้นเวลาผ่านไปนานเกินไปเขาจึงลืมโดยไม่รู้ตัว จนตอนนี้นึกออกแล้วว่าความรู้สึกพวกนี้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
หลังจากพูดจบเจียงอี้ฟานไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะยุ่งเกี่ยวกับกู้ซีและเขาต้องการตามฉยงฉยงไป
ซังหลินจวินตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “ไปเถอะ เพื่อน เรื่องนี้ฉันจัดการเอง”
ลู้หมีกล่าวอวยพร“ รอพวกแกกลับมา แล้วฉันจะดื่มฉลองให้กับพวกแกแน่”
แม้ว่าเหยียนเฟิงตั้งตารอที่จะได้เห็นเจียงฉยงฉยง มาตลอด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เขาจดจำ
นานๆทีจะพูดติดๆขัดๆ: “เหล่าเจียง ก่อนที่ไปจะตามเธอกลับมา ถ้าเกิดเธอไม่ยอมก็บอกเธอว่า ต่อไปนี้ผมจะไม่แย่งคีย์บอร์ดแล้ว หลังจากนี้ถ้าจะเล่นเกม ก็จะเล่นด้วย”
ดวงตาที่เย็นชาของเจียงอี้ฝานรู้สึกอบอุ่นจากคำพูดของเพื่อนของเขาเขายิ้มและพูดว่า “มันจะเป็นอย่างนั้นแน่นอน”
เขาวิ่งออกจากโรงแรมโดยไม่หันกลับมามอง
ในเวลานี้บนพรมแดงงานแต่งงาน เฉินเฉียวผลักคนที่จับมือเธอออกไปด้วยความรังเกียจ
“คุณกู้ หย่ามาจับฉัน ฉันไม่รับความหวังดีของคุณ”
เฉินเฉียวพูดพลางจะเดินจากไป
เสียงที่ตอนแรกนุ่มใส ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแหบแห้งกล่าวว่า “เฉินเฉียวคุณจำ ปู้อี้เฉินได้ไหม”
ดูเหมือนเขาจะไม่อยากปิดบังแล้ว เลยถามตรงๆ
“ไม่รู้จักเฉินเฉียวส่ายหัว
เฉินเฉียวไม่ได้เห็นสายตาของคนที่อยู่ข้างหลังเธอจากความเศร้าโศกเป็นความสิ้นหวัง
ในตอนนี้ซังหลินจวินได้ก้าวขึ้นไปบนพรมแดงแล้วเขาเดินตรงไปที่ด้านข้างของ เฉินเฉียวโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาด้วยมือข้างเดียวและดูว่าตะกี้เธอบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า