เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 – เล่มที่ 1 ตอนที่ 8 คุณลุงออกโรง

เล่มที่ 1 ตอนที่ 8 คุณลุงออกโรง

รูปร่างแบบนั้น หน้าตาแบบนั้น เป็นหลิวหย่งพี่ชายคนโตของหลิวเฟินไม่ผิดแน่!

ในความทรงจำของเซี่ยเสี่ยวหลาน ลุงรักและอาทรเธอมากกว่าพ่อแท้ๆ อย่างเซี่ยต้าจวิน สตรีสองนางถูกบ้านเซี่ยข่มเหง ในที่สุดก็มีคนออกตัวโต้กลับตระกูลเซี่ยแทนสองแม่ลูก พอสัมผัสได้ถึงเยื่อใยระหว่างลุงหลานที่หลงเหลืออยู่จากเจ้าของร่างเดิมนี้ ขอบตาของเซี่ยเสี่ยวหลานร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที

 ลุง ฉันอยู่นี่! 

หลิวหย่งกำลังคว้าตัวแม่เฒ่าเซี่ยเอาไว้ เส้นเลือดบริเวณลำคอปูดบวม ทำท่าทางจะพุ่งเข้าไปทำลายบ้านเซี่ยลงให้ได้ พอได้ยินเสียงเรียกขานแสนอ่อนโยน ก็หันมาพบกับหลานสาวผู้น่าสงสาร

เขาปล่อยหญิงชราเซี่ยพร้อมเร่งฝีเท้าเข้ามาหา

 เสี่ยวหลาน หลานกับแม่ไปไหนมา? 

หลิวหย่งเป็นช่างก่อสร้าง ว่างจากงานไร่นาก็จะช่วยคนทำบ้านเรือน เมื่อวานเขากลับจากเขตหลินก็เพิ่งรู้เรื่องของเซี่ยเสี่ยวหลาน วันนี้เขาจึงรีบมาที่หมู่บ้านต้าเหอ ซื้อน้ำตาลทรายขาวกับบะหมี่แห้งมาฝาก อยากจะกู้หน้าให้สองแม่ลูกเสียหน่อย บ้านเซี่ยรับของเอาไว้ถึงแจ้งหลิวหย่งว่าเซี่ยเสี่ยวหลานกับมารดาย้ายไปอยู่บ้านเก่าริมน้ำแล้ว หลิวหย่งตามไปหาที่บ้านได้พบแต่ความว่างเปล่า

หลิวหย่งสงสัยว่าตระกูลเซี่ยจัดการคนเขาจนสิ้นไปแล้ว จึงวอแวให้หญิงชราเซี่ยเรียกสองแม่ลูกออกมาอยู่นานสองนาน

คนชนบทมักรับประทานอาหารกันสองมื้อ ตอนเช้า 9-10 โมงหนึ่งมื้อ ตอนบ่าย 3-4 โมงอีกหนึ่งมื้อ บ้านเซี่ยรอจะกินข้าวมื้อบ่ายอยู่ แม่เฒ่าเซี่ยจึงมาไล่เขาไป สองคนจึงได้ทะเลาะกันตั้งแต่ในบ้านจนถึงนอกบ้าน ปรากฏเป็นภาพเหตุการณ์เมื่อครู่

เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ที่มาที่ไปแล้วจึงรีบอธิบายให้ลุงของตนใจเย็นลง

 ตอนนี้พวกเราอยู่ที่บ้านเก่าริมน้ำ เป็นเพราะรีบร้อนย้ายออกไป ย่าฉันเลยให้มันเทศมา 20 ชั่ง ถ้วยโถโอชามอะไรช่างมันก่อน เสื้อผ้ากับที่นอนก็ลืมให้พวกเราเอาไปด้วย พวกเรากำลังจะกลับมาเอาของก็เจอลุงเข้าพอดี 

หลิวหย่งเห็นหลานสาวตัวเป็นๆ ยืนอยู่ตรงหน้า หัวใจที่พุ่งขึ้นมาถึงคอก็ค่อยร่วงลงไปครึ่งหนึ่ง [1] บนศีรษะของเซี่ยเสี่ยวหลานเปลี่ยนจากผ้าพันรอบเป็นผ้าปิดปากแผลชิ้นเล็ก ดูแล้วไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ทว่าหลิวหย่งก็อารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกรอบ  เซี่ยต้าจวินยอมให้คนทั้งบ้านรังแกพวกเธอสองแม่ลูกหรือ? 

