ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 66 เทพ

ตอนที่ 66 เทพ

ทุกคนยังไม่ทันได้ตั้งตัว นาทีถัดมาพลังสีดำกลุ่มนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันมุ่งหน้าไปหาเหล่าผีดิบที่หลงเหลืออยู่ พลังสีดำกลุ่มนั้นแปรเปลี่ยนเป็นเส้นด้ายสีดำที่คมราวกับมีด ก่อนจะกลืนกินผีดิบทั้งหมดภายในหอ เพียงชั่วครู่ ผีดิบทั้งหมดก็ถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น หลงเหลือเพียงแต่ซากที่โดนสูบจนแห้งไป

พวกมันไม่มีแม้แต่ที่จะหลบ เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นทุกทิศ เสียงดังยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับตอนที่เหล่าเจ้าสำนักสวีโจมตี บนใบหน้ายังคงหลงเหลือสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ และสุดท้ายก็ถูกดูดพลังไปจนหมด

 เทพแห่งสวรรค์…ทำไม…  เสียดายพวกเขาคงไม่ได้รับคำตอบอีกตลอดไป

เรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ผีดิบทั้งหมดถูกกำจัดจนหมดเกลี้ยง

 แย่แล้ว!  เจ้าสำนักสวีสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนจะเข้าใจในทันที  สิ่งที่อยู่ในนั้นกลืนกินวิญญาณของผีดิบเหล่านี้ มันคิดจะเกิดก่อนเวลา! 

ทุกคนต่างมีหน้าเปลี่ยนไปตามๆ กัน ถึงแม้จะไม่ว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นคืออะไร แต่คงไม่ใช่สิ่งที่ดีอะไรเป็นแน่

 เร็ว เราต้องหาวิธีควบคุมมัน!  เจ้าสำนักสวีพูดเสียงดัง เขารีบคว้ายันต์ม่วงออกมาหลายใบแล้วโยนออกไปอย่างไม่เสียดาย ท่านอาวุโสคนอื่นๆ ก็รีบทำตามทันที ต่างคนต่างท่องคาถาขึ้นมา

เสียดายที่ไม่ทันการเสียแล้วพวกเขาได้ยินเพียงเสียงหนึ่งที่ดังก้องขึ้นมา ก่อนที่จะมีพลังสีดำมากมายพุ่งทะยานขึ้นฟ้า หอบรรพบุรุษพังทลายลงไปในพริบตา พลังสีดำพุ่งตรงขึ้นฟ้า ครอบคลุมไปทั่วพื้นที่ แม้จะเป็นเวลากลางวัน แต่ท้องฟ้ากลับมืดลงอย่างเห็นได้ชัด ราวกับก้าวผ่านเวลาอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงครึ่งเค่อ บริเวณรอบด้านก็มืดสนิท

พื้นดินสั่นสะเทือนรุนแรงยิ่งขึ้น พลังสีดำเริ่มรวมตัวกันก่อนที่จะมีร่างยักษ์ของอะไรบางอย่างปรากฏต่อหน้าทุกคน มันเป็นร่างที่สูงใหญ่ราวภูเขา พลังสีดำแผ่ขยายอยู่รอบตัว ทำให้มองใบหน้าของมันได้ไม่ชัด ทุกคนรู้สึกได้เพียงแรงกดดันมหาศาลที่ส่งออกมา ทำให้ผู้คนอยากจะก้มลงไปไม่กล้าที่เงยหน้าขึ้นมอง

เจ้าสำนักสวีกัดฟันต้านแรงกดดันนั้น พร้อมพูดเสียงดังว่า

 ท่านอาวุโสทั้งหลาย ตามข้าไปสร้างผนึกมาร 

พูดจบก็กัดนิ้วของตัวเอง ก่อนจะท่องคาถา ท่านอาวุโสคนอื่นเมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบยืนเรียงราย ก่อนจะเริ่มวาดยันต์และท่องคาถาพร้อมกัน

 เสวียนชิงอยู่เหนือ บรรพบุรุษยวนคุ้มครอง ทุกอย่างคืนสู่ทางสว่าง สรรพสิ่งชั่วร้ายไม่อาจเข้าใกล้ ปิดผนึกมารปราบปีศาจ! 

ทันใดนั้นแสงสีขาวสว่างขึ้นทั่วทั้งท้องฟ้า ก่อนจะปรากฏโซ่เหล็กสีทองมากมายกลางอากาศ มุ่งตรงไปยังร่างสีดำที่สูงราวกับภูเขาของอีกฝ่าย ก่อนจะพันกันแน่นหนา เมื่อเห็นว่าโซ่กำลังจะรัดแน่น ทันใดนั้นก็มีเสียงชายหนุ่มที่แฝงไปด้วยความเย็นชาดังขึ้น

 โง่เขลา  เสียงนั้นไม่ดังมาก ราวกับพูดอยู่ข้างหู ดังก้องอยู่ภายในหัวของทุกคน

นาทีถัดมา ผนึกวิญญาณชั่วร้ายที่เหล่าท่านผู้อาวุโสทั้งสิบวางไว้ยังไม่ทันเสร็จสมบูรณ์ ทันใดนั้นก็แตกออกเป็นชิ้นๆ เสียงดัง ทุกคนรู้สึกเพียงเลือดที่กระอักออกมา พลังลมปราณนั้นสะท้อนกลับมาโดยตรง ร่างของทุกคนโยกไปมา ก่อนจะคายเลือดออกมาเต็มปาก

 เจ้าสำนักสวี!  ศิษย์ที่ยืนอยู่ด้านหลังร้องออกมาอย่างตกใจ แม้แต่ท่านผู้อาวุโสของสำนักเทียนซือร่วมมือกันยังรับมือไม่ได้ มันคืออะไรกันแน่

อวิ๋นเจี่ยวเอื้อมมือไปพยุงท่านอาวุโสเจียวด้านข้าง ก่อนที่แตะมือลงบนชีพจรของอีกฝ่าย พบว่าลมในร่างกายของเขาวิ่งมั่วมาก และเส้นชีพจรเดินถอยหลัง เหมือนถูก…อะไรบางอย่างสะท้อนกลับ?

 เป็นไปได้อย่างไร  เจ้าสำนักสวีสะดุดไปสองก้าว เกือบจะยืนไม่อยู่ เขามองไปยังด้านหน้าด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อ ทำไมผนึกจึงไม่มีผลเลย อีกทั้งยังถูกสะท้อนกลับ หรือว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่ปีศาจ?

เสียงเย็นเยือกดังขึ้นอีกครั้ง ดังก้องไปทั่วท้องฟ้าราวกับเสียงสวรรค์  ข้าคือเทพแห่งแดนบน มนุษย์ปุถุชนผู้โง่เขลากล้าดีอย่างไรที่จะล่วงเกินข้า! หากพวกเจ้าถวายข้าด้วยใจจริง ข้าสามารถยกโทษให้เจ้า และมอบชีวิตอันชั่วนิรันดร์ให้ 

ชีวิตนิรันดร์! สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป ทันใดนั้นพวกเขาก็นึกถึงกลุ่มผีดิบที่ตายอย่างน่าสลดใจ รู้สึกไม่สบายขึ้นมาทันที

 เจ้าผู้ชั่วร้าย อย่าได้สร้างความสับสนให้ผู้คนที่นี่  เจ้าสำนักสวีโต้กลับด้วยเสียงอันดัง  พวกข้าล้วนเป็นศิษย์ เสวียนเหมิน และข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าทำร้ายมนุษย์อีก  หลังจากพูดจบ เขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเอง คว้ายันต์สะกดมารออกมาอีกครั้ง

ท่านอาวุโสคนอื่นๆ ก็ลงมือพร้อมกัน ในทันใดพลังที่แปรเปลี่ยนจากยันต์หลายสิบใบก็กลายเป็นผนึกขนาดใหญ่และลอยไปหาอีกฝ่าย

แต่ก็ไม่มีผลใดๆ เลย ยันต์ที่เดิมมีพลังอย่างมากนั้น เมื่อกระทบกับเงาดำ ช่างเหมือนไม้ขีดที่โยนลงไปในน้ำ ดับลงไปอย่างรวดเร็ว

ทุกคนต่างตกตะลึง เห็นได้ชัดว่ามันกำลังแผ่พลังชั่วร้ายออกมา เหตุใดยันต์ปราบมารชั่วจึงใช้ไม่ได้หรือว่า…เขากลายเป็น  เทพ  จริงๆ ?

ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนหน้าซีดเผือดลง

 ฮึ!  ร่างใหญ่ส่งเสียงเยาะเย้ย ความรู้สึกบีบคั้นที่อธิบายไม่ถูกในบริเวณโดยรอบยิ่งเพิ่มมากขึ้น ศิษย์บางคนไม่สามารถต้านทานได้ถึงกับคุกเข่าลง แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งหลายก็แทบต้านไม่ไหวเช่นกัน อีกฝ่ายพูดขึ้นมาทีละคำ  ศรัทธาข้า หรือ…ตาย!  ทันทีที่พูดจบ เส้นด้ายสีดำหลายเส้นก็ถูกส่งออกมาจากเงาดำขนาดใหญ่ ก่อนที่จะพุ่งเข้าโจมตีที่พวกเขา

ท่านอาวุโสทั้งหลายตาเบิกกว้างอย่างรวดเร็ว ตระหนักได้ว่านี่เป็นวิธีที่เขาใช้กับผีดิบเมื่อครู่นี้ ใจของพวกเขาหยุดนิ่งไป ทุกคนต่างหยิบยันต์ป้องกันออกมาสกัดกั้นการโจมตี ยกเว้นแต่…อวิ๋นเจี่ยว!

ท่านอาวุโสทั้งหลายยืนอยู่แถวหน้าอยู่แล้ว แต่อวิ๋นเจี่ยวยืนอยู่ข้างเจียวเหิงอีตลอดเพราะต้องไปวางข่ายพลัง จึงทำให้นางยืนอยู่แถวหน้าในตอนนี้ด้วย อีกทั้งยันต์ป้องกันทั้งหมดบนตัวนางถูกแปะไว้ที่บ้านก่อนหน้าเพื่อสกัดกั้นผีดิบ นอกจากนี้นางไม่มีเส้นชีพจรเสวียน นางจึงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เลย

 เจ้าหนู!  ชายแก่เป็นคนพบปัญหาคนแรก เขาตะโกนออกมาอย่างตกใจ อยากจะวิ่งเข้าไปแต่ก็ไม่ทันการ

 สหายอวิ๋น!  เจียวเหิงอีก็ตกใจ เนื่องจากเชื่อใจนาง จึงไม่ได้ทำการปกป้องนางด้วย

อวิ๋นเจี่ยว  …  เอ็มเอ็มพี!

เมื่อเห็นพลังงานสีดำใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งจะทะลุตัวนางไป ทันใดนั้นนางกัดฟันคว้าเอายันต์ที่อาจารย์ปู่ให้มาก่อนออกจากอาราม ยังไม่ทันมองยันต์ให้ละเอียด นางก็โยนมันออกไปอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นแสงสีทองก็สว่างขึ้นทันที ราวกับใบมีดที่แหลมคม แสงสีทองนั้นบังคับให้พลังงานสีดำทั้งหมดถอยกลับไปในทันที

 อ๊าก!!!  ร่างยักษ์ทางนั้นร้องโหยหวนขึ้นมา ก่อนจะก้าวถอยหลังออกไปอย่างทุลักทุเล  นี่มันอะไรกัน 

เห็นเพียงแต่ยันต์ที่อวิ๋นเจี่ยวโยนออกมานั้นลอยขึ้นกลางอากาศ อีกทั้งยิ่งลอยยิ่งสูง และส่องแสงสีทองอร่ามตาออกมา

 หรือนี่จะเป็น…  เจ้าสำนักสวีมองไปยังแสงสีทองที่ปรากฏขึ้นอย่างเหลือเชื่อ ภายในใจปรากฏความคิดที่ไม่อาจเป็นไปได้ขึ้นมา  หรือว่า… 

 ยันต์เชิญเทพ!  ท่านอาวุโสเจียวชิงพูดออกมา เห็นได้ชัดว่านี่คือแสงของสวรรค์! มีเพียงยันต์เชิญเทพเท่านั้นที่จะส่องแสงแบบนี้ออกมา

ยันต์เชิญเทพแปลตรงตัวก็คือยันต์วิเศษสำหรับเชิญเทพ แต่กลับเป็นยันต์ระดับต่ำสุด เนื่องจากเทพนั้นก็ต้องอยู่สวรรค์ที่ห่างไกล ไม่ได้อยากเชิญก็เชิญมาได้ มีข่าวลือว่าจะมีเฉพาะผู้ที่โชคดีเท่านั้นที่จะได้รับคำตอบรับจากเทพ แต่ตั้งแต่มีเสวียนเหมินก่อตั้งมาก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จ ดังนั้นยันต์นี้จึงไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง เมื่อเวลาผ่านไป จึงไม่มีใครที่จะสามารถวาดยันต์นี้ได้อีก เพราะอย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถเชิญมาได้อยู่ดี

แต่สถานการณ์ตอนนี้… ได้ผลอย่างเห็นได้ชัด!

(⊙ o ⊙)

เจ้าสำนักสวีและผองเพื่อนตกตะลึง! เมื่อเห็นว่าแสงกำลังจะหายไป เขาจึงพูดเตือนเสียงดังทันที  ท่านสหายอวิ๋น ท่องคาถาเร็วเข้า!  หากรอจนแสงสีทองหายไป มันก็สายเกินไป

อวิ๋นเจี่ยวผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นท่องคาถาเสียงดัง  ประตูสวรรค์และปฐพี สิ่งมีชีวิตใต้หล้า ลงโทษวิญญาณชั่วร้าย อัญเชิญพระเจ้า! 

ทันทีที่เสียงของนางจบลง แสงสีทองพร่างพรายก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที ทะลุผ่านเมฆสีดำหนาทึบ ก่อเป็นลำแสงพุ่งตรงสู่ท้องฟ้า วินาทีต่อมาร่างหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ เขาแต่งกายด้วยชุดสีขาวไร้การแปดเปื้อนและใบหน้าที่ไร้ที่ติ เขามาพร้อมกับอำนาจที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองตรงมาที่เขา

เขาลอยอยู่กลางอากาศ ไม่ได้ทำอะไรแม้แต่น้อย แต่วิญญาณชั่วร้ายรอบๆ ดูเหมือนจะหวาดกลัวเขาอย่างมาก พวกมันถอยกลับไปทุกทิศทุกทาง ดวงตาของเขากวาดมองผู้คนที่อยู่บนพื้น มือหนึ่งถือของวิเศษลักษณะเรียวยาวสองอัน อีกมือหนึ่งถือ…ชาม! ?

Σ(°△°|||)︴

อวิ๋นเจี่ยว  … 

ไป๋อวี้  … 

-_-|||

ฝึกฝนทางเต๋าอะไรกัน รู้สึกไม่อยากทำแล้ว!

ขายหน้าชะมัดเลย!

Related

 

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing

คำโปรย

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบินขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่งรัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน