Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 769 คนชั่วกัดกันเอง
เจ้าห้าถูกทุบตีจนใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด เขาคุกเข่าลงบนพื้น ข้างๆคือหนุ่มคนหนึ่งที่ใบหน้าบวมช้ำ ซึ่งก็คือลูกชายของเจ้าห้า
วัยรุ่น 4-5 คนห้อมล้อมและทุบตีพ่อลูก เห็นได้ชัดว่าเจ้าห้าพูดกับพวกเขาดีๆ
เย่เซิ่งเทียนตบชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังจะทุบตีเจ้าห้า และเขาก็มองอย่างเย็นชา
“แกแม่งเป็นใครวะ กล้ามาตบเฮียโก่วของพวกเรา”
ชายหนุ่มผมสีเหลืองคนหนึ่งเห็นพี่ใหญ่ถูกตบล้มลงกับพื้น รู้สึกผิดทันที จากนั้นก็ชี้ไปที่เย่เซิ่งเทียนและดุว่า “แกรู้ไหมว่าเฮียโก่วของเราคือใคร? ไอ้หนุ่ม แกกล้ามากนะ กล้าตบเฮียโก่ว แกอยากตายแล้วใช่ไหม?”
เย่เซิ่งเทียนตบหน้าไปอีกที โดนตบจนหนุ่มผมเหลืองกลับไปอยู่ที่เดิม
เมื่อเห็นมาดนี้ คนในกลุ่มก็ตกตะลึง เฮียโก่วกับหนุ่มผมเหลืองไม่มีโอกาสได้ลงมือเลย ก็ถูกคนเขาจัดการแล้ว ตอนนี้ควรทำยังไงดี?
มาอย่างท่าทางที่โหดเหี้ยม
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างเย็นชาว่า “พี่ใหญ่ของพวกแกคือใคร? ตบเขาทำไม?”
ในเวลานี้เฮียโก่วเริ่มมีสติกลับมา ที่โดนตบไปเมื่อสักครู่ทำให้เกิดเสียงหึ่ง ๆในหัวของเขา
เฮียโก่วเช็ดเลือดที่มุมปาก และด่าว่า “ไอ้หนุ่ม แกอยากตายใช่ไหม? กล้าตบฉันเหรอ? แกรู้ไหมว่าฉันคือใคร? แกรู้หรือเปล่าว่าฉันคือใคร? ฉันจะบอกแกให้ วันนี้แกตายแน่ ฉันบอกเลย!”
เย่เซิ่งเทียนไม่พูดไม่จา และก็ตบไปที่หน้าของเฮียโก่วอีกทีหนึ่ง
“เฮียโก่ว”
หนุ่มผมเหลืองและคนอื่นๆตกตะลึงตาค้าง คนๆนี้คือใคร? โหดเกินไปแล้ว เฮียโก่วโดนตบจนมึนงงไปเลย
เฮียโก่วรู้สึกแค่ว่าบนใบหน้าปวดร้อนผ่าวๆ ราวกับว่ามันจะหน้าจะแตกสลาย เขาเอามือปิดหน้าและพูดว่า “แม่ง……”
เย่เซิ่งเทียนก็ตบเข้าไปอีกที
เพี๊ยะ
ซี๊ด
คนที่เหลือหายใจเข้าลึกๆ และปิดใบหน้าของพวกเขาโดยไม่รู้ตัวและ หนุ่มผมเหลืองใช้มือทั้งคู่ปิดใบหน้าทั้งสองข้าง
เมื่อสักครู่เขาเพิ่งได้สัมผัสกับมันด้วยตัวเอง เจ็บปวดจริงๆ
น้ำเสียงนี้ ได้ฟังแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดแทบตาย
เฮียโก่วถูกตบหน้าจนคว่ำลงพื้น หน้าบวมจนแทบจะกลายเป็นหัวหมู เขาร้องไห้และพูดว่า “อย่าตบนะ ฉันพูด ฉันพูดแล้ว
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างใจร้อน “แค่แกรีบพูดตั้งแต่แรกก็จบแล้ว”
มือทั้งสองของเฮียโก่วปิดหน้า ไม่ ถ้าจะพูดให้ถูกตอนนี้มือทั้งสองของเขาปิดหัวหมูเอาไว้
“เมื่อกี้ฉันกำลังจะพูดแล้ว ฉันเกือบจะพูดแล้ว แต่แกยังมาตบฉันอีก”
หนุ่มผมเหลืองและคนอื่นๆมองเฮียโก่วอย่างเห็นใจ คิดว่าในอนาคตจะเปลี่ยนนิสัยการพูดจาดีไหม ถ้าเมื่อสักครู่เฮียโก่วไม่ใส่คำว่า “แม่ง” เข้าไป ก็ไม่จำเป็นต้องถูกตบเลย
เจ็บจริงๆ
เฮียโก่วรีบพูด “พี่ใหญ่ของเราคือท่านสาม เป็นอันธพาล เซวียไห่ยืมเงินของท่านสามและไม่มีคืน ท่านสามก็ให้พวกเราไปทวงหนี้ พี่ เราแค่เป็นลูกจ้าง คุณปล่อยเราไปเถอะนะ”
หนุ่มผมเหลืองและคนอื่นๆรีบพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ครับพี่ พวกเราแค่เป็นลูกจ้าง เมื่อสักครู่แค่ขู่ๆเอง ไม่กล้าทำอะไรเลยจริงๆ”
เย่เซิ่งเทียนกล่าวและมองด้วยสายตาเย็นชา “แค่ข่มขู่ก็เลยทุบตีลูกชายคนอื่นเขาจนหมดสติเนี่ยนะ?”
เฮียโก่วกลัวจนตัวสั่น และรีบพูดว่า “พี่ เมื่อสักครู่ลงมือหนักไปหน่อย แต่ไม่คิดจะเอาชีวิตเขาจริงๆนะ เป้าหมายของพวกเราก็เพื่อที่จะเอาเงินไม่ใช่หรือไง? ขอให้ท่านได้โปรดเข้าใจ ปล่อยพวกเราไปเถอะ คนที่ลงมือหนักเมื่อกี้หนุ่มผมเหลืองเป็นคนทำ ฉันไม่ได้ลงมือเลย ถ้าท่านไม่พอใจ ทิ้งไอ้ผมเหลืองให้ท่านได้ระบายความแค้นได้เลย ท่านคิดว่ายังไง?”
เมื่อได้ยิน หนุ่มผมเหลืองก็โกรธทันที และด่าว่า “เฮยโก่วนายนี่มันแม่งหมาจริงๆ เมื่อกี้คิดว่าฉันไม่ได้ยินคำพูดนายเหรอ? เวรเอ๊ย ตอนนี้นายโยนขี้มาให้ฉันแล้ว นายบอกว่าจะทุบจนใกล้ตายเพื่อสั่งสอนเพื่อให้พ่อของเซวียไห่ไประดมเงินมาไม่ใช่เหรอ? นายบอกว่าพ่อขอองเซวียไห่คือหัวหน้าคนงาน มีเงินไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้โยนความผิดมาให้ฉันแล้ว นายยังเป็นคนอยู่ไหม คนอย่างนายเนี่ยนะแม่งเป็นหัวหน้า พวกเพื่อนๆ พวกนายเห็นแล้วสิ ไอ้สารเลวนี่วันนี้หักหลังฉันได้ ในอนาคตก็หักหลังพวกนายได้!”
หนุ่มผมเหลืองทุ่มสุดตัวแล้ว เขากังวลว่าชายหนุ่มคนนี้จะตบเขาจนตาย ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่เรียกว่าพวกพ้องเหล่านี้
แม่งเอ๊ย เมื่อกี้ตอนที่ตบฉัน พวกแกก็ยืนดูอยู่ข้างๆ
เพื่อนพ้องบ้าบออะไรกัน ปกติกินดื่มถึงไหนถึงกัน ตอนนี้ฉันถูกตบ พวกแกแม่งก็ดูกันอย่างสนุก
ฉันเกือบจะถูกตบตาย พวกแกแต่ละคนออกมาช่วยงั้นเหรอ? หรือว่ามาช่วยฉันตบด้วยเหรอ?
ยังคิดจะให้ฉันมาเป็นแพะรับบาปอีก แม่งอย่าคิดว่าจะได้อยู่ดีเลย
เฮยโก่วทำเสียงเหอะและพูดว่า “ฉันก็เพียงแค่ขู่นิดหน่อย ฉันไม่ได้ลงมือ ใครไม่รู้บ้างว่าปกตินายน่ะโหดร้ายที่สุด? พี่ ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไปถามเซวียไห่ ฉันไม่ได้ลงมือกับเขา และอีกอย่างเรื่องหนี้นอกระบบ หนุ่มผมเหลืองก็เป็นคนส่งเสริมทั้งนั้น”