ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 259 เขามาแล้ว
มาร์ตินพุ่งเข้าไปต่อยชายรับใช้คนนั้นอย่างแรง!
ต่อยเสร็จ เขาก็พุ่งเข้าไปในห้อง วิ่งไปหาเส้นหมี่ที่ถูกถีบจนล้มลงพื้น:“ยัยโง่ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?เธอรู้สึกอย่างไรบ้าง?”
เส้นหมี่พูดไม่ออกอีกต่อไป
เธอขดตัวเป็นกุ้งอยู่ที่พื้น กอดหน้าอกตัวเองไว้ เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผากที่ซีดขาวของเธอ
“ไม่……ไม่เป็นไร คุณไปจับพวกเธอสองคน อย่าให้พวกเธอ ……พวกเธอหนีไป”
ถึงเวลานี้แล้ว เธอยังเอาแต่จำว่า อย่าให้สองคนนี้หนีไป
มาร์ตินจ้องไปยังสุขาวดีที่อยู่ด้านหลังทันที
กลับเห็นว่า สุขาวดีที่ไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น แต่จู่ๆ พอเห็นมาร์ตินแล้ว เธอก็หดรูม่านตาลง ทันใดนั้น เธอก็ยิ่งตะโกนออกไปอย่างร้ายกาจ
“เธอยังมีคนในแก๊งด้วย เร็ว จับเขามา อย่าให้เขาหนี!”
ผู้หญิงคนนี้จำมาร์ตินได้ ด้วยความตื่นตระหนกอย่างทำอะไรไม่ถูก จึงให้คนในนี้ลากมาร์ตินกับเส้นหมี่ไป จากนั้นพวกเธอสองคนน้าหลานก็จะรีบหนี
เรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้ ผู้หญิงคนนี้ฉลาดมาก เธอไม่มีทางเดาการมาของพวกเส้นหมี่ไม่ได้
ดังนั้นมาร์ตินที่อุ้มเส้นหมี่ จึงเห็นแค่ว่าชั้นล่างมีคนใช้จำนวนมากกรูกันเข้ามาที่เขา พวกเขาสองคนถูกล้อมไว้ เบียดออกไปไม่ได้เลยสักนิด
“ไม่……ไม่ต้องสนใจฉัน รีบไปจับพวกเขา เร็วสิ!”
เส้นหมี่ที่โกรธจัด ก็ได้แต่ผลักมาร์ตินออกไปอย่างสุดแรง
ดังนั้นสุดท้ายแล้วมาร์ตินจึงยืนขึ้นมา จะทะลวงล้อมไล่ตามผู้หญิงสองคนนี้
แต่ว่า ในตอนนี้เอง พวกเขาอยากตามไปก็จะตามไปได้อย่างไรกัน?
คนในนี้ล้วนแต่เป็นคนที่หญิงแก่นั่นยุให้ทำ แล้วบวกกับมีแป้งร่ำคนที่เลือดไหลท่วมอยู่นั่น อย่าพูดว่าจะออกไปเลย อยากป้องกันตัวเองที่นี่ ก็ยากมากอยู่แล้ว
“กรี๊ด——!”
และก็ไม่รู้ว่าจู่ๆ ใครหยิบเก้าอี้ตัวหนึ่งทุ่มเข้ามา
ทันใดนั้น มาร์ตินที่เพิ่งยืนขึ้นมาแค่ได้ยินเสียงกรีดร้อง หันไปมอง ก็พบหญิงสาวที่เดิมทีนั่งอยู่บนพื้น ได้ถูกเก้าอี้ตัวนั้นทุ่มใส่จนยืนขึ้นมาไม่ได้
“ฉันจะฆ่าพวกแก!!”
มาร์ตินบ้าไปแล้ว!
เขาเลิกตามผู้หญิงสองคนนั้น แต่ยกกำปั้นขนาดเท่ากระสอบทรายแล้วปล่อยไปที่แก๊งนี้อย่างแรง
สถานการณ์ วุ่ยวายทันที
สุขาวดีเห็นทั้งหมดนี้ ก็ยิ้มอย่างร้ายกาจด้วยความพอใจ ลากหลานสาวของเธอออกไปตรงหน้าประตูอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เธอไม่มีเวลาไประดมเงินแล้ว ที่เธอต้องทำ คือรีบออกไปจากเมืองนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเธอน้าหลานก็จะเจอปัญหาได้
สุขาวดีพาแป้งร่ำมาด้านนอกอย่างโมโห
แต่ พวกเธอก็คิดไม่ถึงว่า พอก้าวออกมา จะเห็นรถสีดำอันหรูหราหลายคันที่เข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงดัง พวกเขาเหมือนสัตว์ร้ายที่ในที่สุดก็เคลื่อนไหว พอเห็นพวกเธอสองคน ก็พุ่งมาตรงหน้าพวกเธอ!
“กรี๊ด——”
แป้งร่ำที่พลังอันเข้มแข็งทรุดลงไปหมดแล้ว ก็กุมหน้าอกที่เปื้อนเลือดของตัวเองทันทีและตกใจกลัวกับเหตุการณ์นี้จนเกือบจะไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้
สีหน้าสุขาวดีก็เปลี่ยนทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเธอเห็นรถพวกนี้ส่งเสียง“เอี๊ยด”แล้วหยุดลงตรงหน้าเธอ ในรถที่นำมาคันนั้น ชายหนุ่มที่มีความเยือกเย็นลอยอยู่ทั่วทั้งตัว เดินลงมาดั่งพระราชา เธอก็เกือบยืนไม่อยู่
“แสน……แสนรัก……”
“จับพวกเธอมาให้ฉัน!”
หลังจากชายหนุ่มที่ดูเยือกเย็นไปทั่วลงมา ทั้งตัวเขาก็ดูเหมือนมาจากขุมนรก น่ากลัวมาก
เขามองไปข้างหน้า ใบหน้าที่เย็นชา เต็มไปด้วยความอาฆาตอันรุนแรง หลังจากพูดไปอย่างโหดเหี้ยมแล้ว เขาก็ก้าวเท้าก้าวใหญ่เข้ามาทางนี้
สุขาวดีเห็น ในที่สุดตรงหน้าก็มืดลง นิ่งไม่ขยับ
เธอไม่ได้โง่ พอเห็นชายคนนี้ปรากฏตัวแล้วรวบเธอไว้ในช่วงเวลาสำคัญได้ ก็คิดได้ว่า ตัวเองต้องถูกเขาจ้องไว้นานแล้วแน่
ดังนั้น ตอนที่เธอยังภูมิใจที่กลายเป็นราชาคนแรกที่ได้เล่นจักรวรรดิธุรกิจ ก็ไม่รู้ว่า ตัวเองได้กลายเป็นของเล่นในมือของคนนี้แล้ว
และจากสิ่งนี้ ไม่ต้องคิดเลย เธอก็รู้ว่าสถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร!
ในที่สุดสุขาวดีก็เดินออกไป
และในคฤหาสน์ตระกูลสิริศรตอนนี้
สถานการณ์โกลาหลบนชั้นสองยังไม่สงบลง เพราะคำใส่ร้ายของสุขาวดี และการโต้กลับอย่างโกรธแค้นของมาร์ติน คนก็พุ่งเข้ามาเรื่อยๆ
จุดประสงค์ ก็เพื่อจับ“ฆาตกร”สองคนนี้
“เอาเลย!เอาให้ตายในนี้ไปเลย!แค่ยังหายใจอยู่ ตำรวจไม่โทษพวกเราแน่”
ในตอนนี้เอง มีคนกวักมือ เรียกให้ทุกคนทำพวกเส้นหมี่ให้ตาย
ดังนั้นพวกเส้นหมี่ที่ถูกล้อมอยู่หน้าห้อง ก็ถูกคนกลุ่มนี้ทั้งตบตีและถีบ ถ้าไม่ใช่มาร์ตินปกป้องเส้นหมี่อยู่ เกรงว่าคงถูกทำตายตรงนี้ไปแล้ว
“ปัง——”
ตอนที่ผู้ชายคนนี้รู้สึกว่าตัวเองเป็นฮีโร่ จู่ๆ ในห้องโถงชั้นล่างก็มีเสียงปืนเข้ามา!
ทันใดนั้น ทุกคนต่างยังไม่ตอบสนองคืนมา เมื่อกี๊คนที่ยุยงทุกคน ได้ถูกกระสุนลูกหนึ่งทะลุผ่านคิ้วเขา จนเขาล้มลงไป
“โอ๊ย!!”
ตอนนี้ในที่สุดกลุ่มนี้ก็เลิกตี กุมหัวกรีดร้องโหยหวนไปที่พื้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงเหล่านั้น
สุดท้าย พอร้องออกมา ชั้นล่างก็มีเสียงดัง“ปังปัง”อีกสองที โคมไฟระย้าคริสตัลขนาดใหญ่ถูกกระสุนตัดลงไป ที่สว่างอยู่นั้นดับลงทันที และไฟนี้ก็ตกลงมาจากข้างบน