ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] – บทที่ 219

บทที่ 219

บทที่ 219

เมื่อได้ยินคำพูดนั่น ชาวเมืองจินฮั๋วที่เป็นผู้ชายก็พากันคุกเข่าแล้วพูดพร้อมกัน  ไม่ต้องกังวลไปนายท่าน พวกเราจะสู้จนเลือดหยดสุดท้าย ! 

 เยี่ยมมาก !  ก่อนที่เขาจะหันไปมองนายกองของตัวเอง  จัดอาวุธและชุดเกราะให้พวกเขาที 

 นายท่าน  จี้เฉินกดความตื้นตันเอาไว้  ข้าเกรงว่าจะไม่สามารถทำได้ ด้วยพวกเขามีมากเกินกว่าที่อุปกรณ์ของเราจะเพียงพอ 

ถังหยินครุ่นคิด  งั้นก็ใช้เท่าที่มี ส่วนใครที่ไม่ได้รับของก็ให้อยู่เป็นกำลังสำรอง เพื่อถ้าหากเกิดการสูญเสียจะได้มีพวกเขาเข้ามาทดแทน 

จี้เฉินรู้สึกชื่นชมจากใจ พยักหน้าถี่รัวเห็นด้วยก่อนตอบ  น้อมรับบัญชาขอรับ ! 

ถังหยินมองผ่านเขาไป  วันนี้ที่พวกเราหยุดการโจมตีของพวกหนิงได้เป็นเพราะการตัดสินใจอันเยี่ยมยอดของแม่ทัพเฉิน เจ้าทำได้ดีมาก 

จี้เฉินหน้าแดงก่อนจะรีบตอบ  นายท่านก็กล่าวเกินไป  ถึงจะเป็นเพราะคำสั่งของเขาที่ทำให้ต่อต้านพวกหนิงเอาไว้ได้ ทว่าผลลัพธ์ของมันก็แลกมาด้วยชีวิตของทหารนับร้อยนาย

มันไม่ง่ายเลยที่จะได้รับคำชื่นชมจากถังหยิน และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปสักพัก เขาก็ชักจะหวั่นใจขึ้นมา

หัวใจของเขาสั่นเทาที่ได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มอันไร้ซึ่งรอยยิ้ม และเริ่มรู้ตัวแล้วว่าที่จริงถังหยินเอ่ยชมเขาเป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น ด้วยในใจยังโทษว่าเป็นความผิดของเขาอยู่ดี ดังนั้นจี้เฉินจึงทำท่าจะอธิบาย หากแต่ก็โดนถังหยินขัดเอาไว้ก่อน  ไม่เป็นไร ข้าแค่ไม่อยากเห็นอะไรแบบนั้นอีก  เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็เดินกลับไปยังค่าย

คืนนั้นพวกทหารที่สู้มาทั้งวันก็ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ หากแต่ถังหยินกลับไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะเมื่อชายหนุ่มเข้ามายังที่พัก เขาก็จัดแจงถอดเกราะออกแล้วเปลี่ยนชุดมุ่งหน้าไปยังกำแพงด้านเหนือในทันที

สำหรับถังหยินแล้ว เรื่องแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยถ้าเทียบกับอดีตของเขา

ไม่นานนักหลังจากที่ชายหนุ่มนั่งลง หยวนยู่ก็เดินตามมาพร้อมกับไหสุราและเนื้อชิ้นโต ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะนั่งลงข้าง ๆ

ถังหยินมองเขาแล้วถาม  เจ้าไม่นอนหรือ ? 

 นายท่านก็ยังไม่นอนเช่นกัน  หยวนยู่ตอบกลับ

ชายหนุ่มยักไหล่  แค่ข้านั่งตรงนี้ก็สามารถฟื้นพลังได้แล้ว 

หยวนยู่พยักหน้า  ข้าก็เช่นกัน  จากนั้นเขาก็หยิบไหสุรามาแล้วเปิดฝามันก่อนยื่นให้กับถังหยิน  ดื่มเถิดนายท่าน 

ชายหนุ่มรับมันมาแล้วกระดกมันไป 2 อึก ก่อนจะสัมผัสได้ถึงรสเข้มบาดคอที่รุนแรงเสียจนกระทั่งตอนที่ส่งไหสุราคืนแก่หยวนยู่เขาก็ยังไม่หายร้อนรุ่มในร่าง

 พวกเราจะอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน ?  หยวนยู่ร้องถามก่อนจะหยิบชิ้นเนื้อขึ้นมากิน

 ไม่รู้สิ อาจจะสัก 3 หรือ 5 วัน ไม่ก็อาจกินเวลานานนับเดือน ขึ้นอยู่กับว่าชิวเจิ้นจะจัดการซ่งเวินได้เร็วแค่ไหน  ถังหยินกล่าวพร้อมยกไหสุราขึ้นมาดื่ม  ตอนนี้พวกเราก็เหมือนกับซ่งเวิน โดนทหารปิดล้อมทั้ง 4 ด้านเช่นเดียวกัน 

หยวนยู่พูดอย่างกังวล  นายท่าน ถ้าเกิดพวกหนิงไม่สามารถตีเมืองจินฮั๋วแตกได้และเลือกที่จะไปช่วยซ่งเวินแทนล่ะ ? 

 ไม่มีทางหรอก  ถังหยินหัวเราะ

 ทำไมกัน ? 

 พวกมันไม่กล้ารุกรานต่อไปโดยที่ไม่มีเสบียงอาหารหรอก ลองคิดดูสิว่าถ้าเกิดทหารทั้ง 4 แสนนายหิวขึ้นมา พวกเขาจะเอาเสบียงอาหารที่ไหนมากินกัน ? ดังนั้นพวกมันจึงไม่กล้าหรอก 

 อย่างนี้นี่เอง  หยวนยู่พยักหน้า ไม่แปลกใจเลยว่าทั้ง ๆ ที่พวกหนิงสามารถเลือกที่จะเดินผ่านเมืองนี้ไปได้แต่พวกมันก็ไม่ทำ ที่แท้ก็เพราะแบบนี้นี่เอง  ท่านไปเรียนเรื่องพวกนี้มาจากไหนกันนี่ ? 

 ข้าไม่ได้เรียน 

 แล้วท่านรู้ได้ยังไงกัน ? 

 กองทัพต้องเดินด้วยท้อง หากขาดแคลนอาหารผู้คนก็อดตาย ทหารเองก็เช่นกัน  เขาพูดคำคมจากยุคปัจจุบันที่ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วออกมา

หยวนยู่เกาหัว  ปกติหรือ ? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมันมาก่อนเลย หรือว่าข้าไม่ได้สนใจมันกันแน่นะ ?  เขาส่ายหัวแล้วยกไหสุราขึ้นมาดื่มต่อ

ถังหยินมองเขาด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เรี่ยวแรงของเขากลับมาเต็มที่แล้วเหมือนกับคนที่หลับมาเต็มอิ่มหรือพวกผู้ฝึกยุทธ์ที่เติมพลังปราณเต็มที่แม้ว่าเขาจะไม่ได้พลังปราณของผู้อื่นมาก็ตาม

ทั้งสองนั่งอยู่บนกำแพงแล้วดื่มเหล้าสังสรรค์กันจนกระทั่งผล็อยหลับไปทั้งอย่างงั้น

ถังหยินกังวลว่าพวกหนิงจะเข้าโจมตีเมืองต่อในตอนกลางคืนจึงได้มาเฝ้าที่แห่งนี้ ทว่าเขาก็ต้องคิดผิด เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็เหนื่อยล้าเกินกว่าจะขยับตัวได้ ซึ่งก็ต้องรอจนกระทั่งรุ่งเช้าที่พวกหนิงได้เริ่มการบุกโจมตีอีกหน !

ครั้งนี้จ้านอู่ตี้ไม่คิดจะโจมตีแค่ทางเหนือเท่านั้น เขาเลือกที่จะแบ่งทหารอีกส่วนหนึ่งลงมาตีทางทิศใต้ด้วยการเสริมกำลังมากกว่า 2 หมื่นนาย

การเดินหมากเช่นนี้คงทำพวกเฟิงลำบากมากทีเดียว ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถเติมกำลังได้และใช้แต่ทหารเท่าที่มี ทว่าในครั้งนี้ เมื่อพวกเฟิงได้ชาวเมืองจินฮั๋วมาช่วยเสริม เรื่องราวทั้งหมดมันก็ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับการฝึกใด ๆ มาเลยก็ตาม หากทว่าจิตใจที่ต้องการต่อสู้ มันก็ได้ทำให้พวกเขามากล้นไปด้วยพลังใจและพลังกายเกินคาดเดา !

หากชายคนหนึ่งต่อสู้โดยมีชีวิตเป็นเดิมพันแล้ว มันก็ย่อมเป็นเรื่องยากนักที่จะล้มชายผู้นั้นได้ ซึ่งคนประเภทที่ว่าในกองทัพเฟิงก็มีอยู่นับไม่ถ้วนเลยทีเดียวในขณะนี้ ทำให้ไม่ว่าพวกหนิงจะพยายามตีฝ่ามามากเท่าไหร่ พวกเขาก็ไม่อาจทะลวงเข้ามาได้

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนถึงเที่ยงวัน จนกระทั่งมีศพมากมายที่กองกันจนเป็นภูเขา ก่อนที่พวกหนิงจะพากันถอนตัวกลับไปเมื่อพวกเขาคิดว่าวันนี้ฝืนทนทำศึกต่อไปก็เหนื่อยเปล่า

หลังจากการต่อสู้ที่เกิดขึ้น พวกหนิงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำการจัดกองกำลังใหม่และเริ่มตัดสินใจวางแผนที่จะโจมตีเมืองจินฮั๋วให้แตกเร็วกว่าเดิม เพราะในตอนนี้สิ่งสำคัญก็คือเสบียงอาหารของพวกเขากำลังจะหมดลงแล้ว ทำให้ทั้งจ้านอู่ฉางและจ้านอู่ตี้ไม่มีทางเลือกมากนักนอกเสียจะต้องใช้การโจมตีเข้าไปตรง ๆ จากหลายทิศทาง !

วันต่อมา ทั้งค่ายหนิงก็ได้จัดขบวนรถม้าที่มีธงสีขาวด้านบนมุ่งหน้าตรงไปยังทิศใต้ของเมืองจินฮั๋ว !

และด้วยความที่รถม้าอยู่ห่างไปไม่ไกลมากนัก มันจึงได้มีลูกธนูยิงเข้าใส่  ถ้าเจ้ายังเข้ามาอีก ธนูดอกหน้าข้าจะยิงไปที่หัวเจ้า ! 

คำขู่ดังกล่าวทำให้คนขับรถม้าหยุดลง ก่อนที่ชายวัยกลางคนในชุดขุนนางจะเดินลงมาแล้วตะโกนบอก  ข้าคือฑูตจากแคว้นหนิง 

ถ้าไม่นับพวกทหารข้าศึกแล้ว พวกเขาก็ไม่อาจที่จะยิงธนูหรือฆ่าทูตที่ถือธงขาวมาเช่นนี้ได้ …ทำได้เพียงแค่ขอคำสั่งจากผู้ที่มีอำนาจใหญ่กว่าเท่านั้น

ทั้งเมืองเงียบกริบ จนกระทั่งมีคนตะโกนออกมา  รอสักครู่ ! 

ทหารเฟิงรีบลงไปบอกถังหยินทันที

ซึ่งในเวลานี้ถังหยินก็กำลังอยู่ในห้องพักของเขาโดยมีเย่เหล่ยอยู่ภายในนั้นด้วย

กลายเป็นว่านางยอมรับแล้วที่จะเข้าร่วมกองทัพของเขาและกลายเป็นแพทย์หญิงประจำที่นี่ ส่วนบิดาของนาง ซูหมิงหยางเองก็เลือกที่จะเข้ามาเป็นแพทย์อาวุโสในกองทัพ

ซึ่งครานี้เย่เหล่ยมาหาถังหยินก็เพื่อเปลี่ยนผ้าพันแผลให้กับเขา หากแต่ชายหนุ่มก็ได้บอกปฏิเสธไปเพราะแผลหายดีแล้ว ทว่านางก็ไม่เชื่อเพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหายภายในไม่กี่วันเช่นนี้ !

และด้วยความเข้าใจผิดนี้เอง มันก็ทำให้นางขมวดคิ้วแน่น ก่อนพูดออกไปว่า  นายท่านไม่ต้องกังวลไป เมืองนี้มีวัตถุดิบให้ข้าทำยาได้หลากหลายเพียงพอสำหรับทุกคน 

ถังหยินไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาไม่ต้องการให้ใครช่วยทั้งนั้น ดังนั้นจึงส่ายหัวพร้อมกับถอดเสื้อแล้วหันหลังให้นาง  เจ้าเห็นแผลบนหลังของข้าไหมเล่า ? 

 

ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界]

ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界]

Status: Ongoing

สุดยอดนักฆ่าผู้แสนเย็นชานามว่า ถังหยิน เขาได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับร่างที่เปลืองเปล่า ณ ต่างโลก ก่อนจะจับพลัดจับผลูเข้าร่วมกับสงครามแบบงง ๆ และนี่ก็คือก้าวแรกของราชันเทพสงครามผู้ที่กำลังขึ้นผงาดและเปลี่ยนโลกใบใหม่นี้ไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท