บุตรอสูรบรรพกาล – ตอนที่ 133 การเจรจาล้มเหลว

ตอนที่ 133 การเจรจาล้มเหลว

ตอนที่ 133

การเจรจาล้มเหลว

 แมงมุมขาว…. เสียงแหบพร่าดังออกมาจากใบหน้าขนาดยักษ์ที่ลอยอยู่ตรงหน้าไป๋จูเหวิน ขนาดใบหน้าของมันใหญ่โตเสียจนน่าใจหาย ขนาดตัวของมันนั้นหากเทียบกับน้ามังกรในร่างมังกรธรณีละก็ ตัวของอสูรตรงหน้าคงใหญ่กว่านับร้อยเท่าได้

 ไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่เจ้าบุกเข้ามาในถิ่นของข้า เสียงราวกับชายชราดังขึ้นพร้อมหัวขนาดใหญ่ที่ถอยกลับออกไป เพียงแต่พริบตาต่อมาผืนน้ำใต้ท้องเรือก็พลันแยกออกราวกับเกิดหลุมขนาดใหญ่ใต้ผืนทะเล น้ำทะเลแยกออกเป็นสองฝั่งทำให้เรือที่ไป๋จูเหวินนั่งมากำลังจะตกลงไปในช่องว่างในไม่ช้า

วูบ… เหม่ยหลินที่อยู่บนเรือใช้พลังธาตุน้ำพยุงเรือเอาไว้ไม่ให้ตก ทั้งตัวนางและพลังของกิเลนดำต่างเป็นธาตุน้ำทั้งสิ้น ทำให้นางสามารถควบคุมน้ำได้ในระดับหนึ่ง เพียงแต่อีกฝ่ายกลับเป็นอสูรระดับบรรพกาลที่อาศัยอยู่ในน้ำมานานหลายพันหลายหมื่นปีแล้วนิ่สิ

 ดื้อด้าน เสียงชายชราดังออกมาก่อนที่บนฟ้าจะปรากฏ ฟองน้ำจำนวนมากลอยขึ้นมาเหนือท้องฟ้า เพียงแต่ฟองน้ำเหล่านั้นไม่ได้เป็นฟองบางๆที่มีอากาศอยู่ภายใน แต่มันกลับเป็นลูกบอลน้ำขนาดใหญ่กว่าเรือที่ไป๋จูเหวินนั่งมาเกือบ 10 เท่า

ตูมมม!!! ลูกบอลน้ำลูกหนึ่งตกลงมาใส่เรือของไป๋จูเหวิน แต่โชคดีที่เหม่ยหลินขยับเรือหลบทันไม่อย่างนั้นด้วยแรงดันน้ำมหาศาลเช่นนั้นเรือคงแหลกเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน

ตูมๆๆๆ น้ำตกที่สร้างจากลูกบอลน้ำร่วงหลงลงมากระแทกผืนมะเลอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาเหม่ยหชินต้องใช่พลังไปมากในการแล่นเรือให้หลบการโจมตีของอสูรตรงหน้าพ้น

 ข้างหน้า…ระวัง ชายชราที่เป็นเจ้าของเรือร้องเตือน เพราะทางที่เหม่ยลหินบังตับเรือไปนั้นปรากฏรอยแยกของน้ำทะเลเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อครู่มัวแต่หลบบอลน้ำทำให้ไม่ได้สังเกตเลยว่ายามนี้ผืนทะเลที่เรือของชายชราแล่นอยู่มีเพียงพื้นที่วงกลมเล็กๆเท่านั้น แถมวงยังแคบลงเรื่อยๆ

 เดี๋ยวก่อยท่านอาวุโส ไป๋จูเหวินเห็นอีกฝ่ายโจมตีเอาๆก็พยายามเรียกอสูรตรงหน้าเอาไว้

