ตอนที่ 326 พ่อของฉินหงเหยียนยังไม่ตาย!
ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ข้างหู พอหันไปดูก็พบว่าเป็นเย่เทียน พี่ชายคนโตของเขา!
เย่เฉินวางแก้วเหล้าลงทันที แล้วลุกขึ้นจากบาร์ ก่อนจะเดินไปกอดพี่ชายอย่างดีใจ!
“พี่ใหญ่!”
พูดไปแล้วเขาก็ไม่ได้เจอพี่ใหญ่ของเขามาหลายปีแล้ว!
เย่เฉินและเย่เทียนมีพ่อแม่คนเดียวกัน แต่เป็นพี่น้องคนละแม่กับเย่เซวียน
และแน่นอนว่าพวกเขาสามคนสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาอะไร
“พี่มาได้ยังไงครับ?”
เย่เฉินเองก็ประหลาดใจมากทีเดียว
เย่เทียนปรายตามองคนในบาร์แล้วกล่าว “พี่มีเรื่องอยากจะพูดกับนายแค่สองคน”
เย่เฉินรีบหันไปสั่งซีกวา “ซีกวา เคลียร์ร้าน”
ซีกวาอดลอบมองพี่ชายของเย่เฉินไม่ได้ อย่างไรเสียพี่ชายของคุณชายก็เป็นคนที่เขาต้องเคารพนับถือ
เย่เทียนไม่ได้หล่อเหลาเหมือนเย่เฉิน แต่ว่ารัศมีที่แผ่ออกมาจากตัวเขานั้น ทรงพลัง รุนแรงจนส่งผลให้เจ้าตัวดูพึ่งพาได้และเป็นผู้ใหญ่มากทีเดียว
“คุณชายเย่สวัสดีครับ!”
ซีกวาค้อมตัวทำควาเมคารพเย่เทียน หลังจากนั้นก็จัดการเชิญคนทั้งบาร์ออกจากร้านไป
เย่เฉินเหมาบาร์แห่งนี้เอาไว้นานแล้ว ดังนั้นพนักงานเองจึงโอนอ่อนเชื่อฟังซีกวา
หลังจากที่ทุกคนเดินออกไปแล้วนั้น เย่เฉินก็หันไปกล่าวกับพี่ชายอย่างอดไม่ได้ “พี่ครับ พ่อเราฆ่าคนตาย ฆ่าพ่อของแฟนผมตาย!”
เย่เทียนรีบร้อนกล่าว “ไม่นะ น้องสาม คุณพ่อไม่ได้ฆ่าเขา”
เย่เฉินส่งรูปถ่ายที่ชายฝรั่งคนนั้นให้เขามา ส่งต่อไปให้พี่ชายดูแล้วกล่าว “เมื่อกี้ผมโทรหาพ่อ พ่อยอมรับเองกับปากว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของฉินอ้าวหมิง”
เย่เทียนปรายตามองภาพแล้ววางลง ก่อนจะกล่าว “ฉินอ้าวหมิงไม่ได้ตายเสียหน่อย”
“พี่ว่าอะไรนะครับ?”
เย่เฉินตกใจ วินาทีนี้ฤทธิ์สุราที่เขาดื่มไปตลอดสามชั่วโมงเหมือนจะระเหย ออกจากร่างกายเย่เฉินจนไม่เหลืออะไร
เย่เฉินหยิบโทรศัพท์มือถืออกมาแล้วให้น้องชายดูภาพใบหนึ่ง
เป็นภาพถ่ายของชายชราอายุราวๆ 50 ปีโดยประมาณ ผมสั้นกุด ใบหน้าอวบกลม
“นี่มัน…ฉินอ้าวหมิง!”
เย่เฉินพอจะมองออกว่าชายในภาพคือฉินอ้าวหมิง แต่ว่าฉินอ้าวหมิงในภาพถ่ายใบนี้นั้นดูจะมีอายุมากกว่าฉินอ้าวหมิงในภาพถ่ายที่เขามี
ถึงแม้ว่าจะอายุมากขึ้นแต่เขายังดูมีความสุขดี
เย่เทียนพยักหน้ารับ “นี่คือภาพล่าสุดของเขา”
เย่เฉินดีใจอย่างยิ่ง “เขายังไม่ตาย! พ่อไม่ได้ฆ่าพ่อของฉินหงเหยียน!”
เย่เฉินดีใจเกินบรรยาย เดิมทีเขาคิดว่าเขากับฉินหงเหยียนจะกลายเป็นศัตรูคู่แค้นกัน จนอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อย่างนั้น
ตลอดสามชั่วโมงที่ผ่านมาเย่เฉินเอาแต่ครุ่นคิดว่า หากมีวันใดวันหนึ่ง ตอนที่ฉินหงเหยียนฆ่าพ่อเขาเพื่อล้างแค้นแทนพ่อตนเอง เขาจะทำอย่างไร!
แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนี้อีกแล้ว บิดาของหญิงสาวยังมีชีวิตอยู่!
เย่เฉินสับสน “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ? เขายังไม่ตายแล้วทำไมถึงต้องกุเรื่องว่าตัวเองตายด้วย? แล้วข่าวลือที่ว่าโรงพยาบาลเผาศพผิดก็เป็นเรื่องโกหกเหรอครับ?”
เย่เทียนกล่าว “ขอโทษด้วย น้องสาม พี่บอกนายได้แค่ว่าฉินอ้าวหมิงยังไม่ตาย ส่วนจะเพราะอะไรนั้นพี่บอกนายไม่ได้ เพราะนี่มันเกี่ยวข้องกับความลับของครอบครัวเรา ตอนนี้นายยังไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องนี้ ที่จริงแล้ว แค่สิทธิ์ในการดูภาพถ่ายนายก็ไม่มี แต่ว่าพี่ทนเห็นนายเสียใจไม่ได้จริงๆ ทนเห็นนายเสียคนที่นายรักที่สุดไปไม่ได้ พี่เลยบินมาเพื่อบอกเรื่องนี้กับนาย”
เย่เฉินซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง พี่ใหญ่รักเขาจริงๆ ด้วย!
เย่เฉินถามต่อ “ในเมื่อผมไม่มีสิทธิ์แล้วพี่รู้ได้ยังไงล่ะครับ?”
ถามจบเย่เฉินก็ได้คำตอบให้กับตนเอง “อ้อจริงด้วย พี่ใหญ่พี่ทำภารกิจทั้งหมดของตระกูลเราหมดแล้ว พี่เลยมีสิทธิ์ต่างๆ ทั้งหมดในตระกูลสินะ!”
เย่เทียนเป็นทายาทคนเดียวในรุ่นที่สามของตระกูลเย่ที่ผ่านการฝึกฝนทั้งหมด!
เย่เทียนระบายยิ้ม “ใช่ น้องสามนายก็สู้ๆ รีบผ่านการฝึกฝนของคุณปู่เร็วๆ คุณปู่ชื่นชมนายที่สุด นายอย่าทำให้คุณปู่ผิดหวังล่ะ”
เย่เฉินพยักหน้ารับ
แต่ว่าตอนนี้เขาไม่มีแก่ใจมาทำภารกิจ หรือว่าสนใจเรื่องความลับอะไรของตระกูลทั้งนั้น ตอนนี้เขาแค่อยากจะบินกลับไปเมืองเสินเฉิง
เขาแค่อยากขัดขวางการแต่งงานระหว่างฉินหงเหยียนและสวี่ฉู่หมิง และบอกกับฉินหงเหยียนว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด พวกเขาสองคนยังคงคบหากันได้!
เย่เฉินกล่าว “พี่ใหญ่ พี่ส่งรูปนี้ให้ผมได้ไหมครับ?”
“ได้สิ”
เย่เฉินส่งภาพใหม่ของฉินอ้าวหมิงให้น้องชาย
เย่เฉินและเย่เทียนไม่ได้เจอกันมาหลายปี เย่เฉินมีอีกหลายอย่างที่อยากคุยกับพี่ชาย มีหลายคำถามที่อยากถามเขา
แต่ว่าตอนนี้เวลากำลังกระชั้น ถ้าหากว่าเย่เฉินยังไม่รีบบิน เกรงว่าจะขวางงานแต่งงานของฉินหงเหยียนไม่ทันแล้ว!
“พี่ใหญ่ครับ ขอบคุณนะครับที่ช่วยผม แต่ตอนนี้ผมต้องไปแล้วไว้หาโอกาสมาเจอกันนะครับ!”
ในตอนที่เย่เฉินกำลังจะออกจากร้าน เย่เทียนก็คว้าแขนน้องชาย “เดี๋ยวก่อน”
“น้องสาม พี่มีเรื่องจะคุยกับนาย”
“พี่ว่ามาเลยครับ” เย่เฉินหันมองเย่เทียน
เย่เทียนกล่าว “เย่เซวียนไม่ได้รายงานตัวกับที่บ้านมานานมากแล้ว ตอนนี้เราติดต่อเขาไม่ได้ ตอนนี้เขาผ่านการฝึกฝนแทบจะทั้งหมดของตระกูลแล้ว เหลืออีกแค่ภารกิจเดียว”
เย่เฉินเองก็พอจะรู้ว่าเย่เซวียนไม่ไปร่วมสงครามเสียที
เย่เซวียนแก่กว่าเย่เฉิน เดิมทีควรจะเข้าร่วมสงครามก่อนเย่เฉิน แต่ว่าเขาไม่ยอมไปเสียที
เพราะหมอนั่นชอบตะลอนเที่ยว ไล่ตามหาผู้หญิงหน้าตาสะสวยในโลกใบนี้ แล้วเทียบกับสองพี่น้องอย่างเย่เทียนและเย่เฉินแล้วเขาค่อนข้างขี้ขลาดเหมือนกัน
ดังนั้นเขาถึงได้ข้ามการฝึกฝนที่ต้องไปสงคราม แล้วไปทำอย่างอื่นแทน
เย่เทียนกล่าววว่า “หลายปีมานี้พี่รองของนายไปก่อเรื่องเอาไว้ไม่น้อย ไปล่วงเกินขั้วอิทธิพลและตระกูลใหญ่ๆ เอาไว้มา หนึ่งในนั้นคือตระกูลซูที่เมืองหลวง”
ตระกูลซูที่เมืองหลวง!
เย่เฉินพยักหน้า “พี่รองเลอะเทอะจริงๆ เขาไปจับตัวซูมู่ชิงทายาทตระกูลซูที่เมืองหลวงมาขังไว้กับผม แล้วให้ผมมีอะไรกับหล่อน คนตระกูลซูต้องไม่ยอมอยู่แล้ว! ผมโดนคนตระกูลซูเล่นเกือบตาย!”
พอคิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็โมโหพี่ชาย ถ้าเขาไม่ไปล่วงเกินตระกูลซูเข้า ลูกหวังเจียเหยาก็คงจะเป็นลูกเขาทั้งสองคนไปแล้ว
เย่เทียนพยักหน้าแล้วกล่าว “เรื่องนี้พี่รู้แล้ว ดังนั้นคุณปู่ถึงไม่อยากให้เขาไปก่อเรื่องอีก ไม่ไปเข้าร่วมสงครามเขาก็จะไม่โตเสียที”
เย่เฉินเองก็คิดเช่นนั้น ขอแค่เคยผ่านสงครามมา ถึงจะเข้าใจความน่ากลัวของจิตใจมนุษย์ รวมไปถึงคุณค่าของชีวิต
แล้วถึงจะรู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ทำตัวเหลวไหลไม่คิดหน้าคิดหลังอีก
เย่เทียนกล่าวต่อ “พี่สืบเจอว่าช่วงนี้เขาอยู่ในประเทศนั่นแหละ พี่ไม่สะดวกกลับไป ในเมื่อนายอยู่ที่นั่นตลอด นายก็ช่วยสืบข่าวเขาให้ด้วยล่ะ หลังจากเจอตัวเขาก็สั่งให้กลับตระกูลเย่ทันที เพื่อเข้าร่วมการฝึกฝนสุดท้าย”
เย่เฉินกล่าว “ครับ ผมจะต้องหาพี่เขาให้เจอแล้วซัดหมัดใส่หน้าเขาแรงๆ สักครั้ง! แล้วถามเขาว่าทำไมต้องแนะนำทั้งหวังเจียเหยากับซูมู่ชิงให้ผม!”
เย่เทียนยิ้มแล้วตบบ่าน้องชาย “รีบไปเถอะ ฉินหงเหยียนรอนายอยู่ หลังจากดีกันแล้วก็รีบแต่งงานกับหล่อนเสียนะ พี่จะได้ไปดื่มเหล้ามงคลของพวกนาย”
“ครับ!”
หลังจากเย่เฉินร่ำลากับพี่ชายแล้วก็รีบไปที่สนามบินทันที!
เย่เฉินกดโทรหาหลิวเจิ้งคุนขณะอยู่บนรถที่แล่นอยู่บนถนนด้วยความเร็ว
อีกฝ่ายกดรับสายทันที เขาก็รีบร้อนกล่าวโดยที่เย่เฉินยังไม่ต้องถาม “คุณชายครับ คุณชายรีบมาเถอะครับ ไม่งั้นจะไม่ทันแล้วนะครับ! ที่นี่เช้าแล้วครับ คุณฉินหงเหยียนลองชุดแต่งงานแล้วนะครับ!”
เย่เฉินกล่าวว่า “ฉันจะไปถึงก่อนหกโมงเย็นแน่นอน ถ้าฉันยังไม่ถึง นายก็ถล่มงานแต่งให้ฉันได้เลย!”
หลิวเจิ้งคุนรับปากแข็งขัน “ครับ!”