หลังจากออกจากห้องประมูล เย่เซิ่งเทียนกำลังจะไปหาหวางซี ไม่คิดเลยว่าเธอจะโทรมาก่อน บอกว่าเธอรออยู่ที่ล็อบบี้
เย่เซิ่งเทียนไปเข้าห้องน้ำก่อน แล้วค่อยพาหวางซีกลับไปด้วย อยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
หวางซีจ้องโทรศัพท์ด้วยความเบื่อ แก้มสองข้างของเธอแดงก่ำ เมื่อกี้นั่งคุยกับพวกจ้าวปิงและเธอก็ดื่มเหล้าไปไม่น้อย
“หวางซี? เธอมาทำอะไรที่นี่?”
หวางซีเงยหน้าขึ้นมองและตกใจครู่หนึ่ง จำอีกฝ่ายได้ในทันที เป็นเพื่อนร่วมหอของเธอในมหาวิทยาลัย หงเสี่ยวเหมย
จากนั้นก็พูดอย่างมีความสุข “เสี่ยวเหมย? เธอกลับประเทศมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอเธอที่นี่ มันดีมากๆเลย”
“เพิ่งกลับมาได้เดือนเดียวเอง”
แต่หงเสี่ยวเหมยกลับไม่ได้ตื่นเต้นเท่าหวางซี แม้แต่รอยยิ้มของเธอก็ดูแบบขอไปที เมื่อเห็นการแต่งตัวของหวางซี มากสุดรวมกันก็แค่พันกว่า ราคายังเทียบไม่ได้กับรองเท้าของเธอเลย
ในตอนนั้นหวางซีเป็นคนที่สวยที่สุดในหอพักและถูกหนุ่มๆในมหาลัยเลือกให้เป็นดาว แม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ความจริงแล้วพวกเธออิจฉามากๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิง อย่ามองดูว่าพวกเขามีความสุขมากแค่ไหนเมื่อเล่นด้วยกัน แต่ลับหลังแล้วไม่รู้ว่าด่ายังไงกันบ้าง ไม่มีทางเหมือนกับเปลือกภายนอกเลย
ก่อนหน้านี้มีเรื่องตลกบนอินเทอร์เน็ตว่า ห้องพักหญิงห้องหนึ่งมีคนหกคนหญิง แต่สร้างกลุ่มแชทมา5กลุ่ม แม้จะเป็นแค่มุขพูดเล่น แค่อันที่จริงมันมีอะไรมากกว่านั้น
แต่หวางซีไม่ได้คิดอะไรมากมาย หงเสี่ยวเหมยเรียนจบก็ออกไปเมืองนอกแล้ว ตอนนั้นพวกเธอสนิทกันมาก ไม่ได้เจอกันนานหลายปี พอกลับมาเจอกันอีกครั้ง จึงทำให้เธอมีความสุขมากๆ
“เสี่ยวเหมย มาเมืองเฉียนถังทั้งที งั้นก็ต้องอยู่เที่ยวนานสักหน่อย ฉันพาเธอไปเอง เราสองคนต้องเที่ยวด้วยกันสักหน่อย”
“ได้สิ”
หงเสี่ยวเหมยถึงแม้ปากจะพูดว่าตกลง แต่เธอก็เยาะเย้ยอยู่ในใจ ยัยคนจน คงจะต้องการใช้โอกาสนี้เพื่ออยู่ฟรีกินฟรีละสิ? ยังมาบอกว่าจะพาฉันไปเดินเล่น? อย่างฉันยังต้องให้เธอพาไป? เธอก็แค่ต้องการสร้างความสัมพันธ์กับฉันไม่ใช่เหรอ เสแสร้งอะไรกัน
เธอถึงขั้นสงสัยว่าหวางซีต้องรู้แน่นอนว่าเธออยู่ที่นี่ ดังนั้นเลยตั้งใจมารออยู่
และเธอก็พูดอย่างเย็นชาว่า “หวางซี ฉันได้ยินมาว่าเธอมีสามีที่แต่งเข้าบ้านเหรอ? ตอนนั้นเธอสวยที่สุดในหมู่พวกเราเลยนะ แล้วยังได้เป็นดาวอีกด้วย ทำไมถึงหาสามีแต่งเข้าบ้านละ? ฉันยังได้ยินมาอีกว่าสามีของเธอขี้เกียจ แถมไม่ได้เรื่อง
หวางซีคิดว่าเธอพูดเล่น เธอจึงอธิบายด้วยรอยยิ้มว่า “สามีของฉันก็ดีมาก เขาเพิ่งปลดทหาร…”
หงเสี่ยวเหมยพูดขัดอย่างรำคาญ “พอเถอะหวางซี ขยะก็คือขยะ ทำไมเธอต้องพยายามอธิบายด้วย ฉันแค่รู้สึกเสียดายเฉยๆ เหมือนดอกฟ้ากับหมาวัด”
“เธอดูเธอสิ ใส่เสื้อผ้าราคาถูกแบบนี้ รองเท้าของฉันยังแพงกว่าเลย เธอพูดสิทำไมยังกล้าใส่ออกมา เหอะ ดูเธอสิ หาสามีไร้ประโยชน์เช่นนี้ ก็ต้องลำบากแบบนี้แหละ”
หวางซีขมวดคิ้ว คำพูดนี้ของหงเสี่ยวเหมยหมายความว่ายังไง?
“หวางซี เธอหาคนแบบนี้มาเป็นแฟน เธอหวังอะไรในตัวเขากันแน่? เอาแบบนี้ไหม ฉันแนะนำพวกคุณชายร่ำรวยให้สักหน่อย ด้วยรูปร่างหน้าตาของเธอเนี่ยนะ ยังกลัวว่าจะหาเงินไม่ได้เหรอ?
“เธอดูสิ อยากจะขอร้องฉันก็พูดออกมาตรงๆ ทำไมถึงต้องแสร้งทำเป็นมาบังเอิญเจอด้วยละ? เห็นแก่ที่พวกเราเคยเป็นรูมเมทกัน คืนนี้ไปกับฉัน ฉันพาเธอไปเจอสังคม แค่คืนเดียวก็สามารถหาเงินได้มากกว่าทั้งชีวิตของเธอ!”
หวางซีขมวดคิ้วแน่น เริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย
เธอเห็นว่าหงเสี่ยวเหมยเป็นเพื่อนร่วมห้อง แต่หล่อนคิดว่าเธอเป็นตัวอะไรกัน?
แล้วยังดูถูกสามีของเธอต่อหน้าเธออีกด้วย หมายความว่ายังไงกันแน่!!
“ซีเอ๋อร์ คุณคุยกับพวกเขาเสร็จแล้วเหรอ?”
ในเวลานี้ เย่เซิ่งเทียนเดินเข้ามาและถามด้วยรอยยิ้ม