ย้ายไปอยู่บ้านเก่าริมแม่น้ำอะไรกัน บ้านหลังนั้นผุพังเสียสุนัขไม่รับประทาน คนดีๆ อยู่ได้ที่ไหน เซี่ยเสี่ยวหลานกับมารดาถูกไล่ออกไปชัดๆ !

สีหน้าของแม่เฒ่าเซี่ยช่างดูไม่ได้เลย

นางเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานกับมารดาปรากฏตัวขึ้น ยังนึกอยู่ว่าพวกเธออาศัยที่บ้านเก่าหนึ่งคืน คงลำบากลำบนทนไม่ไหวจึงกลับบ้านมาขอความเมตตา

นางจินตนาการเอาไว้ ต่อให้เซี่ยเสี่ยวหลานมาคุกเข่าอ้อนวอนอย่างไร นางก็จะไม่อ่อนข้อยอมรับเด็ดขาด ไม่คิดไม่ฝันว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะพูดว่ากลับมาเอาของ ในเมื่อไล่ไปแล้ว ยังมีอะไรให้เอาไปอีก?

ทว่าหลิวหย่งยังอยู่ ณ ตรงนี้

หลิวหย่งไม่ไร้น้ำยาเหมือนหลิวเฟิน เมื่อเขาพูดว่าจะจัดการตระกูลเซี่ยแล้ว นั่นแปลว่าเขากล้าจะทำจริงๆ

สีหน้าของหญิงชราเซี่ยเหยเก  นี่คุณลุง ได้ยินแล้วนะ พวกเธอมีบ้านดีๆ ให้อยู่ดันไม่อยู่ ลองทบทวนดูหน่อยสิ มีสะใภ้บ้านไหนปล่อยแม่สามีไว้อีกที่ไม่ใยดี? แม่สามีอย่างฉันก็ดูแลใครไม่ไหว รอต้าจวินกลับมาก็ให้เขาจัดการเองแล้วกัน! 

พวกที่แห่มามุงดูปาหี่ก็มาช่วยแม่เฒ่าเซี่ยพูดแก้ตัวต่างๆ นานา

หลิวเฟินเหมือนดั่งจะพังทลาย รู้สึกตัวหดเหลือเป็นก้อน

หลิวหย่งรู้สึกว่าน้องสาวตนนั้นดูพึ่งพาได้ไม่เท่าหลานสาวเสียแล้ว อาจเป็นเพราะเซี่ยเสี่ยวหลานฝ่าฟันเรื่องวุ่นๆ มา พูดจามีเหตุผลขึ้นมากนัก

 ยุ่งเรื่องคนอื่นเพราะไม่กลัวบานปลายใช่ไหมเล่า [2] ? นี่มันเป็นธุระของพวกเราสองบ้าน ทุกท่านให้พื้นที่กับพวกเราด้วยเถอะ ควรกลับไปทำอะไรก็ไปเสียนะ 

หลิวหย่งขับไสเหล่าแม่บ้านปากมากให้พ้นทาง เซี่ยเสี่ยวหลานถูกใจท่าทางการรับมือของหลิ่วหย่งเอามาก ประกอบกับความผูกพันที่มีอยู่ยิ่งทำให้รู้สึกสนิทใจกับหลิวหย่งมากขึ้น

 ลุง รอพ่อฉันกลับมาเขาอาจจะตีฉันตายก็ได้ ลุงว่าทำอย่างไรดี? 

หลิวหย่งเบิกตาโพลง  เขากล้าหรือ! 

ลูกเมียตัวเองยังปกป้องไม่รอด หลิวหย่งสมเพชเซี่ยต้าจวินเหลือเกิน ทว่าหลิวเฟินนั้นมักแก้ตัวแทนคนตระกูลเซี่ยอยู่เสมอ หลิวหย่งผิดหวังที่เหล็กไม่กลายเป็นเหล็กกล้า [3] ว่ากันแค่เรื่องนี้ ขนาดหลิวหย่งเองยังได้ยินข่าวลือแล้ว เซี่ยต้าจวินอยู่หมู่บ้านใกล้เคียงจะไม่รู้จริงหรือ? บ้านเซี่ยลูกชายสามพี่น้อง แต่ละคนกล้ามแขนโตอย่างกับต้นขาสตรี ขอแค่ยืนหยัดเพื่อเซี่ยเสี่ยวหลาน ใครหน้าไหนจะกล้าปากมากอีก?

ปล่อยให้ข่าวลือแพร่ไปทั่ว ทำเอาเกียรติของเซี่ยเสี่ยวหลานเสียหาย หญิงสาวดีๆ คนหนึ่งจะไม่ขุ่นเคืองเสียจนเอาตัวเองชนเสาได้อย่างไร?

พอคิดๆ เช่นนี้ ให้อยู่บ้านเซี่ยก็เฟ้นหาทางตายเอาเถอะ

หลิวหย่งเบียดแทรกหญิงชราเซี่ยที่หน้าประตู

 ไป ไปเอาเสื้อผ้าของพวกเธอไปด้วย วันนี้ฉันรับผิดชอบให้พวกเธอเอง บ้านโหลยโท่ยนั่นไม่ต้องไปอยู่แล้ว กลับบ้านกับฉันนี่แหละ! 

ย้ายไปอยู่บ้านเก่ากับกลับบ้านแม่นั้นเป็นคนละเรื่องโดยสิ้นเชิง

หลิวเฟินเข่าอ่อนระโหยโรยแรง เซี่ยเสี่ยวหลานกลับร่าเริงเบิกบานไปทั้งร่าง เธอก็ไม่อยากอยู่บ้านลุงนานหรอก แต่เธอสามารถไปทำธุรกิจที่นั่นได้ ถ้าพวกชาวบ้านต้าเหอขายไข่ไก่ให้เธอคงพิลึกกึกกือน่าดู

หลิวเฟินไม่กล้าขยับเขยื้อน หลิวหย่งจึงให้เซี่ยเสี่ยวหลานไปเก็บของแทน

เสียงของอาสะใภ้สามเสียดแทงโสตประสาท

 ลุงเสี่ยวหลาน ทำอะไรไม่ไว้หน้ากันบ้าง จะแยกบ้านเขาสามคนพ่อแม่ลูกออกให้ได้เชียว? เลี้ยงดูพวกหล่อนสองแม่ลูกไปทั้งชาติได้หรือ?  

แต่ไหนแต่ไรสะใภ้ที่แต่งเข้าบ้านก็มีแต่ปลอบให้อยู่ไม่ยุให้แยกเท่านั้น

เซี่ยเสี่ยวหลานจะออกไปไหนก็ได้ อย่างไรเสียเธอก็แค่สาวน้อยกระจ้อยร่อย แต่หลิวเฟินเป็นวัวแก่ที่ทั้งบ้านต้องเรียกใช้ ไม่อยู่สักวัน อาสะใภ้สามก็ต้องทำงานแทนส่วนของหลิวเฟิน คิดแล้วลำเค็ญนัก

หลิวเฟินยิ่งตัวสั่นรุนแรงขึ้น

เธอเองรู้ดีว่าครั้งนี้หลิวหย่งนั้นจริงจัง ในสมองเธอตีกันยุ่งเหยิงไปหมด เดี๋ยวก็รู้สึกว่าถ้าทำตามที่พี่ชายบอก ครอบครัวเธอก็จะแตกแยก เดี๋ยวก็คิดว่าขนาดลุงยังออกหน้าปกป้องเสี่ยวหลาน เซี่ยต้าจวินผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้ากลับไม่โผล่มา เธอจะคิดไม่ถือโทษเขาจริงหรือ? เธอถือโทษมากต่างหาก! ทว่าเธอขี้ขลาดมานานเกินไป แม้ความแค้นเคืองก็มิกล้าพูดออกมา

เซี่ยเสี่ยวหลานหัวเราะเยือกเย็น  อาสาม ลุงเลี้ยงฉันไปทั้งชาติไม่ไหว แล้วอาเลี้ยงไหวหรือ? วานบอกหงเซี๋ยของอาทีว่าเอาเสื้อผ้าฉันคืนมาได้แล้ว ฉันจะเอาไปด้วย 

อาสะใภ้สามเงียบลงในทันใด

ตอนนี้ตระกูลเซี่ยไม่มีผู้ชายรับหน้า ทั้งบ้านจึงไม่มีใครเผด็จการเกินหลิวหย่งแล้ว ลมใต้เท้า [4] พาเธอรุดเข้าห้องตัวเอง รองเท้าข้างเตียงไม่ใช่ของเธอ นี่แค่คืนเดียวเท่านั้น เซี่ยหงเซี๋ยก็อดรนทนย้ายเข้ามาไม่ได้เสียแล้ว หีบไม้บนเตียงคือสมบัติทั้งหมดของเซี่ยเสี่ยวหลาน ด้านนอกผนึกด้วยกลอนเหล็ก ส่วนกุญแจนั้นแขวนอยู่ที่คอของเธอ ไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสนำมันไปด้วย

เซี่ยเสี่ยวหลานใช้แรงยกหีบออกมา

หลิวเฟินไม่กล้าแยกตัวไปเก็บสัมภาระของตน ความกดขี่นานหลายปีดีดักของแม่เฒ่าเซี่ยซึมลึกเข้ากระดูกดำ

หลิวหย่งไม่ได้แซ่เซี่ย หากเขาเข้าบ้านไปเวนของคืนแล้ววิสัยของเรื่องนี้จะเปลี่ยนแปลงทันที

แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกล้าน่ะสิ ปล่อยให้หญิงชราเซี่ยหน้าดำอย่างกับก้นหม้อ[5] ส่วนตัวเธอรีบไปเก็บเสื้อผ้าของหลิวเฟินให้แทน หลิวเฟินมีเสื้อผ้ารวมแล้วไม่กี่ชุด ล้วนแต่ขาดรุ่งริ่งทั้งนั้น หลิวหย่งเห็นแล้วถึงกับต้องขมวดคิ้ว

 ลุงจ๊ะ พวกเรายังมีของกินอยู่ที่บ้านเก่าด้วยน่ะ 

ฝ่ามือใหญ่ของหลิวหย่งโบกไปมา

 เอาไปหมดนั่นแหละ วันนี้ฉันขี่จักรยานมา 

ใช่แล้ว จักรยาน 28 นิ้ว [6] ใหม่เอี่ยมอ่องจอดไว้ข้างผนัง จะซื้อจักรยานแบบนี้อย่างไรเสียก็ต้องใช้สัก 200 กว่าหยวน หลิวหย่งเป็นนายช่างก่อสร้าง ทำงาน 1 วันได้ค่าแรง 2 หยวน เซี่ยเสี่ยวหลานครุ่นคิด ลุงของเธอมั่งคั่งแล้วหรือ?

เชิงอรรถ

[1] 心提到嗓子眼儿 หัวใจพุ่งถึงคอ เปรียบเทียบว่ากำลังกังวลหรือกลัวมาก

[2] 看热闹不嫌事大 ยุ่งเรื่องคนอื่นเพราะไม่กลัวบานปลาย หมายถึง ผู้คนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น ไม่เพียงแต่ยุ่งเอาบันเทิงเท่านั้น แต่มักทำเรื่องราวให้บานปลายไปอีก เนื่องจากคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

[3] 恨铁不成钢 ผิดหวังที่เหล็กไม่กลายเป็นเหล็กกล้า หมายถึง ผิดหวังที่ผู้อื่นไม่พัฒนาไปตามที่ตนต้องการ ในที่นี้คือหลิวหย่งผิดหวังที่หลิวเฟินอ่อนแอไม่สู้คนบ้านเซี่ยจนเกินไป

[4] 脚下生风 ลมใต้เท้า หมายถึง เดินอย่างว่องไว

[5] 脸黑的像锅底 หน้าดำอย่างกับก้นหม้อ เปรียบเปรยว่าสีหน้าดูไม่ได้ ในที่นี้คือโกรธมาก

[6] 28 杠自行车 จักรยาน 28 นิ้ว คือ จักรยานรุ่นที่นิยมใช้กันแพร่หลายในยุคนั้น เนื่องจากเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อมีขนาดประมาณ 28 นิ้ว คนจึงเรียกตามขนาดล้อ

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เธอคือประธานเซี่ย หญิงผู้แข็งแกร่ง และยังเกิดใหม่เป็น เซี่ยเสี่ยวหลาน หญิงสาวชื่อแซ่เดียวกับเธอที่ฆ่าตัวตายท่ามกลางคำนินทาในยุค 80 เธอมีโอกาสได้เกิดใหม่อีกครั้ง ทำไมต้องมาอยู่อย่างอดสูแบบนี้ด้วยเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท