บุตรอสูรบรรพกาล – ตอนที่ 82 ปรับปรุง

ตอนที่ 82 ปรับปรุง

ตอนที่ 82

ปรับปรุง

 ท่านอาวุโส ต้าชิงพูดพลางส่งเสียงเคาะประตูที่หน้าห้องของท่านอาวุโสที่สั่งงานพวกตนเอาไว้ นางบอกว่าหากทำงานเสร็จแล้วก็ไปบอกนางได้เลยแท้ๆ เพียงแต่

 ท่านอาวุโสขอรับบบ ต้าเฉินช่วยเรียกอีกแรงพลางเคาะประตูอีกหลายครั้งๆ แม้พวกมันสองคนจะพยายามเคาะแรงเท่าไหร่หรือส่งเสียงเรียกยังไงนางก็ไม่มีท่าทีจะตื่นขึ้นมาเลย หากไม่ใช่เพราะไป๋จูเหวินสัมผัสได้ว่านางอยู่ในห้องพวกมันคงคิดว่านางหนีไปไหนแล้วแน่ๆ

 อาวุโส 7 นี่ยังขี้เซาไม่เปลี่ยนเลยนะ หงเยว่หัวเราะพลางมองประตูห้องที่ไม่มีท่าทีจะเปิดเลย

 นางเป็นแบบนี้ตลอดเลยงั้นเหรอ ไป๋จูเหวินถามพลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ จะว่าไปหงเยว่ก็เหมือนจะอยู่ที่นี่มานานคงคุ้นเคยกับเมืองร้อยแปดอสูรมากกว่าพวกไป๋จูเหวินอย่างแน่นอน

 นางเป็นหน่วยสำรวจที่น่าภาคภูมิใจของพวกเราเลยเจ้าค่ะ นางสามารถอดหลับอดนอนเก็บข้อมูลได้เป็นเดือนๆ แต่ก็อย่างที่เห็นถ้าเสร็จภารกิจแล้วนางก็จะเอาแต่นอนแบบนี้ล่ะ หงเยว่ยิ้มด้วยสีหน้าเอ็นดู ความจริงนางแก่กว่าอาวุโส 7 เสียอีก ทำให้นางอยู่ตอนที่อาวุโส 7 ยังเป็นเด็กใหม่ของกลุ่มนักล่าอสูร แม้ตอนนี้อาวุโส 7 จะมีพลังก้าวข้ามตนเองไปหลายขั้นแล้ว แต่นางก็ยังมองอาวุโส 7 เป็นเหมืนเด็กน้อยอยู่ดี

 พวกเจ้ามาทำเสียงดังอะไรที่นี่ หลังจากพยายามเรียกอาวุโส 7 ออกมาจากห้องความพยายามทั้งหมดก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพียงแต่ที่ห้องข้างๆกลับปรากฏชายหนุ่มท่าทางกระเซาะกระเซิงคนหนึ่งเปิดประตูออกมาแทน

 ขออภัยขอรับ แต่พวกเรามาหาท่านอาวุโส ไป๋จูเหวินว่าพลางมองชายตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ มันมีพลังไม่มากราวๆระดับปลายของขั้นหลอมรวมวิญญาณเท่านั้น เทียบกับอาวุโสแล้วมันยังมีพลังห่างกันอยู่หลายขั้น แต่มันกลับออกมาจากห้องที่มีป้ายเขียนเอาไว้ว่าผู้ช่วยอาวุโส นั่นหมายความว่าฐานะของมันไม่ใช่เล่นๆนั่นเอง

 ธุระอะไร ชายคนนั้นถามพลางขมวดคิ้วมองไป๋จูเหวิน

 พวกเราทำงานที่ท่านอาวุโสมอบหมายให้เสร็จแล้ว ท่านบอกให้พวกเรามาหาเพื่อขอเข้าห้องพักขอรับ ต้าชิงอธิบายอย่างสุภาพ

 อ่อ..ศิษย์ใหม่นี่เอง ทำไมไม่ใส่เครื่องแบบล่ะ ชายคนนั้นพูดพลางเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทีง่วงๆ

 พวกเราพึ่งมาถึงเลยยังไม่ได้แต่งเครื่องแบบขอรับ ต้าเฉินยิ้มเจื่อนๆพลางนำเครื่องแบบออกมาให้ชายตรงหน้าดู

 อ่อ คราวหน้าใส่เครื่องแบบและสร้อยคอให้เรียบร้อยล่ะ มาข้าจะพาไปที่ห้องของพวกเจ้าเอง ผู้ช่วยอาวุโสว่าพลางเดินนำพวกไป๋จูเหวินไปด้วยท่าทีง่วงๆ

 พวกเจ้าสองคนเป็นอสูรเลี้ยงสินะ พวกเจ้าต้องการห้องแยกหรือเปล่า ผู้ช่วยอาวุโสว่าพลางหันมาถามหลินหลินกับหงเยว่ ในเมืองร้อยแปดอสูรมีนักล่าอสูรมากมาย พวกมันสามารถแยกแยะระหว่างคนกับอสูรได้กันทั้งนั้น พวกมันบอกได้ทันทีเลยว่าหลินหลินและหงเยว่เป็นอสูรเลี้ยง เพียงแต่มันไม่สามารถระบุระดับพลังของพวกนางได้เท่านั้น

 ข้าไม่ต้องการห้องส่วนตัวเจ้าค่ะ หงเยว่พูดด้วยกริยาเรียบร้อยอ่อนหวานเพราะนางมีห้องส่วนตัวแต่แรกแล้ว แต่ในเมื่อนางเป็นอสูรเลี้ยงแล้วนางก็สมควรอยู่กับเจ้านายมากกว่า

 ข้าจะหยู่กับพี่ไป๋ หลินหลินว่าพลางกอดแขนไป๋จูเหวินเอาไว้ทำให้ผู้ช่วยอาวุโสพยักหน้าพลางพาพวกไป๋จูเหวินและพวกเดินไปมุมหนึ่งของอาคารหลัง

 โชคดีที่พวกเรามีคนไม่มากพวกเจ้าเลยมีห้องส่วนตัวกัน ผู้ช่วยอาวุโสพูดจบก็มอบกุญแจให้พวกไป๋จูเหวินคนละดอก พลางโบกมือลาขอตัวจากไปด้วยท่าทีง่วงๆซึมๆเช่นเดิม

 หน่วยสำรวจนี่เป็นแบบนั้นทุกคนหรือเปล่านะ… ต้าเฉินว่าพลางกระพริบตาปริบๆ ทั้งอาวุโสและผู้ช่วยอาวุโสต่างมีท่าทีเซื่องซึมไม่ต่างกัน ไม่ทราบคนอื่นๆจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า

 คิกๆ พวกเขาทำงานกันหนักเพราะหน่วยสำรวจมีคนน้อยนี่นา แถมอีก 9 หน่วยยังต้องใช้ข้อมูลจากหน่วย 7 ทุกกันหมดด้วยนะเจ้าคะ หงเยว่ว่าพลางหัวเราะออกมา เรื่องที่หน่วยสำรวจคนไม่พอเป็นเรื่องที่แม้แต่ท่านหัวหน้าและเหล่าอาวุโสยังแก้ไขไม่ได้ เพราะการเป็นหน่วยสำรวจต้องเรียนรู้อย่างหนักและต้องมีความรอบคอบเป็นอย่างมาก แถมคนส่วนใหญ่ที่มาเข้าหลุ่มนักล่าอสูรยังเป็นพวกอยากฆ่าอสูรเพราะสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งทั้งนั้น เช่นความแค้นอย่างที่หยงเวยเป็น หรือแม้แต่เพื่อหาเงิน ทำให้คนที่อยากมาเข้าหน่วยสำรวจมีน้อยมาก

 ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รีบกลืนแก่นอสูรกันได้แล้วมั้ง ต้าชิงว่าพลางหันไปถามต้าเฉิน ในเมื่องานในหน่วยยุ่งมากพวกมันก็คงต้องช่วยทำงานเหมือนกัน และการเข้าร่วมกลุ่มนักล่าอสูรอย่างสมบูรณ์ก็ต้องเป็นผู้มีพลังอสูรเช่นเดียวกับนายน้อยเสียก่อน

 จริงสิ พี่ต้าชิง พี่ต้าเฉิน ข้าขอยืมยาที่ท่านอาวุโสให้มาหน่อยได้ไหม ได้ยินนายน้อยพูดเช่นนั้น พวกมันก็นำยาออกมาอย่างว่าง่ายพลางยื่นมันให้ไป๋จูเหวินโดยไม่คิดอะไรมาก

 ขอบคุณ ไป๋จูเหวินรับยามาพลางดมกลิ่นของมันในทันที ภายในเขตอสูรท่านน้ามังกรสอนเรื่องยาและสมุนไพรให้มันอย่างหมดจด รวมทั้งท่านน้าราชสีห์ยังสอนเรื่องการหลอมยาให้อีกด้วย ทำให้ไป๋จูเหวินอดสนใจไม่ได้ว่ายาของกลุ่มนักล่าอสูรทำมาจากอะไร

 แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะถึงทำให้รอดจาดแก่นอสูรได้ ไป๋จูเหวินพึมพำพลางจำแนกสมุนไพรในเม็ดยาอย่างช้าๆ สมุนไพรที่ใช้ในยาเม็ดนี้เป็นของพื้นๆที่หาได้ทั่วไป แต่เมือหลอมออกมากลับสร้างผลลับที่น่าเหลือเชื่ออย่างการทำให้คนที่กินแก่นอสูรเข้าไปแล้วยังรอดชีวิตอยู่ได้ เพียงแต่ตัวยาไม่แรงพอทำให้แก่นอสูรที่กินเข้าไปจำกัดอยู่เพียงระดับต่ำเท่านั้น

 ถ้าปรับอีกหน่อยพวกพี่ต้าชิงต้าเฉินอาจจะกินแก่นอสูรระดับทองได้นะ ไป๋จูเหวินพึมพำพลางมองไปทางพวกต้าชิงต้าเฉินทำเอาพวกต้าชิงต้าเฉินขมวดคิ้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วระดับทองที่นายน้อยว่าหมายถึงอะไร

 สมุนไพร…น่าจะยังพอมี แต่จะหาแก่นอสูรระดับทองได้จากไหนกัน ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปรอบๆ แน่นอนว่าในเมืองร้อยแปดอสูรมีอสูรระดับทองมากมาย แต่พวกมันก็เป็นอสูรเลี้ยง จะฆ่าพวกมันเอาแก่นอสูรก็คงไม่ได้

 ระดับทองนี่หมายถึงอะไรเหรอคะคุณชาย หงเยว่ถามพลางเอียงคอสงสัย

 อ๋อ หมายถึงแก่นอสูรของอสูรระดับสูงน่ะ ไป๋จูเหวินว่าพลางเพราะการแบ่งพลังเป็นระดับทองแดง ระดับเงินใช้กันในเขตอสูรเท่านั้น

 อ๋อ ถ้าเป็นแก่นอสูรระดับสูงที่ร้านค้าของหน่วย 10 น่าจะมีขายนะเจ้าคะ หงเยว่ว่าพลางยิ้มกว้าง อย่างน้อยความรู้ที่นางมีก็ช่วยเหลือนายท่านของนางได้ล่ะนะ

 งั้นเหรอ แล้วพวกสมุนไพรล่ะ ไป๋จูเหวินถามพลางนึกถึงสมุนไพรที่มันมีเหลืออยู่ พวกสมุนไพรระดับสูงและหายากมันบังไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ เพราะพวกต้าชิงต้าเฉินยังรับผลของยาพวกนี้ไม่ได้ แต่การจะปรุงยาที่ทำให้พวกต้าชิงสามารถหลอมรวมกับแก่นอสูรระดับทองได้ต้องใช้สมุนไพรอีกนิดหน่อยเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ

 มีแน่นอนเจ้าค่ะ หน่วย 10 เป็นหน่วยที่รับหน้าที่ค้าขายระหว่างกลุ่มนักล่าอสูรกับเมืองต่างๆ พวกมันมีของมากมายให้เลือกอย่างแน่นอน เพียงแต่ราคาออกจะแพงสักหน่อย หงเยว่ว่าพลางลองเปิดมิติของตนขึ้นมา สมัยก่อนนางเดินทางไปกับเจ้านายเก่าอยู่บ้างทำให้พอมีเงินติดตัว แต่หากไป๋จูเหวินอยากได้อะไรเป็นพิเศษบางทีนางอาจจะไปขอร้องศิษย์ของเจ้านายเก่าดู

 เรื่องเงินไม่มีปัญหาหรอก หงเยว่ช่วยนำทางทีได้ไหม ไป๋จูเหวินว่าพลางหันไปบอกพวกต้าชิงต้าเฉินว่าอย่าพึ่งกินแก่นอสูรและรอมันกลับมาก่อน

 เจ้าค่ะ หงเยว่ว่าพลางกระโดดออกจากอาคารหลังอย่างรวดเร็วก่อนจะกลายร่างเป็นแมงมุมแม่ม่ายดำในทันที

 ให้ข้าเป็นคนพาไปก็ได้นะ หลินหลินว่าพลางมองมาทางไป๋จูเหวินราวกับจะบอกว่าไม่อยากให้หงเยว่มาแย่งหน้าที่ของนางเสียอย่างนั้น

 เจ้าพาพวกเราเดินทางมาเยอะแล้ว เจ้าพักผ่อนอยู่ที่นี่เถอะ ไป๋จูเหวินว่าพลางลูบหัวหลินหลินเบาๆ ตลอดการเดินทางที่ผ่านมาหลินหลินแทบจะยังไม่ได้นอนเลย แม้สำหรับอสูรระดับหลินหลินแล้วจะไม่มีปัญหาก็ตาม

 ไม่เอาข้าจะไปกับพี่ไป๋ด้วย ให้ข้าไปด้วยนะ หลินหลินอ้อนพลางเกาะแขนไป๋จูเหวินแน่น

 ได้ แต่เจ้าต้องขี่หลังพี่หงเยว่ไปนะ ไป๋จูเหวินว่าพลางมองลงไปที่หงเยว่ นางกลายร่างเป็นแมงมถมแม่มายดำรออยู่แล้ว แถมมันก็อยากให้หลินหลินพักด้วย ส่วนต้าชิงและต้าเฉินโดนไป๋จูเหวินบอกให้พักผ่อนรอเอาไว้เพราะการกลืนแก่นอสูรไม่ใช่เรื่องล้อเล่น อย่างน้อยไป๋จูเหวินก็อยากให้ร่างกายของทั้งสองพร้อมเสียก่อน

ร่างของหงเยว่ที่มุ่งยังเขตที่ 10 ไม่ได้สร้างความแตกตื่นใจให้กับเหล่าชาวเมืองนักเพราะเมืองร้อยแปดอสูรแทบจะมีเหล่าอสูรเดินเรียงรายกันอยู่ตามทางเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แถมเหล่าอสูรเลี้ยงของพวกผู้อาวุโสหรือหัวหน้าหน่วยยังแปลกพิสดารและน่ากลัวเสียมากกว่าแมงมุมตัวใหญ่มากมายนัก

