เอวของธิชาถูกเขาบีบจนเจ็บ เดิมทีก็เริ่มโกรธเล็กน้อยแล้ว
พอได้ยินเขาบรรยายฉากที่น่าสยองขวัญและน่าขยะแขยงอีกครั้ง… ฉันก็เริ่มคลื่นไส้ขึ้นมาทันที
เธอขมวดคิ้ว มองไปที่ธาวินนิ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ถ้าพี่ชายไม่อยากให้ฉันเจอกับเขา งานแบบคืนนี้ พี่ก็ไม่ควรพาฉันมา
จู่ๆ ก็มีรอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่บึ้งตึงของธาวิน และเสียงของเขาก็ดังขึ้นข้างหูของเธอก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น ถ้าไม่พาเธอมาที่นี่ เรื่องสนุกในคืนนี้ก็เริ่มไม่ได้สิ
… พอธิชาได้ยินก็มึนงงไปทันที แต่ก็พอฟังออกว่าเขามีแผนชั่วร้ายอะไรบางอย่าง…
เธอกำลังจะถามว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ธาวินกลับถูกผู้บริหารระดับสูงดึงไปดื่มและพูดคุยกันต่อ
ธิชาถอนหายใจออกมา เธอรู้สึกไม่สบายใจเลย ก่อนจะเดินไปตรงจุดอาหารเพียงลำพัง เตรียมที่จะซ่อนตัวอยู่ในจุดรับประทานอาหารเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในงาน
ตอนเที่ยงเธอกินได้ไม่มาก จนถึงตอนเย็นก็ไม่ได้อะไรตกถึงท้อง เดิมทีเธอควรจะหิวมากกว่านี้ แต่ในปากและลำคอของเธอยังรู้สึกเหมือนมีกลิ่นของธาวินติดอยู่…
เธอจึงกินได้แค่ผักนิดหน่อย ก่อนที่เธอจะหยิบแชมเปญหนึ่งแก้วแล้วหามุมเงียบนั่งเหม่อลอย
งานเลี้ยงแบบนี้อย่างน้อยต้องใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง ธิชากำลังคิดหาเหตุผลที่เหมาะสมเพื่อที่เธอจะฉวยโอกาสกลับไปก่อน…
ในตอนที่เธอนั่งเหม่ออย่างเงียบๆ เสียงหัวเราะของผู้หญิงก็ดังขึ้นข้างหลังเธอ
ในเสียงหัวเราะเต็มไปด้วยการเสียดสี จากนั้นก็ตามมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเสแสร้งเกินจริง โอ๊ะ นี่ไม่ใช่ผู้หญิงร่าน หน้าไม่อายของตระกูลธนาภูวนัตถ์เหรอเนี่ย? ทำไมตอนนี้คนแบบนี้ถึงเข้าร่วมงานเลี้ยงสมาคมธุรกิจแห่งเมืองJได้? ผู้หญิงแบบนี้แม้แต่เมียน้อยยังไม่คู่ควรเลย ถ้าเป็นสมัยก่อนก็เป็นแค่ผู้หญิงในหอนางโลม… ผู้หญิงหน้าไม่อายแบบนี้ยังเข้างานเลี้ยงได้ นี่ฉันต้องไปคุยกับผู้ดูแลงานสักหน่อยไหม
ธิชาหันไปมองด้านข้าง จึงพบว่าคนที่มาไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน เธอเคยเจอหลายครั้ง เธอก็คือศิรินภาลูกพี่ลูกน้องของ ญาณิน ได้ยินมาว่าแม่ของศิรินภาเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก เธอจึงได้รับการเลี้ยงดูจากน้าสาวตั้งแต่เด็ก สนิทสนมกับคุณนายญาณินมาก
ตอนนี้ทุกคนต่างก็คิดว่าธิชาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ญาณินแท้งลูก อย่าว่าแต่ลูกพี่ลูกน้องของญาณินเลย
ผู้หญิงคนนี้จะพูดจิกกัดและใจร้ายกับเธอก็ไม่แปลกใจเลย ธิชาเพียงแค่เหลือบมองเธอ จากนั้นก็ละสายตาไปทางอื่นและเมินเฉยเธอไป
ท่าทีของเธอทำให้ศิรินภาโกรธมาก ศิรินภาใส่รองเท้าส้นสูงเดินตึงตังเข้ามาใกล้เธอ แล้วชี้ไปที่หน้าของเธอก่อนจะสาปแช่งไปด้วย ธิชา อย่ามาทำเหมือนเป็นใบ้หูหนวกนะยะ ยัยผู้หญิงสารเลว ร่านตั้งแต่ยังสาว แม้แต่พี่ชายของตัวเองก็ไม่ยอมปล่อยไป เสียทีที่น้องณินของเราเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดมาตั้งแต่เด็ก แต่เธอกลับไม่ใช่แค่แย่งสามีของเธอเท่านั้น ยังทำร้ายลูกในท้องที่อายุแค่ไม่กี่เดือนก็ไม่ยอมปล่อยไป เธอนี่มันสารเลวจริงๆ
ในเวลานี้งานเลี้ยงยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ผู้ชายส่วนใหญ่กำลังยืนดื่มและพูดคุยกัน ตรงจุดรับประทานอาหารถูกรายล้อมไปด้วยบรรดาหญิงสาวคู่ควงที่มาด้วย บรรดาหญิงสาวมักจะชอบการนินทาเป็นพิเศษ เสียงของศิรินภาจริง ๆ แล้วก็ไม่ดังมาก แต่ก็ยังได้รับความสนใจจากบรรดาผู้หญิงรอบ ๆ พื้นที่ตรงจุดนี้จึงถูกล้อมด้วยพวกผู้หญิงทันที
ธิชาทำแค่ลุกขึ้นจากโซฟา เธอมองไปที่ศิรินภา โดยสีหน้าเรียบนิ่ง และพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง ขอโทษนะคะ คุณศิรินภาใช่ไหมคะ คุณญาณินกับตระกูลธนาภูวนัตถ์เรามีความสัมพันธ์เรื่องการแต่งงานกัน ส่วนคุณเป็นแค่ญาติของตระกูลมงคลวัชรกุล ถ้าคนของตระกูลมงคลวัชรกุลต้องการจะต่อว่าดิฉัน ก็ให้คนของตระกูลมงคลวัชรกุลมาต่อว่าเอง รบกวนคุณศิรินภาระวังคำพูดของคุณด้วย ยังไงเธอก็ถือเป็นคนดัง อย่าเปิดปากก็พูดแต่คำหยาบคาย ทำให้คนฟังต้องหัวเราะได้
ธิชายิ้มละไมพร้อมกับพูดไปด้วย ในคำพูดของเธอแฝงไปด้วยการเยาะเย้ยศิรินภา
สำหรับคนอื่นๆ แล้วคำพูดเหล่านี้ยังน่าฟังกว่าคำพูดของศิรินภามาก แต่สำหรับการศิรินภาแล้ว กลับทำให้เธอโมโหจนใบหน้าที่แต่งหน้าหนาของเธอก็ไม่สามารถปกปิดความโกรธของเธอได้ ใบหน้าของเธอจึงแดงก่ำและบึ้งตึงสลับกันไปมา
ธิชา แกมันก็เป็นแค่เด็กที่เกิดจากผู้หญิงโสเภณี แกมีสิทธิ์อะไรมาเยาะเย้ยฉัน
มือของศิรินภาที่ถือแก้วไวน์ไว้สั่นเทาอย่างรุนแรง การสูญเสียการควบคุมทางอารมณ์ของเธอทำให้ผู้คนรอบด้านงุนงงเล็กน้อย
พวกผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ พยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอสงบลง แต่ศิรินภาหอบหายใจอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าหงุดหงิดมาก และห้ามไม่อยู่แล้ว
ธิชายังคงมีสีหน้าไร้เดียงสา ดิฉันไม่เข้าใจที่คุณพูดค่ะ ไม่ทราบว่าดิฉันพูดเยาะเย้ยคุณศิรินภาตอนไหนคะ
ศิรินภากลอกตามองบนด้วยความโกรธ
เธอชี้หน้าธิชาว่าเป็นผู้หญิงร่านตั้งแต่คำแรก แต่ธิชาก็พูดกัดว่าฐานะของคุณหนูตระกูลนิลพันธุ์สู้ตระกูลมงคลวัชรกุลกับ ตระกูลธนาภูวนัตถ์แล้วยังด้อยกว่ามาก
มันก็จริง เมื่อหลายสิบปีก่อนตระกูลนิลพันธุ์ถือเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง แต่ก็ค่อย ๆ ตกต่ำลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้ส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาตระกูลมงคลวัชรกุล ค่าใช้จ่ายพื้นฐานของตระกูลส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาตระกูลมงคลวัชรกุลเพื่อช่วย
ศิรินภาหน้าตาดีกว่าณาณินมา แต่เธออาศัยอยู่ในเงามืดของญาณินลูกพี่ลูกน้องมาตั้งแต่วัยเด็ก และคุ้นเคยกับการทำตัวด้อยกว่า
แต่คำพูดแบบนี้ไม่มีใครกล้าพูดออกมาต่อหน้า ยกเว้นธิชาผู้หญิงสารเลวคนนี้
ศิรินภาสะบัดพวกผู้หญิงที่จับมือเธอออก แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นอย่างโกรธจัด ก่อนจะเทไวน์แดงครึ่งแก้วลงบนใบหน้าของธิชา โดยตรง
