“อะไรนะ? ไอ้อู๋เป็นผู้หญิงเหรอ? เป็นไปไม่ได้!”
คำพูดของหัวเวิ่นยี สำหรับหลี่กั๋วหรงแล้ว มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เขากับไอ้อู๋รู้จักกันมาสามสิบปีแล้ว ไอ้อู๋จะเป็นผู้หญิงได้อย่างไร?
หลี่กั๋วหรงจ้องหัวเวิ่นยีด้วยความอึ้ง คำพูดเหล่านี้เหมือนสายฟ้าฟาดอยู่ในสมองของเขา
ถ้าอายุจริงของไอ้อู๋ไม่เกินสี่สิบห้าปี ถ้าเช่นนั้นตอนที่ตนเองพบเธอเมื่อสามสิบปีก่อน นั่นหมายความว่าตอนนั้นเธออายุไม่เกินสิบห้าปี?
และตนเองถูกหญิงสาวอายุสิบห้าปี หลอกมาเป็นเวลาสามสิบปี?
ช่างเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี!
การที่ตนสามารถพัฒนาตระกูลหลี่มาจนถึงทุกวันนี้ และไอ้อู๋ก็มีความดีความชอบไม่น้อย!
แม้แต่เรื่องสำคัญหลายเรื่อง ไอ้อู๋ก็ออกแรงช่วยเหลือไม่น้อย ถ้าไอ้อู๋เป็นผู้หญิง การที่เธอเจตนาเข้าใกล้ตนเองนั้นเป็นเพราะอะไร?
“คุณตา ไม่ต้องกังวล มีเซิ่งเทียนอยู่ จะไม่มีปัญหาอะไร”
หวางซีปลอบโยน
หลี่กั๋วหรงหยุดฝีเท้ากะทันหันและถามว่า “ซีเอ๋อร์ เมื่อสักครู่หลานบอกว่าเซิ่งเทียนเป็นตัวแทนของเจ้าเทพ?”
“เอ้อ หนูเคยพูดเหรอ? คุณตาฟังผิดหรือเปล่า?”
หวางซีเริ่มแกล้งโง่
เมื่อสักครู่สถานการณ์ฉุกเฉิน เธอจึงพูดเรื่องนี้ออกมา ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
เพราะเธอกลัวจะสร้างปัญหาให้กับเย่เซิ่งเทียน
เพราะการเป็นตัวแทนของเจ้าเทพ ฟังแล้วสดใสรุ่งโรจน์ แต่ความจริงแล้วมันอันตรายมาก
หวางซีไม่ต้องการให้เรื่องของตระกูลหลี่ ทำให้เย่เซิ่งเทียนเกิดปัญหาอย่างต่อเนื่อง
หลี่กั๋วหรงกล่าวด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ว่า “ถึงฉันจะแก่แล้ว แต่ฉันก็ไม่ได้หูหนวก”
สีหน้าของหวางซีเต็มไปด้วยความลำบากใจ
หลี่หลานถอนหายใจและกล่าวว่า “เซิ่งเทียนเป็นตัวแทนของเจ้าเทพจริง แต่การเป็นตัวแทนของเจ้าเทพมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะเขากลัวว่าพวกเราจะเป็นห่วง เจ้าเด็กคนนั้นไม่เคยรายงานเรื่องที่อันตรายเลย รายงานแต่เรื่องดี ๆ เท่านั้น นอกจากเซิ่งเทียนเป็นตัวแทนของเจ้าเทพแล้ว เขายังเป็นหลานชายคนโตของตระกูลเย่แห่งเมืองหลวงอีกด้วย สถานะนี้ฟังแล้วรุ่งโรจน์ แต่ความจริงแล้วเซิ่งเทียนเป็นเด็กที่น่าสงสารคนหนึ่ง…… ”
หลังจากฟังสิ่งที่หลี่หลานกล่าวแล้วหลี่กั๋วหรงถอนหายใจยาว ๆ และกล่าวว่า “นึกไม่ถึงว่าชีวิตของเซิ่งเทียนจะลำบากขนาดนี้ มิน่าแปลกใจเลยว่าทำไมร่างกายของเขาถึงได้มีพลังที่มืดมนอยู่เสมอ พวกเธอวางใจเถอะ ฉันจะไม่ใช้ประโยชน์จากสถานะของเซิ่งเทียน การที่พวกเราสามารถเป็นครอบครัวเดียวกัน มันไม่ใช่ง่ายเลย”
ทุกคนสามารถฟังออกถึงความหมายที่ลึกซึ้งในคำพูดของหลี่กั๋วหรงได้
เขาถูกพวกเจี่ยงหมิ่นทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะแสร้งทำเป็นสงบและเข้มแข็ง แต่ความจริงแล้วเขาสะเทือนใจอย่างรุนแรง
ลูกที่เลี้ยงมานานกว่าสี่สิบปี กลับไม่ใช่ลูกของตนเอง
ความสะเทือนคราวนี้สำหรับชายชราแล้ว ทำให้เขาเจ็บปวดจนแทบตาย
เมื่อก่อนเจี่ยงหมิ่นเป็นภรรยาน้อยที่มากลายเป็นภรรยาหลวงของเขา และเธอเป็นคนที่ทำให้ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของเขาเสียชีวิตทางอ้อม เดิมทีเขารู้สึกละอายใจอยู่แล้ว ตอนนี้ยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
“ซีเอ๋อร์ นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป งานทั้งหมดของหลี่ซื่อกรุ๊ปมอบให้หลานเป็นรับผิดชอบดูแล ส่วนเสี่ยวหลาน ดูแลเรื่องทั้งหมดในตระกูล พวกคุณสามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องถามพ่ออีก พ่อจะไปหาเสี่ยวเฟิงและเย็นหรานพวกเขาสองคนถูกคนโหดเหี้ยมอย่างเจี่ยงหมิ่นหลอกใช้ พวกเธออย่าโกรธพวกเขาเลย ถ้าพวกเขาไม่ต้องการอยู่ในตระกูลอีก ก็แบ่งทรัพย์สินให้พวกเขาส่วนหนึ่ง แล้วแยกครอบครัวกัน”
หลังจากหลี่กั๋วหรงกล่าวจบ เขาก็เดินจากไปเพียงลำพัง
เวลาเพียงไม่กี่วัน หลังของเขาเริ่มค่อม เห็นได้ชัดว่าเขาหดหู่และโดดเดี่ยว
เมื่อหลายวันก่อน สีหน้าของเขายังแจ่มใส่และร่างกายเต็มไปด้วยพลัง
ตอนนี้หลี่กั๋วหรงที่น่าเกรงขามก่อนหน้านั้น ได้กลายเป็นชายชราอย่างสมบูรณ์
คุณพ่อแก่แล้ว
คราวนี้ คุณพ่อแก่แล้วจริง ๆ
หลี่หลานร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว