ตอนที่ 336 อาวุธลับของเย่เฉิน!
เย่เฉินบรรจงสวมตุ้มหูเพชรมูลค่าเกินร้อยล้านสองชิ้นนั้นลงบนหูของหญิงคนรัก
ตุ้มหูสองข้างนี้เป็นสีฟ้าและชมพู เมื่ออยู่บนหูสองข้างของฉินหงเหยียนแล้วก็ทำให้เจ้าหล่อนดูสูงสง่ามากกว่าที่เคย!
“ที่รัก คุณสวยจังเลย…”
เย่เฉินอดใจไม่ไหวจนต้องชมหญิงสาว เขาอยากจะให้ตุ้มหูนี้ให้หญิงสาวนานแล้ว
คราวก่อนตอนที่ฝากฉินเสี่ยวตั่วเอาไปให้นั้น หญิงสาวยังโกรธเขาจึงคืนตุ้มหูคู่นี้มา
ฉินหงเหยียนเองก็เป็นคนรักสวยรักงาม หญิงสาวรีบหยิบกระจกบานเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าแล้วชมไม่ขาดปาก “สวรรค์ ตุ้มหูเพชรคู่นี้สวยเกินไปแล้วมั้ง!”
ของมูลค่าตั้งเจ็ดร้อยล้านประดับอยู่บนหูของตนเอง แค่คิดก็รู้แล้วว่ามีน้ำหนักเท่าไหร่กัน!
แต่ว่าฉินหงเหยียนไม่คิดจะรับมันเอาไว้
“ที่รัก ตอนนี้คุณโดนอายัดทรัพย์สิน ตุ้มหูคู่นี้คุณเก็บเอาไว้เถอะ”
ฉินหงเหยียนชอบของขวัญชิ้นนี้มากก็จริงแต่พอคิดเถึงสถานการณ์ในตอนนี้ของชายคนรัก หล่อนก็คิดว่าคืนให้เขาน่าจะดีกว่า เผื่อเกิดเรื่องอะไรจะได้แลกเป็นเงินสดก็ยังดี
แต่เย่เฉินกลับส่ายหน้า “ในเครื่องบินมีของแพงๆ ตั้งเยอะแยะ ผมยังไม่เอาลงมาเลย ที่เอาแต่ของชิ้นนี้ออกมาจากเครื่องก็เพราะว่าผมอยากให้คุณ คุณเก็บตุ้มหูเอาไว้เถอะ พอถึงเมืองหลวงไม่แน่ว่าที่นั่นอาจจะยิ่งทำให้ผมต้องลำบากกว่านี้ พวกเขาอาจจะค้นตัวดูว่าผมมีของมีค่าอะไรไหม เอาไว้ที่ผมเสี่ยงจะโดนพวกเขายึดของไปอีก เรายังไม่ได้จดทะเบียนกัน ทางกฎหมายคุณกับผมยังไม่ได้เป็นอะไรกัน พวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับคุณได้”
พอฟังแบบนี้แล้วฉินหงเหยียนก็พยักหน้า “ค่ะ ฉันจะต้องเก็บรักษาเอาไว้ให้ดี ที่รัก ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะเลี้ยงคุณเอง ต่อไปถ้าคุณไม่มีเงินก็มาเอาที่ฉัน เงินโดนอายัดก็ช่างมันปะไร!”
เย่เฉินหัวเราะ “ได้เลยครับ ฮ่าๆ ดูแล้วชะตาของผมน่าจะถูกกำหนดให้เกาะผู้หญิงกินแน่ๆ เลย”
ก่อนนี้ตอนเย่เฉินปลอมตัวเป็นคนจนก็ไปเกาะคนที่บ้านหวังเจียเหยากับฉินหงเหยียน แต่คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะต้องเกาะผู้หญิงกินจริงๆ แล้ว
แต่ว่าเย่เฉินไม่มีทางปล่อยให้เรื่องดำเนินไปแบบนี้เรื่อยๆ แน่
เขาตั้งใจไว้แล้วว่าหลังจากจัดการเรื่องของหลิวเจิ้งคุนกับซีกวาแล้ว ถ้าทรัพย์สินของตนเองยังโดนอายัดอยู่ล่ะก็ เขาก็จะไม่สนใจแล้ว แต่จะบินไปใช้ชีวิตที่อังกฤษกับหญิงสาว
พอมาถึงสนามบินเย่เฉินก็กล่าวกับหวังเอ้อร์เชอ “เสี่ยวหวัง ฉันกับหงเหยียนจะไปเมืองหลวง นายไม่ต้องนั่งไฟล์ทเดียวกับพวกเรา ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพวกคนตระกูลซูจะคอยตามนายเหมือนกัน นายนั่งไฟล์ทกลางคืนไปแล้วกัน”
หวังเอ้อร์เชอกล่าวพร้อมระบายยยิ้ม “ครับคุณชาย!”
เมื่อมาถึงเมืองหลวงในตอนที่ทั้งสองคนกำลังจะออกจากสนามบินนั้นเอง พวกเขาก็พบกับคนรู้จัก
“คุณเย่ คุณฉิน พวกคุณมาทำอะไรที่เมืองหลวงเหรอ?”
ผู้หญิงท่าทางคล่องแคล่วปราดเปรียวในวัยประมาณ 40 เดินมาหยุดตรงหน้าพวกเขา
หล่อนก็คือเหอหมิ่นรองผู้บริหารคนหนึ่งในไป๋ลี่
เหอหมิ่นคนนี้รู้จักกับฉินหงเหยียนมานานแล้ว แถมฉินหงเหยียนยังเป็นคนเลือกหล่อนมาด้วยหลังจากที่เป็นประธานบริษัทแล้วก็เลือกหญิงสาวมาเองกับมือ
“คุณเหอ?”
“เหอหมิ่น! บังเอิญจังเลย นี่เธอจะไปไหน?” ฉินหงเหยียนถาม
เหอหมิ่นกล่าวว่า “ค่ะ ฉันจะไปประชุมที่เทียนไห่ ที่นั่นวุ่นวายไปหมดแล้วคุณเย่ คุณฉิน ไม่งั้นพวกคุณก็ไปกับฉันเถอะค่ะ”
เย่เฉินรู้ดีว่าเรื่องนี้ตนเองโดนสืบและอายัดทรัพย์สินน่าจะแพร่กระจายทั่ววงการแล้ว และน่าจะส่งผลต่อหุ้นของบริษัทไป๋ลี่ด้วย
เย่เฉินกล่าว “ตอนนี้เรายังไปไม่ได้ ต้องไปทำธุระที่เมืองหลวง”
เหอหมิ่นมีหลายอย่างอยากจะรายงานหัวหน้าทั้งสองของตนเองจึงกล่าว “พวกคุณจองโรงแรมแล้วหรือยัง? ไม่อย่างนั้นวันนี้ไปพักที่เรือนสี่ประสานของฉันเถอะ ฉันจะพาพวกคุณไปเอง”
ฉินหงเหยียนกล่าว “เหอหมิ่นเธอต้องไปประชุมที่เทียนไห่ไม่ใช่เหรอ? เธอไม่ต้องไปส่งเราหรอก เดี๋ยวตกเครื่องนะ”
เหอหมิ่นโบกมือ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันนั่งอีกไฟล์ทก็ได้”
พร้อมกันนั้นหญิงสาวก็โทรศัพท์เพื่อให้คนมารับพวกเขา
เมื่อนั่งในรถเหอหมิ่นก็รีบรายงานทั้งสองคนอย่างอดไม่ได้ “คุณเย่ คุณเหอ ตอนนี้ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นวุ่นวายมากค่ะ เอาแต่ถกกันเรื่องต่อไปยังจะจ้างพนักงานขนส่งผู้หญิงต่างชาติมาอีกดีไหม คุณเองก็รู้ว่าเพราะเรื่องนี้ต้องใช้ต้นทุนสูง ก่อนหน้านี้ได้เงินสนับสนุนจากคุณ ตอนนี้เงินคุณโดนอายัดเงินส่วนนี้อาจจะส่งผลต่อกำไรของพวกผู้ถือหุ้น พวกเขาเลยไม่ค่อยพอใจ”
เย่เฉินพยักหน้ารับ ที่จริงแล้วเป้าหมายที่เขาแบบนี้นั้นเป็นเพราะอยากจะช่วยผู้ชายในประเทศนี้ต่างหาก
จนถึงตอนนี้เขาทำมามากพอแล้ว ตอนนี้มีผู้หญิงต่างชาติที่สมัครมาทำงานและใช้ชีวิตที่นี่มากขึ้นเรื่อยๆ
เย่เฉินกล่าว “เรื่องนี้หยุดไปก่อนชั่วคราว อีกอย่างเหอหมิ่น ผมกับหงเหยียนอาจจะไปอังกฤษ คงไม่กลับไปที่บริษัทแล้ว ตอนนี้ผมขอแต่งตั้งให้คุณเป็นประธานบริษัทไป๋ลี่ คุณช่วยผมดูแลบริษัทด้วยนะ”
เหอหมิ่นตกใจกับโชคที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน “ขอบคุณค่ะคุณเย่! แต่พวกคุณ…จะไปกันจริงๆ เหรอคะ”
เย่เฉินหะนมองนอกหน้าต่าง “ต้องดูก่อนว่าพรุ่งนี้คุยกับตาแก่นั่นยังไง”
เย่เฉินไม่ได้มีความมั่นใจอะไรนักหนากับวันพรุ่งนี้
รถแล่นมาถึงเรือนสี่ประสานของเหอหมิ่นอย่างรวดเร็ว คิดไม่ถึงว่าบ้านของหญิงสาวจะอยู่ใกล้ๆ กับเรือนสี่ประสานของซูมู่ชิง
เมื่อเปิดประตูให้พวกเขาแล้ว เหอหมิ่นก็ทิ้งกุญแจไว้ให้พวกเขาสองคน
“คุณเย่ คุณฉิน สองวันนี้พวกคุณพักที่นี่ก่อนเถอะนะ ฉันไปเทียนไห่ก่อนแล้วค่ะ ถ้าพวกคุณมีอะไรโทรหาฉันได้ทุกเมื่อเลยค่ะ”
“อืม ขอบคุณนะ เหอหมิ่น” ฉินหงเหยียนส่งเหอหมิ่นที่ประตู
ตอนที่ฉินหงเหยียนเดินกลับมาก็พบว่าเย่เฉินเองนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกในสวน ด้วยท่าทีสบายใจ
ฉินหงเหยียนกล่าว “ดูเหอหมิ่นนั่นสิ พอรู้ว่าคุณเย่ของเราชอบนอนเรือนสี่ประสาน เลยตั้งใจจัดแจงให้คุณมาพักที่นี่”
เย่เฉินงุนงง “ผมเคยบอกตอนไหนว่าชอบเรือนสี่ประสาน”
ฉินหงเหยียนแสร้งทำท่าทีหึงหวงชายหนุ่ม “คราวก่อนที่คุณมาเมืองหลวงพักอยู่ที่เรือนสี่ประสานตั้งหนึ่งสัปดาห์ไม่ใช่เหรอ? แถมยังอยู่กับสาวสวยปานนางฟ้าเสียด้วย ชิ สัปดาห์นั้นคุณคงมีความสุขมากสินะคะ?”
เย่ฉินรีบร้อนลุกลงมาจากเก้าอี้ รีบลุกขึ้นสวมกอดหญิงสาวแล้วปลอบโยนหล่อน “ที่รักครับ หรือว่าคุณไม่เชื่อใจผมเหรอครับ? เรานอนกันคนละห้อง ผมไม่ได้คิดอะไรกับหล่อนเลยนะครับ”
ฉินหงเหยียนกล่าว “คุณไม่ได้คิดอะไรกับหล่อน แต่หล่อนคิดนี่คะ คุณรู้ไหม? ซูมู่ชิงชอบคุณ”
เย่เฉินรู้อยู่แล้วเพราะเขาเองก็ได้ยินบทสนทนาระหว่างสองคนนั้นเหมือนกัน
แต่ว่าเย่เฉินยังแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “เป็นไปได้ยังไง หล่อนเป็นคนสวยที่สุดในเมืองหลวงเชียวนะ มีผู้ชายมาชอบหล่อนเยอะแยะ ผมมันก็แค่คนเหลือขอแถมยังเคยย่ำยีหล่อน หล่อนจะชอบผมได้ยังไง”
เมื่อได้ยินชายหนุ่มบอกว่าตัวเองเป็นแค่คนเหลือขอ ฉินหงเหยียนก็หลุดหัวเราะออกมา
ฉินหงเหยียนถาม “คุณคนเหลือขอคะ พรุ่งนี้คุณจะไปคุยกับตระกูลซูยังไง? ตอนนี้คุณไม่มีลูกน้อง จะพาแค่หวังเอ้อร์เชอคนเดียวไปด้วยเหรอ คนตระกูลซูมีลูกน้องตั้งเยอะแยะอีกทั้งอาจจะยังมีอาวุธด้วยนะ พรุ่งนี้คุณไปตระกูลซู ถ้าพวกเขาหาเรื่องคุณจะทำยังไง?”
ใบหน้าชายหนุ่มฉาบรอยยิ้มเอาไว้ “ลูกน้องของผมไม่ได้มีหวังเอ้อร์เชอคนเดียวเสียหน่อย ยังมีคนอื่นด้วย”
“ใครคะ?”
“UFO!”