ทันทีที่เข้าเขตที่ 10 ไป๋จูเหวินก็ได้ทราบเสียทีว่าหน่วยไหนใน 10 หน่วยที่ร่ำรวยที่สุด เขตที่ 10 นั้นมีสภาพเมืองไม่แทบจะไม่ต่างจากเมืองผาหยกเลยนั่นคืออาคารบ้านเรือนแต่ละหลังต่างทำจากวัสดุมีค่าทั้งสิ้น อย่างธรรมดาเลยก็เป็นหินอ่อนเข้าไปแล้ว แถมอาคารหลักที่เห็นอยู่ตรงหน้ายังมีรูปปั้นพญาอินทรีสีทองสง่างามตั้งอยู่หน้าอาคารอีกต่างหาก ด้วยสายตาสีทองของไป๋จูเหวินแล้วสามารถทราบได้ทันทีว่ามันคือรูปปั้นทองคำทั้งตัวที่แกะสลักได้อย่างงดงามมาก

 ที่นี่เจ้าค่ะ หงเยว่ว่าพลางเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าอาคารของหน่วยที่ 10 มันไม่เหมือนหน่วยอื่นๆตรงที่หน่วย 10 นั้นมีอาคารเพียงหลังเดียว แถมมันยังตั้งตรงสูงขึ้นไปกลายสิบชั้นอีกต่างหาก ภายนอกอาคารประดับด้วยหินอ่อนสีขาวสวยงามดูแล้วไม่น่าตั้งได้สูงขนานั้นเลย แต่มันก็ยังตั้งตระหง่านอยู่ได้อย่างแข็งแรง ไป๋จูเหวินเลยใช้ดวงตาสีเขียวมองภาพตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าตึกหลังนี้จะมีฐานที่ลึกมากๆถึงได้ตั้งสูงได้ขนาดนี้ นับว่าเป็นตึกที่แปลกตาที่สุดเท่าที่ไป๋จูเหวินเห็นเลยก็ว่าได้

 เชิญเจ้าค่ะ หญิงสาวในเครื่องแบบของกลุ่มนักล่าอสูรเดินมาต้อนรับไป๋จูเหวินด้วยท่าทีเรียบร้อย นางไม่ได้สวมใส่ผ้าปิดหน้าทำให้ตอนนี้นางอยู่ในเครื่องแบบสีดำเท่านั้น แถมดูเหมือนเครื่องแบบของหน่วย 10 จะไม่เหมือนเครื่องแบบของหน่วยอื่นเท่าไหร่เพราะเครื่องแบบของนางเปิดผิวหนังหลายส่วนกว่าของหน่วยอื่นอย่างเห็นได้ชัด อย่างน้อยเครื่องแบบที่เหม่ยหลินใส่ก็ไม่ใช่แบบนี้

 หากท่านลูกค้าต้องการซื้อของใช้ทั่วไปท่านสามารถเดินชมได้ที่ชั้น 1 และ 2 เจ้าค่ะ ส่วนการจัดจ้างนักล่าอสูรเชิญที่ชั้น 3 เจ้าค่ะ ได้ยินเช่นนั้นไป๋จูเหวินก็มีท่าทีลำบากใจทันที ตัวมันต้องการสมุนไพรและแก่นอสูรระดับสูง ไม่ทราบว่าของเหล่านี้ถูกจัดเป็นของทั่วไปหรือไม่

 พาคุณชายไปที่ชั้น 5 ของที่พวกเราต้องการอยู่ที่นั่น หงเยว่ว่าพลางยิ้มให้กับศิษย์ที่ทำหน้าที่ต้อนรับ

 เจ้าค่ะ หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็ก้มหัวให้ไป๋จูเหวินเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินไปที่บันไดเพื่อนำทาง ปกติแล้วอาคารของหน่วย 10 มีทั้งสิ้น 10 ชั้น โดยการซื้อขายจะมีจนถึงชั้นที่ 7 และอีก 3 ชั้นบนจะเป็นที่พักสำหรับศิษย์ของหน่วยที่ 10 และแขกของเหล่าหัวหน้าหน่วยและอาวุโสเท่านั้น เพียงแต่ว่าชั้น 4 ขึ้นไปจะมีการจำหน่ายของที่หาไม่ได้โดยง่ายหรือหาไม่ได้ด้วยความสามารถทั่วไป ยิ่งชั้นสูงของยิ่งมีราคาและหายากมากเท่านั้น แน่นอนว่าแก่นอสูรระกับสูงแองก็นับว่าหายากไม่น้อย

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 82 ปรับปรุง

 

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล

Status: Ongoing

ตุบ! เสียงบางอย่างตกลงมาจากที่สูงทำเอาภายใต้ช่องเขาแห่งนี้เกิดเสียงสะท้อนเลื่อนลั่นไปรอบบริเวณ แต่ถึงจะสร้างเสียงดังเพียงใดก็ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอยู่บริเวณนี้ทั้งสิ้น

วูบ… ร่างสีขาวหมดจดร่างหนึ่งปรากฏยังตำแหน่งที่เสียงดังนั้นปรากฏ แม้จะไม่มีมนุษย์แต่สถานที่แห่งนี้กลับเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรตนหนึ่ง มันมีเรือนร่างแปลกพิสดาร ทั่วร่างเป็นสีขาวหม่นหมองทั้งร่าง รูปร่างของมันจะว่าเหมือนแมงมุมหรือก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเหมือนมังกรหรือก็ไม่ชัดเจน ทุกคนต่างเรียกขานมันว่าฝันร้ายสีขาว มันเป็นตัวตนที่สร้างความหวาดกลัวให้ทั้งมนุษย์และอสูรด้วยกัน

แกร๊ก ทันทีที่ขาหนึ่งของมันก้าวมาถึงตำแหน่งเสียง ดวงตาทั้ง 8 ของมันก็จดจ้องไปยังร่างของเด็กชายที่ตกลงมาจากหน้าผาด้วยท่าทีประหลาดใจ เหตุใดมนุษย์ถึงไม่ตายหลังจากตกลงมาลึกขนาดนี้ ที่ๆมันอาศัยอยู่ถูกเรียกว่าผาไร้ก้น เพราะหากมองจากด้านบนจะไม่สามารถเห็นก้นเหวได้เลย แม้แต่มองจากก้นผาก็แทบจะเห็นท้องฟ้าเป็นเส้นด้ายเส้นบางๆเท่านั้น เพราะก้นผาแห่งนี้อยู่ลึกอย่างมาก

ขณะสงสัยอยู่ๆอสูรที่มีร่างกายสีขาวก็เริ่มอ้าปากของมันออกช้าๆ เขี้ยวราวกับแมงมุมของมันอ้าออกเผยให้เห็นปากอันกว้างใหญ่ที่หากจะกินเด็กชายตรงหน้าคงกระทำได้ด้วยการกลืนมันทั้งตัวในคำเดียวเท่านั้น แต่ขณะจะกินเด็กชายลงไปทั้งตัว ปากของมันพลันหยุดชะงัก ก่อนจะค่อยๆหุบกลับเช่นเดิม ดวงตาของมันเพ่งมองเด็กชายที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย ร่างของมันแตกหักยับเยินราวกับตุ๊กตาดินที่ถูกบี้เละเทะ แขนขางองุ้ม ลำตัวแดงบ้างม่วงบ้าง แต่มันกลับยังหายใจอยู่ ด้วยร่างกายที่ยับเยินเช่นนี้มันกลับสามารถประคองชีวิตของมันเอาไว้ได้

 หรือจะเป็นโชคชะตากัน.. อสูรแมงมุมพูดออกมาพลางมองใบหน้าของเด็กชาย ทำไมมันถึงตกลงมาในที่แห่งนี้ได้ ทำไมมันถึงไม่ตาย แล้วทำไมมันถึงไม่คิดจะกินมันกัน…..

แม้แต่ตัวมันยังไม่สามารถหาคำตอบออกมาได้ . . . .

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท