นานเนิ่นนาน
หวางซีถึงได้หยุดลงมา มุดหัวเข้าไปในอ้อมกอดของเย่เซิ่งเทียนอย่างเขินอายในทันที และไม่กล้ามองทุกคน
เย่เซิ่งเทียนแกล้งทำเป็นโบกมือใหญ่โดยไม่สนใจ และพูดว่า: “เอาล่ะ ฉันพาภรรยาของฉันกลับบ้านแล้ว พวกนายต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านได้”
หลังจากที่พูดจบ ในคำอุทานของหวางซี อุ้มขึ้นมาก็ออกไป
“น่าอิจฉาจริงๆ”
เกาเจี๋ยพูดอย่างอิจฉาตาร้อนว่า: “ทำไมฉันไม่เจอกับผู้หญิงที่ดีอย่างประธานหวางบ้างนะ?”
เวินเฉินพูดอย่างเย็นชาว่า: “นายก็ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา ตัวเองหน้าตาเป็นยังไง เหมือนกับหมีดำขนาดนี้ ใครจะชอบนาย?”
เกาเจี๋ยเถียงกลับว่า: “พูดอย่างกับว่าใครจะชอบทอมบอยอย่างเธอแหละ พวกเราสองคนไม่ต้องต่อล้อต่อเถียงว่าใครดีเลวกว่าใคร พอใจยัง ยังจำเสี่ยวโจงได้ไหม? เธอทำให้คนกลัวจนหนีไป”
หลันรั่วรั่วกะพริบตา ราวกับมีเรื่องสนุกให้ดู
“เกาเจี๋ย แกรนหาที่ตาย!!!”
เห็นใบหน้าของเวินเฉินแดงเล็กน้อย และเตะไปทางเกาเจี๋ย
เกาเจี๋ยหลบไปอย่างรวดเร็ว และวิ่งไปด้วยพูดไปด้วยว่า: “ทอมบอย เธอก็ยอมแพ้เถอะ ไม่มีใครชอบเธอหรอก สาวแก่”
“นายพูดอีกรอบสิ!!”
เวินเฉินไล่ตามอย่างโกรธเคือง
หลันรั่วรั่วคว้าปูจากโต๊ะตัวหนึ่ง ก็รีบออกไป
เย่เซิ่งเทียนอุ้มหวางซี ก็เดินกลับไปบ้านแบบนี้
บนท้องฟ้า มีแสงจันทร์พร่ามัว และดวงดาวน่าหลงใหล
รักคุณเข้าแล้ว
ฉันยอมรับว่าเป็นความผิดของพระจันทร์ โทษแต่แสงจันทร์ที่สวยเกินคุณอ่อนโยนเกินไป
ถึงได้อยู่ในชั่วพริบตา อยากอยู่กับคุณไปจนแก่เฒ่า
ฉันยอมรับว่าความผิดของคำสาบานทั้งหมด ดันพูดไพเราะอ่อนหวานจนคนหวั่นไหวที่สุด
หัวใจจะเหมือนเหล็กแค่ไหนก็กลายเป็นอ่อนละมุม
หวางซีกระซิบว่า: “เซิ่งเทียน ปล่อยฉันลงมาเถอะ คนเยอะมากนะ”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างเผด็จการว่า: “คนเยอะแล้วทำไม ฉันอุ้มภรรยาของฉัน เกี่ยวอะไรกับพวกเขา”
บรื้น บรื้น บรื้น
ทันใดนั้น เสียงซิ่งรถสปอร์ตดังไปทั่วถนน และกึกก้องขึ้นมา
รถมาเซราติคันหนึ่งเคลื่อนไหวอย่างสวยงาม ขวางทางของเย่เซิ่งเทียนและหวางซี
ต่อจากนั้น รถยนต์หรูหลายคันที่อยู่ข้างหลัง ก็จอดลงมา แล้วล้อมรอบเย่เซิ่งเทียนและหวางซีไว้
เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้ว ปล่อยหวางซีลง และจ้องมองชายหนุ่มที่ลงจากรถ
“แกก็คือเย่เซิ่งเทียน? แกเองเหรอที่ตีขาพี่ชายฉันหัก?”
ชายหนุ่มผมแดง จุดบุหรี่อย่างเอ้อระเหยลอยชาย และถามอย่างหงุดหงิด
ชายหนุ่มแปดคนล้อมเข้ามา และแสยะยิ้มพูดว่า: “คุณชายรองซุน พูดจาไร้สาระอะไรกับไอ้หมอนี่ จัดการเลยดีกว่า”
ชายหนุ่มสวมตุ้มหูพูดว่า: “เฮ้ ผู้หญิงคนนี้ใช้ได้ทีเดียวนะ คืนนี้เพื่อนๆสามารถสนุกได้เต็มที่แล้ว”
เย่เซิ่งเทียนหรี่ตา
หวางซีจับมือเย่เซิ่งเทียนอย่างกังวลใจ กลัวเกิดเรื่องกับเขา และรีบพูดว่า: “เซิ่งเทียน ไม่ต้องสนพวกเขา พวกเราไปกันเถอะ”
“ไป? แกไปได้เหรอ?”
ชายผมเหลืองเคี้ยวหมากฝรั่ง และพูดด้วยรอยยิ้มดุร้ายว่า: “หลายวันนี้เพื่อนๆหลายคนตั้งใจตามหาแกนะ วันนี้ไม่จัดการแก เพื่อนๆหลายคนก็ไม่คู่ควรที่จะถูกเรียกว่าเป็นเด็กเสเพลในเมืองเฉียนถัง!”
คุณชายรองซุนผมแดงกล่าวอย่างดูถูกว่า: “ว่ายังไง ไปกับพวกเราดีกว่า พวกเราคุยกันดีๆหน่อย แกจะชดใช้ให้พี่ชายของฉันยังไง?”
เขาโยนก้นบุหรี่ทิ้ง ถ่มน้ำลายลงบนพื้น และโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ: “พาตัวไปทั้งหมด”
“คนตระกูลซุน?”
เย่เซิ่งเทียนพูดช้าๆ: “แกทำให้ภรรยาของฉันกลัว ฉันให้เวลาแกสิบวินาที คุกเข่าขอโทษภรรยาของฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น ต่อให้ซุนคุนมา แกก็ต้องตาย”
“เชี่ย ไอ้เด็กเปรต แกอวดดีกับใครนะ? กล้าพูดแบบนี้กับคุณชายรองซุน ฉันว่าแกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”
ไอ้ผมเหลืองกระโดดเตะเข้ามา เย่เซิ่งเทียนคว้าข้อเท้าของเขาไว้ในทันที และกระแทกลงพื้นในทันที
“ยังมีแปดวินาที”
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างเยือกเย็น