 เสียงนี้…..ไม่ใช่แมงมุมขาวงั้นหรือ อสูรตรงหน้าว่าพลางก้มหน้าลงมามองในเรืออีกครั้ง ยามนี้ไป๋จูเหวินเห็นใบหน้าของอสูรได้อย่างชัดเจน มันคือเต่าที่มีลำคอใหญ่ยักษณ์ราวกับจะกลายเป็นแกนค้ำระหว่างผืนดินและท้องฟ้าก็ไม่ปาน ทำเอาไป๋จูเหวินนึกถึงเรื่องอสูรบรรพกาลทั้ง 3 ที่มันเคยได้ยินมาในทันที หรือว่าอสูรเต่าตรงหน้าจะเป็นอสูรบรรพกาลที่เกิดขึ้นมาพร้อมๆกับมารดาของมัน

 เจ้าไม่ใช่แมงมุมขาว ทำไมกลิ่นอายของแมงมุมขาวถึงออกมาจากเจ้าได้ เต่ายักษ์ถามด้วยท่าทีดุดัน ท่าทางความสัมพันธ์กับมารดาของมันคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่

 มารดา….แมงมุมขาวได้จากไปแล้วขอรับ ส่วนข้าเป็นบุตรชายของนาง ไป๋จูเหวินตอบเสียงดังฟังชัดเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ยิน

 ทายาตของแมงมุมขาว…. เต่ายักษ์ได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทีโกรธแค้นไม่ต่างจากเดิม มันอ้าปากกว้างจนรู้สึกว่าหากมันกัดลงมาทะเลคงหายไปเกือบครึ่ง แต่ท่าทางจะคาดหวังให้มันโจมตีธรรมดาๆแบบนั้นไม่ได้ ทันทีที่มันอ้าปากค้างเอาไว้ลูกบอลน้ำที่มันสร้างขึ้นมาจำนวนมากก่อนหน้านี้ก็เข้ามารวมตัวกันเป็นลูกบอลน้ำขนาดใหญ่

 เหม่ยหลิน หนี ไป๋จูเหวินว่าพลางใช้พลังอสูรของตนเองช่วยเหม่ยหลินควบคุมน้ำทะเลด้านล่างให้เรือแล่นออกไปเร็วยิ่งขึ้น

ตูมมมม!! เรียกได้ว่าเส้นยาแดงผ่าแปดก็ว่าได้ เรือของชายชราแล่นพ้นระยะโจมตีของคลื่นน้ำแรงดันมหาศาลของอสูรเต่ายักษ์มาอย่างหวุดหวิด

 ….. แม้จะรอดมาแล้ว แต่เหล่าลูกเรือที่ได้เห็นการโจมตีของเต่ายักษ์ต่างตัวแข็งทื่อไปตามๆกัน กระสุนน้ำที่อัดลงบนพื้นทะเลสร้างแรงดันน้ำมหาศาลจนละออกน้ำที่เกิดจากแรงกระแทกปลิวไปไกลถึงฝั่ง พริบตานั้นพวกมันราวกับได้เห็นม่านสีขาวผืนใหญ่ปิดทะเลเอาไว้ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

วูมมม!!! อสูรเต่ายักษ์อ้าปากอีกครั้งหมายจะโจมตีซ้ำทันที ด้วยระยะในตอนนี้รวมกับพลังที่ลดลงไปของเหม่ยหลินทำให้แม้แต่ลูกเรือที่ไม่มีพลังวิญญาณยังทราบดีว่าไม่มีทางหลบทันอีกแน่ๆ

 ท่านอาวุโส ไป๋จูเหวินตะโกนพลางรวมรวมพลังของตนออกมา แม้จะทราบดีอยู่แล้วว่าไม่มีทางต้านกระสุนน้ำของอสูรระดับบรรพกาลได้ แต่ไป๋จูเหวินก็ยังตั้งท่าฝ่ามือเพลิงผลาญคล้อยสำนึกเอาไว้อยู่ดี

ซ่า… อยู่ๆอสูรเต่ายักษ์ก็ชะงักค้างไปเสียเฉยๆ แม้แต่บอลน้ำที่มันสร้างเอาไว้ยังไหลงท้องทะเลเสียจนหมด

 เจ้า…. อสูรเต่ายักษ์ชะงักค้างไป พลางก้มหัวลงมามองไป๋จูเหวินช้าๆ

 เจ้าเป็นลูกหลานของหวังเฉียน… ท่าทีจของเต่ายักษ์เปลี่ยนไปทันทีเมื่อพูดถึงคนๆหนึ่งออกมา แต่การที่มันหยุดโจมตีก็เป็นเรื่องโชคดีอย่างมากแล้วสำหรับตัวไป๋จูเหวินและเหล่าลูกเรือ

 ท่านอาวุโสว่าอะไรนะ ไป๋จูเหวินที่ได้ยินคำพูดของอสูรเต่าก็พลันเบิกตากว้าง

 ไม่ผิดแน่ เจ้าเป็นลูกหลานของหวังเฉียน ความรู้สึกอบอุ่นเช่นนี้มีแต่คนในครอบครัวของนางเท่านั้น อสุรเต่ามีท่าทีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด มันก้มหัวลงจนแทบจะติดทะเล แถมมันยังเอาแต่จ้องมองไป๋จูเหวินไม่วางตาอีกต่างหาก

 ท่านรู้หรือว่าข้าแท้จริงแล้วเป็นลูกของใคร ไป๋จูเหวินขมวดคิ้ว เรื่องนี้เป็นความลับมานานสำหรับไป๋จูเหวิน แม้แต่พวกท่านน้าเอยยังไม่ทราบว่ามารดาของมันไปเก็บมันมาจากที่ใด เพราะพวกท่านน้าทราบอีกทีมารดาของมันก็เลี้ยงดูมันมาหลายวันแล้ว

 เรื่องนั้นข้าไม่รู้หรอก อสูรเต่าตอบพลางส่ายหน้า

 แต่ว่า… ไป๋จูเหวินขมวดคิ้ว เรื่องอะไรกัน เมื่อครู่มันพึ่งพูดเรื่องครอบครัวของไป๋จูเหวินแต่อยู่ๆก็มาปฏิเสธงั้นเหรอ

 ข้ารู้แต่ว่าเจ้าสืบสายเลือดมาจากสหายคนหนึ่งของข้า แต่ข้าได้รู้จักนางเมื่อหลายพันปีก่อน ข้าไม่คิดว่านางจะเป็นมารดาของเจ้าหรอกนะ อสูรเต่าว่าพลางถอนหายใจออกมา

 เป็นเช่นนี้เอง ไป๋จูเหวินมีท่าทีเสียด่ายอย่างเห็นได้ชัดนี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนพูดเรื่องครอบครัวของมันเอง

 บอกข้ามา ลูกหลานของหวังเฉียน เหตุใดตัวเจ้าถึงมีกลิ่นอายของแมงมุมขาวได้ อสูรเต่าเปลี่ยนท่าทีไปอย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อสัมผัสพลังของไป๋จูเหวินได้

 เรื่องนั้น… ไป๋จูเหวินค่อยๆเล่าเรื่องราวของมันไปอย่างช้าๆ ทำให้อสูรเต่าเข้าใจเสียทีว่าทำไมไป๋จูเหวินถึงมีกลิ่นอายของอสูรแมงมุมได้

 งั้นเหรอ…นางดับสลายไปแล้ว อสูรเต่ายักษ์ลำพึงออกมา ตัวมันแม้ไม่ถูกกับอสูรแมงมุมนัก แต่เมื่ออสูรที่อยู่ระดับเดียวกันเพียง 3 ตนสลายหายไป 1 ตนก็ย่อมรู้สึกแปลกประหลาดเป็นธรรมดา แต่อสูรแมงมุมที่มีอายุขัยน้อยกว่าพวกมันอยู่แล้วจะสลายไปก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

 ท่านรู้จักมารดาของข้าด้วยหรือขอรับ ไป๋จูเหวินถามพลางมองอสูรเต่านิ่ง นอกจากพวกท่านน้าแล้วมันก็ไม่ทราบจะไปถามเรื่องของมารดาจากใคร และพวกท่านน้าก็ไม่ได้รู้จักมารดาของมันดีนัก เรียกได้ว่าตอบรับไป๋จูเหวินมาเลี้ยงแทบจะเป็นครั้งแรกเลยทีมารดาของมันออกมาจากถ้ำแมงมุมในรอบหลายพันปี

 แน่นอน พวกเราเป็นอสูรเพียงสามตนเท่านั้นที่ถือกำเนิดขึ้นมาในฐานะอสูรบรรพกาล พวกเราไม่ได้เริ่มจากระดับต่ำๆเหมือนอสูรตนอื่นหรอกนะ อสูรเต่าว่าพลางกระแอมออกมา

 แต่เพราะพวกเราต่างมีพลังกล้าแข็งจนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ ข้าจึงเดินทางไปเจรจากับเหล่าอสูรบรรพกาลอีก 2 ตนที่เหลือเพื่อแบ่งเขตให้ชัดเจน อสูรเต่าพูดจบก็เหลือบมองไปทางทิศเหนือ

 อสูรปักเป้า ข้าไม่สามารถตกลงกับมันได้ เพราะตัวมันไร้สติปัญญาแบบมนุษย์ ตัวมันเหมือนสัตว์ป่าที่ไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรเลย สุดท้ายพวกเราเลยปะทะกัน แต่โชคดีที่มันไม่ค่อยฉลาดข้าเลยเป็นฝ่ายมีชัย ส่วน มารดาของเจ้า…. อสูรเต่าเงียบไปพักหนึ่งพลางมองไป๋จูเหวินอย่างลำบากใจ ไม่ทราบมันจะพูดเรื่องนี้ออกไปดีหรือไม่

 นาง….. อสูรเต่าอ้าปากพลางเหลือบมองไป๋จูเหวินอีกครั้ง

 นางทำหน้าเอ๋อใส่ข้า แถมยังถามข้าว่าเขตแดนคืออะไร อสูรเต่าว่าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

 ข้านึกว่านางล้อเล่น แต่นางก็เดินไม่สนเขตแดนของข้ากับนางอยู่ดี หลายครั้งนางเดินข้ามเขตของข้ามาราวกับไม่มีอะไรเลย ข้าเลยต้องโจมตีไล่นางไป อสูรเต่าพูดด้วยท่าทีเหนื่อยใจ กระสุนน้ำเมื่อครู่ทำได้แค่สะกิดอสูรแมงมุมเท่านั้น ปกติหากนางเข้ามาในเขตของมันพอโดนกระสุนน้ำสะกิดไปก็เหมือนช่วยให้นางรู้ว่าเข้ามาในเขตของอสูรเต่าแล้วเท่านั้น หากโชคดีนางก็จะกลับไป แต่หากไม่นางก็จะเดินเข้ามาต่อแล้วทำอะไรตามใจนางต่อไป แถมตัวอสูรเต่ายังอ่อนแอกว่าอสูรแมงมุมอยู่นิดหน่อย ทำให้ยามปะทะกันจริงจังมันเป็นฝ่ายบาดเจ็บมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แถมอสูรแมงมุมมีนิสัยบ้าคลั่ง หากบาดเจ็บในระดับหนึ่งตัวนางจะโจมตีโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น ทำให้ตัวมันต้องเป็นฝ่ายหนีตลอด พักหลังๆเลยพยายามไล่นางไปด้วยวิธีเบาๆ หากนางไม่ไปตัวมันก็ปล่อยเท่านั้น

 จะว่าอย่างไรดี…. ไป๋จูเหวินชะงักค้างไปเมื่อได้ยินเรื่องของท่านแม่ จะว่าไปนางก็นิสัยแบบนั้นจริงๆนี่นา

 ข้าขอโทษแทนท่านด้วยขอรับ ไป๋จูเหวินว่าพลางประสานมือขอโทษจากใจจริง ท่าทางท่านแม่จะไปก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเขาไว้เยอะเหมือนกันนะ

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 133 การเจรจาล้…

 

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล

Status: Ongoing

ตุบ! เสียงบางอย่างตกลงมาจากที่สูงทำเอาภายใต้ช่องเขาแห่งนี้เกิดเสียงสะท้อนเลื่อนลั่นไปรอบบริเวณ แต่ถึงจะสร้างเสียงดังเพียงใดก็ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอยู่บริเวณนี้ทั้งสิ้น

วูบ… ร่างสีขาวหมดจดร่างหนึ่งปรากฏยังตำแหน่งที่เสียงดังนั้นปรากฏ แม้จะไม่มีมนุษย์แต่สถานที่แห่งนี้กลับเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรตนหนึ่ง มันมีเรือนร่างแปลกพิสดาร ทั่วร่างเป็นสีขาวหม่นหมองทั้งร่าง รูปร่างของมันจะว่าเหมือนแมงมุมหรือก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเหมือนมังกรหรือก็ไม่ชัดเจน ทุกคนต่างเรียกขานมันว่าฝันร้ายสีขาว มันเป็นตัวตนที่สร้างความหวาดกลัวให้ทั้งมนุษย์และอสูรด้วยกัน

แกร๊ก ทันทีที่ขาหนึ่งของมันก้าวมาถึงตำแหน่งเสียง ดวงตาทั้ง 8 ของมันก็จดจ้องไปยังร่างของเด็กชายที่ตกลงมาจากหน้าผาด้วยท่าทีประหลาดใจ เหตุใดมนุษย์ถึงไม่ตายหลังจากตกลงมาลึกขนาดนี้ ที่ๆมันอาศัยอยู่ถูกเรียกว่าผาไร้ก้น เพราะหากมองจากด้านบนจะไม่สามารถเห็นก้นเหวได้เลย แม้แต่มองจากก้นผาก็แทบจะเห็นท้องฟ้าเป็นเส้นด้ายเส้นบางๆเท่านั้น เพราะก้นผาแห่งนี้อยู่ลึกอย่างมาก

ขณะสงสัยอยู่ๆอสูรที่มีร่างกายสีขาวก็เริ่มอ้าปากของมันออกช้าๆ เขี้ยวราวกับแมงมุมของมันอ้าออกเผยให้เห็นปากอันกว้างใหญ่ที่หากจะกินเด็กชายตรงหน้าคงกระทำได้ด้วยการกลืนมันทั้งตัวในคำเดียวเท่านั้น แต่ขณะจะกินเด็กชายลงไปทั้งตัว ปากของมันพลันหยุดชะงัก ก่อนจะค่อยๆหุบกลับเช่นเดิม ดวงตาของมันเพ่งมองเด็กชายที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย ร่างของมันแตกหักยับเยินราวกับตุ๊กตาดินที่ถูกบี้เละเทะ แขนขางองุ้ม ลำตัวแดงบ้างม่วงบ้าง แต่มันกลับยังหายใจอยู่ ด้วยร่างกายที่ยับเยินเช่นนี้มันกลับสามารถประคองชีวิตของมันเอาไว้ได้

 หรือจะเป็นโชคชะตากัน.. อสูรแมงมุมพูดออกมาพลางมองใบหน้าของเด็กชาย ทำไมมันถึงตกลงมาในที่แห่งนี้ได้ ทำไมมันถึงไม่ตาย แล้วทำไมมันถึงไม่คิดจะกินมันกัน…..

แม้แต่ตัวมันยังไม่สามารถหาคำตอบออกมาได้ . . . .

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท