ยัยหมอวายร้ายที่รัก – บทที่ 631 เล็กแกร่งสู้ไม่ถอย

บทที่ 631 เล็กแกร่งสู้ไม่ถอย

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 631 เล็กแกร่งสู้ไม่ถอย
เส้นหมี่:“……”

ถือว่า หลังจากเธอเช็ดน้ำตาที่อยู่บนแก้ม จึงหันมามองคนคนนี้แวบหนึ่ง หลังจากนั้น เธอพบว่า เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้น

เพียงแต่ว่าด้านหลังของเขาแบกกีตาร์ตัวหนึ่ง เสื้อผ้าที่สวมใส่บนร่างกาย ก็เป็นแบบเก่าๆขาดๆ

“ทำไมเหรอ รู้สึกว่าผมเป็นเพียงนักร้องเร่ร่อนไม่เหมาะสมที่จะนั่งอยู่ข้างกายคุณเหรอ”

“ห๋า?”เส้นหมี่หันหน้ามาทันใด “ไม่ใช่ไม่ใช่ ฉันแค่เห็นคุณแล้ว ทันใดก็นึกถึงน้องชายของตัวเอง”

ไม่ผิดหรอก ตอนนั้นตอนที่อยู่ที่วอลล์สตรีท“น้องชาย”ที่ปลอมเป็นปอร์เช่

ในสมองของเส้นหมี่นึกถึงภาพนั้นขึ้นมา อยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีก……

เด็กหนุ่มรีบหยิบกีตาร์ที่แบกอยู่ด้านหลังลงมา:“เอาแบบนี้ไหม งั้นผมดีดกีตาร์ให้คุณฟังเอาไหม คุณฟังจบแล้ว ภายในใจของคุณน่าจะดีขึ้นมา”

“งั้นเหรอ”

“ใช่ คุณลองฟังดู”

หลังจากนั้น เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนี้ ก็ดีดกีตาร์อยู่ด้านหน้าของเธอ……

หลังจากเติบโตขึ้นมา

ฉันทำได้เพียงวิ่งไปข้างหน้า

ฉันจะหวาดกลัวแค่ไหน

ล้มลงในความมืดมน

พรุ่งนี้คุณก็ดีเอง

ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ยิ่งสวยงามกว่าเดิม

……

ทำนองที่คุ้นเคยดังขึ้นในสถานีรถไฟใต้ดิน เส้นหมี่ที่นั่งฟังอยู่ที่เก้าอี้ตัวนั้น กลับหลงใหลเข้าไปแล้ว……

แม้แต่เหตุผลง่ายๆเพียงเท่านี้เธอกลับไม่เข้าใจ หลายปีมานี้ อุปสรรคตั้งมากมายเธอต่างผ่านมาได้ ทำไมชายหนุ่มคนนั้นพูดออกมาคำหนึ่งอย่างกะทันหันว่า“หย่าร้าง” ถึงได้ทำให้เธอยอมแพ้เสียแล้ว

เธอไม่ใช่ของเหลือสักหน่อย เขาก็ไม่ได้เป็นเจ้าของเธอ!

เขามีสิทธิ์อะไร ตอนนั้นเขาบอกว่าคบกันก็คบกัน ตอนนี้เขาบอกว่าหย่าร้างก็จะหย่าร้าง ทั้งหมดต้องทำตามคำพูดของเขาอย่างนั้นเหรอ?

นั่นไม่มีทางหรอก

จู่ๆเส้นหมี่ก็มองโลกในแง่ดีขึ้นมา ทั้งร่างเหมือนได้ฟื้นคืนชีพกลับมา

เด็กหนุ่มดีดจบแล้ว พบว่าสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปแล้ว จึงยิ้มแย้มแล้วมองมาที่เธอ:“พี่สาว คุณดีขึ้นมากแล้วใช่ไหม”

เส้นหมี่พยักหน้าลงทันที:“อืม ขอบคุณนะ ตอนนี้พี่สาวไปก่อนนะ”

หลังจากนั้นเธอก็ลุกขึ้นแล้วล้วงลงไปในกระเป๋าหยิบเงินก้อนหนึ่งให้กับเขา

จำนวนเท่าไหร่นั้น เธอก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่ากำลังรีบร้อนจะกลับบ้าน เธอยังต้องกลับไปพาลูกๆย้ายบ้าน ตึกวังฬาหนึ่งนั้นนานแล้วที่ไม่มีคนทำความสะอาด เธอคงต้องยุ่งขึ้นมาอีกแล้วล่ะสิ

เส้นหมี่รีบกลับบ้านหลังจากนั้นก็พาลูกๆทั้งสามคนไปที่เรืองรองแล้ว

แสงดาวได้เห็น จึงด่าเธอว่าเป็นประสาท กำลังจะตรุษจีนแล้ว ยังจะกระเป๋าเล็กกระเป๋าใหญ่ย้ายไปย้ายมา

เส้นหมี่เห็นแล้ว เมื่อกี้จึงลากผู้หญิงคนนี้มาด้วย

“ป่ะ ไปเคาท์ดาวน์ด้วยกันที่โน่น คุณน่าจะไม่เคยอยู่ที่นั่นล่ะสิ ฉันจะบอกอะไรคุณนะ พวกเราทำความสะอาดให้ดีสักหน่อย หลังจากนั้นก็เก็บกวาดให้คุณห้องหนึ่ง ปีนี้พวกเรา ก็เคาท์ดาวน์ด้วยกันที่โน่น”

“เหอะ!”

แสงดาวไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วย

แต่ความจริงคือ ตอนที่เส้นหมี่เตรียมตัวขับรถออกไป เธอรีบพุ่งเข้ามากอดรินจังที่อยู่ด้านหลังสุดเอาไว้

หลังจากนั้นก็มุดเข้ามาในรถด้วยกัน

ผู้หญิงคนนี้ที่ปากไม่ตรงกับใจ

เส้นหมี่ยิ้มออกมาและส่ายหน้าไปมา

ในวันนี้ตอนบ่าย ผู้หญิงสองคนที่พาเด็กอีกสามคนมาที่เรืองรองงานยุ่งกันอยู่ทั้งวัน จนถึงตอนฟ้ามืด ในที่สุดพวกเขาก็จัดการเรียบร้อยแล้ว

“หม่ามี๊ ท้องหนูหิวแล้ว เมื่อไหร่จะทานข้าวกันคะ”

“หิวแล้วเหรอ โอเค หม่ามี๊จะไปทำกับข้าวนะ หนูรอแป๊บหนึ่งนะ”

เส้นหมี่ได้ยินลูกสาวพูดว่าหิวแล้ว จึงรีบเข้าไปในห้องครัวเอาผักที่ซื้อกลับมาเมื่อตอนกลางวัน เริ่มเตรียมทำอาหารเย็น

แน่นอนว่าเธอไม่ได้หนีชายหนุ่มไปไหน ที่ตั้งใจไม่ให้เด็กๆทั้งสามไปหาแด๊ดดี้ คือรอให้หลังจากกับข้าวที่บ้านเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งเวลาเอาไว้รอให้ชายหนุ่มกลับมา เธอตั้งใจเอาไว้ว่าให้เด็กๆปิดไฟเอาไว้ก่อน

“ที่รักของแม่ทุกคน พวกเรามาเซอร์ไพรส์แด๊ดดี้กันดีไหม อย่าพึ่งให้เขารู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ รอให้เขาเข้ามา พวกเราค่อยเปิดไฟ ดีไหมคะ”

“ดี!!”

เด็กๆทั้งสามคนได้ยินว่าเตรียมการเซอร์ไพรส์แด๊ดดี้ ทันใดต่างยินยอมพร้อมใจกันขึ้นมาอย่างดีใจ

มีเพียงแสงดาวที่อยู่ด้านข้างที่พูดออกมาอย่างเหนื่อยใจว่า:“ปัญญาอ่อน!”

เส้นหมี่ขี้เกียจจะสนใจเธอ รีบเรียกให้พวกเด็กๆปิดไฟทั้งหมดลง

ตอนนี้บ้านทั้งหลัง ในหนึ่งวินาที ก็มืดลงทั้งหมดแล้ว ถ้ามองดูจากด้านนอก ก็เหมือนกับไม่มีคนอยู่จริงๆ

ในตอนที่แสนรักกลับมา ได้เห็นแล้ว ภาพแบบนี้ มองดูแวบหนึ่ง ทันใดนั้น ในสมองของเขาก็เห็นอีกภาพหนึ่งที่มีแสงไฟสีส้มส่องสว่างเต็มลานบ้าน

ทันใด เท้าที่เหยียบอยู่บนคันเร่งก็เหยียบไม่ลงแล้ว

ไม่มีอารมณ์ที่จะเข้าไปในสถานที่วังเวงและว่างเปล่าแบบนี้

แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะขับรถเข้าไป

“วาบ——”

ใครก็ต่างคิดไม่ถึง เมื่อเขาจอดรถลง เตรียมตัวเดินเข้าไปในบ้านหลังนี้ ทันใดนั้น ภาพของบ้านหลังนี้ที่มืดสนิท กลับมีแสงไฟส่องสว่างขึ้นมา

“แด๊ดดี้กลับมาแล้ว!”

“แด๊ดดี้ ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว ดูสิ นี่เป็นเซอร์ไพรส์ที่พวกเราเตรียมเอาไว้ให้คุณ คุณดีใจหรือเปล่า”

“……”

เหมือนกลับเล่นมายากลยังไงอย่างงั้น เดิมทีเป็นบ้านที่วังเวงและว่างเปล่า ไม่เพียงแค่แสงไฟที่สว่างขึ้น ยังมีร่างเล็กๆเหล่านี้ ที่เหมือนกับนกนางแอ่นที่บินออกมาจากด้านใน

มองมาที่เขาแล้วตะครุบเข้ามา

แสนรักนิ่งไป เป็นเวลานาน เขาก้มลงมองลูกๆตัวน้อยที่กอดอยู่ที่ขาทั้งสองข้าง ในสมองยังอยู่ในภวังค์

เหมือนกับฝันไป สวยงามจนไม่เหมือนความจริง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท