หม่าจินหลงเข้าซื้อกิจการทงต๋าโลจิสติกส์และได้รับการอนุมัติให้ดูแลกิจการ แต่จากฐานะของหม่าจินหลง จะเห็นงานเล็ก ๆ อย่างนี้อยู่ในสายตาได้ยังไง
เขาจัดให้หม่าเทียนหมิงเป็นผู้จัดการใหญ่
หม่าเทียนหมิงรออยู่ที่นี่ก็เพื่อรอฉินเทียน เขาจะสบประมาทฉินเทียนสักหน่อย
นึกไม่ถึง คนที่เลขาพาเข้ามากลับเป็นสาวสวย
พอเห็นซูซู เขาก็รู้สึว่าวิญญาณถูกกระชากออกไปในพริบตา อ้าปากค้างลืมคำที่จะพูด
กลียุคมีสาวสวย ขอสันโดษตัดโลกภายนอก
รูปร่างหน้าตาของซูซูสวยจนไร้หญิงใดจะเทียบได้ หม่าเทียนหมิงที่เห็นสาวสวยจนเบื่อ อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่า เขาเป็นเด็กยากจนที่ไม่เคยเห็นโลกภายนอก
โดยเฉพาะลักษณะประจำตัวที่กลิ่นหอมเหมือนกล้วยไม้ สง่างามเหมือนลำไผ่
ชวนให้ผู้คนอดที่อยากจะเข้าใกล้ไม่ได้ อีกทั้งอดที่จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้ด้วย
“คุณเป็นใคร?”
“ฉินเทียนล่ะ?” ตะลึงไปสักพัก หม่าเทียนหมิงจึงพูดอย่างตะกุกตะกักขึ้น
ซูซูเองก็ตะลึงเช่นกันเอ่ยว่า: “ประธานหม่า คุณรู้จักฉินเทียนสามีของฉัน?”
“อย่างนั้นก็ดีเลย”
“ฉันขอแนะนำตัวเองหน่อย ฉันชื่อซูซู เป็นประธานจากซู่ยู่กรุ๊ป”
“ฉันก็เพิ่งทราบจากเลขาของคุณว่าตอนนี้คุณเป็นผู้จัดการใหญ่ของทงต๋าเอ็กซ์เพลส”
“ตอนนี้ ฉันอยากคุยเรื่องปัญหาความร่วมมือกับคุณหน่อย คุณว่า คุณสะดวกมั๊ย?”
“อ๊ะ……สะดวก สะดวก!”
“นึกไม่ถึงว่าประธานซูจะมาด้วยตัวเอง ผมสะดวกทุกเวลา!”
“เชิญนั่ง!”
“พนักงาน รินน้ำชาให้ประธานซู!” หม่าเทียนหมิงมีปฏิกิริยาตอบ ทำอย่างกับถูกปลื้มอย่างไม่คาดฝัน รีบเชิญซูซูนั่งอย่างกระตือรือร้น
ซูซูกลับรู้สึกเกรงใจ ในการคาดการณ์ของเธอว่าพอมาถึงแล้วไม่รู้จะโดนเล่นแง่อะไรบ้าง
อีกฝ่ายอาจจะใช้โอกาสนี้ยกราคาให้สูงขึ้น
นึกไม่ถึงประธานหม่าที่เป็นเจ้าของคนใหม่ ดูแล้วอายุยังน้อย มีความอบอุ่น ท่าทางคุยง่าย
“ขอบคุณประธานหม่า”
เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงานของหม่าเทียนหมิงเอ่ยว่า: “ไม่รู้ว่าทงต๋าโลจิสติกส์เกิดอะไรขึ้น ทำไมหลิวชั่นต้องขายบริษัททิ้งด้วย”
“ว่าแต่ บริษัทโลจิสติกส์นี้เป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยมมาก ก่อนอื่นฉันขอแสดงความยินดีกับประธานหม่าด้วย”
“ซูยู่กรุ๊ปของพวกเรา มีการเซ็นต์กรอบสัญญาความร่วมมือกับหลิวชั่นอย่างยาวนาน มีผลประโยชน์ร่วมกัน เป็นพันธมิตรกันมาตลอด”
“ดังนั้น ฉันหวังว่า ประธานหม่าจะปฏิบัติตามสัญญาเก่าร่วมมือกันต่อ”
“ซึ่งสำหรับพวกเราทั้งสองฝ่ายแล้ว เป็นการ win-win ด้วยกันทั้งคู่ ประธานหม่า คุณว่ายังไง?”
หล่อนเข้าประเด็นไม่อ้อมค้อม
หม่าเทียนหมิงยังคงมองความงามของซูซูจนเหม่อลอย ได้กลิ่นหอมจากตัวซูซูในระยะใกล้ จนรู้สึกวิญญาณออกจากร่าง
“ประธานหม่า คุณเป็นอะไรไป?”
จนกระทั่งซูซูเตือนสติ เขาถึงมีปฏิกิริยาหัวเราะ ฮ่า ๆ ขึ้นมา
“พูดได้ดี”
“ประธานซู อันที่จริงพวกเราก็อยากร่วมมือกับพวกคุณต่อ ที่ระงับกิจการชั่วคราวทั้งหมดก็เพื่อให้คุณมาเจรจาต่อหน้า ก็คือมาเจอหน้ากัน ทำความรู้จักกันไง”
“คุณก็รู้ว่าผมเพิ่มรับช่วงบริษัทนี้มา มีลูกค้าหลายรายที่ยังไม่คุ้นเคย”
ซูซูดีใจอย่างคาดไม่ถึงเอ่ยอย่างคึกคักว่า: “หมายความว่า ประธานหม่าตกลงแล้ว?”
“อย่างนั้นก็ขอให้ประธานหม่าออกคำสั่ง ให้พนักงานขนส่งของพวกคุณรีบรับออเดอร์เถอะ คุณก็รู้ ความรวดเร็วของพัสดุส่งด่วนเกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของอีคอมเมิร์ซ”
“คลังสินค้าของเราตอนนี้ อัดแน่นไปด้วยออเดอร์เยอะเลย!”
“ไม่ต้องรีบ!”
“ประธานซู คุณเดินทางมาตั้งไกล ดื่มน้ำชาก่อน”
“ผมก็บอกแล้วนี่ ระหว่างเราต้องการความคุ้นเคยมากกว่านี้”
“ขออภัยที่ถามตามตรง ประธานซู ฉินเทียนสามีของคุณไม่มาเหรอ?”
ซูซูยังคงเข้าใจว่า หม่าเทียนหมิงแค่อยากมองมุมธุรกิจ รู้จักกับพันธมิตรให้มากขึ้นเท่านั้น
เธอผ่อนคลายลงแล้วหัวเราะเอ่ยว่า: “สามีของฉันก็มาด้วย เพียงแต่รออยู่ชั้นล่าง”
“ประธานหม่า ถ้าคุณไม่ถือสา ฉันเรียกเขาขึ้นมาให้เห็นหน้าได้”
“เพียงแต่ สามีฉันเป็นคนอารมณ์ร้าย กลัวจะชนกับคุณ”
“งั้นเหรอ?” หม่าเทียนหมิงแสยะยิ้มเอ่ยว่า: “ผมก็ไม่ชอบคนหยาบคายจริง ๆ”
ในสายตาของเขา ฉายไฟปราถนาแห่งความได้ใจ
ฉินเทียนมาแล้วแต่กลับไม่ขึ้นมา สำหรับหม่าเทียนหมิงเข้าใจว่า ฉินเทียนคงจะกลัว
เขายิ้นหยันในใจ ฉินเทียนก็เป็นแค่หัวงูในหลงเจียงพื้นที่เล็ก ๆ ตอนนี้มาเมืองใหญ่อย่างจิ่นหู คุย
ธุรกิจสักเรื่องยังต้องอาศัยเมียคนสวยมาออกหน้า เพิ่งจะเห็นว่าขี้ขลาดขนาดนี้
อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่า เมื่อก่อนประเมินฉินเทียนสูงมาตลอด
เจ้าหมอนี่ ใช้ความสวยของเมียทำเป็นบันไดสู่ความสำเร็จ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ยิ่งไม่ต้องห่วงอีกต่อไป
“ในเมื่อบริษัทดูแลโดยประธานซู ผมก็คุยกับประธานซูก่อนดีกว่า”
“ส่วนเรื่องระหว่างผมกับสามีของคุณ ค่อยมาแก้ไขกันเอง”
“ประธานซู ผิวคุณขาวจังนะ!”
“ปกติใช้เครื่องสำอางอะไร?”
พูดจบ เขาก็ทำเป็นไม่สนใจไปลูบมือของซูซูอย่างคาดไม่ถึง
“ทำอะไรของคุณ!” ซูซูเหมือนถูกไฟช็อต รีบดึงมือที่วางอยู่บนโต๊ะกลับมา
หม่าเทียนหมิงหน้าเปลี่ยนสี: “ประธานซู คุณมาที่นี่เพื่ออยากทำความคุ้นเคยกับผมให้มากขึ้นไม่ใช่เหรอ?”
“ทำไมเห็นผมเป็นคนนอกแล้วซะล่ะ!”
ซูซูกลืนน้ำลายลงคอ ในที่สุดก็เห็นความชั่วร้ายในสายตาของหม่าเทียนหมิง
เธอยืนขึ้นเอ่ยอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่า: “ประธานหม่า ถ้าคุณคิดว่าความร่วมมือไม่มีปัญหา ก็รีบให้คนของคุณดำเนินการสิ”
“ธุรกิจไม่เคยรอใคร”
“ฉันยังมีธุระอย่างอื่นอีก ขอตัวก่อน”
พูดจบ เธอกำลังจะออกไป
“เดี๋ยวก่อน!” หม่าเทียนหมิงลุกขึ้นเอ่ยว่า: “ประธานซู พวกเราพบกันครั้งแรก แถมยังบรรลุข้อตกลงความร่วมมือกันแล้ว จะไม่ดื่มฉลองกันหน่อยเหรอ?”
“วางใจได้ ดื่มฉลองเหล้านี้กันแล้ว พวกเราก็ยังเป็นพันธมิตรกันอยู่”
เขาขยิบตาให้สัญญาณกับลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ
ลูกน้องก็หันตัวไปเอาไวน์ในตู้ไวน์ออกมาหนึ่งขวดรินใส่แก้ว 2 ใบ ใช้ร่างกายบังไว้แล้วใส่ผงขาวหนึ่งซองลงไปในหนึ่งในแก้วอย่างไม่แยแส
“ประธานซู ออกมาทำธุระกัน คุณไม่น่าจะไม่รู้ธรรมเนียมข้อนี้หรอกนะ?”
ซูซูลังเลเล็กน้อย เห็นว่าข้อเสนอของหม่าเทียนหมิงก็ไม่ได้มากเกินไป
แม้ว่าเมื่อก่อนจะมีความร่วมมือกันมา แต่ตอนนี้เปลี่ยนเจ้าของก็ถือว่าเริ่มร่วมมือกันใหม่
การดื่มเหล้าฉลองก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว
“ได้”
“ประธานหม่า ขอบคุณที่เข้าใจ ขอให้เราร่วมมือกันอย่างมีความสุข” ด้วยความกังวลในธุรกิจ เธอจึงรับแก้วไวน์มา ชนแก้วกับหม่าเทียนหมิงดื่มหมดแก้ว
“ประธานหม่า ทำไมคุณถึงไม่ดื่ม? มองดูฉันทำไม?”
พอดื่มเสร็จ ก็เห็นหม่าเทียนหมิงถือแก้วมา มองเธอด้วยเจตนาไม่ดี ซูซูกระวนกระวายเล็กน้อย
ในที่สุดหม่าเทียนหมิงก็เผยโฉมหน้าวายร้ายออกมา
เขากัดฟันเอ่ยว่า: “น้องซูคนงาม สามีคุณล่วงเกินผม ตอนนี้ เขาจะมอบคุณให้ผมเพื่อดับความโกรธของผม”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมคงได้แต่รับเอาไว้”
“คืนนี้ คุณต้องตกเป็นของผมแล้ว!”
พูดจบ ก็อดใจไม่ไหวเดินตรงมาหาซูซู
“จะทำอะไรของคุณ?”
“อย่าเข้ามา!” ซูซูตกใจมาก รีบหันตัววิ่งออกไปทางประตูห้องทำงาน
เพิ่งจะถึงปากประตู อยู่ ๆ ก็รู้สึกวิงเวียนขึ้นมาจนเซถอยหลังล้มลง
หม่าเทียนหมิงมองดูร่างกายที่กองอยู่กับพื้น อีกเดี๋ยวคนสวยจะอยู่ในอ้อมอก เขาคึกคักจนตาแดงก่ำ ผายมือทั้งคู่ออก อุ้มร่างบอบบางของซูซูด้วยใบหน้าตัณหา