Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 1049 วางกับดักทำให้พวกคุณตกอยู่ในสภาพที่ลำบากยาก
เรียกว่าเทพบุตรเกราะทอง เย่เซิ่งเทียนมึนงงแล้ว
พวกเหย้เฉิงทั้งสามคนก็มึนงงแล้ว
พวกคนชุดดำคนอื่นๆเหล่านั้นก็ยิ่งมึนงงแล้ว
เย่เซิ่งเทียนเป็นเทพเสินจวิน?เทพเสินจวินอะไรกัน?
เขาเป็นเทพเสินจวินได้ยังไง?เมื่อกี้เขาลงมือโจมตีวิหารปีศาจ ตอนนี้ฆ่าคนฝั่งของพวกเขาตายแล้ว ในทางกลับกันเย่เซิ่งเทียนได้รับการต้อนรับที่ทรางเกียรติแล้ว?
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“แกกำลังเรียกฉันเหรอ?”
เย่เซิ่งเทียนก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เทพบุตรเกราะทองตกสู่พื้นดิน คุกเข่าลงข้างหนึ่ง พูดอย่างกับเครื่องจักรกล : “ข้าโจวเฉิง เยี่ยมคารวะเทพเสินจวิน”
ราวกับว่าอีกฝ่ายมีความทรงจำเพียงแค่บางส่วน และไม่มีระเบียบ
และไม่ได้ตอบคำถามของเย่เซิ่งเทียน
ในใจของพวกเหย้เฉิงทั้งสามคนดีใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะมีภาพฉากเช่นนี้
ครั้งนี้ สรวงสวรรค์ล้มเหลวแล้ว!
ต่อให้พวกเขาฝันก็คิดไม่ถึง คนที่นี่ เคารพต่อเย่เซิ่งเทียนเช่นนี้!
ชายชุดดำตะลึงแล้วไม่ เพียงแค่รู้สึกว่าไร้สาระ ครั้งนี้เป็นการทำร้ายตัวเองชัดๆ!
เย่เซิ่งเทียนมองดูคนชุดดำเหล่านั้นด้วยเจตนาที่มุ่งร้าย ยิ้มอน่างเยือกเย็นพร้อมพูดว่า : “ทำไม ตอนนี้พวกแกไม่ข่มขู่ฉันแล้วเหรอ?”
มีคนพูดกล่าวว่า : “เย่เซิ่งเทียน ระหว่างพวกเราไม่มีความแค้นต่อกัน”
พวกเขาไม่กล้าที่จะจินตนาการ ถ้าหากเย่เซิ่งเทียนควบคุมเทพบุตรเกราะทองท่านนี้ได้ งั้นพวกเขาจะมีจุดจบอย่างไร
เย่เซิ่งเทียนไม่เคยมีความทรงจำที่ดีอะไรต่อพวกเขาเลย
และก็มีคนบอกอีกว่า : “เย่เซิ่งเทียน เป้าหมายของเรามีเพียงแค่กลายเป็นเทพ เมื่อกี้ไอ้ชาติหมาทั้งสามมันข่มขู่คุณ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา”
พวกเขาทรยศสามคนที่เพิ่งพูดออกมาเมื่อกี้เลย
สามคนนั้นโมโหอย่างมาก แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่น พูดอย่างรีบร้อนว่า : “เย่เซิ่งเทียน เมื่อกี้เป็นการเข้าใจผิดกันแล้ว พวกเราเป็นเพียงแค่ปากไวไปหน่อย ไม่ได้ต้องการที่จะข่มขู่คุณ”
“ใช่ พวกเราไม่ได้ขัดผลประโยชน์กับคุณ พวกเราแค่อยากจะกลายเป็นเทพ”
“เย่เซิ่งเทียน ปล่อยฉันนะ ฉันจะทำงานให้คุณสามอย่าง!”
ทั้งสามคนร้อนรนแล้ว
เย่เซิ่งเทียนยิ้มเยาะพร้อมพูดว่า : “ตอนนี้เสียใจภายหลัง สายแล้ว!เมื่อก่อนไม่ระวังตอนนี้เสียใจภายหลังแล้ว!ข่มขู่ฉันสินะ?”
เขามองไปยังเทพบุตรเกราะทอง พูดว่า : “โจวเฉิง มีคนจะโจมตีวิหาร เปิดช่องทางโลกชูร่า แอบสมคบคิดอย่างลับๆกับโลกชูร่า ก็คือคนชั่ว ควรลงโทษอย่างไร? ”
โจวเฉิงยังคงพูดอย่างกับเครื่องจักร : “ฆ่าอย่างไม่ให้อภัย!”
“โอเค!”
เย่เซิ่งเทียนชี้ไปยังคนสิบกว่าคนนั้น พูดว่า : “ฆ่าเศษสวะเหล่านี้ เป้าหมายที่พวกเขามาที่นี่ ก็คือเพื่อเปิดช่องของโลกชูร่า”
โจวเฉิงหันหน้าอย่างเครื่องกล เขาถูกเกราะสีทองครอบทั้งตัว พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ : “จักรพรรดิมีคำสั่ง คนที่แอบสมคบคิดลับๆกับโลกชูร่า ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ฆ่า!”
พูดจบ ไปฆ่าเลย
“รีบหนี!”
ทั้งสามคนนั้นไม่มีชีวิตให้วิ่งหนี
คนที่เหลือก็ไม่เต็มใจที่จะล้าหลัง ถึงขั้นมีคนลงมือกับเพื่อน คิดอยากจะใช้ชีวิตของเพื่อนมายืดเวลาการหลบหนีของตัวเอง
แต่โจวเฉิงลงมือ รวดเร็วอย่างมาก
มือขนาดใหญ่ข้างหนึ่งตบลง คนชุดดำสามสี่คนตายทันที
“เวลานี้ไม่ลงมือ ยังจะรออะไร!”
เย่เวิ่งเทียนพูดตะโกนใส่พวกเหย้เฉิงทั้งสามคนที่ไม่มีปฎิกิริยาตอบสนองกลับมาจากอาการประหลาดใจ
“ฆ่าพวกเขาแล้ว!”
เหย้หมิงตะโกนเสียงดัง ลงมืออย่างรวดเร็ว
เหย้เฉิงและเหย้เฟิงก็ลงมืออย่างสับสนมึนงง คิดไม่เข้าใจจริงๆ เย่เซิ่งเทียนจะเป็นเทพเสินจวินได้ยังไง
แต่ไม่รอให้พวกเขาลงมือ คนชุดดำที่วิ่งหนีเหล่านั้น เหมือนถูกบางสิ่งกักขังไว้แล้ว ร่างกายระเบิดกลางอากาศเลย ตกใจมากจนขวัญหนีดีฝ่อ
เย่เซิ่งเทียนแอบกลืนน้ำลายแล้ว โชคดีที่เมื่อกี้ตัวเองไม่ได้บิน สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดจริงๆ ใครบินคนนั้นตาย
มิน่าล่ะเมื่อกี้พวกเขาอยู่พื้นดินหมดเลย
“เหย้เฉิง เชิญ”
โจวเฉิงไม่แม้แต่จะมองคนชุดดำที่ตายเหล่านั้นเลยสักแวบเดียว ก็เหมือนตบแมลงวันตายสามสี่ตัว
เย่เซิ่งเทียนเป็นกังวลในใจ ถ้าหากพบว่า เขาไม่ใช่เทพเสินจวินอย่างที่โจวเฉิงว่า งั้นก็ตายแล้ว
เมื่อกี้เขาคิดอยากจะเข้าไป เพียงแค่พยายามอย่างเต็มที่ ฆ่าเศษสวะเหล่านั้นให้หมด
ตอนนี้ภัยคุกคามไม่มีแล้ว ในทางกลับกันค่อนข้างเป็นกังวล
เหมือนว่าเหย้เฉิงก็มองออกว่าเย่เซิ่งเทียนลังเล ถอนหายใจในใจแล้ว
เมื่อกี้สบายมากแค่ไหน ตอนนี้ก็กลัวมากแค่นั้น
สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดมาก จู่ๆมีโจวเฉิงโผล่ออกมาหนึ่งคน ใครจะรู้ว่าเป็นคนหรือผี?
อีกอย่างเห็นท่าทางของอีกฝ่าย ไม่มีทางเป็นคนเลยด้วยซ้ำ!
“เข้ามาสิ ไม่มีทางเลือก”
เย่เซิ่งเทียนส่งสัญญาณมา ฝืนยิ้มอย่างจนใจ ครั้งนี้ถือว่าทำร้ายตัวเองแล้ว
แต่ว่าจำเป็นต้องเสแสร้งต่อไป
โจวเฉิงตามอยู่ด้านหลังของเย่เซิ่งเทียน เข้าไปวิหารปีศาจ เหย้เฉิงทั้งสามก็รีบเข้ามา
พวกเขาก็อยากรู้มาก ในวิหารปีศาจมีอะไรกันแน่