ศึกเดือด มหากาฬ – บทที่ 72 หลี่เจ๋อผู้โกรธเคือง

บทที่ 72 หลี่เจ๋อผู้โกรธเคือง

 คุณฉิน สวัสดีครับ ผมคือวังจ่างหลิน 

วังจ่างหลินอีกฝั่งที่คิดว่าฉินปิงหลันนั้นได้ยินไม่ชัดจึงรีบพูดซ้ำออกไปอย่างรวดเร็ว

แต่ฉินปิงหลันนั้นตกตะลึงไปหมดแล้ว

นี่วังจ่างหลินโทรหาตนจริงๆเหรอเนี่ย

แถมยังเรียกตนว่าคุณอีก?

 วัง ประธานวังคะ เมื่อสักครู่ฉันได้ยินชัดเจนดีแล้วค่ะเพียงแต่ว่าไม่คิดว่าจะเป็นท่านที่โทรมา 

 คุณฉินไม่ต้องเกรงใจไปหรอกนะครับ จริงสิ เรามาคุยเรื่องการทำงานร่วมกันดีกว่าไหมครับ? 

วังจ่างหลินที่อยู่อีกฝั่งถูกทำให้ตกใจจนผงะไป

 ภรรยาของเถ้าแก่ก็คือเถ้าแก่เนี้ย เขาเป็นแค่ลูกจ้างคนหนึ่งเท่านั้นจะให้อีกฝ่ายเรียกตนว่าท่านได้ยังไงกัน นี่มันเป็นจังหวะคอขาดบาดตายจริงๆ 

อย่างไรก็ตามคนที่ตกใจมากที่สุดกลับเป็นฉินปิงหลัน เธอไม่ได้สนใจคำพูดของวังจ่างหยางเพราะเธอคิดว่ามันคือคำพูดที่แสดงความสุภาพก็เท่านั้นแต่เธอกลับจดจ่อกับคำพูดที่ว่า–ทำงานร่วมกัน?

ไม่กี่วันมานี้เธอได้ทำการเสริมเติมแต่งให้แบบออกมาสมบูรณ์ ด้วยความสามารถที่แข็งแกร่งบวกกับงานที่เร่งรัด ดังนั้นแผนงานแรกของเธอจึงถูกทำออกมาและส่งออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ตั้งแต่ต้นจนจบในใจของเธอกลับรู้สึกว่ามันยังไม่ก้าวหน้ามากพออีกทั้งยังมีเหยียนเลว่มาทำให้ลำบากใจอีก เธอไม่คิดเลยว่าวังจ่างหลินผู้ที่เป็นเถ้าแก่ของวังซื่อกรุ๊ปจะโทรมาหาเธอเพื่อหารือเรื่องการทำงานร่วมกันเช่นนี้

 คือว่า ประธานวังคะ ฉันอยากจะถามอะไรสักหน่อย คือว่าแผนงานของฉันมีข้อบกพร่องอะไรไหมคะ? 

 อันนี้น่ะเหรอ 

เมื่อวังจ่างหลินนึกถึงสิ่งที่เฉินอีพูดเมื่อตอนกลางวันได้จึงรีบพูดออกไปว่า  แน่นอนว่าต้องมีข้อบกพร่องอยู่แล้ว อันที่จริงบนโลกใบนี้ไม่มีแผนงานแรกแผนไหนที่จะสมบูรณ์แบบไปหมดทุกอย่างหรอกนะแต่มันก็ถือว่าดีกว่าที่อื่นๆมากอยู่ 

 คุณฉิน หากว่าคุณสะดวกล่ะก็เรานำเรื่องข้อบกพร่องเหล่านี้มาเจรจากันในวันพรุ่งนี้ดีไหม? 

 อ่ออ่อ ดีค่ะ 

ฉินปิงหลันวางสายลงด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เดิมทีเธอต้องการรอให้อีกฝ่ายกดวางสายไปก่อน มันถือเป็นมารยาทแต่วังจ่างหลินกลับบอกให้เธอกดวางสายก่อนซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกเหลือเชื่อมากขึ้นไปอีก

 เฉินอี ประธานวังคนนี้คงไม่ใช่ตัวปลอมหรอกใช่ไหม? 

 พร๊วด! 

ชาที่เฉินอีดื่มพุ่งพรวดออกมาอย่างจังจากนั้นเขามองไปที่ฉินปิงหลันอย่างประหลาดใจ  ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้นล่ะ? 

 เพราะว่าเขานั้นสุภาพเกินไป ฉันเคยได้ยินมาว่าเขาเป็นคนที่พิถีพิถันเรื่องมารยาทมากเลย คิดว่าคนที่จะไปได้ไกลกับเขาคงจะเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ทางด้านมารยาทลึกซึ้งเสียอีก 

 นักธุรกิจที่ทะเยอะทะยานมีชื่อเสียงขนาดนั้นจะมาทำตัวเกรงใจกับฉันได้ยังไงกันล่ะ 

ฉินปิงหลันถามออกไปด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ

และไม่ต้องพูดถึงชื่อเสียงของเธอในเมืองฉือเลยก็ได้ว่ามันไม่ดีแค่ไหน ตนเป็นแค่ประธานตัวน้อยๆของฉินซื่อกรุ๊ปจะไปคู่ควรกับการปฏิบัติตัวเช่นนี้ของวังจ่างหลินได้ยังไงกัน ดังนั้นปฏิกิริยาแรกของเธอคือคิดว่านี่ต้องเป็นตัวปลอมแน่ๆ!

อาจจะ!

 หรือว่านายหาคนมาแกล้งทำให้ฉันมีความสุข? 

ฉินปิงหลันถามออกมาด้วยท่าทีที่จริงจัง

เฉินอีที่ถูกจ้องมองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 ผมไม่ได้เบื่อขนาดนั้นหรอกนะ อีกอย่างพรุ่งนี้ไปวังซื่อกรุ๊ปก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ? 

 อืม ก็ทำได้แค่นี้แหละ 

ฉินปิงหลันยังอยู่ในท่าทางที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เฉินอีที่มองดูอยู่ก็รู้สึกขบขันไปชั่วครู่

ภรรยาคนนี้นี่ไม่มั่นใจในตัวเองเอาซะเลย

ในเวลาเดียวกัน หลี่ซือกรุ๊ป

 คุณชายเฉิน พวกเราจะเอายังไงกันต่อดีครับ? 

คนที่พูดอยู่นั้นก็คือหลี่ฉางโซว่ ประธานของหลี่ซือกรุ๊ป เขาจ้องมองไปที่เฉินฝูและถามด้วยความโกรธเคือง

เมื่อสักครู่หลันเทียนได้พาทีมสืบสวนพิเศษมาและพูดว่าจำเป็นต้องสอบสวนกรณีหลี่ซือกรุ๊ปที่ใส่ความวังซื่อกรุ๊ป

ตามเหตุผลแล้ว แม้จะรู้ว่านี่คือการใส่ความแต่คนส่วนมากก็มักจะทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แค่ชี้แจงและขอโทษวังซื่อกรุ๊ปก็พอแล้ว ใครจะไปคิดล่ะว่าหน่วยงานการก่อสร้างจะทำให้เรื่องใหญ่ขนาดนี้

สีหน้าของเฉินฝูยังคงดูคลุมเครือ

เดิมทีเขาได้วางแผนกลยุทธ์เอาไว้และคิดว่าทุกๆย่างก้าวนั้นอยู่ในแผนของเขา

แต่ไม่คิดเลยว่าผ่านไปได้แค่หนึ่งวัน แผนกลยุทธ์ของเขาก็พังทลายลงในชั่วพริบตา พูดได้เลยว่ามันเป็นการยกหินขึ้นมาหล่นทับเท้าตัวเองจริงๆ

 เรื่องนี้จะต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่ๆ มันช่างดูแปลกประหลาดนัก หรือว่าจะเป็นเฉินอีพ่อหนุ่มคนนั้น? 

เฉินฝูพูดชื่อเฉินอีออกมาอย่างมืดมนและทันใดนั้นหลี่เจ๋อก็กระโดดขึ้นมา

 จะเป็นเขาได้ยังไงกัน เขาก็เป็นได้แค่คนไร้ประโยชน์เท่านั้น 

หลี่เจ๋อที่หลงใหลในฉินปิงหลันมากก็ไม่อาจทนเฉินอีต่อไปได้อีก

เฉินฝูก็พยักหน้าเช่นกัน

เขาเองก็พูดไปอย่างนั้น ไม่เคยรู้สึกเลยว่าหมาจนตรอกอย่างเฉินอีจะไปมีความสามารถยอดเยี่ยมอะไรที่จะทำให้คนชนชั้นสูงผู้เรืองอำนาจตกตะลึงและหวั่นไหวได้

 ไม่ว่าจะเป็นเฉินอีหรือไม่ พวกเราทุกคนก็จำเป็นที่จะต้องระมัดระวังตัวกันไว้ พวกนายทุกคนจะต้องกระฉับกระเฉงต่อทุกสิ่งอย่างอย่างเต็มที่ที่สุด เข้าใจไหม? 

 ครับ! 

 อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องไปแจ้งฉินหวยจือจากตระกูลฉินทราบ เขาจะต้องเอาใบรายการของวังซื่อกรุ๊ปมาให้ได้ มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เฉินอีเสียเกียรติ 

เฉินฝูกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความขุ่นเคือง

ไม่ว่าเฉินอีจะเล่นลูกไม้อะไร แต่การที่เขาต้องมาเห็นชายหนุ่มคนนี้ยังคงดูสบายดีบวกกับการที่ต้องมาเจอเหยียนเลว่ที่ทำลายหน่วยงานที่เขาสร้างขึ้นมานั้นมันช่างทำให้เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก

ไม่ผิด

การที่เหยียนเลว่กลั่นแกล้งและดูถูกฉินปิงหลันไม่ใช่สิ่งที่หลี่เจ๋อนั้นสั่งให้ทำ แม้แต่หลี่เจ๋อเองก็ถูกปิดหูปิดตาไว้ ทั้งหมดนี้คือเฉินฝูที่เป็นคนสั่งการทำทุกอย่าง

เดิมทีกะจะใช้โอกาสนี้ในการสวมเขาให้เฉินอี แสดงการดูถูกดูแคลนเสียหน่อยแต่ไม่คิดว่าแม้แต่เหยียนเลว่ก็จะโดนดึงออกไปด้วย

 เฉินอี เฉินอี นายก็มีความสามารถเหมือนกันนะเนี่ยแต่น่าเสียดายที่นายแค่ใช้จุดอ่อนเล็กๆน้อยๆนี่มาเล่นอุบาย ท้ายที่สุดก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ที่ด้อยค่าเกินกว่าจะเอาออกมาแสดงโชว์ 

ความหนาวเหน็บเผยออกมาจากมุมปากของเขา

หลังจากหลี่เจ๋อกลับมาที่ห้องก็ได้รับสายโทรศัพท์ จากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็ดูมืดมนและน่ากลัวเป็นอย่างมาก

 นายจะบอกว่าเหยียนเลว่ไปยุ่งกับฉินปิงหลันงั้นเหรอ? 

เขาที่เพิ่งได้รับข่าวสารนี้มาก็รู้สึกเหลือเชื่อ

เหยียนเลว่ก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเขาหลี่เจ๋อนั้นชอบฉินปิงหลันอยู่ ทำไมสุนัขตัวนี้ถึงได้กล้าทำเช่นนี้กันนะ?

ไม่ถูกสิ!

 เฉินฝู ต้องเป็นเฉินฝูแน่ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะไม่สนใจความรู้สึกของฉันแล้วไปสั่งให้เหยียนเลว่ทำขนาดนี้ หรือจะพูดได้ว่าในสายตาของเฉินฝูนั้นตนสู้เฉินอีไม่ได้งั้นสิ? 

 เฉินอี ไอ้คนระยำ! 

แม้ว่าเขาจะรู้เรื่องนี้แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะไปทำตัวไม่พอใจเฉินฝูอยู่ดี อย่างน้อยเขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงมันออกมา ดังนั้นเขาจึงนำความโกรธเคืองนี้ไปไว้ที่เฉินอีแทน

 ออกคำสั่งไป ให้นักฆ่าลงมือได้! 

 หลังจาค่ำคืนนี้ฉันไม่ต้องการเห็นเฉินอีอีกต่อไป 

 เรื่องนี้ทำอย่างลับๆและอย่าให้เฉินฝูรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นเขาอาจมาตัดพ้อต่อว่าฉันได้ 

 ชายคนนี้ต้องการเล่นกับเฉินอี ส่วนฉันแค่ต้องการให้เฉินอีตายก็เท่านั้น! 

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินปิงหลันตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อจัดเตรียมเอกสาร

เธออ่านแผนงานทั้งหมดใหม่อีกครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไรจากนั้นก็ไปแต่งตัว

 ภรรยา เครื่องสำอางพวกนี้ของเธอนี้คุณภาพไม่ดีเลยนะ วันนี้หลังจากเสร็จงานให้ผมไปเป็นเพื่อนช่วยเลือกที่ห้างไหม 

เฉินอีมองดูเครื่องสำอางที่มูลค่าไม่ถึงร้อยหยวน เขาเจ็บปวดใจ

แม้ว่าฉินปิงหลันจะเป็นแม่คนแต่เธอก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ยังอายุไม่ถึงสามสิบด้วยซ้ำ อีกทั้งการรักสวยรักงามก็เป็นธรรมชาติของผู้หญิงด้วยซึ่งก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นสำหรับฉินปิงหลันเลย นอกจากนี้เธอยังต้องไปเจรจาธุรกิจในนามของฉินซื่อกรุ๊ปซึ่งก็แน่นอนว่าจะต้องแต่งตัวเสียหน่อยแต่การต้องมาใช้สินค้าที่ด้อยคุณภาพเช่นนี้ก็คงทำให้ระคายเคืองผิวได้ง่าย

 ไม่ต้องหรอก ประหยัดเงินไว้ดีกว่า เอาไว้ใช้เป็นค่าเล่าเรียนของโต๋วโต๋ว 

 

ศึกเดือด มหากาฬ

ศึกเดือด มหากาฬ

Status: Ongoing

เขาเป็นเจ้าแห่งสำนักมังกรลับ เป็นเทพสงครามที่ภาคภูมิ แต่ลูกสาวทั้งสองของเขากลับถูกกระทำทารุณ ภรรยาถูกรังแกข่มเหง เขากลับมาจากชายแดนพร้อมกลับความน่ากลัว ทุกคนต่างรู้ว่า คนบ้าเลือดเหล่านั้น จุดจบจะมาพร้อมกับความตาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท