ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – บทที่ 292 ถ่ายโอนสำนักหลิงตง

บทที่ 292 ถ่ายโอนสำนักหลิงตง

ฉินเฉิงเหยียบเจ้าสำนักหวงแล้วมองดูอย่างเย็นชา

“จะไสหัวไปไหม?” ฉินเฉิงก้มลงแล้วถาม

เจ้าสำนักหวงถูกทุบตี เค้าอาเจียนออกมาเป็นเลือด เค้ากัดฟันแล้วถามว่า: “ใคร… แกเป็นใคร กล้าบอกชื่อของแกไหม?”

“ทำไมกัน แกจะกลับไปให้ฉื่อหยานออกตัวอย่างงั้นเหรอ?” ฉินเฉิงหัวเราะ

“แกรู้จักฉื่อหยานด้วยเหรอ?” สีหน้าของเจ้าสำนักหวงก็เปลี่ยนไป จากนั้นเค้าก็อดไม่ได้ที่จะแอบพูดขึ้นมาว่า: “หรือว่ามันจะเป็นคุณชายจากตระกูลใหญ่?”

ฉินเฉิงปล่อยเจ้าสำนักหวง จากนั้นเค้าก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “กลับไปบอกฉื่อหยานซะ ฉันจะรอเค้าอยู่ที่นี่”

เจ้าสำนักหวงรีบลุกขึ้นจากพื้นดิน เค้าเช็ดเลือดจากมุมปาก เค้ากัดฟันแล้วพูดว่า: “จะบอกชื่อของท่านได้หรือไม่?”

“ฉินเฉิง”

ฉินเฉิงไม่ได้ปิดบังอะไร

ก่อนการต่อสู้กับซูหยู่ ฉินเฉิงยังคงปลอดภัย

ยิ่งไปกว่านั้น เค้าเพิ่งสอนบทเรียนให้กกับเจ้าสำนักหวง แม้ว่าเค้าจะเป็นคนระดับนี้ ฉินเฉิงก็สามารถฆ่าเค้าได้สบายๆ ตระกูลซูเองก็จะไม่สามารถทำอะไรเค้าได้เลย

เจ้าสำนักหวงมองไปที่ฉินเฉิงอย่างระมัดระวัง จากนั้นเค้าก็พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า:”คุณคือฉินเฉิงที่นัดประลองกับซูหยู่ ใช่ไหมครับ?”

“ใช่” ฉินเฉิงพยักหน้าโดยไม่ปิดบังอะไร

เจ้าสำนักหวงกัดฟันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “พวกเค้าบอกว่าคุณเป็นอัจฉริยะที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ วันนี้ผมได้เห็นคุณด้วยตาของตัวเอง สมแล้วที่เค้าล่ำลือกัน”

ด้วยของเขตระดับปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นแปด การปะทะกับจอมยุทธ์ขั้นสองแบบนี้ มันไม่มีใครทำได้เลย

“ขอลาครับ!” เจ้าสำนักหวงคำนับ จากนั้นก็หันหลังแล้วจากไป

ที่ประตูของสำนักหลิงตง หยานรัวหยูกับคนอื่นๆต่างก็ดูประหลาดใจ

ชายหนุ่มคนนี้ เค้าก็คือฉินเฉิงที่กำลังดังอยู่ในช่วงนี้?

คนของสำนักอูยาก็หายตัวไปจากประตูของสำนักหลิงตงอย่างรวดเร็ว จากนั้นฉินเฉิงก็เดินเข้าไปหาหยานรัวหยู

“ตอนนี้พวกเราก็พอใจกันแล้วใช่ไหม?” ฉินเฉิงก็ถูมือแล้วพูดขึ้นมา

หยานรัวหยูกัดฟัน เธอไม่รู้จะพูดอะไรอยู่ซักพัก

อันที่จริง ถ้าเธอเป็นคนที่ขับไล่เจ้าสำนักหวงไป สำนักอูยาอาจจะโจมตีสำหนังหลิงตง

แต่การที่ฉินเฉิงทำแบบนี้ การแก้แค้นจะถูกหมายหัวอยู่ที่ฉินเฉิงเท่านั้น

“คุณคือฉินเฉิงจริงๆเหรอ?” หยานรัวหยูพูดพลางกัดริมฝีปากของเธอ

“ทำไมฉันต้องหลอกเธอด้วย” ฉินเฉิงยืดตัวออกไป “อย่างไรก็ตาม เพื่อชดเชยให้เธอ ฉันจะให้เธอยืมต้นเชียนเทียนคืนนึง จำไว้ แค่คืนเดียวเท่านั้น”

“ขอบคุณนะ!” หยานรัวหยูรีบตอบตกลง

หลังจากกลับไปที่ห้องโถงแล้ว ฉินเฉิงก็พลิกฝ่ามือแล้วต้นเซียนเทียนก็ตกลงมาในมือของเธอ

ฉินเฉิงมอบต้นเชียนเทียนให้กับหยานรัวหยู จากนั้นเค้าก็พูดอย่างจริงจังว่า: “เธอจะต้องปกป้องมัน อย่างให้ใครเอามันไปได้”

หยานรัวหยูพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง เธอใช้ทั้งสองมือถือต้นเชียนเทียน สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ใต้น้ำพุ เธอก็ปลูกต้นเชียนเทียน!” แววตาของผู้อาวุโสกับคนอื่นๆ ต่างก็ลุกเป็นไฟ “นี่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หาได้ยาก!”

“การได้มันมาหนึ่งคืน ต่อให้ต้องตายมันก็คุ้ม!”

เมื่อเห็นท่าทีที่ดูตื่นเต้นของพวกเค้า ฉินเฉิงก็ลึกขึ้นแล้วกลับไปที่ห้องของตัวเอง

ที่อีกด้านหนึ่ง เจ้าสำนักหวงก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว

กระดูกของเค้ามันแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ถ้าหากว่าเข้าไม่ได้อยู่ในระดับขั้นของจอมยุทธ์ วันนี้เค้าคงไม่รอด

“ฉินเฉิงคนนี้ มันน่ากลัวมาก…” เจ้าสำนักหวงก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย

เค้ารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อกี้ฉินเฉิงยังไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดของเค้า

“เป็นแค่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นแปดเท่านั้น แต่ก็แข็งแกร่งมาก คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าถ้าเค้าได้ก้าวเข้าสู้ระดับขั้นของจอมยุทธ์ เค้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนกัน” เจ้าสำนักหวงก็พูดเบาๆขึ้นมา

ตอนนี้เค้าเองก็เริ่มสงสัยว่าซูหยู่จะสามารถเอาชนะฉินเฉิงได้หรือไม่

“เจ้าสำนักหวง ประธานฉือมาแล้วครับ!”

ในตอนนี้เอง ที่ด้านนอกประตูก็มีรถขับเข้ามาจอดอย่างช้าๆ

เจ้าสำนักหวงก็รีบลุกขึ้นมา เค้าไม่สนใจความเจ็บปวดในร่างกายของตัวเองแล้วรีบออกไปทักทายชายคนนั้น

“ประธานฉือ!” เจ้าสำนักหวงโค้งคำนับ สีหน้าของเค้าเต็มไปด้วยความเคารพ

ฉื่อหยานเหลือบมองไปที่เค้าแล้วพูดว่า: “นายแน่ใจเหรอว่าคนๆนั้นคือฉินเฉิง?”

“ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ!” เจ้าสำนักหวงก็รีบพูดว่า “มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถใช้ศิลปะการต่อสู้แบบเหิงได้”

ฉื่อหยานกัดฟัน เค้าพูดออกมาด้วยความโกรธจัด: “ฉินเฉิงคนนี้ มันอ่อนต่อโลกจริงๆ!”

ครั้งก่อน ฉินเฉิงก็เอาเข้าใส่โรงศพต่อหน้าทุกคน นี่มันทำให้เค้าแทบหายใจไม่ออก

ครั้งนี้ก็ยังจะมามีเรื่องกับลูกน้องของตัวเองอีก!

“ประธานฉือ คุณคิดว่าจะทำยังไงดีครับ?” เจ้าสำนักหวงถามขึ้นมาอย่างไม่มั่นใจ

ฉือหยานเป็นเก่งเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจการค้า ส่วนเรื่องใจคนมันต้องซื้อให้พวกเค้าเชื่อใจ

แต่ตัวเค้าเองก็ไม่เข้าใจในเรื่องศิลปะการต่อสู้เลย อย่างดีที่สุด เค้าก็เป็นแค่มือสมัครเล่นก็เท่านั้น

ดังนั้นในตอนนี้เอง เค้าก็เสียเปรียบเล็กน้อย

“ผู้พิทักษ์อาวุโสเตือนให้ลงมือกับฉินเฉิง แต่แล้วผู้พิทักษ์อาวุโสก็ถูกขับไล่ออกจากตระกูลซู นี่มันก็เป็นเรื่องที่ผิดพลาดเหมือนกัน” ฉื่อหยานคิดกับตัวเอง

นอกจากจะต้องอาศัยความเฉียบแหลมทางธุรกิจของตัวเองแล้ว เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้เค้ามีวันนี้ได้ก็คือเค้าได้รับการสนับสนุนจากตระกูลซู

หากตระกูลซูต้องการลงโทษเค้าหละก็ อาณาจักรธุรกิจของเค้าอาจจะต้องแตกสลายในทันที

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ฉื่อหยานก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า: “อดทนไว้ก่อน”

“อะไรนะ?” เจ้าสำนักหวงก็ตกตะลึง เค้าเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำว่าคำพูดนี้มันจะออกมาจากปากของฉื่อหยาน

“ปล่อยให้มันดีใจไปก่อนซักสามวัน” ฉื่อหยานพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ต่อให้เป็นฉินเฉิงก็ตาม มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่”

เมื่อพูดออกมาแบบนี้ เจ้าสำนักหวงก็อดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อย

ฉื่อหยานไม่ใช่นักศิลปะการต่อสู้ เค้าไม่รู้อะไรมาก แต่กับเจ้าสำนักหวงมันก็แตกต่างกันออกไป

เค้ากลัวว่าฉินเฉิงจะใช้โอกาสตั้งสำนักของตัวเอง! ด้วยความสามารถของเค้าควบคู่ไปกับตัวตนของเค้าที่เป็นผู้อาวุโสของตำหนักเทพโอสถ การก่อตั้งนิกายมันก็ไม่เรื่องยากอะไรเลย

ตามที่เข้าสำนักหวงคิด ฉินเฉิงก็คิดเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนกัน

“ถ้าฉันสามารถเปลี่ยนสำนักหลิงตงกลายเป็นของฉันได้ มันก็อาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการก่อตั้งสำนัก แต่ก็ไม่รู้ว่าหยานรัวหยูจะเห็นด้วยหรือไม่” ฉินเฉิงคิดกับตัวเอง

วันรุ่งขึ้น ฉินเฉิงก็มาที่ห้องโถงของตำหนักหลิงตงเพื่อรอหยานรัวหยู

สิบนาทีต่อมา หยานรัวหยูก็เดินเข้ามา

เธอคืนต้นเชียนเทียนให้กับฉินเฉิง เธอถอนหายใจแล้วพูดว่า: “เรื่องที่เล่ากันเกี่ยวกับต้นเชียนเทียนนี่มันเป็นเรื่องจริง แค่คืนเดียวเท่านั้น มันก็มีผลมากจริงๆ”

ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า “นั่นเป็นเรื่องปกติ ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่จำเป็นต้องมีผู้พิทักษ์ต้นเชียนเทียนนี่”

“ขอบคุณนะคะ คุณฉิน” ท่าทีของหยานรัวหยูก็เปลี่ยนไป เธอดูประทับใจในตัวเค้า

ฉินเฉิงพูดว่า: “เมื่อคืนก่อนเธอไม่ต้องการจะฆ่าฉันเหรอ แค่วันเดียวเอง ทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนหละ?”

สีหน้าของหยานรัวหยูแดง เธอไม่พูดอะไร

ฉินเฉิงฉวยโอกาสกวาดดูพลังแก่นแท้วิญญาณกว่าสิบปีของเธอ เค้ากวาดสายตามองดูร่างของเธออีกครั้ง เธอต้องการฆ่าฉินเฉิงแล้วควักดวงตาของเค้าออกมา

แต่หลังจากที่รู้เกี่ยวกับตัวตนของฉินเฉิงแล้ว ท่าทีของเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เธอไม่เพียงแค่จะไม่รังเกียจเค้าเท่านั้น เธอยังคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรด้วย…

“เจ้าสำนักหยาน ฉันมีเรื่องจะปรึกษากับคุณ” ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงก็พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“คุณฉินเชิญพูด” หยานรัวหยูพยักหน้า

ฉินเฉิงเงียบไปซักพักแล้วพูดว่า: “ฉันไม่รู้ว่าเจ้าสำนักหยานจะมีความคิดที่จะถ่ายโอนสำนักหลิงตงไหม”

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

Status: Ongoing

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท