เสียงพูดของหกหมอเทวดาเบามาก มีเพียงแค่พวกเขาทั้งหกคนเท่านั้นถึงจะได้ยิน
คนอื่นๆนั้นไม่ได้ยินว่าพวกเขากำลังพูดอะไร เพียงแค่เห็นว่าสีหน้าของหกหมอเทวดาเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าซีดเซียว ทว่าก็แสดงถึงความรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
สายตาของพวกเขามีบางสิ่งไม่ปกติ ภายในนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความคลั่งไคล้ บ้าคลั่ง ชื่นชม เคารพ……
แล้วมันคืออะไรกันแน่?
ทำไมรู้สึกเหมือนว่าหกหมอเทวดาเหมือนกินยากระตุ้นเข้าไปซะอย่างนั้น?
คนจากตระกูลผู้ดีอดไม่ได้ที่จะตะลึง หรือว่าเกิดเหตุการณ์ที่พวกเขาไม่รู้
เป็นไปไม่ได้หรอกมั๊ง
ตัวแทนเจ็ดตระกูลเก่าแก่สบตากัน ในสายตามีแววตาที่ชั่วร้ายเกิดขึ้น
ตัวแทนตระกูลกู่เปิดปากพูด: “ท่านหมอเทวดาทั้งหก ไอ้เด็กเวรนี้มันตั้งใจถ่วงเวลา รีบทำให้มันยอมรับความพายแพ้เสีย อย่าให้มันทำเหมือนทุกคนเป็นคนโง่อีกเลย”
ตัวแทนตระกูลเซียวพูดอย่างจริงจังว่า: “ตอนนี้ฉันแน่ใจแล้ว ไอ้นี่มันกำลังหลอกลวงพวกเรา อดไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว สมาคมทางการแพทย์ของพวกเรามีแพทย์ตั้งมากมายขนาดนี้ ทว่ากลับถูกไอ้มารหัวขนนี่เล่นตลก ช่างเป็นความอัปยศของพวกเราจริงๆ!”
ตัวแทนจากตระกูลซุนพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า: “พวกท่านเห็นแล้วใช่ไหม? ไอ้เด็กนี่มันสร้างสถานการณ์มาข่มขู่ตบตาพวกเรา แกล้งทำเป็นเก่ง พวกเราจะให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว!”
“ตัวแทนทุกท่านพูดได้ถูกต้องแล้ว พวกเราเหล่าแพทย์ไม่ใช่คนตาบอด แน่นอนว่าต้องมองออกว่าไอ้เด็กนี่มันกำลังโกง ไม่แน่ว่ามันอาจจะเตรียมยาเม็ดไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ที่ทำมั่วๆไปแบบนี้ ก็เพื่อที่จเล่นละครตบตา หลอกลวงผู้คน สุดท้ายแล้วก็ฉวยโอกาสหยิบยาเม็ดออกมาเพื่อหลอกพวกเราทุกคน”
เหล่าหมอที่จับจังหวะเริ่มส่งเสียงอีกแล้ว
เพราะว่าในตอนนี้สภาพของเย่เซิ่งเทียนดีเกินไปแล้ว เมื่อครู่ที่พวกเขาจงใจก่อกวน แต่ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ส่งผลกระทบต่อเย่เซิ่งเทียนเลยแม้แต่น้อย
เป็นไปได้ยังไง?
จะยอมให้มันทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้นในตอนนี้ พวกเขาก็เริ่มก่อกวน
“แม่ง รีบเอาไอ้เด็กนี่ออกไปซะ อย่าให้มันทำให้คนอื่นเสียสายตา อย่าให้มันปรุงยาต่อไปเลย ปรุงห่าอะไรล่ะ เหมือนนักพรตวาดยันต์ไม่มีผิด คนโง่แกล้งทำเป็นเก่ง”
ขณะที่พูดอยู่ ก็มีคนสองสามคนขึ้นไปข้างบนดึงเย่เซิ่งเทียน
“ใสหัวไป!”
จ้าวกั๋วจู้ทนไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ถ้าคนพวกนี้ไม่หยุดส่งเสียงดังก่อกวนแล้วล่ะก็ เขาไม่รู้จะทำยังไงดี
แต่ตอนนี้คิดอยากจะลงมือ เขารอแค่โอกาสนี้เท่านั้น
“เทพสงครามเสาหลัก หรือว่าท่านอยากจะหักหน้าสมาคมทางการแพทย์ของพวกเรางั้นเหรอ?”
มีคนพูดอย่างเยือกเย็น
เพราะว่าคนที่ลงมือนั้น ล้วนเป็นหมอทั้งนั้น
และยังมีหมออีกคนพูดว่า: “เทพสงครามเสาหลักอย่างท่านต้องคิดให้ดีนะ สงครามระหว่าพวกท่านกับตระกูลผู้ดีตระกูลเก่าแก่นั้นสมาคมของพวกเราไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ว่าในตอนนี้ ท่านเทพสงครามเสาหลักผู้สูงส่ง เสาหลักของประเทศต้าเซี่ย กลับลงมือกับหมอของสมาคมทางการแพทย์ของล่ะก็ คิดจะแตกหักกันใช่ไหม? ถ้าหากท่านลงมือ แล้วในอนาคตกองทัพต้องการหมอ พวกเราสมาคมทางการแพทย์จะไม่ให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน!”
“แก!!!”
จ้าวกั๋วจู้โกรธจนพูดไม่ออก หมัดที่ยกขึ้นนั้นดึงกลับ
ถึงแม้จะรู้ว่าพวกหมอที่ลงมือพวกนี้ ล้วนเป็นสุนัขรับใช้ของตระกูลผู้ดีเหล่านั้น
แต่พวกเขาเป็นหมอจากสมาคมทางการแพทย์จริง ถ้าหากเขาลงมือ นั่นเท่ากับว่าทำให้สมาคมทางการแพทย์ไม่พอใจแล้ว!
เมื่อเห็นจ้าวกั๋วจู้จนมุม คนของตระกูลผู้ดีก็ได้ใจขึ้นมา
เพียงแต่มู่หว่านชิงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
ถึงแม้ว่าเธอไม่อยากให้เย่เซิ่งเทียนทำสำเร็จ แต่วิธีการเหล่านี้ของตระกูลผู้ดีตระกูลเก่าแก่สกปรกเกินไป
เธอเพียงแค่หวังให้เย่เซิ่งเทียนยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตแลกชีวิต
ในตอนนี้ตระกูลผู้ดีเหล่านี้กลับทำเช่นนี้ ทำให้เธอดูถูกเล็กน้อย
“ไปให้พ้น!”
เมื่อตอนที่หมอเหล่านั้นกำลังจะผลักเย่เซิ่งเทียน หมอผีจั่วอู๋เต้าก็ส่งเสียงดังอย่างน่ากลัว จ้องเขม็งไปที่หมอพวกนั้น
เพียงครู่เดียว หมอพวกนั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณของตนถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็น แม้อยากจะขัดขืน แต่ก็พบว่าแม้แต่อยากจะหายใจก็ยังทำได้ยาก
“หมอเทวดาจั่ว นี่ท่านกำลังทำอะไร!”
คนจากตระกูลผู้ดีตระกูลเก่าแก่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปรกติ
เหตุใดจั่วอู๋เต้าถึงเริ่มช่วยเหลือเย่เซิ่งเทียน?
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?