Mars เจ้าสงครามครองโลก – บทที่ 882 หารือ

บทที่ 882 หารือ

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 882 หารือ
พญาดำตายแล้ว

ไม่มีใครนึกถึง พญาดำที่ทำให้ทุกคนรู้สึกสิ้นหวัง จะมาตายแบบนี้

มากเสียจนพวกเขารู้สึกสับสนเล็กน้อย และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แม้แต่เจียงลั่วเสินก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พญาดำก็ตายไปแล้ว

เขาเพียงแค่รู้สึกถึง พลังลึกลับบางอย่างออกมาจากร่างกายของเย่เซิ่งเทียน หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

เขาคาดเดา มีความเป็นไปได้ว่าเลือดเทพเผ่าซวนหยวนภายในร่างกายของเย่เซิ่งเทียน เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

แต่ตอนนี้ พวกเขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องพวกนี้

รีบส่งเย่จิงหงกับเย่เซิ่งเทียนไปโรงพยาบาล

หัวเวิ่นยีพาคนของหอรักษารีบตามไปอย่างรวดเร็ว

เย่จิงหงสูญเสียขาทั้งสองข้างและแขนหนึ่งข้าง ถ้าไม่ได้เจียงลั่วเสินห้ามเลือดไว้ และทำชีพจรของเขาคงที่ เกรงว่าคงจะตายไปแล้ว

นอกจากหวางซีกับหลี่หลานที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ คนอื่นๆล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส

หัวเวิ่นยีและคนอื่นๆยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้

ดีที่เผยชุนชิวและคนอื่นๆมีทักษะการแพทย์ดีเยี่ยม รีบเร่งรักษาอาการบาดเจ็บของจ้านอู่ซวงที่และคนอื่นๆ

“ครั้งนี้เราประมาทเกินไป คิดไม่ถึงว่าสรวงสวรรค์จะลงมือแบบนี้”

กัวปิงผู้บังคับบัญชากองพลอาวุธและกูชางหลงคนอื่นๆ ขมวดคิ้วเป็นปม ด้วยความเป็นห่วง

ท่านเฒ่ามู่หุนตระกูลมู่แห่งหรดีวิเคราะห์ว่า“นี่แสดงว่า สรวงสวรรค์รอต่อไปไม่ไหวแล้ว พวกเขารีบร้อน อาจเป็นไปไม่ได้ว่า อายุขัยของคนส่วนหนึ่งถึงขีดจำกัดแล้ว ถึงจะใช้ยารักษายื้อชีวิตไว้ ก็ยื้อไว้ไม่ได้นาน ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นกังวล อยากจะกระตุ้นเจ้าเทพเย่”

มีความเป็นไปได้ที่สุด

ไม่เช่นนั้นไอ้พวกชั่วอย่างสรวงสวรรค์ คงไม่มีทางอยู่มานานหลายปีขนาดนี้ ทำไมถึงพึ่งมาเป็นเดือดเป็นร้อน?

พวกเขาแสดงออกบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่มีเวลาแล้ว

เจียงลั่วเสินพูดอย่างขมขื่น“แม้แต่ผมเองยังคิดไม่ถึงว่าจะมีชีวิตต่อไปได้ อีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป ลำพังแค่ทูตหมายเลขสิบ ผมกับเสี่ยวเทียนร่วมมือกันยังทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าพญาดำ”

“หลังจากที่พญาดำปรากฏตัว พวกเขาก็เสียพลังกำลังทั้งหมดเลย อีกฝ่ายเหมือนกับเทพผู้สูงส่ง ลำพังแค่พลังก็สามารถบีบคั้นเราให้ตายได้แล้ว เราไม่มีทางชนะได้เลย เมื่อปีศาจร้ายอย่างพวกสรวงสวรรค์ลงมือ”

กู่ชางถอนหายใจ“จากที่ผมรู้มา นายพลสวรรค์เป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุด แต่ถึงจะเป็นพวกเขา ทุกคนลวนเป็นนักบู๊เหนือโลกีย์ ด้านบนของนายพลสวรรค์ยังมี36 ผู้พิทักษ์ชุดม่วง แต่ละคนล้วนเป็นผู้กล้าแดนลอยเมฆ ด้านบนอีก ก็คือ12 เทวดาชุดขาว ล้วนเป็นผู้กล้าแดนฉ่องทิพย์”

“นี่เป็นแค่สิ่งที่พวกเรารู้ สิ่งที่เราไม่รู้อีกมีตั้งเท่าไร?ยิ่งไปกว่านั้น เหนือ12 เทวดายังมีผู้กล้าที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านั้น ได้ข่าวมาว่าอยู่แดนสะพานทิพย์ แต่รายละเอียผมก็ไม่รู้ ตระกูลลี้ลับอาจจะรู้มากกว่า”

กัวปิงหรี่ตาลง แล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า“พูดเรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว คนที่แข็งแกร่งที่สุดมีเพียงแดนเหนือโลกีย์ ถึงแม้พลังต่อสู้จะสามารถเทียบกับแดนลอยเมฆได้ แต่เนื่องจากแดนมีขีดจำกัด เมื่อพบกับผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ก็จะทำอะไรไม่ถูก ตระกูลลี้ลับผูกขาดวิชาแดนเหนือโลกีย์ ก่อนอื่นเป้าหมายของเราคือ บุกทะลวงแดนเหนือโลกีย์เสียก่อน ไม่เช่นนั้นถึงจะพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์”

“ครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการย้ำเตือน เราจะต้องรีบหาวิธีปัญหา ไม่เช่นนั้นต่อไปก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อย่าว่าแต่เทวดาชุดขาวหนึ่งคนเลย ลำพังแค่ผู้พิทักษ์ชุดม่วงสองสามคน เราก็ต่อกรไม่ไหวแล้ว ทำได้แค่ปล่อยให้คนอื่นฆ่าแกง จะต้องรีบหาวิธีจัดการสถานการณ์เบื้องต้น จะรอให้ถูกโจมตีฝ่ายเดียวไม่ได้”

เจียงลั่วเสินพูดอย่างหมดความอดทน“ไร้สาระ มีใครไม่รู้บ้างว่าจะต้องจู่โจมก่อน?ประเด็นคือวิชาที่เหนือกว่าแดนโลกีย์จะไปเอามาจากไหน?หลายปีมานี้ เราไม่เคยไปใกล้ชิดกับตระกูลลี้ลับเลย และอีกฝ่ายก็เก็บวิชานี้ไว้แน่นหนามาก เราจะทำอะไรได้?มู่หุนกับกูชางหลงไอ้เศษสวะนี่ มีชีวิตมานานขนาดนี้ แม้แต่วิชาที่เหนือแดนเหนือโลกีย์ยังหามาไม่ได้เลย ไร้ประโยชน์สิ้นดี”

ประโยคนี้ทำให้มู่หุนกับกู่ชางหลงไม่พอใจ“ตาแก่ว่าใครห้ะ!ยังไงเราก็เป็นผู้อาวุโส!แกคิดว่าเราไม่คิดหาวิธีรึไง?”

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท