ท่านประธานที่รัก – บทที่ 320 ช่วงเวลาสุดท้ายของความโสด

บทที่ 320 ช่วงเวลาสุดท้ายของความโสด

พอเฉินเฉียวกลับมาทำงานที่หยวนเซิ่งแล้ว เลยไม่ได้ติดต่อกับเจียงฉยงฉยงบ่อยมาก

เพราะฉยงฉยงเป็นคนท้อง ไม่พูดถึงรังสีจากโทรศัพท์ไม่ค่อยดีกับคนท้องมากนัก

ช่วงนี้เฉินเฉียวกำลังยุ่งมากกับการวาดงานเกมส์เทพเก้าวิมาน

ลู้หมีกับเยี่ยนเฟิงที่รู้ว่าซังหลินจวินร่วมงานกับซังอวินแล้ว เพราะไม่อยากเจอซังอวินที่จิ้งหย่วน พวกเขาเลยไม่ได้อยู่ต่อ ไม่รู้ว่าไปที่ไหน

พอเจอกันอีกที ก็เป็นตอนที่ได้รับการ์ดเชิญของเจียงฉยงฉยง

เยี่ยนเฟิงนั่งอยู่บนโซฟาในห้องวีไอพีของเฮฟเว่นคลับ จากนั้นก็โยนการ์ดเชิญที่เพิ่งได้รับไปบนโต๊ะ

พอเจียงอี้ฟานเห็นเขาทำแบบนี้เลยพูดเตือน “เยี่ยนเฟิง อย่าไร้มารยาท”

พอเยี่ยนเฟิงโดนเขาว่า เลยอารมณ์เสีย “ไอ่เจียง ฉันกำลังรู้สึกไม่แฟร์กับแก แกอุตส่าห์รอมาตั้งยี่สิบปี ตอนนี้ไอ่หน้าอ่อนแย่งไปแล้ว ฉันอยากจะไปแย่งตัวเจ้าสาวแทนแกด้วยซ้ำ”

ตอนที่เขาเปิดปากพูด ลู้หมีก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องดี พอได้ยินเขาพูดแบบนี้เลยสะกิดเขาแล้วเอ่ยเสียงเข้ม “หุบปาก แกกำลังเล่นกับไฟ”

คุยประเด็นนี้กับไอ่เจียง กำลังตอกย้ำมันไม่ใช่เหรอ

เยี่ยนเฟิงยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้พูด สุดท้ายก็ยอมหุบปาก

เพราะบนโลกนี้ ทุกคนโกรธเขาได้ แต่เขาไม่มีสิทธิ์

เพราะวันนั้นที่เขาเกิดเรื่อง ไอ่เจียงถึงตัดสินใจทำแบบนั้น

พอเยี่ยนเฟิงสงบสติแล้ว ลู้หมีค่อยเดินไปหาเจียงอี้ฟาน แย่งแก้วเหล้ามาจากมือเขาแล้วพูดปลอบใจ “ไอ่เจียง ผู้หญิงก็แบบนี้แหละ แกคบกับเธอไม่ได้ เพราะไม่มีโชค อีกหน่อยแกจะเจอคนที่ชอบเอง”

สีหน้าเจียงอี้ฟานเย็นชา ไม่มีความอ่อนโยนเหมือนแต่ก่อนเลย เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็งอย่างนั้น

เขาพูดว่า “ไม่มีใครเหมือนเธออีกที่ทำให้ฉันรัก ฉันโตมากับฉยงฉยงตั้งแต่เด็ก คำแรกที่เธอพูดกลับเป็นคำว่าพี่ชาย พวกแกรู้หรือเปล่าว่าตอนนั้นฉันดีใจแค่ไหน?”

ในสายตาเขามีม่านน้ำตา เหมือนกำลังนึกย้อนถึงอดีต

ในใจลู้หมีก็ไม่รู้จะพูดยังไงต่อ

เขาไม่ใช่ไอ่เจียง มีสิทธิ์อะไรให้เขายอมแพ้ล่ะ

เจียงอี้ฟานก็ยังเอาแต่พูดกับตัวเอง “ตอนนั้นฉันก็คิดแล้วว่า ฉันจะปกป้องเธอทั้งชีวิต ถ้าฉันไม่รู้ว่าฉยงฉยงไม่ใช่น้องฉันก็คงดี เราอาจจะยังอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต”

แต่เขารู้มาโดยตลอดว่า ฉยงฉยงถูกรับเลี้ยงมา

เขาเคยอุ้มเธอ เพราะฉะนั้นเขาจะลืมคนที่ฝังลึกในใจเขาได้ยังไง

ลู้หมีกับเยี่ยนเฟิงสบตากัน มองคนที่จมอยู่กับความทรงจำแล้วถอนหายใจ

ตอนที่ได้รับการ์ดเชิญ เป็นห้าวันก่อนงานแต่งของเจียงฉยงฉยง

นิสัยเจียงฉยงฉยงร่าเริง แต่เป็นเด็กในตระกูลร่ำรวย เลยมีกาลเทศะแล้วเป็นผู้ดี

เพราะแบบนี้เธอเลยมีเพื่อนไม่เยอะ

เพื่อนที่ดีที่สุดก็มีแค่คนเดียว แล้วมีเพื่อนในมหาวิทยาลัยอีกไม่กี่คน

คนฝั่งกู้ซีก็ยิ่งน้อยกว่า พ่อแม่ตระกูลกู้มาถึงในงาน เพราะความจริงเรื่องฉยงฉยงยังไม่ได้เปิดโปง ในสายตาพวกเขา เลยคิดว่ากู้ซีเกาะคุณหนูตระกูลร่ำรวยได้

พ่อแม่ตระกูลเจียงไม่มา พวกเขาก็คิดแค่ว่าไม่ชอบกู้ซี

แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจมาก เพราะเสาหลักตระกูลเจียงอย่างเจียงอี้ฟานอยู่ที่นี่ แค่นี้ก็พอแล้ว

คนตระกูลกู้นอกจากพวกเขาสองคน ก็ไม่มีคนอื่นมาเลย

“คิดไมถึงจริงๆ เวลาจะผ่านไปเร็วขนาดนี้” เฉินเฉียวมองฉยงฉยงแต่งหน้าแล้วเอ่ย

“ฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน” สายตาเจียงฉยงฉยงมีความมึนมัว มองตัวเองในกระจกกลับรู้สึกแปลกหน้า เธอเม้มปากให้ลิปเกลี่ยทั่วปาก

แต่เจียงฉยงฉยงก็รีบปรับอารมณ์ แล้วกุมมือเฉินเฉียวไว้ “เฉียวเฉียว เมื่อไหร่พวกแกจะจัดงานแต่งล่ะ ทั้งๆที่ฉันช้ากว่าแกตั้งเยอะ แต่กลับจัดงานแต่งเร็วกว่าแกอีก”

ในสายตาเฉินเฉียวมีความลังเล ไม่รู้ทำไม เธอรู้สึกต่อต้านงานแต่ง รู้สึกว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น

แต่เธอก็รีบขจัดความคิดนั้นทิ้ง เธอไม่ได้ตอบตรงๆ แต่กลับเปลี่ยนประเด็น “ฉยงฉยง วันนี้แกเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด ให้ฉันจับมือแก แล้วส่งตัวแกก้าวข้ามช่วงเวลาสุดท้ายของความโสดเถอะ”

เจียงฉยงฉยงรู้สึกได้ว่าเฉินเฉียวจงใจเลี่ยง เลยไม่พูดประเด็นนี้อีก จากนั้นก็ตอบเฉินเฉียว “ได้ ให้โอกาสแกก็ได้”

เจียงฉยงฉยงกระพริบตาอย่างทะเล้น

งานแต่งของเจียงฉยงฉยงจัดในโรงแรมแห่งหนึ่ง

เจียงอี้ฟานแอบยุ่งด้วยหรือเปล่า เฉินเฉียวไม่แน่ใจ

แต่พอเห็นประตูที่ปูพรมแดงไว้ ตอนที่ประตูเปิด ใบหน้าของกู้ซีไม่มีรอยยิ้มเลย

เฉินเฉียวไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองหรือเปล่า เธอเห็นในสายตาเขามีความตื่นเต้น

ความตื่นเต้นที่เหมือนได้ดั่งหวัง

เฉินเฉียวไม่เข้าใจ แต่แค่รู้สึกไม่สบายใจ แถมยังรู้สึกว่าทางที่จะเดินเป็นทางที่หันกลับไปไม่ได้

เธอเลยเหลือบมองแขกในงาน

เฉินเฉียวขมวดคิ้ว มองเห็นโซนญาติของฝ่ายชาย มีแค่ผู้ชายกับผู้หญิงวัยกลางคนสองคน

เมื่อเทียบกันแล้ว ฝั่งของเจียงฉยงฉยงมีเจียงอี้ฟาน เยี่ยนเฟิง ลู้หมีแล้วก็ซังหลินจวินเป็นตัวแทน

เหมือนไม่ค่อยให้เกียรติกันเลย

ตอนที่เฉินเฉียวพยุงฉยงฉยงขึ้นเดินพรมแดงในงาน ในใจก็รู้สึกไม่พอใจกู้ซีขีดสุด

ถึงเฉินเฉียวจะความจำเสื่อม แต่ใจเธอเอาแต่บอกว่า งานแต่งครั้งนี้ไม่คู่ควรกับเจ้าหญิงอย่างฉยงฉยง

เธอควรจะเป็นเจ้าหญิงในปราสาท แล้วให้คนที่รักเธอเป็นคนจัดการแทน

แต่พอเห็นผู้ชายที่ควรเดินมาจูงมือเธอกลับไม่มีทีท่าจะขยับเลย เหมือนโดนบังคับแต่งงานอย่างนั้น

เฉินเฉียวเกือบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้วพุ่งไปบนเวที

แต่เจียงฉยงฉยงเหมือนรู้เลยจับแขนเธอไว้แน่น

ยังดีที่เฉินเฉียวรู้สึกก่อน เลยส่งตัวเจียงฉยงฉยงไปบนเวที ไม่ได้จับมือฉยงฉยงยื่นให้เขา

เพราะเฉินเฉียวไม่กล้าคิด ถ้าเขาผลักมือฉยงฉยงออกกลางงานแบบนี้ ฉยงฉยงจะทำยังไง

เจียงอี้ฟานที่นั่งอยู่โซนญาติเจ้าสาวจ้องกู้ซีที่ยืนนิ่งอยู่บนเวทีอย่างโมโห เขาเหมือนนึกอะไรได้ ไม่สนแล้วว่านี่เป็นงานแต่ง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออก

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

Status: Ongoing

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท