ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 790 เธอแค่อยากกลับไปอยู่ข้างกายเขาให้เร็วที่สุด
แทบจะในขณะนั้น ความรู้สึกกลัวที่มากมายก็ปกคลุมเข้ามาตั้งแต่ศีรษะ ทำให้ทั่วทั้งร่างของเธอเฉาลงไป
“คุณ……คุณพูดมั่ว!”
“ฉันพูดมั่วหรอคะ?” แสงดาวพูดด้วยเสียงเยือกเย็นขึ้นอีก
“ฉันพูดมั่วหรือเปล่านั้น ใจของคุณรู้ดีกว่าใคร ฉันจะบอกอะไรให้นะคะ เป็นเพราะฉันไม่มีเวลาว่างมานั่งเล่นเกมกับคุณเลยปล่อยตัวคุณไป ถ้ายังมีรอบหน้าอีก คุณก็จะรู้ว่าจุดจบที่ทำให้ฉันแสงดาวไม่พอใจนั้นจะเป็นยังไง!”
แสงดาวพูดทิ้งท้ายที่ข้างหูของเธอ
หลังจากนั้นก็เดินจากไป
ไม่พลาด จุดจบที่ทำให้แสงดาวไม่พอใจก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวของคนทั่วทั้งเมืองA ถ้าเธอทำให้เธอโกรธขึ้นมาจริงๆ เธอไม่ถือสาที่จะเอาโรคที่ตกค้างนี้อยู่ไปเมืองหลวงด้วย
แสงดาวมาที่ชั้นสาม
หลังจากที่ออกกำลังกายแล้วก็ทำให้รู้สึกอารมณ์ผ่อนคลาย เหมือนกับอากาศที่ตกตะกอนอยู่นานได้รับการปลดปล่อย ทำให้ทั่วร่างนั้นรู้สึกสบาย
ดังนั้นหลังจากที่แสงดาวขึ้นมาก็เห็นแสนรักหลับอยู่ในห้องนอนชั้นสาม
“สภาพเขาดีอยู่นะ ช่วงเวลานี้เป็นเพราะอาการลงแดง เขาเลยไม่ได้หลับดีแบบนี้มานานแล้ว หวังว่าหลังจากนี้จะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ!”
“ค่ะ ฉันจะให้ความร่วมมือกับเขา”
แสงดาวได้ยินข่าวดี อารมณ์ก็ดีไม่น้อย
กลับไปที่ห้องของตัวเอง หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จก็คลานขึ้นบนเตียงนอน
เส้นหมี่ : พี่ สวัสดีตอนเช้าค่ะ
เส้นหมี่ : พี่ทำอะไรอยู่ ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ?
………
เส้นหมี่ : พี่กำลังทำอะไรอยู่อ่ะ ทำไมไม่ตอบแชทหนู?
เห็นข้อความแชทสุดท้ายในโทรศัพท์ที่เธอส่งมาอย่างโกรธๆ แสงดาวก็ให้รู้สึกหัวจะปวดเลยลุกขึ้นมาตอบแชทของเธอ
แสงดาว : พี่ไปชกต่อยมาน่ะสิ ไปชกกับม็อกโกมา
เส้นหมี่ : ……….
อีกฝ่ายตอบกลับมาจริงๆ
แต่ว่าข้อความที่ตอบกลับมานั้นคือ………
แสงดาวเห็นก็ทักว่า……
แสงดาว : ทำไม? พี่ชกต่อยกับเขา เธอไม่ดีใจหรอ?
เส้นหมี่ : …….พี่จริงจังหน่อยได้มั้ยเนี่ย? หนูร้อนใจนะ หนูอยากรู้อาการของเขา
ด้านฝั่งของเจแปน ในที่สุดเส้นหมี่ที่กำลังนอนอยูบนเตียงก็อดไม่ได้ที่จะส่งข้อความตอบกลับมา
เธอจงใจจริงๆ ทั้งๆที่รู้ว่าเธอห่วงน้องชายของเธอขนาดนั้น แล้วยังจงใจพูดถึงเรื่องอื่นอยู่อีก พูดจาไร้สาระอะไรไม่รู้
ดีที่หลังจากที่เห็นเธอโกรธ เธอที่อยู่ทางนั้นก็ได้รายงานสถานการณ์ให้ฟังอย่างว่าง่าย
แสงดาว : เอาละ พี่รู้แล้ว เขาสบายดี วันนี้ตอนเช้าพวกเราไปออกกำลังกายเป็นเพื่อนเขา หมอบอกว่าเขาต้องออกกำลังกายให้เยอะๆ เพื่อให้มีกำลังต้านการสำแดงที่อยู่ภายในร่างกาย หลังจากนั้นพวกเราเลยไปออกกำลังกาย
เส้นหมี่ : อืมๆ หลังจากนั้นล่ะ?
แสงดาว : หลังจากนั้นก็ดีแล้วไง เขาออกกำลังกายเสร็จ ตอนนี้นอนหลับสบายมาก หมอบอกว่าหลังจากเขาติดเชื้อนี้เป็นครั้งแรกที่นอนหลับดี ดังนั้นเธอไว้ใจได้
เธอไม่ลืมพูดทิ้งท้ายปลอบใจเธอ
เส้นหมี่เห็นข้อความนั้นใจที่หนักหน่วงก็ให้ผ่อนลงจริงๆ
เพียงแค่ได้ยินว่าเขาดีขึ้น ทุกอย่างก็คุ้มค่าแล้ว
“สวยใส ผมได้ยินโดโมโตะพูดว่าวันนี้คุณขอทำการผ่าตัดซ้ำครั้งที่สองหรอ?”
ขณะที่คนทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้น คณาธิปที่อยู่ข้างนอกได้เดินเข้ามา
เส้นหมี่ได้ยิน เลยทำได้แค่วางโทรศัพท์ลงไว้ก่อน “ใช่ค่ะ ฉันจะรักษาให้เสร็จเรียบร้อยดีก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยไป”
คณาธิปพูดอย่างรีบร้อนขึ้นว่า “แต่ว่าระยะเวลาที่ห่างจากการผ่าตัดครั้งแรกก็ไม่กี่วันเองนะ หมอบอกแล้วนะว่าทางที่ดีคือให้ปากแผลได้สมานกันก่อน แล้วค่อยเริ่มผ่าตัดครั้งที่สอง ไม่งั้นจะเสี่ยงต่อการผ่าตัดไม่สำเร็จเอานะ”
“ดังนั้น ขอร้องคุณล่ะนะ!”
เขาพูดจบลง สายตาของเธอก็รับกันกับเขา แล้วพูดเสียงเรียบ
คณาธิปชะงัก!
แววตาคู่นี้มันยังไงนะ?
เด็ดเดี่ยว ร้อนรน แล้วก็มีท่าทีที่จะไม่ต่อรอง……
มันเหมือนทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นอันตราย เธอก็ทำเพื่อผู้ชายคนนั้นโดยไม่สนใจอะไรเลยสักนิดเดียวแบบนี้ ได้เห็นเขาขนาดลมหายใจยังก็ยังมีความรู้สึกเจ็บแบบถี่ๆ
ผู้ชายคนนั้นจะมีความรู้สึกอะไรบ้าง?
คณาธิปค่อยๆหลับตาลง ในที่สุดเขาจึงเดินออกไป
หลังจากนั้นไม่นาน โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งก็ได้รับข่าววันเดียวกันว่าช่วงบ่ายนั้นจะมีหมอศัลยกรรมตกแต่งชั้นนำระดับนานาชาติท่านนึงมาเข้าร่วมการผ่าตัดรักษาใหม่อีกครั้ง
ในถนนที่ไม่มีชื่อเสียงสายนึงของโตเกียว พิมแสงกำลังทำความสะอาดห้องอยู่
ข้างๆเป็นก้อนแป้งชมพูที่เจ้าเนื้อกำลังกระดกก้นขึ้นนอนอยู่บนโต๊ะแล้วหยิบดินสอของตัวเองมาเขียนลงบนกระดาษ
“รินจัง หนูกำลังทำอะไรอยู่?”
พิมแสงเห็นท่าทีจริงจังของเธอ ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้
เจ้าเด็กนั้นเขียนพลางตอบด้วยเสียงนิ่มๆว่า “หนูกำลังเขียนจดหมายให้แดดดี๊อยู่ พวกเราออกจากบ้านมา แดดดี๊ต้องคิดถึงพวกเราแน่นอน หนูจะเขียนจดหมายถึงแดดดี๊ค่ะ”
“ว้าว เขียนจดหมายด้วยหรอเนี่ย”
พิมแสงรู้สึกโดนใจกับคำพูดของเจ้าเด็กหญิงตัวน้อย เลยเดินถือไม้ปัดขนไก่เข้าไปหา
แต่กลับพบว่าหลังจากที่เธอมาที่ด้านหน้าของเธอแล้วก็เห็นเธอกำลังเขียนจดหมายอยู่จริงๆ เพียงแต่ว่าตัวอักษรที่หยักๆงอๆนั้น เธอมองไม่ออกว่ามันคืออะไร?