ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 31.1

ตอนที่ 31.1

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 31.1

ตอนที่ 31.1

บทที่ 31

 เอสทีร่า มาทางนี้สักครู่สิ 

เอสทีร่าที่กำลังจดบันทึกการรักษาของคนไข้ที่เพิ่งกลับออกไปเมื่อครู่ลุกขึ้นยืน เมื่อได้ยินเสียงเรียกของดอกเตอร์โอมัลลี่ผู้เป็นอาจารย์

ดอกเตอร์โอมัลลี่ไม่ใช่อาจารย์ที่น่ากลัวหรือเข้มงวดอะไรนัก แต่วันนี้ไม่รู้ว่าทำไม สีหน้าถึงได้ดูไม่ค่อยจะดีนัก

เอสทีร่าลอบสังเกตพลางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกายดอกเตอร์โอมัลลี่อย่างเงียบๆ

 ได้ยินเรื่องคร่าวๆ จากเจสันแล้ว และเท่าที่เห็นก็ดูเหมือนว่าช่วงนี้เจ้ากำลังหลอมอะไรแปลกๆ 

 อา… 

เอสทีร่าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากกว่านั้นก็พอจะคาดเดาได้ว่าดอกเตอร์โอมัลลี่ต้องการจะพูดอะไร เธอจึงตั้งใจจะอธิบายออกไปด้วยความร้อนรน

แต่ดอกเตอร์โอมัลลี่กลับชิงพูดขึ้นเสียก่อน

 ล้มเลิกความตั้งใจเสียเถอะ 

 อะ…อาจารย์ 

เอสทีร่าเบิกตากว้างมองดอกเตอร์

ทว่าดอกเตอร์โอมัลลี่กลับเพียงแค่ส่ายศีรษะเท่านั้น

 ข้ารู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ ที่เจ้าเหมือนจะเล่นไปทั่วเพราะคำยั่วยุของคุณหนูฟีเรนเทียที่ยังเด็ก เอสทีร่า 

 คำยั่วยุเหรอคะ 

 เด็กอายุแค่แปดขวบจะไปรู้อะไรได้ ถึงแม้จะรู้ว่าเจ้าก็แค่ทะเยอทะยานมากจนวิ่งเต้นเพียงแค่เพราะคำยั่วยุแบบนั้นก็เถอะ 

ดอกเตอร์โอมัลลี่กำลังตำหนินาง

ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นเสียงสูงหรือทำหน้านิ่วอย่างเปิดเผย แต่เอสทีร่าก็สามารถรับรู้ได้อย่างเพียงพอ

 ไม่นะคะ อาจารย์! คุณหนูฟีเรนเทียตั้งใจจะช่วยข้าจริงๆ ค่ะ! 

เอสทีร่าโมโหอย่างหาได้ยากในขณะที่พูดประท้วง

เธอไม่สนใจหากใครจะสมเพชตัวเอง แต่เธอไม่อาจทนได้ถ้ามีใครพูดถึงคุณหนูฟีเรนเทียแบบนี้

 ตั้งใจจะช่วยข้าจากใจจริง… 

 เฮ้อ เอสทีร่า 

ดอกเตอร์โอมัลลี่ถอนหายใจราวกับพื้นถล่มปลายหางเสียงได้ยินเสียงเดาะลิ้นจิ๊จ๊ะดังแว่วในลำคอ

 ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้าที่ทะเยอทะยานอยากจะไปอะคาเดมี แต่ปีนี้ยอมแพ้แค่นี้เถอะ 

ดอกเตอร์โอมัลลี่เกลี้ยกล่อมให้ล้มเลิกความตั้งใจเป็นครั้งที่สอง

 ทั้งหมดที่ข้าพูดก็เพื่อตัวเจ้าเองทั้งนั้น 

พูดเพื่อตัวเธอเองจริงๆ น่ะเหรอ

เอสทีร่าก้มหน้านิ่ง พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกสงสัยในตัวอาจารย์ของตน

 อีกอย่างข้าก็เขียนใบแนะนำให้แก่เจสันไปแล้วไม่ใช่หรือไง จะมีใครช่วยเขียนใบแนะนำให้เจ้าได้อีก.. 

ดอกเตอร์โอมัลลี่ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมเอสทีร่าต่อ

 อย่าโลภมากนักเลย รอไปก่อนเถอะ แล้วเช่นไรปีหน้าข้าจะช่วยเขียนใบแนะนำให้เจ้าเอง 

ต่อให้อีกฝ่ายบอกว่าเธอโลภมากเธอก็ไม่มีคำพูดอะไรจะโต้แย้ง

เอสทีร่ากัดริมฝีปากล่างแน่น

ตัวเธอที่เป็นเพียงแค่สามัญชนบ้านนอกคนหนึ่ง แค่มาได้ถึงจุดนี้ ก็แทบจะไม่ต่างอันใดจากปาฏิหาริย์แล้ว

ได้มีหน้าที่การงานรักษาโรคภัย ในขณะเดียวกันก็สามารถหาเงินได้ทั้งยังได้โอกาสในการเรียนรู้ด้านการหลอมโอสถภายใต้การทำงานรักษาผู้คนในลอมบาร์เดียที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

ดังนั้นที่ดอกเตอร์โอมัลลี่พูดก็ถูกต้องแล้ว

หากยังคิดต้องการตำแหน่งนักวิจัยของอะคาเดมีอีก ก็สมควรแล้วที่จะโดนตำหนิว่าโลภ

เอสทีร่าเองก็เข้าใจสายตาที่เต็มไปด้วยคำตำหนิของดอกเตอร์เป็นอย่างดี

 อาจารย์ 

เอสทีร่าเอ่ยพูดเสียงแผ่ว

 ข้าอยากจะลองไปให้ถึงเท่าที่ข้าจะสามารถไปได้ค่ะ 

 เอสทีร่า ข้าพูดถึงขนาดนี้แล้ว!  

 ข้าอยากจะเติมเต็มความคาดหวังของคุณหนูฟีเรนเทียค่ะ อาจารย์ 

ดอกเตอร์โอมัลลี่อยากที่จะเกลี้ยกล่อมเอสทีร่าใหม่อีกครั้ง แต่เมื่อได้ยินชื่อของฟีเรนเทีย เขาก็ต้องปิดปากลง

 คุณหนูบอกว่าข้าทำได้ค่ะ บอกว่าจะช่วยข้า จะช่วยให้ข้าได้ไปอะคาเดมีค่ะ 

เอสทีร่านึกถึงช่วงเวลาเมื่อตอนนั้นขึ้นมาจึงยิ้มกว้าง

 คุณหนูยังเด็กเหมือนอย่างที่อาจารย์พูด แต่ข้าเชื่อค่ะ 

คุณหนูบอกว่าจะช่วยให้เธอสานฝันได้สำเร็จ ขนาดได้ฟังเรื่องความฝันที่ยิ่งใหญ่เกินตัวหญิงสามัญชนธรรมดาๆ คนหนึ่งก็ยังไม่หัวเราะเยาะ แต่กลับสัญญาว่าจะช่วยเหลือเธอ

นัยน์ตาสีเขียวงดงามเมื่อตอนนั้นมันสลักฝังลึกลงบนหัวใจของเอสทีร่าไปเสียแล้ว

 ต่อให้ข้าบอกว่า ถ้าเจ้ายังยืนกรานที่จะทำเรื่องโง่เง่าแบบนี้ต่อไป ข้าจะไม่เขียนใบแนะนำให้เจ้าก็ตามอย่างนั้นหรือ 

สุดท้ายดอกเตอร์โอมัลลี่ก็เลือกที่จะข่มขู่

เดิมทีเขาตั้งใจว่าจะจบบทสนทนากับเอสทีร่าด้วยเหตุด้วยผล

เอสทีร่าเป็นศิษย์ที่พูดน้อยและเชื่อฟังคำสั่งของเขาอย่างว่าง่ายอยู่เสมอ ไม่นึกเลยว่าจะดื้อดึงได้ขนาดนี้

แบบนี้ถ้าหากเขาไม่อาจยุติความตั้งใจของเอสทีร่าได้ ฐานะดอกเตอร์ของเขาคงจะลำบากขึ้นมากแน่

เมื่อวานเบเจอร์ ลอมบาร์เดียเรียกตัวดอกเตอร์โอมัลลี่ไปพบ

เขาคิดแค่ว่าเป็นการเรียกตัวไปตรวจที่บ้าน แต่เมื่อไปถึงกลับพบเบเจอร์นั่งอยู่ด้วยกันกับบิดาของเจสัน ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าฟรังค์

มันเป็นสถานการณ์ที่เขาไม่ได้ตกอกตกใจอะไรนัก เพราะทราบถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่สนิทสนมกันและมีเรื่องเงินทองเข้ามาข้องเกี่ยวเป็นประจำอยู่แล้วแต่ตอนที่เจ้าของร้านค้าฟรังค์บ่นเรื่องเอสทีร่าต่อหน้าเบเจอร์ เขาตกใจมากจริงๆ เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่า เด็กคนนั้นจะมีความมักใหญ่ใฝ่สูงขนาดนั้น

เจ้าของร้านค้ากล่าวว่า การที่เด็กแบบนั้นกล้าหวังใบรับรองของดอกเตอร์มันช่างเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ ดังนั้นให้ขับไล่เอสทีร่าออกไปเสียจะว่าอย่างไร

ทั้งยังบอกอีกว่า เพราะลูกศิษย์ที่ไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวนางนั้นจะก่อปัญหาให้เขาต้องหนักใจมากเป็นแน่ และหวังว่าดอกเตอร์อย่างเขาไม่ควรจะมานั่งพะวงอยู่กับเรื่องยุ่งยากพวกนั้นต่อไปสักพักใหญ่ๆ จะดีกว่า

พูดง่ายๆ ก็คือ ห้ามไม่ให้เขาเขียนใบรับรองให้เอสทีร่าหรือใครทั้งสิ้นสักระยะหนึ่ง

แถมยังแนะนำเสียยกใหญ่ให้ดอกเตอร์โอมัลลี่ไปเกลี้ยกล่อมอีกฝ่าย เพื่อสั่งให้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะไปอะคาเดมีเสีย

ตอนที่นึกถึงนิสัยทึ่มทื่อของเอสทีร่า เขาคิดว่าแค่พูดไม่กี่คำ อีกฝ่ายก็คงจะยอมล้มเลิกความตั้งใจในการไปสถาบันศึกษาอย่างว่าง่าย

 คิดให้ดี 

ดอกเตอร์โอมัลลี่มั่นใจว่า เขาพูดถึงขนาดนี้แล้ว เอสทีร่าคงจะพับเก็บความดื้อรั้นนั่นกลับไปแน่

ภาพของเด็กสาวที่ลังเลไปครู่หนึ่ง ทำให้เขาคิดว่าแค่นี้ก็คงจะเรียบร้อยแล้ว

แต่ราวกับโกหก เพียงไม่นานเอสทีร่ากลับพยักหน้าตกลง

 ค่ะ อาจารย์ ขอโทษด้วยค่ะ ข้าเชื่อคุณหนูฟีเรนเทียค่ะ 

 เหอะ! จริงๆ เลย 

ดอกเตอร์โอมัลลี่พูดอะไรไม่ออก

เขาคิดแค่ว่า เอสทีร่าเมื่อลุ่มหลงในอะไรก็ยึดติดอยู่กับสิ่งนั้นมากเสียจริง

เขามองเอสทีร่าด้วยความไม่พอใจ เดาะลิ้นเสียงดัง

อย่างไรตั้งแต่แรกมันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

เชื่อคำพูดของเด็กอายุแค่แปดขวบ ขนาดคำพูดของอาจารย์ก็ยังไม่สนใจช่างโอหังอะไรขนาดนั้น

ดอกเตอร์แอบคิดในใจว่า เอาไว้เขาจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างลดเงินเดือนในภายหลังเสียเลย

 เจ้าดึงดันจะทำให้ข้าลำบากใจจนถึงที่สุดจริงๆ สินะ 

 คะ? ทำให้ลำบากเหรอคะ 

เอสทีร่าเอียงคอด้วยความงุนงง แต่ดอกเตอร์โอมัลลี่กลับหันศีรษะหนี เอ่ยพูดเสียงเย็นชา

 เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ไปได้แล้ว 

คำขับไล่อย่างเย็นชาทำให้เอสทีร่าได้แต่โค้งศีรษะกล่าวลาอย่างช่วยไม่ได้ แล้วเดินหันหลังกลับออกมา

ทว่าความรู้สึกไม่สบายใจที่เอาแต่รู้สึกไม่หยุดในซอกมุมหนึ่งของหัวใจนี่มันช่วยไม่ได้จริงๆ

Related

 

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing

คำโปรย

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบินขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่งรัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท