ยัยหมอวายร้ายที่รัก – บทที่ 731 นี่เธอถึงขนาดบังอาจมาสั่งสอนฉันแล้วหรือ

บทที่ 731 นี่เธอถึงขนาดบังอาจมาสั่งสอนฉันแล้วหรือ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 731 นี่เธอถึงขนาดบังอาจมาสั่งสอนฉันแล้วหรือ?
น่ากลัวเกินไปแล้ว!

นี่เขาไปแล้วหรือ? ถึงกล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา นี่ใช้ตระกูลเทวเทพมากดคุณนายตระกูลประจักรสินชัดๆเลยไม่ใช่หรือไง?

แล้วยังการยอมจำนนยกให้ หรือเป็นใหญ่เสียเอง!!!

นี่นอกจากจะกดตระกูลไวท์แล้ว คิดจะเล่นงานตระกูลเทวเทพให้จบเห่เลยหรือไง!

เส้นหมี่ตัวสั่นไปหมด

แต่คุณนายปัณฑา เมื่อได้ยินดังนั้น ก็โกรธจนแทบหน้าเขียว ราวกับโรงงานย้อมสีผ้า ไม่ต้องพูดถึงว่ามันน่าดูแค่ไหน

สุดท้าย ประณพก็ออกมาจากห้องพักผู้ป่วย

“พอเถอะ แม่ ไม่ต้องต่อปากต่อคำกับเขาแล้ว ในเมื่อเขาอยากรั้งเธอไว้ ก็แล้วแต่เขา ผมจะไปอเมริกากับแม่ ที่นี่คือโรงพยาบาล อย่าให้เป็นเรื่องเลย”

ชายหนุ่มอายุเพียง24ปีคนนี้ กลับไม่ได้โวยวายถกเถียงใดๆ หลังจากออกมา เขาขอร้องแม่ของเขาอย่างสงบ แล้วยังพูดถอดใจเรื่องพาเส้นหมี่ไปอเมริกาอย่างชัดเจน

เส้นหมี่มองเขาอย่างประหลาดใจทันที

การตอบสนองแบบนี้ ทำให้เกิดความประหลาดใจเล็กน้อย ในเรื่องสำคัญแบบนี้ เขากลับไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่

เมื่อคุณนายปัณฑาได้ยินดังนั้น ก็อดกลั้นความโกรธ แล้วเดินกลับห้องพักผู้ป่วยไปอย่างไม่พอใจ

เส้นหมี่ “……”

มองไปยังชายหนุ่มที่กำลังมาทางตัวเอง เธอกำลังจะอธิบายสักหน่อย แต่ชายหนุ่มเย็นชาที่อยู่ด้านนอก จู่ๆก็ว่าเธออย่างเย็นชา “เธอจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกทำไม? ยังไม่รีบไสหัวมาอีก?!!”

“……”

เส้นหมี่รีบวิ่งออกมา

แต่ประณพ เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว เขายืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องพักผู้ป่วย สุดท้ายก็ห้าม สายตาที่มืดมนคู้นั้นไม่ได้ จ้องชายที่อยู่ด้านนอกคนนี้เขม็ง

“แสนรัก คุณบ้าระห่ำขนาดนี้ คุณท่านของคุณรู้หรือเปล่า?”

“รู้สิ ทำไมจะไม่รู้? เธอไม่เห็นหรือว่าฉันถูกหามลงมาจากเขาภูตาน่ะ?”

“คุณ……”

ในที่สุดประณพเองก็ถูกทำให้โกรธจนกำหมัดจนเกิดเสียง

แต่ว่า ไม่มีประโยชน์อะไร

หลังจากชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพูดจบ ก็ไม่ได้ทิ้งเขาไป แววตาตรงหางตาของเขา มองไปยังเส้นหมี่ที่อยู่ข้างๆอย่างรำคาญ “เข็นฉันกลับไป”

“อ๋อๆ ได้ค่ะ”

เส้นหมี่ได้ยิน ก็รีบเข็นเขาไป

จนถึงตอนนี้ เธอไม่มีความกล้าแม้แต่จะหันกลับไปมองแวบหนึ่ง

สนามรบที่ดุเดือดนั่น น่ากลัวเกินไปแล้ว มันไม่ใช่ความขัดแย้งส่วนตัวแล้ว แต่มันใหญ่โตไปถึงขั้นสามารถเกิดความวุ่นวายในประเทศได้วินาทีเลย แล้วกุ้งฝอยตัวเล็กๆอย่างเธอ จะกล้าพูดแทรกอะไรล่ะ?

เส้นหมี่เข็นชายคนนี้กลับมาที่แผนกศัลยกรรมด้วยอาการที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดทาง

“คือว่า……คุณแสนรัก ที่คุณพูดเมื่อกี้นี้ มันแย่ไปหน่อยหรือเปล่าคะ? สองแม่ลูกเป็นถึงคนตระกูลไวท์ คุณพูดไปแบบนั้น ถ้าหากคุณท่านของคุณรู้เข้า ท่าน……จะโกรธหรือเปล่าคะ?”

เมื่อกลับมาถึงห้องพักผู้ป่วย เส้นหมี่ลังเลไปครู่หนึ่ง อย่างไรก็ทนไม่ไหวต้องพูดออกมา

ใช่แล้ว หลายวันมานี้ เธอคิดวิธีแก้ปัญหาวิกฤติมาตลอด ก็เพื่อไม่ให้ไชยันต์อยากกำจัดเธอทิ้งอีก

และสองวันก่อนเธอก็อุตส่าห์แก้ปัญหาได้แล้ว

แต่ตอนนี้ จู่ๆเขาก็ไปพูดแบบนั้นกับคนตระกูลไวท์ ทำให้ตระกูลเทวเทพเป็นขี้ปากคนอื่น นี่ถ้าคุณท่านรู้เข้า คงจะอยากฆ่าเขาทั้งเป็นอีกแน่

เส้นหมี่กังวลมาก

แต่คนคนนี้ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย

อีกทั้ง หลังจากได้ยินเธอพูดแบบนั้นแล้ว ใบหน้าที่หล่อเหลาก็ปรากฏความไม่พอใจขึ้น “เธอจะสนใจอะไรนักหนา? มีสิทธิ์มาสั่งสอนฉันตั้งแต่เมื่อไรกัน?”

“ไม่ ไม่ใช่ค่ะ” เส้นหมี่รีบอธิบาย “ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ฉันเพียงแค่……เพียงแค่เป็นห่วงคุณ”

“ไม่จำเป็น เธอดูแลตัวเองให้ดีดีกว่านะ ตัวเองยังแทบจะเอาตัวไม่รอด ยังมีกะจิตกะใจมาห่วงคนอื่นอีกหรือ? รีบอุ้มเจ้าตัวเล็กไปได้แล้ว อย่าอยู่ขวางหูขวางตา!”

เขาปฏิเสธความเป็นห่วงจากเธออย่างไม่ลังเล

อีกทั้ง ยังพูดถากถางให้เส้นหมี่อุ้มลูกแล้วรีบไปเสีย

เส้นหมี่ “……”

มองดูใบหน้าที่เย็นชาและรำคาญใจของเขาเงียบๆ สุดท้าย เธอก็ไม่พูดอะไรต่อ เดินไปอุ้มลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

แล้วเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไป

ตอนนี้เธอเริ่มจับทางอารมณ์ของเขาได้บ้างแล้ว นั่นคือเวลาที่เขาโมโห อย่าไปปะทะ และอย่าไปเถียงเขาเด็ดขาด

ไม่อย่างนั้น มีแต่จะทำให้เรื่องแย่กว่าเดิม!

เส้นหมี่พาลูกออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ตรงไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการ ไปหาไพบูลย์

“ด็อกเตอร์ไพบูลย์?”

“รอเดี๋ยว ด็อกเตอร์ไพบูลย์กำลังคุยโทรศัพท์กับคุณท่านไชอยู่ อีกเดี๋ยวเธอค่อยเข้าไป”

ด้านนอกห้องทำงานผู้อำนวยการ เลขาของไพบูลย์ยืนอยู่ด้านนอกด้วยความลนลาน เมื่อเห็นว่าเส้นหมี่มา ก็รีบขวางเธอไว้

ไชยันต์?!!

เมื่อเส้นหมี่ได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ซีดเซียวทันที

เร็วขนาดนี้เลยหรือ เพิ่งจะผ่านไปไม่นานเองนะ? เธอกลับมาที่นี่ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงเลยด้วย พระเจ้า! แล้วนี่จะทำอย่างไรดี? เธอจะไม่ได้คิดวิเคราะห์อะไรเลย

เธอลนลาน มือเท้าเย็นอย่าเฉียบพลัน

“หม่ามี๊……”

ในเวลานี้หนูรินจังก็ได้ตื่นพอดี อยู่ในอ้อมกอดเธอและเรียกเธออย่างงัวเงีย

เส้นหมี่มองเธอ

จริงสิ ดลธี เธอต้องรีบบอกให้เขามาที่นี่ ถ้าหากไชยันต์เคลื่อนไหว เกิดเรื่องร้ายแรงที่ไม่อาจคาดคิดขึ้น ถึงตอนนั้นพวกเขาคงต้องลักพาตัวแล้วล่ะ

เส้นหมี่อุ้มลูกแล้วจากไปทันที

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท