ธิชาเหยียบเบรกรถอยู่ตรงประตูโรงจอดรถ และผลักประตูรถและลงจากรถด้วยสีหน้าเย็นชา
ไพลินตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อจริงๆ ในเวลานี้ก็มองเห็นแววตาอันคนกริบของธิชา ในใจเลยพอจะเดาได้หรือว่าเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาแล้ว…
เธอไม่คิดพะวงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว พลางเกี่ยวแขนของธาวินเอาไว้แน่นอย่างถนัดมือ คุณชาย แววตาของธิชาช่างโหดร้ายมาก เหมือนกับต้องการที่จะฆ่าคนกัน เมื่อครู่เธอจงใจจะขับรถชนฉันจริงๆ พวกเราอีกนิดก็จะไม่มีชีวิตรอดแล้ว! คุณชาย คุณต้องออกหน้าให้ฉันนะคะ
ไพลินถูกเอาใจจนเคยชินแล้ว ธาวินคอยปกป้องเธอเป็นอย่างดีมาโดยตลอด อาการนิสัยเสียและการกลับกลอกของเธอก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยด้วยเป็นผลมาจากการได้รับความเอาใจเนี่ยแหละ
สิ่งเดียวที่ธิชาแย่งในสิ่งที่เป็นของตนเองไป ไพลินเกลียดเธอเข้าไส้ ก็แค่ต้องการจะฉวยจังหวะเหยียบผู้หญิงคนนี้ให้จมอยู่ใต้ฝ่าเท้า
ทว่าเวลานี้ กลับเห็นความมืดหม่นในรูม่านตาของธิชากำลังมองที่คนที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองคน
แม้ว่าเมื่อครู่ธาวินเกือบจนโดนรถชนก็ตาม แต่สีหน้ายังไม่แสดงอารมณ์โกรธเคืองแสดงออกมา
เขาหรี่ตาเล็กน้อย พร้อมทั้งถามกลับด้วยเสียงเคร่งขรึม นี่คุณเป็นอะไรไปเนี่ย?
ธิชาจ้องมองใบหน้าของไพลินด้วยอาการแค้นเคืองเข้าไส้
ชีวิตของเธอมันไม่มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?
ขนาดผู้หญิงทั่วไปที่อยู่ข้างกายของธาวินก็ถึงขั้นลงมือคิดบัญชีกับเธอ เกลียดจนอยากจะฆ่าเธอให้ตายในชั่วทุกวินาทีเลย
ธิชากระตุกมุมปากขึ้น พลางใช้สายตาเย็นยะเยือกชำเลืองมองใบหน้าของไพลิน
แทนที่จะถามฉันว่าฉันเป็นอะไร ลองถามพี่ไพลินดูไหมว่าทำเรื่องดีๆ อะไรลงไป!
ธาวินได้ยินเหมือนมีความผิดปกติเกิดขึ้น เขาลองคว้าข้อมือของธิชาเอาไว้ด้วยหน้าตาเคร่งขรึม
ทว่าเธอกลับพยายามสะบัดออกทันที ธิชาคว้าคอเสื้อของไพลินทันที จากนั้นก็ฉุดลากมาอีกทางหนึ่ง พลันใช้สายตาเชือดเฉือนจ้องมองอย่างกินเลือดกินเนื้อ และถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ฉันไปทำอะไรถึงได้ไปทำร้ายจิตใจจนบาดหมางกับพี่ไพลินเหรอ พี่ไพลินถึงได้ต้องการชีวิตของฉันให้ได้?
เมื่อไพลินได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว ในใจก็ย่อมรู้ว่าเรื่องมันต้องถูกเปิดเผยจนเสียท่าหมดแล้ว
แต่ว่าเธอก็ยังคงไม่แสดงสีหน้าสะทกสะท้าน ถึงอย่างไรก็อยู่กับธาวินมาตั้งหลายปีแล้ว และถือว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมรสุมต่างๆ นานามามากมาย ธิชาแค่หัวเดียวกระเทียมลีบไม่มีพิษมีภัยอะไรมันทำให้เธอขวัญอ่อนไม่ได้หรอก
แววตาอันสงบเสงี่ยมไพลินจ้องมองใบหน้าของเธออย่างสงบนิ่ง สีหน้าเหมือนปกติทั่วไป น้ำเสียงเหน็บเยาะเย้ยเล็กน้อย เหรอ? แล้วฉันจะไปเอาชีวิตของคุณยังไงกันล่ะ ก็ตอนนี้คุณไม่ใช่ว่ายืนเป็นปกติอยู่ตรงหน้าฉันอยู่นี่ไงไม่ใช่เหรอ คุณธิชาเป็นน้องสาวในนามของคุณชาย ฉันก็ต้องให้ความเคารพกับฉันอยู่แล้ว แต่เรื่องทั่วไปก็สามารถพูดเหตุผลได้ แต่การที่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของคุณชายก็ไม่สามารถใช้คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคในการใส่ร้ายฉันได้
ธิชามุมปากของกระตุกขึ้นเล็กน้อย แล้วคุณมันจัดอยู่ในจำพวกไหนล่ะ นี่ฉันใส่ร้ายคุณเหรอ?
ไพลินอาศัยน้ำเสียงของเธอก็พอจะเดาออกว่าในมือของธิชาคงไม่มีหลักฐานอะไร เธอยิ่งจองหองหนักขึ้น และยิ่งทำให้ตนเองดูไร้เดียงสาเพื่อฉวยจังหวะเรียกร้องให้คุณชายใจอ่อน
ไพลินพูดอย่างถ่อมตัว ถ้าคุณธิชามีหลักฐานที่บอกว่าฉันเป็นคนทำร้ายคุณ ก็เอาออกมาแสดงให้เห็นสิ ถ้าไม่มี…เมื่อครู่ตอนที่คุณหักพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนทิศทางจะมาชนฉันนี่คือการจงใจฆ่าฉันเลย!
ธิชาผ่อนแรงตรงคอเสื้อของเธอ พลันแสยะยิ้มออกมาเย็นชา ทว่าก็ตักเตือนกลับอย่างระมัดระวัง พร้อมทั้งเงื้อมือขึ้นและตบหน้าของเธอฉาดใหญ่
เพี๊ยะ เสียงดังลั่น ทั้งหนักหน่วงและดังฟังชัด
ไพลินไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย จนถูกโดนตบฉาดใหญ่จนศีรษะเอียง จนใบหน้าครึ่งหนึ่งแดงจนบวมฉึ่งแสบร้อนไปด้วย
เธอเป็นคนที่โดดเด่นคนใกล้ตัวของธาวิน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้
ไพลินเอื้อมมือมาประกบใบหน้าเอาไว้ พลางหงุดหงิดมาจนดวงตาแดงก่ำ
แก…แกกล้าตบฉัน ธิชาแกมีสิทธิ์อะไรมาตบฉัน?!
ธิชาหน้าดำคร่ำเครียด พลางกระตุกมุมปากอย่างเย็นชา ไม่ใช่ว่าพูดเรื่องเหตุผลเหรอ ฉันก็ใช่ฝ่ามือนี้ในการพูดเรื่องหลักการกับแกไง
ไพลินอยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆแล้ว เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าธิชาจะกล้าบังอาจต่อหน้าธาวินเช่นนี้
เธอทั้งร้องไห้น้ำตาตกทั้งเกาะอยู่ด้านข้างธาวินแน่น คุณชายธิชาสติแตกจนปีศาจเข้าแล้ว ไม่รู้ว่ากินยาอะไรผิดมา คุณชาย…
ใบหน้าอันงดงามของไพลินร้องไห้อย่างกับห่าพายุลง ถึงขั้นถ้าผู้ชายมาเห็นแล้วต่างรู้สึกใจอ่อนทันที
ทว่าธาวินกลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาตั้งแต่แรก แต่ฉวยจังหวะตอนที่เตรียมก้าวขาเดินออกไปนั้น พลันคว้าข้อมือเธอเอาไว้ทันที
ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
……
ถึงขั้นธาวินมาถามไถ่แล้วธิชา ก็เลยไม่คิดปกปิดอีกเลย เธอพูดเรื่องราวทั้งหมดก่อนหน้านี้ต่อหน้าธาวินให้ฟังรอบหนึ่ง
พอได้ฟังแล้วสีหน้าไม่มีความเป็นมิตรอีกเลย พลันให้คนใกล้ตัวที่สนิทของตนเองไปตรวจสอบทันที
ไม่นานนักก็ตรวจสอบจนได้เรื่องแล้ว แต่ว่าไพลินก็ยังกัดฟันพูดว่าลูกน้องของตนเองลงมือทำโดยไม่คิดให้รอบคอบ
คุณชาย เรื่องที่ฉันทำไม่กล้าที่จะยอมรับ แต่ว่าเรื่องที่ไม่ได้ทำนั้น ใครก็อย่ามาบีบให้ฉันรับ ลูกน้องของฉันมีอยู่เป็นร้อย ๆ คน ฉันไม่สามารถจะไปจับตาดูในสิ่งที่เรากระทำได้ทุกวินาที ช่วงนี้ธิชาก็พาคนของตนเองทำเรื่องเย่อหยิ่งในถิ่นของฉัน เธอยังเด็กนัก แถมยังคนใหม่ และยังไม่มีทักษะพอ จนลูกน้องที่อยู่ภายใต้ต่างรู้สึกไม่พอใจ นี่ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ลูกน้องของไพลินก็ถูกเรียกมาเพื่อเป็นพยาน จนผลสรุปก็คือลูกน้องนั้นมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับธิชาจนมีอันธพาลคนหนึ่งมองเธอแล้วรู้สึกขัดหูขัดตาเลยจัดการเล่นตุกติกกับรถของธิชาเองเลย และเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไพลินเลย
ท่ามกลางสถานการณ์นี้ไม่มีหลักฐานในการที่ไพลินเป็นคนสั่งการให้ทำด้วยตัวเองได้ และก็หาบันทึกที่เธอออกคำสั่งกับลูกน้องของเธอ การตกในสถานการณ์เช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ครั้งนี้ธิชาโชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด ดังนั้นธาวินเลยไม่ได้รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที และก็ไม่ได้ลงโทษให้กับไพลินที่เป็นแม่ทัพใหญ่และแข็งแกร่งของตนเอง เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นเมื่อครู่การตบหน้าในครั้งนั้นถือว่าเป็นบทเรียนและการสั่งสอนที่ได้ลงโทษแล้ว
ธาวินชำเลืองมองไพลินที่นั่งคุกเข่าหลังตรงอยู่ใต้ร่างกายของเขาอย่างไร้ความรู้สึก
เขาเม้มริมฝีปากเอาไว้ น้ำเสียงดุดัน ไพลินฉันให้โอกาสคุณสารภาพความจริงออกมาอีกครั้ง เรื่องนี้คุณบงการอยู่เบื้องหลังใช่ไหม?
ไพลินทำท่าทางยอมตายแต่ไม่ยอมรับสารภาพ ฉันเปล่า!ทุกคนต่างก็รู้ว่าธิชาเป็นคนของคุณชาย แม้ว่าฉันจะมีอำนาจสูงมากเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่มีทางที่กล้าจะแตะต้องคนของคุณชาย ยิ่งไม่ใช่วิธีต่ำช้าแบบนี้หรอก
ธาวิน พูดต่อ งั้นคุณก็ดูแลลูกน้องได้ไม่ดีพอ จนทำให้ลูกน้องทำผิดพลาดมหันต์ เรื่องนี้คุณยอมรับหรือไม่?
ไพลินหน้าซีดเผือด พลางใช้สายตาจ้องมองธิชาที่ไม่มีรอยแผลใดๆ บนตัวสักนิดที่นั่งอยู่ข้างกายธาวินด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
แม้ว่าในใจของเธอนั้นจะอัดอั้นความชั่วร้ายเอาไว้ แต่สีหน้าก็ทำได้แค่อดทนเอาไว้ ข้าน้อยรู้ตัวผิดไปแล้ว ลูกน้อยที่อยู่ใต้อาณัติก็มากมายเหลือเกิน จนไร้การอบรมสั่งสอนมันเป็นความผิดของฉันจริงๆ ฉันยอมรับโทษอย่างจริงใจ
ธาวินยกนิ้วขึ้นเพื่อเคาะลงบนโต๊ะ น้ำเสียงอันเย็นเฉียบแต่ไม่มีอารมณ์อื่นเจือปน
งั้นคุณยอมรับผิดแล้วย่อมต้องมีการลงโทษ และรู้สึกว่าลูกน้องที่อยู่ใต้อาณัตินั้นคนมากมายจนทำให้ดูและจัดการได้ไม่ดี ธิชาเขาเติบโตอยู่ข้างกายฉันมา ผลลัพธ์จากความสามารถของเธอฉันก็ได้ยินได้เห็นกับตากันอยู่แล้ว คุณช่วยชี้แนะอยู่สักระยะ ตอนนี้เธอสามารถจัดการได้เองแล้ว ไพลินคุณจัดการเอาขอบเขตงานทั้งหมดของคุณแบบมาครึ่งหนึ่งให้กับธิชา ในเมื่อคุณสองคนไม่ถูกชะตากัน ต่อไปต่างแยกกันทำงาน ไม่เข้าไปยุ่มย่ามซึ่งกันและกัน
ไพลินได้ยินแล้ว สีหน้าพลันแดงแจ๋ทันที จนหน้าแดงเริ่มเปลี่ยนเป็นเขียวแทน จนสามารถพูดได้ว่าใบหน้าเปลี่ยนสี มีครบทุกสีหน้าอย่างที่
หัวใจของเธอเจ็บปวดหนักหน่วงเป็นระยะ เวลานั้นโกรธจัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
ขอบเขตอำนาจของเธอยิ่งใหญ่ขนาดนี้ นี่เป็นผลงานในการสะสมมาเป็นเวลาหลายปี
ไม่เพียงแต่สถานบันเทิงยามค่ำคืน บ่อนกาสิโน ยังมีร้านอาหาร และวงการบันเทิงต่างๆ อีกมากมายอีก
แค่เรื่องเล็กน้อยเรื่องเดียว ธิชาสามารถแบ่งเขตอำนาจของเธอที่มีทั้งหมดไปได้ครึ่งหนึ่งเลย!
ริมฝีปากบางของธาวินเม้มเล็กน้อย ทำไม คุณไม่พอใจเหรอ?